.................
ความคิดเพิ่งสิ้นสุด หนึ่งในสามคนที่กำลังถูกนึกถึงก็พลันปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าโดยการใช้ควอนตันส่งตัวมาจากเซปัส
ไงลู้ป ... กลับมาแล้วหรือ ?
ผู้มาถึงแย้มยิ้มส่งเสียงทักทายอย่างปกติ แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใด ลูเปอร์เซียสกลับสัมผัสได้ถึงความไม่ปกตินักของอีกฝ่าย เพียงแต่บอกไม่ถูกว่ามันไม่ปกติอย่างไร
เกิดอะไรขึ้นกับฝ่าบาทหรือ ?
เกิดอะไร ? เอ... ไม่มีอะไรนี่นา.. ก็เห็นทรงเป็นปกติดี
ใบหน้าขาวกวนๆตีสีหน้าทำเป็นงุนงงกับคำถาม แล้วตอบไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะตั้งคำถามไปเรื่องอื่นเหมือนเจตนารีบเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจของอีกฝ่าย
จริงสิ.. ที่ไปสืบได้เรื่องอะไรบ้างมั้ย เพิ่งผ่านไปสองวันเอง ทำไมรีบกลับมา รึว่ามีข่าวเรื่องยานสองลำที่หายไปนั่นแล้ว ?
ทำไม ? ท่าทางนาย เหมือนยังไม่อยากให้ฉันกลับมา ?
โดนคำถามย้อนกลับแบบไม่ทันตั้งตัว ทำเอามากัสถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะอย่างขำๆ
อะไรกันวะ...มาถึงก็ตัดพ้อกันเลย คนอย่างนายเนี่ยน้อยใจกับเขาเป็นด้วยรึ
แต่อีกคนกลับไร้อารมณ์ที่จะคุยเล่นด้วย สีหน้ายังคงเรียบนิ่งสนิท กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ฉันมีเรื่องสำคัญจะเข้าเฝ้าตอนนี้ แต่ฝ่าบาทกลับทรงปิดทั้งเครื่องสื่อสาร แล้วก็เครื่องบอกพิกัดที่จะรู้ว่าพระองค์ประทับอยู่ที่ไหน
ฝ่าบาททรงเป็นคนอย่างไร พวกเราทุกคนต่างก็รู้จักกันดีนี่นา พระองค์อาจจะอยากประทับอยู่พระองค์เดียวเงียบๆบ้างก็ได้นี่นะ
ถ้าทรงมีเรื่องไม่สบายพระทัยเหมือนช่วงที่เกิดเรื่องขึ้นใหม่ๆ ฉันคงไม่สงสัย แต่เวลานี้พวกเราต่างก็ค้นพบร่างพลังของทูลกระหม่อมน้อยแล้ว พระองค์น่าจะกำลังทรงดีพระทัยถึงจะถูก
กล่าวถึงตอนท้ายราวกับค่อยฉุกใจคิด สองเท้าที่กำลังก้าวเดินพลันชะงักลงอย่างกะทันหัน
จริงสิ.. จาริโอเธอรัสจัดการเรื่องนั้นไปถึงไหนแล้ว ?
ก็.. ยังดำเนินการอยู่ ...
