....................................................
อีกด้านหนึ่ง... จาริโอเธอรัสกำลังจะกดรหัสผ่านเพื่อเปิดประตูเข้าสู่ห้องปฏิบัติการหมายเลขแปด ทันใดนั้นเองสัญญาณเรียกฉูกเฉินก็พลันดังขึ้นบนเครื่องสื่อสาร เมื่อเขากดรับ เสียงเซปัสก็รายงานเข้ามาในหูของเขา ใบหน้าคมคายอันมักเรียบเฉยสุขุมพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดลงทันที เจ้าชายราโอมินที่ด้านข้าง อดโพล่งถามไม่ได้
เกิดอะไรขึ้นหรือ ?
มีคนร้ายที่ห้องควบคุมโรงเก็บยาน คนของเราถูกฆ่าตายไปสอง
รู้มั้ย..มันเป็นใคร ?
คนถูกถามสั่นศีรษะ เพียงสั่งสั้นๆ
โปรดรออยู่ตรงนี้.. กระหม่อมจะรีบกลับมา
กล่าวจบก้าวยาวๆกลับไปที่ลิฟต์ตัวที่เพิ่งพาพวกเขาขึ้นมาเพื่อกลับลงไปข้างล่าง ขณะก้าวเข้าลิฟต์มือก็กดเครื่องสื่อสารเรียกเจ้าเพื่อนอีกคนเพื่อสั่งความ
ฟิก... รีบตามหาฝ่าบาทให้เจอ แล้วถวายการอารักขาด้วย !
....................................................
แม้ว่าลูเปอร์เซียสจะพุ่งตัวตามออกมาติดๆ แต่ชั่วเวลาเพียงแค่พริบตาร่องรอยของกาเรลก็หายไปราวกับล่องหน เมื่อมากัสเดินตามออกมา เห็นเขากำลังสั่งการคนเรื่องการกระจายกำลังออกค้นหาคนร้าย
ยามนั้นเสียงสมองกลประจำยานแม่ พลันแจ้งคำขอส่งควอนตันต่อพวกเขาทั้งสอง
ท่านจาริโอเธอรัส ขอเชิญท่านมากัสและท่านลูเปอร์เซียสไปที่หอบังคับการใหญ่ตอนนี้ !
สองนายทหารราชวัลลภมองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า ตอบรับโดยพร้อมกัน
ได้ !
ขาดคำละอองแสงสีเหลืองระยิบระยับก็ราวกับถูกปล่อยลงมาจากเพดานเหนือศีรษะ ครอบคลุมใส่ร่างสูงใหญ่ของคนทั้งสอง ก่อนจะเลือนรางหายลับไปจากที่ตรงนั้น
...........................................
มีเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
จาริโอเธอรัสผละสายตาจากจอแสงสามมิติเบื้องหน้าหมุนเก้าอี้หันหน้ามาบอกกับพวกเขา เมื่อทั้งสองรุดไปถึง
ฉันตรวจพบการพยายามเชื่อมต่อกับสมองกลหลักประจำยานของคนร้ายโดยผ่านทางห้องควบคุมนั่น มีข้อมูลบางอย่างรั่วไหลออกไปจากเซปัส ตอนนี้กำลังตรวจอยู่ว่ามีอะไรบ้าง...
ดวงตาสีน้ำเงินเย็นยะเยียบของลูเปอร์เซียสจับจ้องมองหน้ามากัสแล้วขมวดคิ้ว
เป็นไรไป ?
คนที่ปกติพูดมากที่สุดหากเวลานี้กลับเอาแต่นิ่งเงียบเหมือนโดนความคิดกังวลบางอย่างกดทับอยู่พอถูกถามก็พลันระบายลมหายใจหนักๆออกมา
ฉันกำลังภาวนาในใจ ขออย่าให้เป็นอย่างที่สงสัย
นายสงสัยอะไร ?
ฉันสงสัยว่ากาเรลจะเกี่ยวข้องเจ้าคนร้ายที่พวกเรากำลังตามหาซึ่งหลุดกาลมิติขึ้นมาบนยาน มันอาจจะเป็นคนๆเดียวกัน หรือไม่ก็..อาจถูกคนที่หลุดกาลมิติมาควบคุมสั่งการให้ทำงาน
จาริโอเธอรัสแม้กลับไปก้มหน้าง่วนอยู่กับการค้นหาข้อมูลหน้าจอแสงสามมิติอีกครั้ง แต่ปากก็ยังพูดออกความคิดเห็น
ประการแรกไม่น่าจะใช่ ฉันตรวจสอบแล้ว กาเรลขึ้นยานมากับพวกเราตั้งแต่แรกเริ่มเดินทาง ประวัติความเป็นมาของมันก็ชัดเจนและถูกต้อง ..แต่ประการหลังนับว่ามีความเป็นไปได้สูง
มากัสวางมือขวากดขอบโต๊ะ เคาะนิ้วเบาๆอย่างใช้ความคิด
ดูไปแล้ว.. เรื่องที่พวกเราสงสัยว่ามีคนหลุดกาลมิติขึ้นมาบนยานคงจะเป็นความจริง แต่มันหลบเงียบแฝงตัวอย่างลับๆบนยานถึงสองวัน ..ที่แท้คิดทำอะไรอยู่กันแน่ หรือว่า...
