Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
แค่ในบางวัน...ที่พลั้งเผลอ ติดต่อทีมงาน

ฝึกเขียนเรื่องสั้นมาให้อ่านอีกแล้วค่ะ หากเพื่อนๆ มีข้อแนะนำ มี่ขอน้อมรับฟังค่ะ


“แสนดี! นายเป็นผู้ชายที่แย่ที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเจอมาในโลกใบนี้เลย” ฉันตะโกนไล่ตามหลังรถเก๋งสีน้ำเงินเข้มที่กำลังค่อยๆ แล่นหายไปจากสายตา แม้จะไม่ค่อยแน่ใจนักว่านายตัวร้ายจะได้ยินคำผรุสวาจาของฉันไหม เพราะว่าพ่อเจ้าประคุณเร่งเสียงวิทยุให้ดังกระหึ่มกลบเสียมิด

นายแสนดี ที่ไม่ได้ดีสมชื่อเลยสักนิด นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะที่เราสองคนทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เริ่มต้นมาจากการที่ฉันนอนปวดท้องเพราะโรคกระเพาะถามหา แล้วโทรไปหาเขา จริงๆ ก็ต้องบอกว่าอ้อนนั่นแหละ แต่พอรับสายหมอนั่นดันบอกว่าไม่ว่าง แล้วก็วางสายโครมไปเลย ช่างพูดออกมาได้

ตกลง นี่ฉันเรียกร้องมากไปงั้นหรือ???

คนเป็นแฟนกันก็ต้องใส่ใจกันหน่อยสิ หลังจากนั้นฉันก็แทบจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าเรื่องมันจบได้ยังไง รู้เพียงแต่ว่ายังไม่ทันข้ามคืนดี นายแสนดีก็โทรกลับมา แต่อารมณ์ของฉันในตอนนั้นมันไม่เหมือนเดิมเสียแล้ว

“โทรมาทำไม!” ฉันถามเสียงแข็ง ไม่มีแม้แต่อารมณ์ถวิลหาหรือดีใจที่เขาโทรกลับมา บางทีมันอาจจะนานเกินไปจนฉันเลิกใส่ใจไปแล้วก็ได้

“ก็เห็นบอกว่าปวดท้อง เป็นอะไรหรือเปล่า ไปหาหมอหรือยัง กินข้าว กินยาบ้างหรือเปล่า แล้วพรุ่งนี้ไปทำงานไหวไหม ให้ไปรับไหม” นายตัวร้ายถามกลับมาเป็นชุด แต่นั่นกลับยิ่งจุดไฟอารมณ์คุกรุ่นในตัวฉันให้ลุกพรึ่บขึ้นไปอีก

“นายไม่ต้องมายุ่งได้ไหม! มาพูดตอนนี้แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา เลิกยุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉันได้แล้ว” ฉันตะโกนตอกกลับไปอีก เสร็จแล้วก็ปิดโทรศัพท์ไปเลย ไม่สนว่าเขาจะรู้สึกยังไง ไม่แคร์ว่าเขาจะโกรธหรือไม่ที่ฉันไปตวาดใส่เขาแบบนั้น

หลังจากนั้น ฉันก็นอนซมไปเกือบอีกวันเต็มๆ โดยไม่ได้ลุกออกจากเตียงอีกเลย จนกระทั่งมีโทรศัพท์เข้ามาอีกครั้งนั่นแหละ ถึงได้งัวเงียตื่นไปรับ

“สวัสดีค่ะ” ฉันพูดด้วยเสียงแหบแห้ง เมื่อไม่มีอาหารและน้ำตกถึงท้องมาทั้งวัน

“เฮ้ย วันใส วันนี้ทำไมไม่มาทำงาน เป็นอะไรไปหรือเปล่า” เสียงพี่ข้าวกล้องซึ่งเป็นเจ้านายของฉันที่บริษัทถามกลับมาด้วยความเป็นห่วง

“พี่ข้าวคะ วันใสปวดท้อง ขอลางานพรุ่งนี้อีกหนึ่งวันนะคะ” ฉันกัดฟันข่มความเจ็บเอาไว้แล้วพูดออกไป

“อ้าว เป็นอะไร ไปหาหมอหรือยัง ให้พี่พาไปไหม”

