Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
...Dragon Delivery...#17 (2/5 ครึ่งหลัง) ติดต่อทีมงาน

http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/07/W9480037/W9480037.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/09/W9697712/W9697712.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9915681/W9915681.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W9989714/W9989714.html
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10043028/W10043028.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10055712/W10055712.html
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10261447/W10261447.html

###
หน่าจัง @ คาดว่าดวงตาโซลคงไม่ได้นั่งอยู่ไหนเรียบร้อยง่าย ๆ หรอก

คุณ pinupaong @ โซลโทมันเป็นคน matter of fact ก็เลยแบบ...โง่ก็โง่ขอรับ - -''

คุณ narin @ เหมือนเจ้าตัวยังคงยืนยันว่าตัวเองเป็นคนธรรมดานะขอรับ  แต่ก็อย่างว่า คนเรามักคิดว่าตัวเองธรรมดาที่สุดแหละเนอะ

คุณจริง @ เค้าก็ว่างั้นแหละตัวเอง...

คุณ Draconia @ คาดว่าจะค่อย ๆ ซึมซับอะไรแปลกพิลึกเข้าไปทีละน้อยตามกาลเวลานั่นเอง...
อยากเห็นปู่โทปาซกัดผ้าเช็ดหน้า >w<

ทินา @ แกเป็นตัวป่วนอยู่แถวนั้นน่ะ
ส่วนแฟนตาซีร้านขนม ขออนุญาตวางพล็อตกะเคลียร์เรื่องในไหไปบางส่วนก่อนนิ...

เบ๊บ @ อย่าสิ เทย์มันหนีไปร้องไห้บอกว่าไม่มีใครรักมันตรงมุมแล้วนะ

อม @ แกไม่มีเงาเพราะแกกำลังจะหายไปน่ะ  คำสาปตามมาทันแล้ว
ว่ากันจริง ๆ รู้สึกว่าโซลโทจะคิดอย่างนั้นจริง ๆ เสียด้วยนะ (จะดีเหรอตาโซล)

คุณ chaiyanun @ นั่นสิคะ...

คุณตัวตลกสีเทา @ เป็น "ท่านลุงที่ถือพาย" ต่างหากล่ะขอรับ

คุณแมวเหมียวพุงป่อง @ เอ ไม่น่าว่าอะไรนะคะ

น้องธาร @ ก็เทย์ไม่ได้มีอะไรประหลาดจริง ๆ นี่นาขอรับ (โซลโทบอก)

คุณ scottie @ หยิกก็ได้นะคะ  ช่วยกันทึ้งมัน -w- หุหุ

คุณ river @ อาจจะโมโหตัดสินใจออกไปยึดครองโลกจริง ๆ ก็ได้นะขอรับ

คุณกาปอมซ่า @ ลุงแกบอกว่าขอบคุณที่ชอบค่า ^^

คุณ Canossa @ พวกนี้ทุกคนมี "ร่างจริง" ค่ะ  ส่วนไอ้ขอรับ  อืม...คาดว่าหลังจากถูกคนนั้นคนนี้หลอกมาหลายรอบ พี่แกคงไม่ยอมเชื่ออะไรที่ไม่มีหลักฐานมั้งเนอะ
ชอบจังที่บอกว่าคนอยู่แถวหอนั้นไม่มีทางตาย >w<b

พี่โร @ ในบางแง่ก็ถือว่าธรรมดากว่านะขอรับ... (เทย์วิ่งร้องไห้หนีไปอีกแล้ว)

คุณ paina @ คาดว่าคงค่อย ๆ แกะปริศนากันไปเรื่อย ๆ น่ะค่ะ

คุณ nutxnut @ คงอีกพักใหญ่กว่าจะได้ออกอะไรใหม่น่ะค่ะ  พอเวลาน้อยลงก็ต่อติดยากขึ้น  เลยเขียนช้าลงด้วย Y-Y
คิดว่าคนแจวเรือเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เก็บตังค์นะคะ  เดี๋ยวไปถามแกก่อนเน่อ

คุณสาวไกด์ @ เค้าจะพยายามคับ T-T

หนมจีน @ อ๊ะ ^^''

คุณ runaway guy @ มันได้รับการคุ้มครองหลายชั้นน่ะ  จากลุงเจก็ส่วนหนึ่งล่วย

คุณ LaGooNz @ คาดว่าเพราะเจอมาครึ่ง ๆ กลาง ๆ นั่นแล  เลยได้ส่วนผสมประหลาดออกมาแบบนี้แหละ

น้อง penwings @ นั่นสิ โคตรโชกโชนเลย  แต่คาดว่าเพราะนิสัยมันเลยแบบยังไงก็เหมือนจะไม่เป็นไรอยู่เรื่อยเลยเนอะ

อนิธิน @ ใช่แล้ว คนนั้นเขาเป็นนายพรานจ้า

เจรามี @ ในบางแง่ก็น่าจะคล้าย ๆ หนา...

