วอนจันทร์
ดวงจันทร์วันนี้สวยชะมัดเลย
คงจะดีนะถ้ามีใครมานอนดูด้วยกันในวันที่ฟ้ายามค่ำคืนใสกระจ่างขนาดนี้
...จันทร์เอ๋ย...
เบื่อรึเปล่า ที่ต้องมาทนผมเล่าเรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกคืนแบบนี้
หรือว่าจริงๆ แล้วเจ้าก็ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรเลยมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
คงจะใช่สินะ เจ้าคงไม่รับรู้ถึงความทุกข์ในใจ เพราะแต่ละคืนวันเจ้ามีเพื่อนมากหน้าหลายตามาคอยหยอกล้อวนเวียนอยู่ไม่เคยห่าง
...คงจะไม่เคยเหงาสินะ...
เฮ้อ...นี่ถ้าตอนนี้ใครเดินเข้ามาเห็นผมพึมพำอยู่คนเดียวตรงระเบียงแบบนี้คงต้องคิดว่าผมเพี้ยนแน่ๆ
จะว่าไปมันก็ดูแปลกๆ ล่ะนะที่ผู้ชายอกสามศอกอย่างผมมายืนคุยกันดวงจันทร์คนเดียวแบบนี้
แต่ผมไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ มันดูเหมือนจะไม่มีทางอื่นเอาซะเลยกับสิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้
...กับความในใจที่ได้แต่เก็บงำไว้มานานแสนนาน...
แต่ไหนแต่ไรชีวิตผมมีแต่เพื่อน มีแต่เที่ยวสนุกสนานเฮฮาไปตามประสาหนุ่มโสด ไม่เคยมีเรื่องให้ต้องกลุ้มใจขนาดนี้มาก่อนเลยแท้ๆ
ผมกอดตัวเองแน่นขึ้นเพื่อขับไล่อากาศที่เริ่มเย็นตัวลง นี่ล่ะมั้งกระบวนการปกป้องตัวเองของมนุษย์
...ห่มผ้า กอดตัวเอง เพื่อป้องกันอากาศเย็นจากภายนอก ปกปิดความรู้สึกตัวเองเพื่อป้องกันผลกระทบทางจิตใจ...
เฮ้อ...
ครั้งที่ร้อยแล้วมั้งที่ผมถอนหายใจแบบนี้ นี่ถ้าผมเดินไปตรงกระจกเงาคงต้องเจอหน้าตัวเองที่ห่อเหี่ยวน่าดูเลย
ตั้งแต่วันนั้น วันที่เธอเดินเข้ามาในวงโคจรชีวิตของผม โลกทั้งโลกตรงหน้าก็แปลกออกไป
เธอที่มาพร้อมกับดวงดาวแห่งความสดใส
ผมเพิ่งรู้ว่ารักแรกพบมีจริงก็คราวนั้นล่ะ จะว่ายังไงดี มันเป็นความรู้สึกดีๆ ที่ผมอยากให้เธอรับรู้
หัวใจผมพองโต ร่าเริงเกินความจำเป็นเพียงแค่ได้เห็นเธอ
แรกเริ่มเดิมทีเราก็ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ มีเรื่องอะไรก็สามารถพูดคุยกันได้
จนพักหลังๆ นี่ล่ะที่ผมรู้สึกว่าอาการเหล่านี้มันมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขนาดที่ผมไม่กล้าแม้แต่จะพูดคุยหรือสบตากับเธอตรงๆ เลยทีเดียว
...ผมกลัวว่าเธอจะจับพิรุธได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่...
ผมพยายามทำตัวให้ร่าเริงสนุกสนานเข้าไว้ จนบางครั้งผมยังรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมชาติของตัวเอง
หลายต่อหลายครั้งที่ผมแอบมอง เธอเปล่งประกายโดดเด่นออกจากกลุ่มเพื่อนๆ อย่างน่าประหลาด
ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองรึเปล่า แต่ผมรู้สึกว่าพักหลังๆ เราเริ่มห่างกันมากขึ้น
ราวกับว่าใกล้จะถึงเวลาของอะไรบางอย่างแล้ว
จะดีมั้ยถ้าจะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป
ท้องฟ้ายามค่ำคืนในฤดูหนาวมักใสกระจ่างเสมอ โดยเฉพาะค่ำคืนนี้ที่เหล่าดวงดาวน้อยๆ ต่างพร้อมใจออกมาขับกล่อมเจ้าด้วยแสงวิบวับ
เจ้าจะเคยมีมั้ย...
เรื่องที่ต้องเก็บไว้คนเดียว ความรู้สึกที่บอกใครไม่ได้
...คงจะมีสินะ
เจ้าถึงต้องหันหน้าเพียงด้านเดียวมายังสิ่งมีชีวิตบนพื้นโลก และเก็บงำอีกด้านหนึ่งเอาไว้ตลอดเวลา
ด้านที่เจ้าเองไม่อยากเล่าไม่อยากให้ใครได้เห็นได้รับรู้
ถ้าอย่างงั้นก็คงจะเข้าใจสิ่งที่ผมเล่าให้ฟังใช่มั้ย
แล้วผมต้องทำยังไงต่อไปดี บอกผมหน่อยได้มั้ย...
.............................................
คงจะนานมากแล้วที่เจ้าเฝ้าดูมนุษย์รุ่นแล้วรุ่นเล่าอยู่บนนั้น
และคงจะนานพอสมควรแล้วที่ผมนั่งมองอยู่อย่างนี้
สิบคืน ยี่สิบคืน หรือนานกว่านั้นกันแน่
ช่างเถอะ อย่างน้อยมันก็นานพอที่จะทำให้ผมมองเห็นความจริงอะไรบางอย่าง
...ด้านเดียวของจันทร์งาม ที่จะเก็บงำอีกด้านเอาไว้ตลอดไป...
บางทีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เจ้าอาจกำลังพยายามบอกผมมาตลอดถึงเรื่องที่กำลังถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่นี่ก็เป็นได้
...ใช่มั้ย...
อีกด้านที่เก็บงำเอาไว้ ความลับก็จะเป็นความลับอย่างนั้นตลอดไป
ถึงแม้จะงดงามสักเพียงใดแต่คนอื่นก็ไม่อาจรับรู้มันได้
เช่นเดียวกับทุกๆ เรื่อง
ใช่แล้ว...มันเป็นอย่างนั้น
ผมคลายมือที่กอดตัวเอง ลุกขึ้นยืน ลมเย็นปะทะร่างและใบหน้า
ถึงแม้จะหนาวเหน็บแต่ก็ทำให้สดชื่น
นี่รึเปล่านะที่จันทร์งามพยายามจะบอกผม
ถ้าไม่ทำก็ไม่มีทางสำเร็จ
ถ้าไม่เผยสิ่งที่อยู่ในใจก็ไม่มีทางได้รับรู้
ถ้าอยากรู้ว่าเขารู้สึกยังไง ก็ต้องไม่ปิดกั้นความรู้สึกตัวเองเช่นกัน
นั่นสิ...แล้วผมในตอนนี้มัวทำอะไรอยู่
ความอึดอัดก่อนหน้านี้หายไปในพริบตา ผมคงจะไม่ปล่อยให้จิตใจผมเป็นเหมือนดวงจันทร์ด้านเดียวอีกต่อไปแล้ว
...กับสิ่งที่อยู่ในนี้ พรุ่งนี้ผมจะเผยอีกด้านให้เธอได้รับรู้เสียที...
จากคุณ |
:
KTHc
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ก.พ. 54 11:07:37
|
|
|
|