“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ แค่โรคกระเพาะเอง” ฉันตอบเขาด้วยเสียงแผ่วเบา แล้วก็วางสายทันที ค่อยๆ หลับตาลงด้วยความรู้สึกอ่อนเพลีย ฉันเอามือมาลูบท้องก็พบว่าความปวดค่อยทุเลาลงแล้ว มีแต่ความเมื่อยขบที่เข้ามาแทนที่เพราะนอนคุดคู้มาทั้งวัน

ฉันค่อยๆ เดินลงไปชั้นล่างของบ้านเพื่อที่จะไปหาอะไรกิน ตู้เย็นสีขาวขนาดกะทัดรัดที่ทั้งฉันและนายตัวร้ายช่วยกันออกเงินซื้อคนละครึ่ง แต่ข้างในกลับมีแต่ขนมของนายตัวร้ายจับจองอยู่ทุกพื้นที่ นี่มันอะไรกัน!!! ช็อคโกแลตสองกล่องแช่ด้านบน เยลลี่วางด้านล่าง ขนมเค้ก น้ำอัดลม ส่วนพื้นที่ด้านข้างตู้ มีแต่เครื่องสำอางค์ของฉัน และน้ำผักผลไม้ที่เหลือครึ่งกล่องจากเมื่อวานนี้เท่านั้น

เห็นหน้าช็อคโกแลต แล้วก็นึกถึงหน้ากวนๆ ของเจ้าของ ใบหน้าหล่อเหลาที่สาวๆ ต้องกรี๊ด แต่ใครจะรู้ว่าปากร้ายน่าดู ฉันหยิบช็อคโกแลตที่หน้ากล่องเป็นรูปทะเลออกมา แล้วเลือกช็อคโกแลตรูปม้าน้ำเข้าปาก เสร็จแล้วก็เคี้ยวๆ ด้วยความหมั่นไส้  

“คนบ้า ทำดีเฉพาะกับสาวๆ ทีกับเราไม่เคยสนใจดูแล”

ช็อคโกแลตรูปหอยเชลล์ถูกหยิบเข้าปากเป็นลำดับถัดมา

“คอยดูเถอะ จะไม่คุยด้วยเลย ถ้ามาง้อก็จะไม่สน ไม่ๆๆๆๆๆ”

คราวนี้เป็นช็อคโกแลตรูปปลาดาว ที่ฉันโยนเข้าปากอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด

“อย่ามาเรียกร้องความสนใจก็แล้วกัน คอยดูนะ จะกินให้หมดตู้เลย ของๆ นายอย่าได้เอามาแช่ที่ตู้เย็นบ้านฉันอีกเด็ดขาด แต่เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนสิ ทำไมเราจะต้องทำร้ายตัวเองด้วยล่ะ หรือว่าที่นายนั่นเอามาแช่ที่นี่เพราะอยากให้เราอ้วน จะได้หาเรื่องเลิกกับเรา”

“นายนี่มันเป็นอันตรายสำหรับสาวๆ จริงๆ เลย หวานไปทั่วแต่ก็ไม่รู้ว่ากินเข้าไปแล้วจะให้โทษแก่ร่างกายหรือไม่” ฉันคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ค่อยๆ เรียงลำดับไปเรื่อยๆ จนนายตัวร้ายกลายเป็นจอมโจรลูแปงไปในพริบตา

“ไม่เอาดีกว่า แผนของนายไม่ได้แอ้มฉันหรอก” ฉันยิ้มให้กับตัวเองอย่างสะใจที่สามารถอ่านเกมของลูแปงออก ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบฝากล่องช็อคโกแลตมาปิด แล้วยกกลับไปแช่ไว้ตามเดิม

ตอนนี้ฉันหมุนตัวอยู่ในห้องครัว สายตาสอดส่ายหาของกินไปรอบด้าน ในขณะที่มือก็เอื้อมไปเปิดประตูตู้เก็บของไปด้วย

ปกติ ฉันจะไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเดือนละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นของแห้ง หรือของใช้จำเป็นต่างๆ มาเก็บไว้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องออกไปหลายหน

“กินโจ๊กกระป๋องดีกว่า” ฉันพูดกับตัวเองอย่างอารมณ์ดี รู้สึกปวดท้องนิดๆ สงสัยช็อคโกแลตของนายนั่นเมื่อกี้ต้องใส่ยาพิษเอาไว้แน่ๆ เลย ฉันป้ายความผิดให้จอมโจรอีกตามเคย