###

"นั่นเรียกว่าการแย่งชะตา" นายทะเบียนเอ่ยขึ้นในที่สุด "ที่จริงแล้วไม่ใช่กรณีแย่งชะตาธรรมดา  แต่ทำให้คนที่ควรตายไม่ตายด้วย...ทำผิดกฎโลกถึงเพียงนี้บาปมาก  ผู้ทำหากตายเมื่อไร  ต้องถูกสลายวิญญาณทันที"

"แต่หนึ่งปีโลกมนุษย์ที่ผ่านมานี้  ก็ยังไม่มีวิญญาณแตกมาให้สลายไม่ใช่หรือ" คนแจวเรือถาม  เรื่องตื่นเต้นเช่นนี้เขาย่อมจำได้  อีกอย่าง หนึ่งปีมนุษย์ก็ไม่นานกระไร  เพียงชั่วกะพริบตาเท่านั้นเอง

"นั่นหมายความว่าไซธีน เอชาน ตัวจริงก็ยังไม่ตายเช่นกัน" นายทะเบียนตอบ  ซึ่งส่งผลให้อีกฝ่ายเริ่มเกาศีรษะแกรก ๆ รู้สึกยุ่งยากซับซ้อนขึ้นมา

"ถ้าอย่างนั้น..." คนแจวเรือตัดสินใจนับนิ้ว "แสดงว่ามีไซธีนที่ยังไม่ตาย  โซลโท  และก็ความทรงจำของไซธีนที่เข้ายึดครองโซลโท  พันกันวุ่นวายยิ่งนัก"

"ข้าจึงว่าบาปมากอย่างไร   ทำจนชะตากรรมวุ่นวายเลอะเทอะถึงขนาดนี้" เพื่อนของเขากอดอก "ที่สำคัญ...นอกจากทำให้คนควรตายกลับไม่ตายแล้ว   ความทรงจำนั่นอาศัยอยู่ในร่างนานเกินไป...ถึงขั้นหลอมรวมกับวิญญาณของโซลโทด้วย  ยามขับไล่ชิ้นส่วนของเจ้าของร่างเดิมออกมาได้   ต่างฝ่ายจึงต่างแตกทั้งคู่  ยิ่งชิ้นส่วนบนโลกไม่ใช่วิญญาณจริง ๆ เป็นเพียงความทรงจำเท่านั้น  ยิ่งต้องใช้พลังมากมายเพื่อจะคงให้มีชีวิตไว้   คงเพราะอย่างนั้นจึงได้เล็งแม่หนูที่เป็นลูกหลานของมิวส์  กับเมืองที่มิวส์สร้างขึ้น"

"เออ  ก็มีความคิดสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมได้บ้าดีจริง ๆ"

"และทำให้โลกไม่ว่าฝั่งนั้นหรือฝั่งนี้ปั่นป่วนไปหมดแล้ว   เจ้าคงไม่ได้สะพานใหม่ไปอีกหลายร้อยปี" นายทะเบียนบอกเพื่อนอย่างเย็นชา

คนแจวเรือพึมพำด่าอีกฝ่ายว่าใจร้าย   แต่แล้วต่างคนก็ต่างเงียบอีกครั้ง  เพ่งมองเจ้าหนุ่มที่ยังคงยืนอยู่บนยกพื้น  แม้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว   แต่ดูเหมือนเรื่องราวจะไม่ยอมจบลงง่าย ๆ  ภาพต่าง ๆ ก็ดำเนินต่อไป   คงเป็นเวลาปัจจุบันบนโลกฝั่งนั้นกระมัง

...

