Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
PSYCHO FEAR : The Concert ติดต่อทีมงาน

สวัสดีค่ะ ทุกท่าน The Concert เป็นเรื่องสั้นในฐานะนักเขียน (สมัครเล่น) รับเชิญจากทีม Psycho Stories ซึ่งออกเขย่าขวัญทั่วห้องถนนในขณะนี้ค่ะ

ต้องขอโทษคุณรุริกะด้วยนะคะ ที่มาวางเรื่องให้ช้ากว่ากำหนด เนื่องจากภาระกิจต่างๆค่ะ  และขอบคุณที่เทียบเชิญมาด้วยนะคะ  pinkrose


-----
PSYCHO FEAR  :  The Concert


“ I still cry sometime when I remember you ”
“ I still cry sometime  when I hear your name ”


เพลง I still cry จากนักร้องสาว ชาวดัช  “Ilse DeLange”  ยังคงเล่นซ้ำไปซ้ำมากว่าสิบรอบ ตั้งแต่ฉันเริ่มล้มตัวลงนอนตอนหัวค่ำ  เสียงเพลง... ทำให้ฉันนึกถึงใครบางคน  เหมือนกับว่าภาพของเขายังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ไม่เคยจางหายไป  ไม่เข้าใจตัวเองว่า ทำไมจะต้องคอยครุ่นคิดถึงเรื่องราวในวันเก่าๆ แทนที่จะสลัดความรู้สึกเหล่านั้นทิ้งไปให้หมด แล้วนึกถึงแต่เรื่องราวของวันพรุ่งนี้บ้าง...

“@@@@ ”  

เสียงสั่นสะเทือนจากโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะข้างเตียง ซึ่งฉันปิดเสียงเรียกเข้าเอาไว้  หยุดความคิดฟุ้งซ่านที่ปล่อยให้ล่องลอยอย่างไร้จุดหมายยามค่ำคืนลงได้  ฉันเอื้อมมือควานหาที่มาของเสียง อย่างสะเปะสะปะท่ามกลางความมืด  ก่อนจะกดรับสายโดยไม่มองชื่อที่กระพริบอยู่ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร

“ สบายดีหรือเปล่า...ผมไม่ได้ข่าวคุณนานเลยนะ” ฉันนิ่งงันไปชั่วขณะ เมื่อรู้ว่าใครคือเจ้าของเสียงจากปลายทางที่โทรศัพท์เข้ามา

“ สบายดีค่ะ” ตั้งตัวแทบไม่ทัน ไม่คาดคิด ว่าจะเป็นเขา ...

“ อยู่บ้านหรือเปล่าครับ  ผมโทรมารบกวนคุณมั้ย”  น้ำเสียงอ่อนโยนที่ฉันคุ้นเคย ทำให้อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าสักวันหนึ่ง...ระหว่างเราอาจจะกลับมาเหมือนเดิมอีก

“ อยู่บ้าน ไม่ได้รบกวนหรอกค่ะ”  ใช่ว่าอยากจะโกหกแต่บางครั้งก็คิดว่า ไม่จำเป็นจะต้องบอกทุกอย่างให้เขารับรู้ เพราะเขาไม่ใช่ ใครคนนั้นของฉันอีกแล้ว

“ คุณล่ะ สบายดีมั้ยคะ งานยุ่งหรือเปล่า”  ฉันไม่ได้รับรู้เรื่องราวความเป็นไปของเขามากนัก นับจากวันที่ฉันตัดสินใจเอ่ยลาแล้วเดินไปตามทางของตัวเอง

“ สบายดีครับ งานสอนก็ยุ่งๆเหมือนเดิม โดยเฉพาะช่วงนี้ มีกิจกรรมร่วมกับสถาบันอื่นๆ หลายแห่ง แทบจะไม่มีเวลาทำอะไรให้ตัวเองเลยล่ะ ”  คงจะใช่อย่างที่เขาว่าจริงๆ เพราะจำได้ว่าปีที่แล้ว เรามีโอกาสพูดคุยทางโทรศัพท์เพียงสั้นๆ แค่ไม่เกินสามครั้ง  สำหรับเขาแล้ว ทั้งชีวิตทุ่มเทให้กับอาชีพที่เขารักมาตลอด...ไม่ว่าใครจะทำอะไร  พูดอะไร จะหัวเราะหรือร้องไห้ ก็ไม่สามารถดึงความสนใจของเขาไปจากตัวโน้ตเหล่านั้นได้