โจ๊กกระป๋องถูกเทใส่ชาม ตามด้วยน้ำจากกระติกน้ำร้อน ขณะที่กำลังนั่งรอสามนาทีตามฉลากด้านข้างกระป๋องเขียนไว้อยู่นั้น ฉันก็สังเกตอะไรไปเรื่อย

“โอ๊ย บ้าจริง...” ฉันร้องออกมา เมื่อพบว่าตัวเองหยิบชามใบโปรดของนายตัวร้ายออกมาใช้ ชามมีเป็นสิบในตู้ แต่กลับไม่หยิบ

“นี่นายกะจะวางยาฉันใช่ไหม นายตัวร้าย” ฉันพึมพำพลางกัดปากตัวเองจนเจ็บ ชามใบนี้อันทีจริงมันเป็นชามคู่ลายนกกระเรียนกับดอกซากุระ จำได้ว่านายตัวร้ายไปซื้อมาจากฮอกไกโด เมื่อตอนบริษัทส่งไปดูงานที่นั่น แล้วก็เอามาวางไว้ในตู้แถมยัดเยียดให้ใช้ อ้างว่าซื้อมาฝาก ด้วยความที่มันมีสองใบ ฉันเลยเพ้นท์ชื่อกำกับลงไปด้วยเสียเลย แต่วันนี้ดันโชคร้ายไปหยิบใบที่
มีชื่อของนายแสนดีมาใช้เสียนี่...

ฉันนั่งกินโจ๊กไปด้วยความรู้สึกเซ็งสุดขีด สายตาเหม่อมองผ่านหน้าต่างสีขาวบานที่อยู่ข้างตัว แล้วก็สังเกตเห็นโน้ตย่อตัวเล็กๆ ที่นายแสนดีชอบจดเอาไว้ที่ขอบหน้าต่างทำให้ฉันแทบกรี๊ดออกมา

“อีตาบ้า ทำไมไม่จดลงในเศษกระดาษนะ” ฉันเริ่มบ่นออกมาอีกครั้ง ทุกสองเดือนฉันและแสนดีจะต้องช่วยกันทาสีหน้าต่างใหม่ เหตุเพราะนายตัวร้ายนิสัยเสียชอบจดโน้ตย่อไปทั่วเวลาที่สมองแล่นหรือหาเศษกระดาษไม่ทัน

แสนดีเป็นดีไซน์เนอร์ที่มีอารมณ์ศิลปินสูง ใครๆ ก็ว่าอย่างนั้น เวลาทำงานเขาจะเอาจริงเอาจังเสียจนน่ากลัว แต่พอเลิกงานก็กลับเป็นตัวของตัวเอง แสนดีเป็นคนขยัน นอบน้อม ถ่อมตน มีอารมณ์ขัน และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี จึงไม่แปลกที่ใครๆ จะนิยมชมชอบในตัวเขามากเป็นธรรมดา

โจ๊กหมดชามไปแล้ว ฉันเริ่มคุ้ยหายาในตู้มากิน ก็กลับเจอแต่ยาเคลือบกระเพาะ ใจกระหวัดนึกไปถึงที่มาที่ไปของยาขวดนี้ทันที

ในวันฝนตกในคืนหนึ่ง เมื่อตอนที่เราสองคนขับรถออกไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน จู่ๆ ฉันก็ปวดท้องขึ้นมากลางดึก ตอนนั้นฉันได้แต่นอนนึกว่าคงไม่มีร้านขายยาที่ไหนเปิดอยู่หรอก เพราะมันดึกมากแล้ว แต่ผู้ชายคนหนึ่งก็วิ่งฝ่าสายฝนไปซื้อกลับมาให้จนได้

เขาจะรู้ไหมนะ ว่าฉันยังเก็บยาขวดนี้ไว้อยู่ แต่...อันที่จริงมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้นหรอกนะ ก็แค่เก็บเอาไว้กินเวลาฉุกเฉินก็เท่านั้นเอง ฉันหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองไปเรื่อย

เสียงลมข้างนอกพัดแรงจนใบไม้เริ่มร่วงลงมา แล้วไม่นานนักฝนก็ตกลงมาโครมใหญ่ ฉันรีบวิ่งออกไปเก็บกระถางต้นไม้ที่ระเบียงเข้าข้างในทันที ก่อนที่มันจะตายเพราะลม และฝน

