ไม่ช้านานนักผ่านไปอีกปีสองปี ก็เห็นตั๋นเปลี่ยนเป็นร้านฉายหนังวิดีโอ ซึ่งเป็นธุรกิจช่วงขาขึ้นสมัยหนึ่งของหาดใหญ่ ทีมีการนำเทปวิดีโอม้วนใหญ่ ๆ มาฉายให้ชมทาง เครื่องเล่นวิดีโอกับจอภาพยนตร์หรือโทรทัศน์ พร้อมกับขายเครื่องดื่มหรืออาหาร
ถ้าจำไม่ผิดช่วงแรก ๆ เช่าหนังวิดีโอม้วนละสามสิบบาทต่อวัน ต่อมาการแข่งขันด้านตลาดมากขึ้นจนกระทั่ง เหลือม้วนละห้าบาทต่อวัน ตามประสาการค้าไทยที่ชอบแข่งขันกันตัดราคาขาย มากกว่าการเพิ่มมูลค่าการขายโดยคงราคาเดิม สุดท้ายก็ค่อย ๆ ทยอยเลิกกิจการไปหมด เช่นเดียวกันร้านวิดิโอของตั๋น ที่มีการเปิดมากขึ้นๆ จนต้องโรยราไป
สมัยนั้นเครื่องเล่นวิดิโอเป็นอะไรที่ทันสมัยมาก และราคาค่อนข้างแพงแต่ประสิทธิภาพแล้วแต่ราคา การซื้อหาในหาดใหญ่หรือปาดังเบซาร์ ราคาก็ยังถูกกว่ากรุงเทพฯมาก เพราะภาษีศุลกากรที่มีการตั้งกำแพงภาษีไว้
จนกระทั่งมีการเปิดการค้าเสรีไม่นานมานี้ ที่สินค้าหนีภาษีพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า ราคาต่างประเทศกับในประเทศไม่ต่างกันมากนัก และถ้าหิ้วเข้ามาก็เสี่ยงกับการไม่มีประกันการซ่อม ภายในกำหนดระยะเวลา หรือเวลามีปัญหาก็ยุ่งยาก ในการหอบหิ้วไปขอรับคำแนะนำแก้ไข จึงมีความนิยมซื้อกันในไทยมากขึ้นกว่าเดิม
ขอเล่าจากความทรงจำครั้งหนึ่ง วันนั้นเห็นคนมุงกันวุ่นวายไปหมด และยื้อแย่งกันตรงถนนสายสาม เลยร่วมขบวนการไทยมุงด้วย เห็นร้านค้ากำลังขายม้วนเทปวิดิโอมาสเตอร์ หนังประเภทต่าง ๆ ทั้งไทยและเทศ ในราคาถูกมาก ๆ (ภาษาวัยรุ่น ถูกมั๊กมั๊ก) ม้วนละห้าบาทถึงสิบห้าบาท เห็นคนแย่งซื้อกันมาก
แต่สุดท้ายเครื่องเล่นวิดิโอก็หายไปจากท้องตลาด และคนหันมาเล่นวิซีดี ดีวิดี แทนในปัจจุบัน ม้วนที่ซื้อไว้ก็กลายเป็นวัตถุโบราณ หรือขึ้นราเต็มม้วนต้องโยนทิ้งไปกลับกองขยะ หรือสายน้ำในวันนำท่วมหาดใหญ่ไปหลายบ้าน
ขอบคุณภาพประกอบจาก Internet
จากคุณ |
:
ravio
|
เขียนเมื่อ |
:
5 มี.ค. 54 00:23:41
|
|
|
|