... ครั้งหนึ่ง...ฉันเคยถามเขาอย่างโง่ๆ ว่า


“ ระหว่างดนตรี  กับฉัน คุณรักใครมากกว่ากัน ถ้าจำเป็นต้องเลือก คุณจะเลือกอะไรคะ”

“ คุณไม่รู้จริงๆ...หรือว่าแค่อยากได้ยินจากปากของผมกันแน่นะ”

“ ไม่รู้จริงๆค่ะ”
  ฉันยืนยัน ไปอย่างนั้น ...ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองอาจจะรู้ แต่ฉันก็ไม่เคยแน่ใจอะไรสักอย่าง

“สักวันก็คงรู้เองล่ะ”


คำพูดของเขา เหมือนไม่ไยดีอะไรเลย ทั้งๆที่รู้ว่า ฉันอยากได้ยิน อยากให้เขาพูดอะไรออกมาบ้าง แต่ทว่า... แทบทุกครั้งเมื่อบทสนทนาของเราเริ่มจะตึงเครียด  เขาเลือกที่จะเงียบ  ปล่อยให้ฉันคิดและเข้าใจไปเอง  เหมือนกับเขาจะรู้สึกว่าฉันไม่มีวันพอใจกับเหตุผลและคำตอบของเขาแน่นอน ...ท่ามกลางความเงียบ ฉันคิดแทนเขา ...หาคำตอบให้ตัวเอง...


“ ถ้ารักแล้วเป็นทุกข์ เราก็ควรจะหยุดรัก”


เขาจบบทสนทนา ด้วยประโยคนั้น เมื่อเห็นว่ารอยร้าวระหว่างเรามันชัดเจนมากขึ้น

ฉันผิดหรือเปล่าที่ตอบแทนเขาว่า ระหว่างเราควรจบกันเพียงแค่นี้
ฉันผิดหรือเปล่า? ที่หันหลังเดินจากมา ทั้งๆที่รู้ว่า เขาเองก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่าฉันเหมือนกัน

เขาปฏิเสธจะไปส่งฉันที่สนามบินด้วยเหตุผลที่ว่า


“ ผมไม่อยากรับรู้การจากไปของคุณ ทั้งๆที่คิดอยู่เสมอว่าคุณคงไม่ย้อนกลับมาอีก”


จำได้ว่า ตัวเองนั่งร้องไห้ ตั้งแต่วินาทีแรกที่เครื่องบินเริ่มเคลื่อนตัวไปตามรันเวย์  เคยคิดว่า เพียงแค่เขาดึงฉันไว้สักนิด...ฉันก็คงไม่ทำอะไรแบบนั้น...

และคงไม่ต้องนอนร้องไห้คนเดียว...อย่างตอนนี้ ...

“ ปริม...ยังอยู่มั้ย ”  เขาถาม หลังจากที่ฉันเงียบไปสักพัก

“ ค่ะ”  ฉันตอบสั้นๆ  อยากจะพูด อยากจะถาม  ทำไมมันช่างยากเย็นเหลือเกินที่จะเอ่ยออกมา

“ เป็นอะไรหรือเปล่า  สุขภาพดีขึ้นบ้างมั้ย”  อีกแล้วนะ ...อย่าถามได้มั้ย อย่าทำให้ฉันรู้สึกว่า เขายังห่วงใยฉันอยู่

“ ค่ะ ดีขึ้น”  ฉันบอกเขา ทั้งๆที่ สายน้ำเกลือและถุงเลือดแขวนระโยงระยางอยู่ข้างเตียง นึกถึงคำพูดของหมอประจำตัวเมื่อตอนกลางวันแล้ว ทำให้รู้สึกว่า...อยากกลับบ้าน ....อยากกลับไปหาคนที่ฉันรัก และยังรักฉัน ...ที่สำคัญ อยากกลับไปเจอเขาอีกครั้ง...