กระถางต้นไม้ที่มีส้มจีนลูกเล็กๆ เป็นของฝากจากนายตัวร้ายอีกเช่นเดียวกัน เมื่อยามที่เขาไปงานเกษตรแฟร์ แสนดีรักต้นไม้ ดอกไม้ทุกชนิด และส่วนมากเมื่อกลับมาก็จะมีต้นไม้กระถางเล็กน่ารักหอบติดมือมาทุกครั้ง

“ทำไมไม่ไปปลูกที่บ้านนายล่ะ” ฉันเคยถามเขาวันหนึ่ง ที่เขาหอบกล้วยไม้ป่ากลับมา หนนี้ขับรถไปไกลถึงตลาดในต่างจังหวัดแถวชายแดนเลยทีเดียว

“อ้าว ก็เธอเคยบอกว่าชอบนี่ แวนด้าฟ้ามุ่ย”

“ก็แค่พูด” ฉันบ่นอุบอิบเบาๆ เมื่อเขาชี้ให้ดูรูปในนิตยสารกล้วยไม้ที่ฉันเคยดูแล้วบอกว่าชอบ แต่ไม่คิดว่าหมอนี่จะคิดเป็นจริงเป็นจังดั้นด้นไปหามาจนได้

“รับผิดชอบคำพูดของตัวเองหน่อยวันใส คนอุตส่าห์ไปหามาให้ เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน ขับรถจนปวดตัวไปหมด” เขาพูดพร้อมกับเอากำปั้นทุบไหล่ตัวเองไปด้วย

“มา นวดให้ บ่นเป็นคนแก่ไปได้” ฉันพูดตัดบทอย่างรำคาญ ทุบๆ อยู่พักหนึ่งพอเป็นพิธี ก็ลุกไปหาน้ำ ขนม มาบริการให้ เท่านั้นนายตัวร้ายก็ยิ้มร่าที่มีคนเอาใจ ส่วนฉันหน้างอเพราะโดนบังคับให้นวด

“ค-รื-น ค-รื-น”

เสียงฟ้าผ่าดึงฉันให้กลับสู่ภวังค์อีกครั้ง ฉันเดินเข้าไปหยิบผ้าขนหนูผืนโตมาเช็ดผมที่เปียก แล้วก็นั่งห่มผ้าอยู่อย่างนั้นบนพื้นพรมในห้อง
วันใสเอื้อมมือไปเปิดวิทยุ พี่โอมดีเจคนโปรดกำลังพูดอยู่พอดีเลย

“วันนี้เป็นสเปเชียลครับ มาจัดแทนคุณหมีน้อยที่ลาป่วย ไม่ต้องตกใจไปนะครับ หากใครเจอกับโอมช่วงนี้จนถึงดึก”

พี่โอมยังคงน่ารักอีกตามเคย ก่อนจะเริ่มอ่านข้อความที่คนฟังส่งเข้ามา  

“ยกโทษให้ฉันด้วย

ที่เคยทำเรื่องห่วย ๆ ไปแบบนี้

หากจะบอกใจยังรักและภักดี

พอจะมีสิทธิ์ไหมลดโทษทัณฑ์

ไม่ตั้งใจกลับมาย้ำซ้ำเติมเธอ

ด้วยเหตุการณ์ที่พลั้งเผลอในวันนั้น

ฉันซึ้งแล้วกับการไม่มีกัน

มันไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้นเลย”

“กลอนบทนี้ถูกส่งมาจากคนที่ใช้ชื่อว่า นายแสนดีนะครับ มีย้ำด้วยว่าให้อ่านออกอากาศให้ได้เพราะว่าต้องการจะง้อแฟน เอาล่ะ ใครที่เป็นแฟนของคุณแสนดีก็หายโกรธเถอะนะ....”

พี่โอมจะอ่านหรือว่าเปิดเพลงอะไรอีกต่อจากนั้น สมองของฉันก็แทบจะไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด หัวใจก็เต้นแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ฉันคว้าหมอนมาปิดหน้าด้วยความอาย โอย...นี่ถ้าเพื่อนๆ ที่ทำงานฟังรายการนี้อยู่ด้วยล่ะก็ ฉันจะทำหน้ายังไงดีนะ

“นายแสนดี...นายบ้า บ้าที่สุด”

ฉันล้มตัวลงนอนกับพื้นพรม ลืมตาโพลงท่ามกลางบรรยากาศฝนตกด้านนอก มือกอดหมอนอิงกับอกเอาไว้แน่น นานเท่าไหร่แล้วนะที่แสนดีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉัน สองปี...ไม่สิ สามปีแล้วต่างหากล่ะ แล้วทุกวันก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะไม่ทะเลาะกัน ใครบางคนเคยบอกเอาไว้ว่า “ยิ่งทะเลาะก็ยิ่งรักกัน” มันจะจริงอย่างที่เขาว่าไหมนะ