เรนารู้สึกกลัวอยู่ราง ๆ

ที่จริงแล้วเธอควรจะกลัวมากกว่านี้   แต่หญิงสาวง่วงเกินกว่าจะรู้สึกอะไรอย่างนั้น   ยิ่งเวลาผ่านไป  เธอยิ่งฝืนตัวเองให้ตื่นอยู่ไม่ไหว   เธอคิดว่ามีคนมาเยี่ยมหลายคน   แต่ทุกอย่างล้วนเลือนไม่คมชัดสักนิดเดียว...มีท่านตา  พี่เทย์  พี่วิดา  แม้ท่านเจวานหรือเจ้าหญิงโมรานานครั้งก็มาเช่นกัน

"ไม่อาจบอกเพื่อนคนอื่น ๆ ของเธอได้ว่าเกิดอะไรขึ้น" หญิงสาวได้ยินท่านเจวานพูดกับท่านตา "ข้าเสียใจจริง ๆ"

"ไม่เป็นไร  ข้าเข้าใจ  ถึงอย่างไรก็ไม่ควรให้ประชาชนทั่วไปทราบว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นที่ซีเล" ท่านตาตอบ "...อย่างน้อย  จนกว่าจะถึงเวลา"

เธอถูกย้าย...เธอคิดว่าอย่างนั้น   ท่านตาเป็นคนอุ้มเธอออกจากวิทยาลัย   ขึ้นหลังของฟาลอคมายังหอไอดา  พวกเขาตั้งเตียงในหอ   ทำให้เรนาอดรู้สึกขำไม่ได้   อะไรกัน  ท่านตาเกิดเห็นเธออ่านหนังสือมากเกินไป  เลยเอามาไว้ในห้องสมุดเสียเลยหรืออย่างไร   แต่ที่แปลกก็คือ  คนอื่น ๆ หลายคนต่างมาที่หอไอดาเช่นกัน   เธอได้ยินราง ๆ ว่าที่นี่เป็นที่ปลอดภัยที่สุดในเมือง   ได้รับการคุ้มกันจากพลังของไอดาหนาแน่นที่สุด   ยิ่งว่าวิทยาลัยเวทมนตร์หรือที่อื่นใด   เรนาเห็นด้วยตามนั้น   แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจ   ...ต้องการการคุ้มกันไปทำไม   ซีเลอยู่ในแผ่นดิน  ไม่เคยมีสงครามมาก่อนเลย

ที่จริงแล้ว ซีเลคงไม่ทางมีสงครามได้ด้วย  เพราะไอดากล่าวไว้เช่นกัน   มันเป็นเมืองที่ถูกสร้างลึกเข้ามาในแผ่นดิน   บังเกิดขึ้นเพื่อให้ความสงบใจ   มันไม่มีอะไรเลย  ไม่มีสินแร่สำคัญ   ไม่ใช่แหล่งเพาะปลูก  ไม่มีคุณค่าในฐานะจุดยุทธศาสตร์แต่อย่างไร   สิ่งเดียวเท่านั้นที่อาจบอกว่าเป็นหน้าเป็นตาของเมืองได้คือหอสมุดและวิทยาลัย  แต่ความรู้ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องแย่งชิง   ไม่ใช่สิ่งที่จะหายไปเมื่อแจกจ่ายแพร่กระจาย   ที่จริงยิ่งแจกจ่ายมากเท่าไร  ความรู้ย่อมเพิ่มพูนเท่านั้น   ด้วยเหตุนี้จึงยังคงมีหนังสือมากมายหลั่งไหลกลับมาสู่หอไอดา  บัณฑิตอ่านทั้งตำราและศึกษาความจริง  ครั้นแล้วก็สังเคราะห์ความรู้เขียนตำราขึ้นใหม่  ความรู้แผ่ขยายออกไป   เป็นเช่นนั้นเสมอมา

เรนาคิดว่าเห็นคนอื่น ๆ กางแผนที่  พูดคุยถกเถียงด้วยสีหน้าไม่สบายใจ   เธอได้ยินพี่ชายพูดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับผังเมืองเก่าและผังเมืองใหม่   สัญลักษณ์ที่ไอดาวางไว้...เรนาเคยได้ยิน   ยามสร้างอาคาร  สร้างเมือง  จะต้องมีการเชิญพ่อมดวิชาสัญลักษณ์เหมือนพี่เทย์มา   เพื่อวางผังให้สอดคล้องกับสัญลักษณ์ที่จะอำนวยพรแก่สถานที่เหล่านั้น   พี่เทย์ยังเคยบอกโซลโทว่ามาพังร้านแล้วสร้างใหม่กันเถอะ   ข้าจะวางผังให้เจ้าใหม่   รับรองคราวนี้รวยแน่ ๆ  แต่ทำอย่างไรโซลโทก็ไม่ยอม   เขาพังร้านที่มีความทรงจำมากมายไม่ลง

