Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
xxx บ่วงพันธการ..บทที่ ๒ xxx ติดต่อทีมงาน

สวัสดีกันอีกหนึ่งวันค่า

บทที่แล้วรู้สึกว่าสำนวนการเขียนของตัวเองจะยังไม่เข้าที่เข้าทางเอาเสียเลย
พอมานั่งอ่านทวนในเน็ตต้องกลับไปแก้ไขในต้นฉบับตั้งหลายคำพูด หลายประโยค
แปลกแฮะ ทีตอนอ่านในต้นฉบับไม่รู้สึกสะดุดอะไร แต่พอมาอยู่บนพื้นสีน้ำเงิน
แบบนี้กลับเห็นข้อผิดพลาดชัดเชียว

(อืม..นึกอยากจะให้เวิร์ดมันสามารถตั้งโปรแกรมเป็นพื้นสีเดียวกันอย่างที่พันทิปจัง อิอิ)


......................................


ตอบกระทู้เก็บตกกันหน่อย

love คุณscottie === อิอิ..บุคคลเป้าหมายเข้ามาแล้ว




love คุณ mimny === ช่ายเลยค่า เรื่องนี้ไม่มีพระเอก เพราะพฤติกรรม
ของเฮียแกไม่สามารถเป็นพระเอกได้..แต่ไม่ขอบอกนะคะว่าเพราะอะไร
ต้องตามวิเคราะห์กันเอาเอง ^ ^


....................................

บทที่ ๑
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10296946/W10296946.html



บทที่ ๒


อชิระวางถ้วยกาแฟพร้อมละสายตาจากหน้าหนังสือพิมพ์ เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือจากทวีสิน

“ว่าไง..ผู้กอง”

“ผมยอมรับขอเสนอของคุณ..แต่ต้องหลังจากที่งานสำเร็จแล้ว”

“นั่นค่อยสมน้ำสมเนื้อดี”

“แล้วเราจะได้ร่วมงานกันในเร็วๆนี้”

“แต่ผมต้องการพบพ่อก่อน..วันนี้ด้วย”

อีกฝ่ายนิ่งไปอึดใจ
“แล้วผมจะจัดการให้”

“ขอบคุณ”

อชิระเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ด้วยสีหน้าครุ่นคิด..นานมากแล้วที่ไม่ได้พบบิดา..นานเสียจนทำใจยอมรับไปแล้วว่า ในโลกนี้เขาไม่เหลือใครแล้วนอกจากมารดาเท่านั้น..แต่จู่ๆต้องมาเผชิญหน้ากันอย่างนี้ แม้แต่ตัวเองก็จับความรู้สึกไม่ได้ว่ากำลังรู้สึกอย่างไรต่อผู้ให้กำเนิด..และนึกไม่ออกว่า เขาจะเริ่มทักทายด้วยประโยคใด


ไม่นาน..อชิระยืนอยู่ภายในห้องเก่าสีมอซอและคับแคบที่ทางเรือนจำจัดให้ไว้สำหรับเข้าเยี่ยมนักโทษที่ได้รับอภิสิทธิ์พิเศษ และครู่ต่อมา บุคคลที่เขาต้องการพบก็ถูกควบคุมตัวมาส่งก่อนผู้คุมจะออกไปรอข้างนอก

ชายหนุ่มกวาดสายตามองผู้ให้กำเนิดซึ่งไม่เคยพบหน้ากันมาเลยตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา จากอดีต..บุรุษที่จัดว่ามีรูปร่างหน้าตาดี การศึกษาและรสนิยมสูง แต่ก็เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและอารมณ์ร้ายที่เขามักเห็นอาละวาดใส่มารดาไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งๆที่มารดาไม่เคยทำหรือพูดอะไรผิดเลย..แต่ในขณะนี้ เค้าภาพเดิมๆนั้นไม่มีแล้ว หลงเหลือเพียงร่างซูบเซียวของชายชราในชุดนักโทษ ผมสีดำแซมเทายุ่งเหยิง สายตาอิดโรยปรายขึ้นมองสบเพียงชั่ววินาทีก็เมินหลบอย่างไม่กล้าสู้หน้า ก่อนน้ำเสียงแหบแห้งจะเอ่ยทักทาย

“ไม่เจอกันนาน..สบายดีใช่ไหมลูก”

“ผมสบายดี..รวมทั้งม่าด้วย” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงเย็น วรพลได้แต่ยิ้มแกนๆ

“เหรอ..” แล้วก็นิ่งไปหลายอึดใจอย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อในขณะที่ลูกชายเองก็นิ่งเงียบเช่นกัน จนรู้สึกอึดอัดต้องคิดหาคำพูดออกมา
“แล้วที่ลูกมานี่..จะมาช่วยป๊าออกไปใช่ไหม”

“ผมยังให้คำตอบตอนนี้ไม่ได้ แต่จะพยายามช่วยให้ได้มากที่สุด” ถึงแม้ทวีสินจะรับปากในเงื่อนไขที่เสนอไปแล้ว..แต่ตราบใดที่บิดายังอยู่ในนี้ เขาก็ไม่อาจวางใจได้
โดยเฉพาะ..คำสัญญาที่ออกมาจากปากของคนในองค์กรที่เขาไม่เคยให้ความนับถือเลย