แล้วนัยน์ตาสีสนิมก็พลันฉายประกายวาบขึ้นราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้
รึว่าจะมีความเกี่ยวกับข้องอะไรกับคนที่เราพาตัวขึ้นยานมาสองคนนั่น ?
ยามนั้นเอง จาริโอเธอกัสก็คล้ายกับพบเจออะไร ใบหน้าคมคายราวกับถูกผนึกนิ่ง เพ่งตาจ้องมองตัวอักษรและสัญลักษณ์มากมายที่เลื่อนผ่านจอแสงไปอย่างรวดเร็ว
นายวิเคราะห์ถูกทางแล้วมากัส ข้อมูลที่รั่วไหลออกไปส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่อยู่ในห้องปฏิบัติการหมายเลขแปดจริงๆด้วย
มากัสยืนจ้องมองข้อมูลที่ฉายอยู่บนหน้าจอด้วยสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยปากสรุปอย่างมั่นใจ
มันคงต้องการช่วยคน !
ยามนั้นเครื่องสื่อสารของลูเปอร์เซียสถูกเรียกดังขึ้นเบาๆ ลูกน้องใต้สังกัดของเขาซึ่งถูกสั่งให้กระจายกำลังออกตามหาคนร้ายได้ติดต่อด่วนเข้ามา เมื่อนายทหารหนุ่มในเครื่องแบบชุดสีดำกดรับ สัญญาณภาพเฮโลแกรมก็ถูกฉายขึ้นเบื้องหน้าคนทั้งสาม
นายทหารใต้บังคับบัญชาซึ่งติดต่อมาน้อมกายรายงาน
เราพบกาเรลแล้ว
มันตายแล้วขอรับ
จากนั้นสัญญาณภาพสามมิติฉายไปที่ร่างของนายทหารฝ่ายช่างเทคนิคคนดังกล่าว ซึ่งนอนนิ่งจมกองเลือดของตนเองอยู่บนพื้น จากคำรายงานของจาคีรันซึ่งเป็นชื่อของนายทหารผู้นั้นบอกว่ากาเรลขัดขืนการจับกุมจนเกิดการต่อสู้ สุดท้ายก็ใช้มีดปาดคอตัวเองฆ่าตัวตาย
หมอนั่นคงลงมือปิดปากตัวเองเพราะเกรงความลับรั่วไหล ไม่ก็กลัวเกรงความผิด
มากัสถอนใจพลางกล่าวอย่างเสียดาย
เมื่อเป็นเช่นนี้เบาะแสที่จะเชื่อมสาวไปหาผู้บงการไยมิใช่ได้ถูกตัดขาดลง
หากแต่ผู้อยู่เบื้องหลังที่ยังลอยนวล...มันเป็นใครกันหนอ ?
จัดการศพมันให้เรียบร้อย แล้วสั่งการฝ่ายรักษาความปลอดภัยทุกหน่วย เพิ่มความเข้มงวดให้ยิ่งขึ้น ถ้ามีจุดไหนน่าสงสัยให้รีบรายงานมาด่วน...
ลูเปอร์เซียสสั่งกำชับจาคีรัน ก่อนจะที่ปิดสัญญาณภาพการติดต่อ
อีกด้านหนึ่ง... จาคีรันหลังจากปิดเครื่องมือสื่อสารที่ถ่ายภาพศพของกาเรลส่งไปเสร็จ มุมปากพลันขยับเป็นรอยแสยะยิ้มเย็นยะเยียบขึ้นอย่างพึงพอใจ
ห่างจากศพของกาเรลไปไม่ถึงสิบก้าว จาคีรันอีกคนถูกสยบนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น คนผู้นั้นเดินไปหาร่างของคนซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเหมือนตนเองทุกประการ แล้วล้วงตลับโลหะกลมสีเงินอันหนึ่งออกมา สั่งการอะไรบางอย่าง ทำให้ประตูมิติสีดำทะมึนบานหนึ่งคลี่ตัวเปิดขึ้นเบื้องหน้า จากนั้นค่อยผลักร่างไร้สตินั่นส่งผ่านช่องมิติไปยังอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่อันปลอดภัยและลับตาคนบนยานซึ่งเขาได้ดำเนินการเตรียมไว้แต่แรกแล้ว
เขาไม่ฆ่ามันไม่ใช่เพราะมีจิตเมตตา หากเป็นเพราะคนผู้นี้ยังมีประโยชน์กับเขา อย่างน้อยก็สามารถเก็บไว้ใช้ ตัดตอน ยามที่เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนจากร่างนี้ไปเป็นร่างใหม่อีกคน
เหมือนกับที่เคยทำไว้กับกาเรลนั่นเอง !
.....
จากคุณ |
:
ธีตภากร
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ก.พ. 54 10:25:16
|
|
|
|