ระหว่างเวลาเหล่านั้น  เรนาก็เริ่มฝัน   ความฝันเริ่มยาวนานขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลาที่เธอไม่อาจบังคับให้ตนเองตื่นได้   ยามตื่นเธอมักสงสัยอย่างสะลึมสะลือ...ทุกคนล้วนมา   แต่โซลโทไปไหน   แต่ในความฝันเธอจะเห็นโซลโททุกครั้ง  โซลโทพาเธอไปยังเมืองเอลิส...ไม่ทราบว่าทำได้อย่างไร    แต่ในเมืองเอลิสดังกล่าว   เรนาไม่พบซีมาร์ตกับทุกคน  โซลโทไม่ได้พาเธอเดินไปตามถนนของพวกซีมาร์ตแต่อย่างใด   เขาพาเธอไปยังสี่แยกกลางเมือง...ที่ซึ่งมีหอไอดาอีกแห่ง   และพาเธอไปยังถนนอีกสาย   ถนนสายนั้นเหมือนเมืองซีเลในปัจจุบันมาก   แต่ก็มีบางอย่างต่างออกไปเช่นกัน   ทุกครั้งที่ฝัน  และเดินไปด้วยกัน โซลโทคนนั้นจะบอกเรนาครั้งแล้วครั้งเล่าว่าที่นี่เป็นเมืองของเจ้า ได้รับมรดกมาจากไอดา  เจ้าสามารถเปลี่ยนแปลงเมืองได้อย่างใจ

"เปลี่ยนอย่างไรหรือ...โซลโท" หญิงสาวงุนงง "เปลี่ยนทำไม"

"เปลี่ยนเพื่อทุกสิ่งจะได้ดีขึ้น" โซลโทยิ้มในหน้า   เขาชี้มือไปยังร้านหนังสือ   และโบกมือขึ้นเล็กน้อย   ครั้นแล้วเรนาก็เห็นหนังสือของตนปรากฏที่หน้าต่างร้านมากมาย   ไม่ใช่เพียงเล่มแรกเล่มเดียว   แต่เป็นทุกเล่มที่เธอเขียนมา   ทุกเล่มล้วนได้รับการยอมรับ   ไม่เคยถูกปฏิเสธแต่อย่างไร

แต่หนังสือพวกนั้นล้วนถูกคืนไปยังสมาคมกวีหมดแล้วไม่ใช่หรือ   เว้นเพียงจำนวนเล็กน้อยที่พวกคนรู้จักช่วยซื้อ   มันขายไม่ได้   เป็นหนังสือที่จะต้องหายไปเท่านั้นเอง

"ที่เมืองแห่งนี้   ผู้คนจะไม่ซื้อหนังสือเจ้าเพียงเพราะสงสารเห็นใจ" โซลโทกระซิบข้างหูเธอ "เจ้าจะมีชื่อเสียงยิ่งกว่าท่านชายเอลาซ   คนจะรู้ว่าเจ้ามีพรสวรรค์จริง ๆ"

เรนายังไม่ใคร่เข้าใจ   เธอยืนอยู่ตรงนั้น   งุนงง

...

"เรนา  นั่นไม่ใช่ข้า" โซลโทในโลกคนตายร้องออกมา

เขายื่นมือไปข้างหน้า  สัมผัสผิวกระจกบานนั้น   ทว่าทันทีที่สัมผัส  ภาพก็ปั่นป่วนกลายเป็นคลื่นอีกครั้ง   ชายหนุ่มผงะถอยหลัง   ก่อนจะพบว่าความมืดดำกลับแทนที่รูปเงาทั้งปวง   กลายเป็นกระจกที่ไม่สะท้อนสิ่งใดอีกแล้ว  ไม่มีตัวเขา   ไม่มีเรนาเช่นกัน

