Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กามาลี ที่รัก ...ตอนที่ 4 ติดต่อทีมงาน


กามาลี ที่รัก ตอนที่  4

มาลีและฉัน แม้เราเดินสวนกันเพียงแวบเดียว แต่ฉันก็สังเกตเห็น ใบหน้าของเด็กสาวที่ยิ้มละไมเบิกบาน  ...ฉันรับรู้ถึงความสุขของเธอ ...ที่มันช่างต่างจากเอมิกาโดยสิ้นเชิง

ห้องเช่าขนาดมาตรฐานในซอยแออัดใจกลางเมืองศิวิไลซ์แห่งนี้  เมื่อเปิดประตูเข้ามา ด้านขวาแบ่งเป็นห้องน้ำขนาดย่อม กับบริเวณว่างอีกนิดหน่อย พอได้ตั้งตู้เครื่องครัว และโต๊ะเก้าอี้หนึ่งชุด ก่อนถึงประตูเปิดออกด้านหลังระเบียงรับลม มีตู้เย็นตั้งอยู่ด้วย  ส่วนด้านซ้ายมีเตียงขนาดเล็กสองเตียงวางคู่กัน ถัดมามีตู้เสื้อผ้าโต๊ะเครื่องแป้งและชั้นวางทีวี  ทุกอย่างดูกะทัดรัด ข้าวของถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ
...สายตาของมาลี ที่มองสำรวจโดยรอบ มาหยุดอยู่ตรงโซฟาตัวยาว ที่วางชิดผนังห้องติดกับประตูทางเข้า ข้างตัวเธอที่ยืนอยู่นี่เอง บนโซฟานั้นมีชายสูงวัยตัวอ้วนๆนั่งพุงกลม ทำหน้างงๆ อยู่นิ่งๆ ...เขาคือพ่อของเอมมิกา ดวงตาทั้งคู่ยังดำใส แทบดูไม่ออกว่าท่านจะมองไม่เห็น  ส่งผลให้มาลีลดความรู้สึกเขินอายลงไปได้เยอะ เมื่อต้องทำภารกิจนอกสถานที่เช่นนี้

เธอเข้าไปพยุงประคอง พาท่านลุกขึ้น ย้ายตัวไปที่เตียงนอน คุณพ่อเหมือนเด็กว่านอนสอนง่าย ยังไม่มีเสียงทักทายใดๆเอ่ยออกมา คงเพราะยังงงและเขินไม่หาย กับการจู่โจมเข้ามาของมาลี  ท่านล้มตัวลงนอนตามที่เธอจัดแจง  นอนหงายเหยียดตัวตรง สองมือประสานไว้ที่หน้าอกอย่างเรียบร้อย ...มาลียิ้มที่มุมปาก ก่อนจับเอามือของท่านคลายออกมาวางข้างๆลำตัว ส่วนเธอเองก็นั่งชิดติดกัน ห้อยขาลงข้างเตียง แล้วเอี้ยวตัวเอามือทั้งสองข้าง ค่อยๆบีบนวดเบาๆ ที่ขมับของพ่อ  พร้อมกับก้มลงจูบที่เปลือกตาท่าน เป็นการสื่อสารของคนสองคนที่ไม่สามารถสบตาและพูดคุยกันได้ แค่นั้นไม่พอ เธอยังประกบปากไปที่ริมฝีปากของท่าน ฝังจูบนุ่มนวลไว้ครู่หนึ่ง โดยหวังให้ผ่อนคลาย เลิกกังวลในตัวเธอลงไปบ้าง

มาลีรวบผมดำยาวสลวยของเธอขึ้นมัดเกล้าไว้  แล้วเริ่มนวดไปตามขั้นตอนหน้าแปดหลังเจ็ดที่คุ้นมือ ขาดแต่น้ำมันนวดที่ไม่ได้เตรียมมา จึงปรับเปลี่ยนจากใช้สิบนิ้วพลิ้ววน เป็นนวดคลึงไปตามกล้ามเนื้อทั่วตัว จนถึงหน้าที่แปด จุดสุดท้าย กับช่วงเวลาที่ผ่านไปพอเหมาะพอดี  ...แม้ห้องที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ แต่เหงื่อของพ่อก็ผุดขึ้นอยู่ไม่ขาดเม็ด ด้วยความเกรงใจหรือด้วยเหตุผลใดๆ ท่านยังไม่ได้ปริปากพูดอะไรสักคำ มีเพียงบิดตัวไปมาตามจังหวะที่ฝืนไว้ไม่ไหวกับความสุขเสียวซ่าน  โดยเฉพาะตอนนี้ เสียงครางเบาๆเริ่มหลุดรอดออกมา ในขณะที่อุ้งมือของมาลีคลึงเค้นตามต้นขาหนีบและเนินน้อยๆใต้พุงขาวกลม  แม้คุณพ่อจะกัดฟันไว้แน่นแต่ก็ปิดเสียงครวญครางนั้นไม่ได้อีก เมื่อเธอใส่ความพิเศษเข้าไปด้วยใจ ตั้งแต่เริ่มนวดแล้ว