ในบรรดาเพื่อนๆ รอบข้าง คู่ที่ราบรื่นและไม่ค่อยมีปัญหาอย่างยายนก กลับเป็นคู่ที่เลิกกันก่อนใคร ตามด้วยพี่บิ๊กกับยายปลา ส่วนคู่ของฉันกลับคบกันได้นานกว่าทุกคนคิด

“เพราะนายแสนดีอดทนกับเธอมากกว่าคนอื่นไง” เพื่อนๆ เคยให้เหตุผลเอาไว้อย่างนั้น แต่ฉันกลับมีข้อโต้แย้งในใจอย่างที่รู้ดีที่สุดคนเดียว

“ไม่ใช่เพราะเขาอดทนเก่งหรอก นายนั่นน่ะเหรอ ไม่เลย ชอบยั่ว ชอบกวนประสาทเสียด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะนายแสนดีรู้ว่าตอนไหนเขาควรจะง้อ หรือว่าตอนไหนที่ควรจะหายหน้าไปต่างหากล่ะ หากว่าเป็นอย่างผู้ชายบางคนที่เอาแต่ง้องอนแฟนโดยไม่ดูจังหวะ และโอกาส เป็นไปได้สูงว่ามีสิทธิ์จะโดนฉันเหวี่ยงกลับมาได้”

เสียงฝนตกกระทบกับหน้าต่างลงมาไม่ขาดสาย ฉันกางมือออกไปในอากาศ แหวนเพชรวงน้อยที่นิ้วนางข้างซ้ายส่องประกายล้อกับแสงไฟ มันไม่เชิงเป็นแหวนแต่งงานหรอก แต่มันเป็นแหวนคู่ที่ซื้อจากร้านจิลเวรี่ในเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งทางอเมริกาใต้จากทะเลแคริบเบียนต่างหาก  ทริปนี้แสนดีเฝ้าเก็บหอมรอมริบมาเป็นแรมปีเพื่อที่จะทำเซอร์ไพรซ์ในวันเกิดของฉัน และแปรเงินโบนัสทั้งหมดของเขาเป็นค่าเดินทางของเราสองคนโดยการล่องเรือสำราญจากอเมริกาลงไปจนถึงเกาะหรรษาแห่งนี้ แต่นั่นก็รวมไปถึงดินเนอร์สุดหรูใต้แสงเทียน ชอปปิ้ง กิน เที่ยวตลอดสองอาทิตย์

“ทำไมฉันจะต้องคิดถึงนายด้วยนะ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ชีวิตของฉันมีแต่นาย สมองของฉันคิดถึงแต่เรื่องของนายได้ไม่หยุดหย่อน โอ๊ย อีตาบ้า นี่นายเอายาสั่งให้ฉันกินหรือไงกันนะ” ฉันเฝ้าเพียรถามตัวเองอยู่ตลอด รู้สึกมึนหัวขึ้นมาดื้อๆ คัดจมูก ตัวรุมๆ เหมือนจะเป็นไข้ และที่สำคัญท้องก็เหมือนจะปวดนิดๆ อีกด้วย

ฉันสลัดความคิดทั้งหมดที่เกี่ยวกับนายตัวร้ายออกไป บางทีการได้นอนพักอีกสักหน่อยก็อาจจะทำให้อะไรดีขึ้น เผื่อนะ...เผื่อว่าพรุ่งนี้เช้า เมื่อตื่นมาฉันอาจจะคิดได้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะกันของเรา หรืออาการป่วยไข้ที่มาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
อย่างไรก็ตามฉันก็ยังอยากให้เรื่องวันนี้เป็นเพียงแค่ความฝันอยู่ดี เพราะรู้ดีว่าฉันคงขาดเขาไม่ได้ แสนดีเป็นคนดี และเขาก็ทำหน้าที่ของแฟนที่ดี ดีเกินกว่าที่ฉันคาดหวังเอาไว้ด้วยซ้ำ ข้อเสียอย่างเดียวของแสนดีก็คือ ชอบยั่วโมโหฉันจนทำให้เราต้องทะเลาะกันอยู่เสมอ

