เรื่องสั้นเฉพาะกิจ...พบรักบนรถเมล์สาย 28
|
 |
เอาเรื่อสั้นๆมาให้อ่านแล้วได้อมยิ้มกันค่ะ เอามาเบรกสองเรื่องเศร้ามากๆที่ผ่านมาอ่ะคะ ความจริงเรื่องนี้เคยลงไว้ในบล็อคนานแล้ว ถ้าใครเคยผ่านตา ขออนุญาตเอามาลงให้เพื่อนๆที่นี่อ่านกันอีกครั้งนะคะ
พบรักบนรถเมล์สาย 28
สมัยนานมากแล้ว มนต้นไม้เคยนั่งรถเมล์กับเพื่อนสนิทมาเรียนพิเศษแถวๆสะพานควาย ก็อาศัยสาย 28 ฟ้าขาวเป็นที่พึ่งพิงตลอดมา มีอยู่วันหนึ่งจำได้ว่ามาเรียนพิเศษกับเพื่อนสนิทตามปกติ และวันนั้นเป็นวันศุกร์ที่รถไม่ค่อยติดมากเท่าไหร่ อาจเพราะมันบ่ายสามกว่าแล้วนั่นเอง
แต่ไม่รู้เป็นอย่างไร แบบว่าวันนั้นรอรถนานมากๆ สงสัยเพราะไม่ใช่ช่วงเวลาเร่งด่วน รถมันเลยขาดตอนกลับเข้าอู่ไปหมดแล้วแน่ๆเลย ที่นี้พอรอนานๆมากเข้า ก็ชักจะเริ่มเบื่อแล้วอ่ะ แต่ไม่หงุดหงิดนะ เพราะเข้าใจระบบขนส่งมวลชนเมืองไทยดีแบบว่าไม่เคยเพียงพอกับความต้องการเล้ย ก็เลยได้แต่บ่น แต่ไม่ได้บ่นอย่างเดียวนะ แถมกินลูกชิ้นทอดไปด้วย(เป็นความสามารถพิเศษมากเลย บ่นไปกินไป ฮา)
เฮ้อ... ทีนี้กินจนหมดไปถุงหนึ่งแล้วก็ยังไม่มีวี่แววรถเมล์ที่ร๊าก...จะมาเสียที ก็เลยคิดว่าจะเดินไปซื้ออีกถุงมาสวาปามต่อดีมั๊ย แต่พอดีเพื่อนรักดันสะกิดเสียก่อนว่า รถเมล์มาโน้นแล้ว แต่มนต้นไม้เห็นว่ายังพอมีเวลาเพราะรถติดไฟแดงอยู่ จึงคิดว่าเอาไงดีหว่า ในขณะที่มนต้นไม้กำลังตัดสินใจเลือกระหว่างลูกชิ้นแสนอร่อย กับรถเมล์ที่แสนรักอยู่นั่นเอง
ชะแวบ...พลันสายตาก็ดันไปปะทะอย่างแรงกับคนในเครื่องแบบ ก๊าก....หล่อเช็ด(หล่อจนต้องถึงขั้นต้องแอบเช็ดน้ำหมาก เอ้ย...น้ำลาย กันเลยทีเดียวเชียว คนอะไรหล่อไม่บันยะบันยังกันบ้างเลย หล่อแบบไม่เกรงใจคนมองเล้ย..พ่อเอ้ย หล่อขั้นเทพประมาณว่าคีอานู ลีฟ ผสมพ่อติ๊ก เจษฎาเลยทีเดียว หุ่นนี้ฟิตเปรี๊ยะ ตะเข็บเครื่องแบบแทบปริ อ๊าก...หล่อปางตายจริงๆเลย(คนเขียนบรรยายเสียขนาดนี้ จะโดนใครแถวๆนี้หมั่นไส้บ้างมั๊ยเนี่ย เหอๆ)
หลังจากใช้สายตาแอบแทะโลม เอ้ย...แอบสำรวจอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มนต้นไม้(ตอนนั้นยังเอาะๆอยู่นะคะ เดี่ยวจะหาว่า...โห...เจ้ ทำไปได้ไงเนี่ย ฮา..) ก็เลยเอาศอกกะทุ้งที่บั้นเอวเพื่อน แล้วกระซิบแบบว่าไม่ค่อยจะเบาเท่าไหร่เลยว่า
ตะเอง(หมายถึงเพื่อนสนิท)ที่ สิบนาฬิกาเจ้... จ๊าก แต่แทนที่คุณเพื่อนจะค่อยๆหันไป ดันกลับสะบัดหน้าพืดๆๆ ไปยังทางทิศที่นักเรียนเตรียมทหารสุดหล่อปางตายคนนั้นยืนอยู่ หุๆ ประมาณว่าคุณเพื่อนคงจะเก็บอาการประหม่า ประสมเขินที่แอบมองเพศผู้ เอ้ย หนุ่มคนนั้นเอาไว้ไม่อยู่นั่นเอง เจ้แกเลยทำไม่เนียน ก็เล่นไปมองเขาตรงๆแบบนั้นอ่ะ ก๊าก... เราเลยขำเสียไม่มี