กางเกงเลสีน้ำเงินถูกถอดออกวางกองคู่กับกระโปรงยาวผ้าบาติกลายดอกไม้หลากสี อยู่ที่พื้นข้างเตียงนอน สักครู่ใหญ่ที่ผ่านมา  บนเตียงนั้น มีหญิงสาววัยใส สวมเพียงกางเกงในตัวจิ๋วขลิบลายลูกไม้ และเสื้อเชิ้ตสีดำรัดตัว ที่ปลดกระดุมบนออกหลายเม็ดเพื่อผ่อนคลาย จนมองเห็นล่องหุบเขานูนขาวชัดเจน  เธอนั่งคุกเข่าก้มๆเงยๆ อยู่ระหว่างกลางของร่างชายอ้วนที่แยกขาออกกว้าง  สิบนิ้วที่ทำงานอย่างสมดุลกับริมฝีปากบางๆแดงระเรื่อ ที่จูบพรมไปทั่วบริเวณ  ไล่ตั้งแต่เหนือเข่าทั้งสองข้างสลับขึ้นไป จนหยุดอยู่ตรงกลาง ที่มีเด็กชายหัวใสยืนเปลือยเปล่าแข็งตัวอย่างหนาวเหน็บ แล้วเธอก็ปกป้องไอเย็นด้วยริมฝีปากอิ่มอุ่นนั้นทันที หวังเพิ่มความร้อนรุ่มให้แก่เขา และก็เป็นผลเมื่อทั้งหมดถูกกลืนหายไป ไม่ให้ลมไหวพัดต้องตัว เหลือเพียงสัมผัสอันอบอุ่นนุ่มนวล  ...ปล่อยเวลาผ่านไปกับท่วงท่าทำนองที่เข้ากันทั้งริมฝีปากและนิ้วทั้งสิบ เข้ารุมล้อมทำร้ายจนน้ำตาเด็กน้อยไหลกระเซ็น   ...คุณพ่อของฉัน นอนครวญครางบิดเกร็ง แม้ช่วงเอวที่หนักอึ้งก็ยังยกลอยขึ้นลงเหมือนเบาหวิว  ...จนวินาทีสุดท้ายของการนวด สูตรพิเศษเหนือพิเศษของมาลี  

ฉันรู้ว่า นี่คือความสุขของผู้ชายทุกคน และความสุขของคุณพ่อ  มาลีไม่ได้ทำให้ฉันผิดหวัง  ...เธอนอนตะแคงหนุนต้นแขนของท่าน แล้วโอบกอดก่ายไว้อย่างมีความสุข จนเกินสองชั่วโมงที่ว่าไว้  ก่อนจะลุกจากไป เธอโน้มจูบที่หน้าผากท่านเบาๆ  เป็นการสั่งลา

"มาลี...  ขอบใจมากนะ"
พ่อเอ่ยออกไป พร้อมพยุงกายลุกขึ้นนั่ง ยิ้มส่งเธอ จนสิ้นเสียงปิดประตู

มาลีและเอมิกา ทั้งความสวยสาว ทั้งฝีมือการนวด ไม่ได้แตกต่างกัน ...มีเพียงความสุขต่อหน้าที่ ที่ได้ทำนั้น ที่มันต่างกันสิ้นเชิง ทุกครั้งที่มาลีอยู่ในห้องฉัน เธอยิ้มแย้มแก้มปริ แทบไม่ต้องบรรยายถึงความสุขที่มี ว่ามากมายแค่ไหน  แต่ทุกครั้งที่ฉันอยู่ในห้องนวดของกานต์สุดาฯ มันช่างทุกข์ระทมเหลือเกิน  ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้  ฉันเริ่มสับสนกับทุกอย่าง ฉันไม่ได้ยิ้มสดใสเหมือนเมื่อก่อน ถึงบางคราวจะหัวเราะกับเพื่อนสาวหมอนวด แต่ก็แยกไม่ออกว่านั่นคือความสุขที่แท้จริง หรือความทุกข์แบบจำยอม  และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความจริงใจ หรือคำหลอกลวงมันแตกต่างกัน

...ยังจำได้ไหมตั้งแต่ที่ฉันเล่าให้ฟังตอนต้น  จนถึงตรงนี้  และฉันจะเล่าต่อ เล่าถึงห้าเดือนแห่งความขมขื่น ห้าเดือนก่อนที่จะมาถึงวันนี้  เริ่มจากวันที่ "มัน"   หมายถึงผู้กองอุดม เริ่มจากวันที่มันยัดเยียดความเป็นสามีให้ฉัน ต่อจากนั้น ชีวิตฉันก็เข้าไปสู่โลกแห่งความมัวหมองและสับสน