ฉันเดินกลับขึ้นไปข้างบนด้วยอาการปวดหัว ปวดท้องมากกว่าเดิม และเมื่อถึงเตียงนอนก็คว้าขวดยาแก้แพ้ และยาลดไข้มากินไปอีกสองเม็ด หวังว่าคืนนี้คงจะหลับได้อย่างเป็นสุข เพราะอากาศก็ชวนให้ง่วงงุนเหลือเกิน

“ป่านนี้แสนดีจะกลับถึงบ้านหรือยังนะ” ฉันยังคงคิดถึงเขาอยู่เสมอ เมื่อมองนาฬิกาแล้วเห็นว่าเป็นเวลาที่เขาควรจะกลับถึงบ้านได้แล้ว

“โทรไปถามสิ” เสียงหนึ่งในใจบอกกับฉัน

“ไม่นะ! ขืนโทรไปนายตัวร้ายก็จะได้ใจ หาว่าเราง้อน่ะสิ” อีกเสียงหนึ่งร้องค้านขึ้นมา

ฉันไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่ถือโทรศัพท์ค้างเอาไว้อยู่อย่างนั้น แล้วนอนฟังเสียงฝนสลับกับเสียงทุ่มเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตายในหัวจนกระทั่งหลับไป

เสียงเพลงจากวิทยุที่อยู่ชั้นล่างยังคงส่งเสียงออกมาอยู่เรื่อยๆ เมื่อเจ้าของละเลยความสนใจไม่ได้ปิดมัน เพลงแล้วเพลงเล่าถูกเปิดขึ้นมา แล้วก็จบลงไป ดึกแล้ว ดีเจเปลี่ยนไปเปิดเพลงช้าๆ ให้เข้ากับบรรยากาศสลัวของยามค่ำคืน

“อยู่เป็นเพื่อนคนนอนดึกนะครับ ใครที่กำลังจะเข้านอนก็ขอให้หลับฝันดี ส่วนคนที่กำลังจะกลับบ้าน ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ ผมดีเจโอม...”

“ห-วื-ด” มือหนาเอื้อมมือมาเบาวอลุ่มเสียงลง ร่างสูงโปร่งเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม เขาหยิบน้ำผักผลไม้ของวันใสที่เหลืออยู่ครึ่งกล่องมายกดื่มรวดเดียวจนหมด หลังจากนั้นก็ควานหาช็อคโกแลตที่อยู่ในตู้เย็นไปด้วย ในความมืดของห้อง เพชรสามเม็ดที่ฝังอยู่ที่เรือนแหวนก็ส่งประกายวูบวาบออกมาจากนิ้วมือข้างซ้ายยามที่เขาขยับมือไปมา

“เฮ้ย! ยายตัวแสบ ช็อคโกแลตรูปม้าน้ำของฉัน ...ถูกขโมยกินเสียแล้ว” เสียงบ่นพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะส่ายหัวด้วยความอ่อนใจ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดน แต่เพราะทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ของอะไรที่ชายหนุ่มหวง จะถูกวันใสฝากรักแทบทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น...เค้กสตรอเบอรี่ ซีดีเพลง นิตยสารเล่มโปรด ลามไปเรื่อยจนถึงน้ำหอม และผ้าเช็ดหน้า

“ผ้าเช็ดหน้า” เขายิ้มให้กับตัวเอง เมื่อนึกถึงเรื่องราวของผ้าผืนน้อยนี้ขึ้นมา เหตุมันเกิดก็เพราะว่า รุ่นน้องที่ทำงานแอบชอบเขาอยู่ มาหยิบไปจากบนโต๊ะ เผอิญวันใสมาหาที่ทำงาน แล้วเห็นเข้าพอดี แจ็คพ็อตก็เลยมาออกที่เขา โดยเธอกล่าวหาว่าเขาไม่เก็บให้เรียบร้อย ทำให้ผู้หญิงคนอื่นมาหยิบเอาไป แต่สาวเจ้านางนั้นก็ไม่คืนให้ด้วยสิ อ้างว่าจะเก็บไว้เป็นที่ระลึก แสนดีเลยพูดไม่ออก ส่วนวันใสก็ยิ่งโมโหมาก นับแต่วันนั้นมา ผ้าเช็ดหน้าของแสนดีจะต้องมีชื่อของวันใสปักอยู่ด้วยทุกผืนในฐานะคู่หมั้น

วันใสขี้หึงเกินไปไหม?