แถมพอคุณเพื่อนหันไปจ้องเอาๆ ดูเขาเสร็จสรรพ(คือหลังจากที่ลวนลามด้วยสายตาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง) ก็ค่อยหันกลับมาหามนต้นไม้ แล้วก้มหน้าจูบดิน เอ้ย....มองแต่เท้าตัวเองเฉยเลย แถมไม่พูดไม่จาอีกต่างหาก ไอ้เราก็เป็นงงสิคร๊าบ อะไรกันหว่า เกิดอะไรกับเพื่อนเราเสียแล้ว
แต่พอนึกขึ้นมาได้ หุๆ มนต้นไม้ก็เลยเล่นซ้า... เลยแกล้งเป็นถามคุณเพื่อนไปว่า ตะเอง เห็นแล้วจิ หล่อโคตรๆเลยใช่มั๊ย หล่อมั๊กๆเลยเน๊อะๆ สเป็กตัวเองนี่นา ส่วนคุณเพื่อนฟังแล้ว จะพูดอะไรออกมาไม่อาจรู้ได้ แถมตอบอะไรออกมา เราก็ไม่ทันไม่ได้ยิน เพราะตามัวแต่จ้องๆเป็นปลาทองบวกปลากัด มองไอ้หนุ่มมาดเท่ (เก็กเสียไม่มี แถมทำตาเหลือกๆ เอ้ย แถมทำเป็นปรายหางตารอดหมวกที่ปิดลงมาเกือบครึ่งหน้า มาแอบมองเราเสียด้วย เหอๆ)ตรงหน้าไม่คลาดสายตาเลยทีเดียว (ความจริงไม่ได้ปิ๊งอะไรหรอกนะคะ เพียงแต่มันรู้สึกตะหงิดๆเหมือนเคยเห็นความหล่อแบบนี้ที่ไหนมาก่อนนั่นเอง) ก็เลยได้ยินแต่เสียงงุงิอยู่ในลำคอของคุณเพื่อนเท่านั้น
เฮ้ย... แล้วนี่ฉันจะรู้เรื่องมั๊ยเนี่ย ว่าเธอพูดอะไร ก็เห็นคุณเพื่อนยังยืนมองนิ้วโป้งเท้าตัวเองไม่เลิกสักที แต่ไม่ทันที่จะได้แซวอะไรเพื่อนคนนี้ ก็มีอันต้องวิ่งตุ๊บตั๊บขึ้นรถแทบไม่ทัน เลยอดกินลูกชิ้นทอดเลยอ่ะ แต่ว่าชะอุ๋ย....เห็นแวบๆว่านายสุดหล่อในชุดนร.เตรียมทหารกะโดดขึ้นมาด้วยอ่ะ กรี๊ด...เอ้ย..แค่จ๊ากพอมั้ง...เอ... หรือว่าจะเป็นบุพเพอาระวาด.. เสียแล้ว
อีกครั้งที่มนต้นไม้แกล้งถามคุณเพื่อนว่า(เป็นคนชอบแกล้งชาวบ้านค่ะ นิสัยไม่ดีเน๊อะๆ) ตะเองเห็นสุดหล่อคนนั้นป่ะ เค้าคงตามตัวเองขึ้นมาด้วยอ่ะ คุณเพื่อนก็ไวปานวอกเหมือนกันนะคะ เธอพยักหน้าแล้วตอบว่า เห็นแล้วล่ะ แล้วยังเห็นเขาจ้องเราตลอดเลย ตั้งแต่หันไปเจอด้วย
อ้าวแล้วทำไมไม่บอกฉันล่ะยะ ไอ้เรารึก็นึกไม่ถึงว่าคุณเธอจะเห็น ก็เห็นแต่ยืนก้มหน้า ผมเผ้าหล่นลงมาปิดหน้าปิดตาหมด หลังจากนั้นมนต้นไม้ก็หมดความสนใจพ่อรูปหล่อคนนั้นไปเลย เพราะหันมาเมาส์กับคุณเพื่อนแทน (แบบว่ามองเอาฮา ไม่ได้คิดอะไรหรอกค่ะ เห็นหล่อดีก็เลยมอง แค่นั้นแหละ) ขณะที่กำลังเมาส์กันเพลินๆนั้นเอง อยู่ๆก็เหมือนมีอะไรสักอย่างไม่รู้มาโขกดังโป๊กที่หัวมนต้นไม้ จ๊าก... อะไรวะเนี่ย เจ็บนะเว้ย เหอๆ