มากัสพยายามตอบเลี่ยงๆ ในอกรู้สึกจุกๆขึ้นมาเล็กน้อย ที่ต้องยิ้มแย้มพูดคุยออกไปราวกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่า ทูลกระหม่อมน้อยของพวกเขาพระองค์นั้น คงหมดโอกาสจะได้คืนกลับเมลาเนียลอีกตลอดกาลแล้ว พลางนึกฉุนเจ้าเพื่อนตัวดีอีกสองคนที่ผลักไสส่งเขามารับหน้ากับหมอนี่อยู่คนเดียว
เพียงแต่ในตอนนี้ ก่อนที่ฝ่าบาทจะทรงสงบพระทัยได้แล้วเสด็จกลับมา พวกเขาคงต้องปิดบังลูเปอร์เซียสไว้ก่อนไม่ให้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับทูลกระหม่อมน้อย รวมไปถึงกันตัวอีกฝ่ายไว้ไม่ให้ไปเผชิญหน้ากับเจ้าชายราโอมิน
เพราะพวกเขาต่างรู้จักดีถึงความโกรธอันรุนแรงของเพื่อนคนนี้ ลูเปอร์เซียสเคยประกาศจะไม่มีวันให้อภัยต่อเจ้าชายแห่งเอลลาโกผู้เป็นต้นเหตุพาทูลกระหม่อมน้อยเสด็จสู่ความตายพร้อมกันกับตนเอง หากสองคนนี้มาพบเจอหน้ากัน...ไม่อยากนึกจริงๆว่าอะไรจะเกิดขึ้น
แล้วคนที่หลุดมิติเข้ามาบนยานผู้นั้น..หาตัวเจอรึยัง ?
มากัสค่อยรู้สึกโล่งที่อีกฝ่ายเปลี่ยนประเด็นไถ่ถาม จึงทำเป็นขบคิดเพื่อยืดเวลาไปอีกเล็กน้อยก่อนจะตอบ
ยังหาตัวไม่เจอ ให้เซปัสช่วยค้นแล้วก็ไม่เจอแม้สิ่งมีชีวิตที่น่าสงสัย จนฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่า ในตอนนั้นพวกเราอุปาทานกันไปรึเปล่า ?
ยังจำได้ถึงวันนั้น ตอนที่พวกเขาประคองร่างอันหมดสติของสองหนุ่มสาวชาวโลกขึ้นยานเล็กซึ่งจอดรออยู่ คอธในกายก็ได้สัมผัสถึงอะไรบางอย่างที่สะกดรอยตามอยู่อย่างเงียบๆ การลอบติดตามดูเหมือนจะ หายไปชั่วขณะเมื่อยานเล็กวาร์ปกลับไปยังยานลูกของซาปิธัสที่จอดรออยู่นอกชั้นบรรยากาศ
แต่ทว่าในขณะยานกำลังจะเดินเครื่องส่งผ่านกาลมิติกลับยานแม่ซึ่งจอดรออยู่อีกสิบปีข้างหน้าอยู่นั้นเอง ปินปินที่เป็นสมองกลหลักประจำยานลูก ก็พลันส่งเสียงร้องเตือนว่ามีบุคคลที่สามล่วงล้ำขึ้นยาน พวกเขาต่างพากันงุนงงว่าจะมีใครสามารถขึ้นมาบนยานซึ่งจอดอยู่นอกโลกโดยไม่เห็นมียานสักลำบินติดตามมาจากดาวโลกดวงนั้นเลย แต่เพื่อเป็นการไม่ประมาท ลูกเรือทั้งหมดต่างก็แยกย้ายช่วยกันตรวจค้น แต่ก็ไม่เจอบุคคลหรือสิ่งใดที่ต้องสงสัย
เครื่องตรวจจับของยานลูก บ่งบอกว่ามีคนล่วงล้ำผ่านทวารกาลมิติเกินมาหนึ่งคน แล้วพอมาถึงยานแม่ คนๆนั้นจะหายตัวไปได้อย่างไร ?
ลูเปอร์เซียสยังคงพึมพำอย่างคลางแคลงสงสัย มากัสนิ่งไปเล็กน้อยแล้วก็ยักไหล่
ก็ไม่แน่นะ ระบบส่งผ่านกาลมิติอยู่ๆก็เกิดเสียล็อคปิดตัวเองไปดื้อๆ บางทีเครื่องตรวจจับของยานมันอาจจะเพี้ยนไปชั่วขณะในตอนนั้น แล้วแจ้งรายงานผลผิดพลาดก็เป็นได้ ...