ใครๆ ก็ว่าอย่างนั้น แต่เขาเห็นว่าไม่เลย เพราะการที่เธอหึงเขา นั่นย่อมหมายความว่ารักเขามาก แสนดีเห็นว่าวันใสเป็นผู้หญิงที่น่ารัก เธออ่อนโยน และมีจิตใจดี ถึงแม้ว่าจะขี้โมโหไปบ้างก็ตาม แต่เท่านั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา และเพราะความเป็นตัวของตัวเองนี่แหละ ที่ทำให้แสนดีตัดสินใจเลือกผู้หญิงคนนี้มาร่วมชีวิตด้วยในอนาคต

แสนดีคิดไปถึงตอนจีบกันใหม่ๆ เขาแอบไปเขียนไว้บนเฟสบุ๊คของเธอว่า

“จะโกรธไหม หากจะโทรมาคุยด้วยตอนตีสาม”

“ดูก่อนว่าคุยเรื่องอะไร แต่ถ้าโทรมาคุยเรื่องหงส์ จะโกรธมาก” แสนดีถึงกับหัวเราะออกมาทันทีเมื่อเห็นข้อความนี้ เพราะเธอรู้ว่าเขาเชียร์ทีมหงส์แดงซึ่งอยู่ทีมตรงกันข้ามกับเธอ

“แล้วถ้าคุยเรื่องหงส์แพ้ล่ะ” เขานึกสนุกจึงพิมพ์ข้อความต่อลงไป

“อันนี้ท่าจะคุยกันได้นาน”

เขาอมยิ้มให้กับอดีตอันแสนหวานเหล่านั้น จะมีผู้หญิงอีกสักกี่คนกันที่ตอบยียวนแบบนี้

ขายาวๆ ก้าวขึ้นไปชั้นบนอย่างเบากริบ อันที่จริงเรียกว่าย่องเบาดูท่าจะถูกกว่ากระมัง แสนดีค่อยๆ เปิดประตูห้องนอนอย่างเบาที่สุด แล้วเดินเข้าไปหาร่างบอบบางซึ่งกำลังหลับสนิทอยู่บนเตียง ลมหายใจที่กระเพื่อมขึ้นลงบนหน้าอกของหญิงสาวทำให้เธอดูน่ารักเป็นพิเศษ

แสนดีค่อยๆ ชะโงกหน้าเข้าไปดูใกล้ๆ แสงสลัวจากโคมไฟด้านนอกที่ส่องผ่านเข้ามาจากทางหน้าต่างห้องนอนนั้น ทำให้เขาสามารถมองเห็นเธอได้อย่างถนัดตา เขาขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วประทับรอยจูบเบาๆ เข้าที่แก้มของเธอ

“กลับมาแล้วครับ” เขากระซิบ แล้วรอการตื่นราวกับเฝ้ารอเจ้าหญิงนิทราที่หลับใหล วันใสๆ ค่อยๆ เปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้น แล้วภาพของผู้ชายที่เธอรักที่สุดก็เริ่มชัดเจน

“กลับมาแล้วเหรอ รอตั้งนานแน่ะ” เธองัวเงียพูดพร้อมกับซุกตัวลงในอ้อมกอดเขาเหมือนลูกแมวขี้อ้อน แสนดีจุมพิตที่เรือนผมดำขลับของเธอ เขาประคองกอดพร้อมทั้งมอบความอบอุ่นให้ อากาศคืนนี้เหมาะที่จะนอนกอดกันใต้ผ้านวมอุ่นๆ ที่สุด  

“ผมรักคุณนะ วันใส”

“ฉันก็รักคุณเช่นกันค่ะ”


เสียงดีเจคนเดิมจากวิทยุยังคงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับราตรีนี้ยังมีอีกยาวนาน

“ตอนนี้สายฝนข้างนอกยังโปรยปรายอยู่บ้าง ลมพัดฉิวอยู่เป็นระยะ ในค่ำคืนที่ฟ้ายังมืดมน ทั้งดาว และดวงจันทร์ก็ไม่ยอมออกมาเคียงข้าง แต่ผมเชื่อว่า อย่างน้อยที่สุด คนบางคนก็ไม่ต้องทนนอนเหน็บหนาวคนเดียวอีกต่อไป หวังว่าคืนนี้ทุกคนคงจะมีคนเคียงข้างกันนะครับ สวัสดี”

จากคุณ : amipoom
เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 54 00:01:54




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com