 |
.....................................
อีกด้านหนึ่ง...
ทำไมตรงนั้นถึงได้เงียบ ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย ?
ฟิเกอรัสพึมพำออกมาอย่างสงสัย ลูเปอร์เซียสแค่นเสียงเบาๆอยู่ที่ริมฝีปาก
หรือว่า..มันจะใช้ประตูมิติหลบหนีไปแล้ว ?
เป็นไปไม่ได้..
จาริโอเธอรัสยังคงมีท่าทีสงบนิ่งใจเย็น กล่าวด้วยความมั่นใจอย่างยืดยาว
ระบบปิดกั้นมิติกำลังถูกเปิดใช้งานทั่วทั้งยานลำนี้ ไม่มีที่ใดสามารถเปิดประตูมิติไปได้ ตอนนี้แม้แต่ระบบควอนตันก็ใช้งานไม่ได้ทั้งหมดชั่วคราว อย่าว่าแต่กรงแสงเชียกีร่ามีความพิเศษกว่ากรงแสงโอริคอสตรงที่ คอธภายใต้กรงแสงนี้จะถูกกดลงเหลือสิบเปอร์เซ็นต์ พลังจากผลึกพลังงาน จะถูกกดลงจนเหลือศูนย์ ต่อให้เจ้าจอมมารผู้นั้นจะมีตลับคอสมิค ก็ไม่สามารถใช้พลังจากผลึกคิวปัสตีเปิดประตูมิติได้...
แล้วนี่ย่อมเป็นเหตุผลที่ทำให้หลิงหลิงอ่อนเพลียถึงขนาดนั้น อีกทั้งยังไม่สามารถเรียกพลังจากผลึกคอสมิคสีแดงในตลับออกมาเปลี่ยนร่างเป็นอาเซนธาเรียได้
หากแต่เรื่องราวเหล่านี้ พวกเขาทั้งหมดย่อมหารู้ไม่ ว่าสิ่งที่ทำลงไป มีผลต่อเธอผู้นั้นด้วยแค่ไหน
มากัสหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด กำลังคำนวณในใจว่า พลังคอธที่ถูกกดลงเหลือสิบเปอร์เซ็นต์ของพลังสีน้ำเงินนั้น มันจะเหลือสักขนาดไหนหนอ ก็พลันได้ยินลูเปอร์เซียสหันมาทวง
เมื่อไหร่ จะดำเนินแผนขั้นสอง...
เจ้าชายอาซิคาลอสเพ่งพระเนตรทอดมองไปทางนั้นนิ่ง
ศัตรูที่พระองค์เคียดแค้นมันที่สุดอยู่ตรงนั้น ห่างออกไปแค่ไม่ถึงยี่สิบก้าว
มันผู้นั้นได้พรากเอาบุคคลที่ทรงรักที่สุดไปถึงสองคน ไม่ว่าจะเป็นพระอนุชาอาซิเธโอซึ่งถูกพลังสีน้ำเงินระเบิดทำลายร่างจนจบชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและอเนจอนาถอยู่บนดาวเมไรอัล ไม่มีแม้แต่เศษซากสังขารให้พากลับเมลาเนียลได้ แล้วต่อมาพระขนิษฐาผู้ที่ทรงรักและถนอมประดุจดวงพระหฤทัย..อาเซนธาเรีย..ก็ต้องจบชีวิตลงเพราะมันด้วยอีกคน
ใครก็ได้บอกทีเถิด..สักครู่หลังจากทรงสยบเจ้ามารร้ายผู้นั้นได้ พระองค์สมควรฆ่ามันแบบไหนดี ถึงสามารถระบายความแค้นที่อัดสุมแน่นอยู่ในพระอุระเวลานี้ออกไปได้หมดสิ้น
เวลานั้นฟิเกอรัสก็เคลื่อนกายเข้ามา ทูลถามย้ำอีกคน
ฝ่าบาท กระสุนควันสลบเตรียมพร้อมแล้ว จะให้ลงมือเลยไหม ?