นึกใจแล้ว ยกมือคลำหัวปรอยๆ ก่อนจะหันขวับกลับไปเตรียมด่า เอ้ย...ชม เจ้าของหัถต์พระเจ้า แต่เอ...ทำไมพอได้เห็นกันแบบเผาขน แล้วหน้าตามันคุ้นๆจังแหะ โอ้ ....มายดาร์ลิง คีอานูของฉันนั่นเอง....เอ้ยไม่ใช่ พ่อหนุ่มในเครื่องแบบนั่นเอง ก๊าก...ถึงบางอ้อ...แล้วอ่ะ...อยากลงไปนอนกลิ้งดิ้นกระแด่วๆ ปล่อยก๊ากบนพื้นจริงๆเลยเรา ที่แท้ก็จุดไต้ตำตอคนกันเองทั้งนั้น เหอๆ เพราะเขาคนนั้นคือ...ไอ้คุณติ่ง เพื่อนเก่าสมัยประถมของมนต้นไม้นั่นเอง
ถึงว่ากล้ามาโบ๊ะกระโหลกเรา แต่แหมๆไม่เจอกันแค่สี่ห้าปี เมื่อก่อนตัวสูงแค่หูเรา มาตอนนี้ตัวสูงเท่าหลังคา แถมหน้าตายังดูดีขึ้นเป็นก่ายกอง น้องๆพระเอกหนังเรื่องเมทริกมาเองเลยทีเดียว แล้วจะไม่ให้เพื่อนเก่าสับสนได้อย่างไรล่ะพ่อคุณ
ดีนะที่ยังไม่ทันทำอะไร แค่หันไปตั้งท่าจะด่าเท่านั้นเอง ฮ่าๆ...เจ้าติ่งเห็นท่าทางไม่น่าไว้ใจของเพื่อนเก่าแล้วรีบชิงทักทายก่อนว่า สวัสดีครับ มน หุๆ ( แหม...มาทำเสียงหล่ออย่างงี้ ฉันรู้ทันนะยะ ว่านายต้องมีจุดประสงค์อื่นแน่ๆเลย)
อารามดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่า(แถมหล่อ น่าลากอีกต่างหาก... พูดเล่นนะคะ เดี๋ยวหาว่าคนเขียนหื่น แค่เป็นคนอารมณ์ดีเท่านั้นเองแหละ) มนต้นไม้ก็เลยโบ๊ะกลับไปที่ไหล่หนึ่งที เสียงดังป๊าบชัดเจน และหนักแน่น แต่ไม่ระคายผิวเขาหรอกค่ะ เพราะเป็นนักกีฬาเก่ามาด้วยกัน คราวนี้คุณเพื่อนตัวดี จึงยอมเงยหน้าหันมา แถมทำหน้าประหลาด ตลกน่าดูชม ประมาณว่าเอ๋อ....รับทานไปเลยทีเดียว เล่นเอาเราขำแทบตาย มนต้นไม้ก็เลยแนะนำให้เขาทั้งสองรู้จักกัน
พอเรียนจบ ม.6 ปุ๊บ คุณเพื่อนก็ไปสอบพยาบาลทหารอากาศ(คนอ่านรู้ใช่มั๊ยค่ะว่าทำไม อิๆ) ส่วนสุดหล่อในเครื่องแบบก็กลายนักเรียนนายร้อยทหารอากาศ ละแล้วพยาบาลทหารอากาศก็เสร็จ เอ้ย...กลายเป็นแฟนกับนายฮ้อย
และจบออกมาเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลภูมิพลในเวลาต่อมา ส่วนนายเรืออากาศไม่รู้เป็นไงมาไง สุดท้ายดันไปแต่งกับหมอสาวซะงั้น...เฮ้อ เหมือนเรื่องผยอง เลยอ่ะ อนิจจังอนิจา เรื่องก็เลยจบลงแต่เพียงเท่านี้ค่ะ
แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 11:18:42
แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 10:18:40
แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 54 10:00:59
จากคุณ |
:
Setakan
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.พ. 54 10:00:24
|
|
|
|