“ผมเป็นห่วงคุณนะ  ปริม  ดูแลตัวเองด้วยล่ะ ผมรู้ว่าคุณน่ะไม่ชอบกินยา ไม่ค่อยไปหาหมอตามนัด มันไม่ดีหรอก คุณเองก็รู้ดีใช่มั้ย”

เขายังเห็นฉัน ไม่เชื่อฟัง ไม่ทำตามคำแนะนำใครๆ เอาแต่ใจตัวเองเหมือนเดิมล่ะมั้ง...ที่สำคัญเราพูดคุยกันน้อยมาก แล้วเขารู้ได้อย่างไรว่าฉันลืมกินยาบ่อยครั้ง แถมบอกเลิกนัดหมอเสียดื้อๆ แบบไม่มีเหตุผล

“ ขอบคุณค่ะ”  ฉันไม่รู้จริงๆ ว่ากำลังรู้สึกอย่างไรบ้าง รู้เพียงว่าในยามที่สุขภาพร่างกายแย่  จิตใจก็พลอยอ่อนแอไปด้วย  ไม่อยากให้ใครมาเยี่ยม ไม่อยากให้ใครมาถามข่าวคราว ...เพราะไม่อยากร้องไห้อีก

“ พรุ่งนี้เย็น  นักศึกษาของผมจะไปร่วมงานคอนเสิร์ตแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมดนตรีสากลที่  อาร์ ซี เอ็ม ลอนดอน  คุณว่างหรือเปล่า ...ผมอยากเจอคุณอีกสักครั้งนะ ปริม”   ความรู้สึกไหววูบ...อยากเจอฉันอีกสักครั้ง...อย่างนั้นเหรอ ...?

“ คุณแน่ใจนะคะ ว่าอยากให้ไปจริงๆ” ฉันถามเพื่อความแน่ใจ  ไม่อยากคิด อยากตอบคำถามแทนเขาเหมือนวันเก่าๆอีก

“ แน่ใจสิ ...คุณล่ะ อยากเจอผมมั้ย”  

“ คุณไม่รู้จริงๆ...หรือว่าแค่อยากได้ยินจากปากของฉันกันแน่คะ”   พูดออกไปแล้วก็นึกเสียใจ  ฉันไม่ควรเก็บเอาคำพูดของเขามาย้อนตอบกลับแบบนั้นอีก  เพราะรู้ว่าเขาคงไม่อยากได้ยินคำพูดแบบนั้นแน่ๆ

“ ......”  และดูเหมือนว่าฉันคาดเดาไม่ผิด  เสียงถอนหายใจยาวผ่านมาตามสาย...และเงียบไปชั่วขณะ  
 
“ ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ”   ฉันบอกเขาในที่สุด  ลุกขึ้นเปิดไฟหัวเตียง คาดคะเนเลือดถุงที่สองที่ยังเหลืออีกมากกว่าครึ่ง รวมกับอีกสองถุงในตู้เก็บเลือดตามแผนการรักษาของแพทย์  กว่าจะหมดก็คงราวๆ สิบโมงเช้า ถ้าหมอมาเยี่ยมไข้เร็วหน่อยฉันคงโชคดี ไปถึง รอยัล คอลเลจด์  ออฟ มิวสิค สถาบันสอนดนตรี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ กลางใจเมืองลอนดอนได้ก่อนเวลานัดหมายแน่ๆ

“ ผมจะรอนะครับ ...อย่าลืมใส่เสื้อผ้าหนาๆมาด้วยล่ะ เดี๋ยวคุณจะไม่สบายอีก”

“ ค่ะ ...ว่าแต่ คุณมีธุระอะไรสำคัญหรือเปล่าคะ”   ฉันอดถามเขาไม่ได้ เหมือนจะรอให้ถึงวันพรุ่งนี้ไม่ไหว

“ เปล่า ...ไม่มีธุระอะไรสำคัญหรอก ...ผมแค่...คิดถึงคุณมาก ก็เท่านั้นเอง”

....

จากคุณ : teansri
เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 02:07:16




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com