ก็หวังให้เป็นเช่นนั้น เกรงก็แต่..ประวัติศาสตร์มันจะซ้ำรอยเดียวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่มาริกัส
เพราะความประมาทของคณะราชทูตของเอลลาโกที่ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย ว่าเจ้าผู้ครอบครองพลังสีน้ำเงินลอบปลอมตัวปะปนมาด้วยได้อย่างไร ทำให้อีกฝ่ายล่วงล้ำผ่านประตูเธลปิโดลัสเข้าสู่มาริกัส แล้วก่อเรื่องขึ้นจนวุ่นวายกันไปทั่ว
จักรวรรดิเมลาเนียลเคยอยู่อย่างสุขสันติก็ต้องมาเจอกับโศกนาฏกรรมครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งหมดล้วนเป็นการชักนำมาโดยพวกคนของเอลลาโกทั้งสิ้น นัยน์ตาสีน้ำเงินดุจท้องฟ้ายามราตรีพลันฉายประกายเคืองแค้นวูบหนึ่ง ยามเมื่อนึกถึงใครบางคนที่แสนจะน่ารำคาญ แต่ก็ต้องมาอยู่ร่วมเดินทางบนยานลำเดียวกันนี้ด้วย
คำรำพึงของลูเปอร์เซียสทำให้มากัสชะงักเท้าอย่างกะทันหัน สีหน้าทอแววครุ่นคิดขึ้น
นายว่าเป็นไปได้ไหม.. คนที่หลุดผ่านกาลมิติมาผู้นั้น จะเป็นเอซาลอส ?
พูดจบนิ่งไปอึดใจหนึ่ง แล้วก็ส่ายหน้าพึมพำ
แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ เทพอสูรแห่งโปกาดอนผู้นั้น จะไปอยู่แถวๆนั้นในยุคนั้นได้อย่างไร เรื่องราว..มันจะประจวบเหมาะบังเอิญขนาดนี้ได้เชียวหรือ อย่าว่าแต่..ถ้าเขารู้ว่าสองคนนั้นคือร่างเกิดใหม่ของเจ้าผู้ครองพลังสีเหลืองและแดง ก็น่าจะลงมือสังหารคนทั้งสองเสียมากกว่า...
ลูเปอร์เซียสมองหน้าเพื่อนคนที่กำลังพูดเองเออเองแล้วต้องส่ายหน้าตนเองอย่างรำคาญ หันกายผละออกมาโดยไม่พูดว่ากระไรอีก
เฮ้ย.. ลู้ป นั่นนายจะไปไหน ?
มากัสถึงกับสะดุ้งออกจากภวังค์ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว รีบก้าวยาวๆตามไปเรียกรั้งไว้ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะมุ่งตรงไปทางไหน
ขวางฉันไว้ทำไม ?
เอ่อ...
คนที่ถูกส่งมาเป็นฝ่ายรับหน้า รีบเค้นสมองหาเหตุผลมาอธิบายอย่างรวดเร็ว
เห็นนายจะไปทางห้องปฏิบัติการนั่น
อืม.. ระหว่างรอเข้าเฝ้าฝ่าบาท ฉันอยากไปดูว่าชาวโลกสองคนนั่นตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
เจ้าจาร์มันกำลังเดินเครื่องเร่งพลังงาน เพื่อเชื่อมต่อถึงร่างพลังสีเหลืองและแดงที่อยู่ในร่างของคนทั้งสอง สั่งห้ามไว้ไม่ให้ใครเข้าไปรบกวน แม้แต่ฝ่าบาทก็ยังเข้าไปไม่ได้เหมือนกัน...
งั้น...
นายมากับฉันทางนี้ดีกว่า...
ว่าแล้วก็จัดการฉวยแขนของอีกฝ่าย ลากพาไปอีกทาง
เราไปที่โรงเก็บยานลูกกัน นายมาก็ดีแล้ว จะได้ช่วยฉันตรวจอาการเจ้าปินปิน เผื่อว่าจะหาเจอเบาะแสอะไรเกี่ยวกับเรื่องผู้บุกรุก....
.............................................
.
จากคุณ |
:
ธีตภากร
|
เขียนเมื่อ |
:
23 ก.พ. 54 00:35:12
|
|
|
|