"เอม ...ฉันรักเธอนะ"
เสียงหอบกระซิบเบาๆที่ข้างหู ในขณะที่ผู้กองอุดมมันยังนอนนิ่งบนตัวฉัน  สักครู่หนึ่ง มันค่อยๆลุกขยับออกไป ปล่อยให้ฉันเป็นอิสระเสียที  ทั้งสองคนจัดเสื้อผ้าจัดระเบียบตัวเองให้คืนสู่สภาพเดิม ความรู้สึกเจ็บปวดหน่วงๆตามเนื้อตัว ไม่มากไปกว่าความเจ็บปวดในใจของฉันในตอนนี้   ...มันขยับตัวเข้ามาใกล้อีกครั้ง แล้วฉุดร่างฉันให้ลุกขึ้นยืน จากที่นั่งห้อยขาก้มหน้านิ่งอยู่บนขอบเตียง

"เธอเป็นเมียของฉันแล้วนะ  อย่าเสียใจไปเลย"    "แล้วฉันจะมาหาเธอบ่อยๆ ...เอมิกา"
เขาพูดพร้อมกับดึงฉันมาสวมกอดไว้  นิ่งอยู่อีกพักหนึ่งก่อนแยกจากกัน ...น้ำตาของฉันเริ่มเอ่อไหลนองสองแก้ม หลังจากที่แห้งไปแค่สักพักด้วยความสับสน ขณะมองตามหลังมัน ที่เดินออกไปจนลับหายพ้นขอบประตู  พอรวบรวมสติกลับมาได้  ฉันหันไปจัดเก็บข้าวของในห้องที่หล่นแตกกระจัดกระจาย

"เอม... ยังไม่ต้องเก็บหรอกลูก ไว้พรุ่งนี้ก็ได้"    "เพื่อนๆ เขากลับกันหมดแล้ว หนูเองก็รีบกลับเถอะ ...ไปพักผ่อนก่อนแล้วค่อยว่ากัน"
ฉันมองตามเสียงที่ดังแว่วมา เห็นเจ๊สุดาลางๆผ่านม่านน้ำตา ยืนที่ประตู  ฉันรีบหลบหน้าเพราะไม่อยากให้เธอเห็นคราบน้ำตา เสียงนุ่มๆของเธอ ฟังดูเหมือนมีไมตรีอันดี แต่ฉันแยกไม่ออกว่าไมตรีนั้นคืออะไร  ฉันเสียความบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ เพื่อแลกกับความอยู่รอดของกานต์สุดาฯ หรือเธอไม่เคยคิดแต่แรกว่าศักดิ์ศรีของฉันมันมีอยู่  เธอถึงร้องขอโดยมองว่าเป็นเพียงงดเว้นค่านวดไม่กี่ร้อยบาท ฉันไม่อยากคิดไม่อยากพูดคุยกับใครทั้งนั้น  เมื่อเห็นหน้าเธอยิ้มเศร้าๆ ที่เข้ามาโอบไหล่ แล้วเอ่ยถาม
"ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหมลูก"
ฉันเพียงพยักหน้ารับ ก่อนขอตัวกลับ  จากที่นี่ไปถึงห้องพัก ระยะทางไม่ถึงสองกิโลฯ ปกติก็เรียกใช้พี่ๆวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง แต่คืนนี้ สองขามันพาฉันเดิน เดินไปอย่างรู้เส้นทางรู้จุดหมาย  แต่ในใจฉันสิ ล่องลอยไปถึงไหนต่อไหน เพียงคำคนไม่กี่ประโยค และหนึ่งเหตุการณ์ต่ำทราม  มันรุมล้อมทำร้ายฉันอย่างไม่หยุดหย่อน

...สุดท้ายแล้วก็ผ่านไป ฉันคิดว่าต้องผ่านไป เพราะค่าใช้จ่ายที่คงตัว แต่รายรับที่ลดลง ฉันหยุดทำใจเพียงไม่กี่วันก็ต้องกลับมาทำงาน และเพียงไม่กี่วัน ผู้กองอุดมมันก็มา  มันมาทำลายจิตใจฉันจนเริ่มชินชา   ทำให้เอมิกาเริ่มอ่อนไหวไปกับพายุร้ายที่พัดโหมกระหน่ำ แต่มาลีไม่เป็นแบบนั้น มาลียิ้มรับเพียงสายลมแผ่วเบาที่พัดพาแต่ความเย็นสบายมาสู่เธอ