เจ้าของร้านเอชานตัวสั่น   หันกลับมายังท่านลุงสองคนที่มองตนอยู่

"นั่นไม่ใช่ข้า..." เขาพูดราวอยากจะยืนยันกับใครสักคน

"ไม่ใช่หรอก   นั่นคือคนที่แย่งร่างของเจ้า" นายทะเบียนบอก "พวกที่วิทยาลัยเวทมนตร์คงพยายามป้องกันจิตใจของผู้หญิงคนนั้นแล้ว   แต่เธอเคยอนุญาตให้เจ้าเข้าไป   ไซธีนคนนั้นจึงพลอยได้รับอนุญาตด้วย   เขาฉลาดทีเดียว...รู้จักจุดอ่อนของเธอ   รู้ว่าจะโน้มน้าวเธอให้ทำตามที่ตนต้องการได้อย่างไร"

"หมายความว่าอย่างไร" เจ้าของร้านเอชานไม่เข้าใจ

"เธอยังเด็กอยู่   อีกอย่างหนึ่ง คงเพราะถูกเลี้ยงดูมาดี  จิตใจจึงแทบไม่มีช่องว่างใด" อีกฝ่ายตอบ "แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์  ถึงอย่างไรก็ต้องมีช่องว่างอยู่ดี   เมื่อหาช่องนั้นเจอ   ก็มีทางถ่างมันให้กว้างออกได้   ความทรงจำของไซธีนนั่นคงศึกษาเธอมาเป็นเวลานานทีเดียว  ในที่สุดจึงได้ข้อสรุปเช่นนี้ ...อาศัยช่องว่างเพียงนั้นก็สามารถบังคับให้เธอทำตามใจ   และจากนั้นคงบังคับเอาพลังของเมืองซีเลผ่านทางเธอได้เช่นกัน"

โซลโทก็ยังคงไม่เข้าใจเต็มร้อยอยู่นั่นเอง  ที่จริงคือเขาตระหนกมาก...เขาตกใจที่ตัวเองตายจริง ๆ  ที่ลุงไซธีนทำเช่นนี้  ที่จู่ ๆ เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้ได้   แต่กระนั้น...บางทีคงตกใจมากเกินไป   ชั่วขณะนี้จึงกลายเป็นความชา   ในหัวของเขาคิดอะไรไม่ออกเว้นแต่เรื่องของเรนา   คนคนนั้นปลอมตัวเป็นเขา...รังแกเรนา

"ข้าจะกลับไป" ชายหนุ่มเอ่ยในที่สุด  เร่งสาวเท้าลงมาจากยกพื้น "ต้องกลับไป"

แต่ยามจะก้าวต่อนั้นเอง   ท่านลุงทั้งสองคนก็เคลื่อนกายเข้ามาบังทางไว้เงียบ ๆ   สีหน้าทั้งคู่ต่างเปลี่ยนไป...กลายเป็นเรียบเฉย   มีบางสิ่งที่ลึกยิ่งนักในดวงตา   ยามโซลโทคิดจะเดินอ้อมไป   ท่านลุงที่ถือพายก็คว้าแขนเขาไว้   แรงท่านลุงมากจนชายหนุ่มตกใจ   มากเสียยิ่งกว่าท่านทาร์นอีกกระมัง

"เจ้าตายแล้ว  โซลโท  กลับไปไม่ได้" ท่านลุงใส่ชุดขุนนางบอกเขาเรียบ ๆ

"แต่..."

"คนทั้งปวงล้วนอยากกลับไป   แต่เมื่อล่วงมาถึงโลกนี้แล้ว   จะไม่มีทางกลับได้   ชะตาของเจ้าขาดนานแล้ว   ยิ่งกลับไปจะยิ่งทำให้ทุกสิ่งปั่นป่วนวุ่นวาย" นายทะเบียนเอ่ยสิ่งที่เขาพูดมาแล้วนับแสนนับล้านครั้ง "เมื่อเจ้าไม่ได้ทำผิดอะไร    เราก็จะไม่สลายวิญญาณเจ้า   แต่เจ้าไม่อาจไปจากที่นี่ได้จนกว่าวิญญาณจะกลับสมบูรณ์อีกครั้ง  ดังนั้นจึงต้องรอ"

"รอ...อะไรขอรับ"

"รอให้เรื่องราวที่โลกฝั่งนั้นจบลงทางใดทางหนึ่ง   รอให้ผู้ที่ขโมยชะตาและร่างกายของเจ้าถูกทำลาย" อีกฝ่ายตอบเขา "กาลเวลาจะทำให้ทุกสิ่งสิ้นสุดลงเอง   โซลโท เอชาน  วิญญาณที่อยู่อาศัยในแดนคนตายทำได้เพียงรอ"

...

แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 54 23:46:15

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 54 21:17:11




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com