เจ้าชายราโอมินเห็นพวกเขาเหมือนกำลังตระเตรียมการเคลื่อนไหวบางอย่าง จึงสั่งกำชับให้พระขนิษฐาอยู่แต่ตรงนั้นอย่าไปไหน ค่อยสาวพระบาทเข้าไปหาคนเหล่านั้นด้วยเผื่อว่าพระองค์อาจจะพอช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ดังนั้นจึงทันแว่วยินคำถามของราชวัลลภหนุ่มนัยน์ตาสีอะเมธีสต์ผู้นั้น
อะไร.. นี่พวกคุณจะใช้ควันสลบหรือ อย่าลืมสิว่า...หลิงหลิงก็อยู่กับมัน !
ควันสลบออกฤทธิ์ที่ระบบประสาทส่วนสั่งการ ทำให้สติเลอะเลือนจนถึงหมดสติ เด็กสาวคนนั้นสลบอยู่แล้ว ควันพวกนี้คงไม่ได้ทำให้เธอหมดสติไปมากกว่านั้นหรอก
นายแพทย์หนุ่มประจำพระองค์อธิบายเสียงขรึม ปกติเขาไม่ใช่คนที่อารมณ์เสียหรือหมั่นไส้ใครง่ายๆ แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใด ยิ่งมาเขาก็ยิ่งรู้สึกรำคาญเจ้าชายจากจักรวรรดิพันธมิตรผู้นี้ สีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายดูจะกังวลสนใจเด็กสาวคนนั้นจนเกินเหตุ แล้วก็ดูเหมือนที่ห่วงนั้นจะเป็นตัวเจ้าของร่างพลังคนใหม่ หาใช่ทูลกระหม่อมน้อยของพวกเขาแต่อย่างใด
แต่ว่า...
อย่ากังวลไปเลย กระหม่อมรับปากว่า ขอเพียงจับตัวผู้ครองพลังสีน้ำเงินสำเร็จ เด็กสาวชาวโลกคนนั้นจะถูกรีบส่งตัวไปทำการรักษาพยาบาลในทันที รับรองว่าเธอต้องปลอดภัย..
เธอถอยไปห่างๆดีกว่าราโอมิน หากผู้ครองพลังสีเหลืองไม่ประสงค์จะช่วยพวกเราจัดการกับเจ้ามารร้ายนั่น ก็ถอยออกไปเถอะ..
ในที่สุดเจ้าชายอาซิคาลอสก็เบือนพระพักตร์มาตรัสตัดบทด้วยสุรเสียงเย็นเรียบ ก่อนจะหันไปสั่ง
จัดการแผนสองได้เลย
สีหน้าท่าทางของเด็กสาวตรงหน้าดูอ่อนล้าลงอย่างเห็นได้ชัด เจ้าชายแห่งโปกาดอนทรงมองเธออย่างกังวล หวนนึกถึงคำพูดที่เธอบอกว่า
มันวูบวาบ รู้สึกเหมือนจะขาดใจอยู่ตลอด..
แล้วสะท้อนพระทัย
เธอคงทรมานมากสินะ กับการที่ต้องพยายามฝืนต้านความรู้สึก เพื่อประคองสติของตนเองไว้
ทั้งหมดคงเพราะไม่อยากให้ฉันกังวลใจเป็นห่วงใช่ไหม ?