คนฟังมีสีหน้าผิดหวัง เพราะคิดว่าอำนาจเงินที่ลูกมีจะช่วยให้เขาหลุดคดีไปได้
“..ขอบใจมากนะที่มาช่วยป๊า”

“ที่ช่วยเพราะม่าขอร้อง..และที่มาเยี่ยม ก็แค่อยากจะให้เห็นกับตา ว่าป๊ายังแข็งแรงดีเท่านั้น”

ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงที่เปล่งออกมาเต็มไปด้วยความเย็นชา จนลำคอของคนฟังแห้งผากในทันใด

และไม่แปลกใจเลยที่ลูกชายมีท่าทีเช่นนี้..เพราะตั้งแต่เล็กจนโต เขาก็ไม่ได้คลุกคลีให้ความสนิทสนมเฉกเช่นผู้ให้กำเนิดทั่วไป เพราะชีวิตในแต่ละวันหมดไปกับธุรกิจ การสังสรรค์ แล้วก็ผู้หญิงที่มีมากหน้าหลายตา ซึ่งถ้าคนไหนถูกใจก็จะพาเข้าบ้านมาอยู่ด้วยกัน จนเริ่มเบื่อแล้วถึงจะไล่ออกไปโดยไม่สนใจคำตัดพ้อและน้ำตาของภรรยา เพราะรู้ดีว่าอารดานั้นทั้งรักทั้งหลงเขามากมายแค่ไหน แค่คำพูดปลอบโยนเอาอกเอาใจไม่กี่คำก็ใจอ่อนแล้ว

แต่สำหรับลูกชายไม่ได้เป็นเช่นนั้น..เมื่อในค่ำคืนหนึ่ง เขากลับบ้านพร้อมผู้หญิงคนใหม่ ลูกชายผู้เงียบขรึมที่ไม่ค่อยได้เจอหน้าค่าตากำลังนั่งรออยู่บนเก้าอี้ไม้ฝังมุกตัวใหญ่ที่ถูกยกออกมาหน้าบ้าน ในมือเปิดปิดฝาไฟแช็กเล่นอย่างใจเย็น ด้านหลังมีลูกสมุนมือดีของเจ้าสัวอีกสามคนยืนคุมเชิงด้วยท่าทางสงบนิ่ง และที่พื้นเชิงบันได บรรดาข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดของผู้หญิงของเขาถูกขนออกมากองรวมกัน

“กรี๊ด! นั่นมันของ ของฉัน”
เสียงกรี๊ดแหลมของหญิงสาวดังขึ้น ก่อนที่ร่างอวบอิ่มจะถลาเข้าไปดูเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าแบรนด์เนม แล้วก็แทบเต้น เมื่อพบว่าของทั้งหมดเปียกชุ่มด้วยคราบน้ำมันจนเหม็นหึ่ง

และหันไปชี้หน้าเด็กหนุ่มอย่างโกรธจัด “แก๊..ไอ้เด็กเวร!” แล้วก็หันไปออดอ้อนวรพลหมายให้เขาลงโทษลูกชายให้สาสม “คุณต้องจัดการด้วยนะคะ ไม่งั้นฉันไม่ยอมด้วย”

วรพลเองก็ฉุนเฉียวกับการกระทำของลูกเช่นกัน จึงตวาดถามออกไป
“ใครสั่งใครสอนให้แกทำอย่างนี้ หะ!”

“พาผู้หญิงของป๊าออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ”

นอกจากจะไม่ตอบคำถามแล้ว น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเหมือนจะวางอำนาจข่มขู่ ก่อนจะท้าทายโทสะเขาด้วยการจุดไฟแช็กโยนลงไปบนกองเสื้อผ้าให้ไฟลุกพรึบโชติช่วงในทันใด

“กรี๊ด!!” เสียงกรี๊ดแหลมพร้อมกระทืบเท้ารัวถี่ทันที แล้วก็หันมากระชากเสียงเขียวใส่วรพลอย่างโกรธจัด ที่เขาปล่อยให้ลูกชายเผาสมบัติสุดหวงของเธอไปต่อหน้าต่อตา

“คุณปล่อยให้ลูกของคุณทำแบบนี้ได้ไง”

วรพลกัดฟันกรอด เมื่อคิดว่าถูกลูกชายหยามน้ำหน้า จึงก้าวเข้าหาพร้อมกำหมัดแน่น “ไอ้เล่ย !”

แต่ก็ก็ต้องผงะถอย เมื่อสมุนที่ยืนสงบนิ่งทั้งสามขยับตัวเตรียมปกป้อง และสิ่งที่ทำให้เขาถึงกับตกตะลึง เมื่อลูกชายหันไปขอปืนมาจากหนึ่งในสามและลุกขึ้นยืนพร้อมวาดปากกระบอกไปยังหญิงสาว ก่อนเอ่ยไล่เสียงเย็น

“ออกไปให้พ้น”

“แกไม่กล้าหรอกไอ้เด็กเวร!”

เปรี้ยง !!

จากคุณ : ระรินใจ
เขียนเมื่อ : 7 มี.ค. 54 12:24:47




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com