วันเวลาหมุนผ่านไปต่อจากนั้น ฉันยังสับสนกับตำแหน่งเมียของเขา เมียที่เขามาหา และแสดงความรักใคร่เสพสมกันในห้องนวดเล็กๆเพียงแค่นั้น รับรู้กันเพียงหมู่พวกเราในกานต์สุดามาสสาจแอนด์สปา ไม่ได้พาไปเชิดหน้าชูตาที่ไหน  ...ฉันเลือกไม่ได้ แม้แต่เจ๊สุดาก็เลือกที่จะช่วยอะไรไม่ได้เช่นกัน บ่อยครั้งที่มันมาเติมเต็มความสุขใส่ตัว  และฉันยินดีพร้อมบริการ ก็สามีฉันนี่นา แม้รสสวาทจะหนักหน่วงรุนแรง แต่คำว่า "ฉันรักเธอนะเอมิกา" ก็ดังก้องอยู่ในหัว นำพาให้ความความรุนแรงนั้นเจือปนไปกับความสุขแบบเบาบาง
และบ่อยครั้งที่มันมาพร้อมกับความเมามาย ขณะที่ฉันยังอยู่ในชั่วโมงนวดกับลูกค้ารายอื่น เจ๊ต้องสั่งเบรกไว้ก่อน  แล้วเรียกตัวฉันมา เพื่อช่วยลดความรุนแรงของสามีเฮงซวยของฉันเอง โดยไม่ต้องพูดจาอะไรกัน เพียงสานต่อความสัมพันธ์ฉันผัวโฉดกับเมียเก็บ ในห้องโรแมนติกห้องประจำ

เราพูดคุยไม่มาก แต่สื่อสารกันเข้าใจ  ผู้กองไปส่งฉันที่ห้องหลังเลิกงานในบางคืน และไปรอรับมาทำงานตอนบ่ายๆในบางวัน  ทำให้ต้องแนะนำให้คุณพ่อได้รู้จัก ทั้งที่ฉันไม่อยากให้รู้จัก ฉันอยากเก็บมันไว้เป็นผัวลับๆแค่นั้น เหมือนที่มันเก็บฉันไว้เป็นเมียลับๆเช่นกัน ...ระหว่างเขารอฉันจัดเตรียมอาหารและข้าวของต่างๆให้พ่อก่อนออกไปทำงาน ทั้งสองหนุ่มรุ่นใหญ่และใหญ่กว่า ก็ได้พูดคุยกันบ้าง ตามประสาผู้ชายทั่วไป  แต่คงไม่ทั่วไป ที่คุณพ่อไม่ได้ประทับใจนัก กับว่าที่ลูกเขยคนนี้

"ไอ้เจ้าผู้กองอุดมนี่นะ มันอายุสามสิบเจ็ดแล้ว ต่างวัยกับหนูมาก จะไปกันไหวเหรอลูก"    "ยังไงก็ดูๆกันไปก่อนนะลูก อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ"
พ่อพูดกันฉันเมื่อเราอยู่กันสองคน แน่นอนว่าเรื่องต่างวัยคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ พ่อคงกังวลเรื่องอื่นๆมากกว่า และฉันเองก็ไม่ได้พูดเรื่องอื่นเกี่ยวกับตัวเขาเลย นอกจากเน้นว่าเขาเป็นตำรวจสายตรวจที่มาตรวจตราในซอยนั้นประจำ เลยรู้จักกัน และฉันก็ปรามกับผู้กองไว้แล้วว่า อย่าคุยเรื่องของเรา เมื่อต้องอยู่กับพ่อ ด้วยเหตุที่ว่าไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ

ระหว่างคุณพ่อกับผู้กองอุดมไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เมื่อมีโอกาสได้เจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง  แต่วันนี้มันต่างกัน ...วันสุดท้ายของเรา เมื่อผู้กองมันมารอรับฉันที่ห้องตอนบ่ายสอง  ฉันจัดเตรียมทุกอย่างเสร็จแล้วเหลือเพียงตกแต่งตัวเองเท่านั้น  กลิ่นเหล้าตุ่ยๆโชยมาพร้อมกับมัน ตั้งแต่เข้าห้องมา   มันนั่งที่โซฟาข้างๆกับคุณพ่อ ซึ่งท่านกำลังตั้งใจฟังข่าวการเมืองจากทีวี  ...เสื้อยืดสีชมพูคอกว้างเปิดเผยเนินหน้าอกพองาม กับกางเกงยีนตัวจิ๋วขาสั้นแค่คืบ  ชุดที่ฉันใส่ตามแฟชั่นนิยม  ขณะที่กำลังตบแป้งลองพื้นและทาลิปสติกปิดท้ายความงาม อยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง  ฉันไม่เคยคิดว่านั่นเป็นการยั่วยวนใคร เพียงแต่ตกแต่งสวมใส่ไปตามวัยและหน้าที่การงาน ...ใครจะไปคิดถึงว่า มันจะต่ำช้าขนาดนั้น

 
 

จากคุณ : goowalker
เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 11:45:07




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com