หลิงหลิง..บางทีฉันให้เธอหลับไปอย่างเดิมก็คงจะดี อย่างน้อยจะได้ไม่ต้องทรมานหรือมารับรู้กับบางสิ่งบางอย่างที่ฉันยังไม่อยากให้เธอรู้เลย
ดังนั้นจึงผนึกสมาธิรวบรวมพลังคอธที่เหลือเพียงสิบเปอร์เซ็นต์ ขณะลังเลพระทัยว่าจะกระตุ้นคอธรักษาออกมาถ่ายทอดให้กับเธอหรือจะทำให้เธอสลบไปอีกครั้งดี พลันกระสุนยาสลบหลายสิบนัดก็ถูกยิงเข้ามาทางช่องซี่กรงแสง
ในเสียงบึมดังเบาๆติดต่อกันถี่ๆ กระสุนพอตกกระทบพื้นก็ระเบิดตัวแตกกระจาย ทำให้ใต้กรงแสงเชียกิร่าอบอวลไปด้วยควันสีขาวในชั่วอึดใจ
ได้เสียงครางเบาๆพร้อมกับร่างแบบบางที่อ่อนระทวยฟุบเข้ามาในอ้อมแขน
หลิงหลิง !
หากไร้ปฏิกิริยาขานรับใดใด โทสะของเจ้าผู้ครองพลังสีน้ำเงินถึงกับลุกโชน เมื่อเธอผู้นี้หมดสติไม่รับรู้สิ่งใด ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้พระองค์ต้องกังวลพระทัยอีกต่อไป
กลั้นพระอัสสาสะ ผนึกคอธสีน้ำเงินทั้งหมดที่หลงเหลือซัดออกไปรอบข้าง ก่อเป็นพายุทอร์นาโดหมุนกวาดเอาควันสลบทั้งหลายพัดออกทางช่องซี่กรง ชั่วอึดใจเดียวก็โล่งสิ้น
จากนั้นค่อยพาดร่างน้อยขึ้นแบกบนพระปฤษฏางค์ ตวัดแขนเรียวเล็กทั้งสองข้างของเธอโอบตวัดไว้รอบพระศอ พลางยืดพระวรกายขึ้นเต็มความสูง ก้าวพระบาทออกจากที่ซ่อนกายตรงนั้นด้วยท่วงท่าอันเหี้ยมหาญราวพยัคฆ์ร้ายที่กำลังติดกับดักของนายพรานแต่ยังคงอาละวาดสำแดงฤทธาไม่ยอมสยบให้ผู้ใดเข้าไปใกล้
นายทหารเครื่องแบบสีดำร่างสูงใหญ่วัยฉกรรจ์สิบกว่าคน กระจายกำลังโอบล้อมเป็นวงกลมรอบกรงแสง ในมือจ่อปืนแสงเตรียมพร้อมยิง หากทว่าพลันเห็นแสงสีน้ำเงินพุ่งวาบออกทางช่องว่างระหว่างซี่กรง ซัดเอาคนเหล่านั้นผงะถอยหลัง บางคนถึงกับล้มกลิ้งไปกับพื้นหลายทอด
นี่โชคดีแค่ไหนที่เป็นพลังซึ่งเหลือแค่สิบเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งบางส่วนยังถูกกรงแสงเชียกิร่าสกัดไว้ ดังนั้นจึงเพียงแค่บาดเจ็บไปเท่านั้น หาไม่แล้ว..สิบกว่าร่างโดยรอบนี้คงถูกพลังสูงสุดแห่งเอกภพซัดร่างจนระเบิดแหลกเหลวเป็นแน่ !
ไม่อยากเชื่อจริงๆว่ามันจะร้ายกาจขนาดนี้
เจ้าหญิงน้อยแห่งเอลลาโกถึงกับอ้าพระโอษฐ์หวออย่างตื่นเต้นอยู่หลังกำแพงห่างออกไป เพราะพระเชษฐาไม่ยอมให้ทรงเข้าไปใกล้กว่านี้ ทอดพระเนตรการต่อสู้นั้นอย่างตื่นตาตื่นใจ พลางส่งพระทัยไปลุ้นช่วยพวกเจ้าพี่อาซิคาลอสให้จัดการกับเจ้ามารร้ายผู้นั้นให้ได้
ต่อแผนสามเลยดีไหมพ่ะย่ะค่ะ ?
มากัสขยับกายเข้าไปกระซิบทูลถามผู้มีอำนาจสูงสุดในการสั่งการเบาๆ
เจ้าชายอาซิคาลอสผงกพระพักตร์พลางตรัสอย่างกังวล
แต่เด็กสาวคนนั้น...อาจโดนลูกหลง
ราชวัลลภผมยาวสีน้ำตาลแดงหรี่ตาขบคิดอย่างว่องไว ก่อนจะยิ้มมุมปากพลางสืบเท้าออกไปก้าวหนึ่งตะโกนดังๆ
เฮอะ..คิดไม่ถึง..เทพอสูรแห่งโปกาดอน ผู้ครองพลังสีน้ำเงินอันเกรียงไกร ถึงกับเอาเด็กสาวมาเป็นเกราะโล่กำบัง ทำแบบนี้ไม่ขี้ขลาดเกินไปหน่อยรึไงวะ ?
ดวงเนตรสีน้ำเงินยามเพ่งมองคนเบื้องหน้าฉายแววอำมหิตดุดัน แม้ฟังออกว่านี่เป็นวาจากระตุ้น แต่เมื่อหวนคิดว่าการแบกร่างหลิงหลิงไว้แบบนี้อาจทำให้เธอโดนลูกหลงมีอันตรายได้ ดังนั้นจึงตัดสินพระทัยพาเธอย้อนกลับเข้าไปหลังกำแพงหนาตรงที่เดิม วางร่างเด็กสาวลงอย่างทนุถนอม
หลิงหลิงเธอรออยู่ตรงนี้ ฉันสัญญาว่าอีกสักครู่ฉันจะพาเธอออกไปจากที่นี่ให้จงได้..
จากนั้นสาวพระบาทออกมาอีกครั้ง หันพระวรกายประจันหน้ากับฝ่ายตรงข้าม
ถึงแม้พระองค์จะพยายามหลีกเลี่ยงถึงเพียงไหน แต่ภายใต้การบีบคั้นถึงที่สุดของอีกฝ่าย ดูท่าว่าจะอย่างไรวันนี้คงปฏิเสธการต่อสู้จนถึงขั้นแตกหักไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
เมื่อสักครู่ยังโชคดีที่กลั้นพระอัสสาสะไว้ได้ทัน เพียงแค่สูดควันเหล่านั้นเข้าไปเล็กน้อย แม้ไม่ถึงกับทำให้สิ้นพระสติ หากแต่ความร้ายกาจของควันสลบของฟิเกอรัสก็ทำให้ทรงรู้สึกอึดอัดแน่นพระอุระ เวลานี้ในพระเศียรเริ่มมึนงง ภาพเบื้องหน้าวูบวาบพร่าไหว
ทั้งหมดบ่งบอกว่า..เวลาของพระองค์เหลือน้อย ขอเพียงคุมพระสติไม่อยู่ ก็อาจจะพลาดท่าเสียทีได้ทุกขณะจิต ดังนั้นจำต้องเผด็จศึกให้ได้อย่างรวดเร็ว แล้วพาหลิงหลิงหนีไปที่โรงเก็บยานในทันที
เพียงแต่..จะทำลายกรงแสงนี้ออกไปได้อย่างไรดี ?
.....................................
[ตอนมันยาว..จึงขออนุญาตเอามาลงแค่ทีละครึ่งเดียวก่อนค่ะ ]
.
คำขอบคุณ ::~ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ ::~ ขอบคุณสำหรับทุกกิ๊ฟที่ประทับไว้ให้ >> GTW, wor_lek, Setakan ::~ ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่เข้ามาคุยกัน >>มนต้นไม้ (Setakan) , scottie , สังข์ ศักดา (หัวใจนพพร) พร้อมกับขออนุญาตตอบคอมเม้นต์ไปเลยที่กระทู้นั้นๆนะคะ (http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10288232/W10288232.html)
.
จากคุณ |
:
ธีตภากร
|
เขียนเมื่อ |
:
3 มี.ค. 54 13:21:38
|
|
|
|
 |