xxx บ่วงพันธการ..บทที่ ๓ xxx
|
 |
บทที่ ๓
ตอนสายของวันหยุด..เมธิกาตื่นลงมานั่งทานอาหารเพียงลำพังเช่นเคย และเอ่ยถามหาบิดากับคนรับใช้
เมื่อคืนพ่อกลับมารึเปล่า
เปล่าค่ะ
หญิงสาวพยักหน้าอย่างเซ็งๆและทานอาหารของตนต่อไปเรื่อยๆ..จากนั้นก็ออกไปนั่งเล่นกับสุนัขสองตัวของบิดาที่สวนหน้าบ้าน อารมณ์หดหู่เมื่อครู่เริ่มสดใสขึ้นมาบ้างเมื่อถูกออดอ้อนจากเจ้าสัตว์หน้าขนที่ยื้อยุดชวนให้เล่นด้วย เธอจึงหันไปหาลูกบอลแล้วขว้างให้พวกมันแย่งกันคาบมาให้ โดยไม่รู้เลยว่า ขณะนี้ทั้งเรือนร่างของเธอกำลังถูกโลมเลียด้วยสายตาของชายหนุ่มวัยฉกรรจ์สองคนที่ยืนแอบหลังต้นไม้
เฮ้ยไอ้ตี๋ วันนี้นางฟ้าของเอ็งอยู่บ้านเว้ย หนึ่งในสองพูดขึ้นอย่างรู้ใจ ว่าเพื่อนนั้นหลงชื่นชมลูกสาวเจ้านายตั้งแต่แรกพบเลยทีเดียว
เออว่ะ
ไม่เข้าไปหาหน่อยเรอะ..วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านด้วย
ตนเองนั้นก็อยากเข้าไปพูดคุยเป็นเดิมทุนอยู่แล้ว พอเพื่อนยุยงส่งเสริม ขาทั้งสองข้างก็ก้าวไปข้างหน้าโดยไม่เสียเวลาคิดแม้แต่เสี้ยววินาที ถึงอีกฝ่ายไม่เคยสนใจแม้จะชำเลืองหางตามามอง แต่เขาก็ไม่สน ในเมื่อคิดจะเด็ดดอกฟ้า ก็ต้องใจกล้าหน้าด้านเข้าไว้
สวัสดีครับคุณเมย์..ขอผมเล่นด้วยคนนะครับ
เมธิกาชะงักมือที่กำลังจะขว้างลูกบอล หันมาทางคนพูด..ซึ่งเป็นลูกน้องคนโปรดของพี่ชายที่เธอชังน้ำหน้าที่สุด เพราะถึงแม้คนอื่นๆจะมองมาด้วยสายตาแทะโลมเหมือนๆกัน แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาพูดคุยตีสนิทอย่างไม่รู้จักฐานะตนเองเช่นผู้ชายคนนี้
อยากเล่นลูกบอลนี่เรอะ
ครับ
งั้นก็ไปคาบมา และขว้างลูกบอลออกไป ในขณะที่คนฟังยืนหน้าตึง เอ้า ! อยากเล่นด้วยทำไมไม่ไปคาบมาล่ะ ริมฝีปากจิ้มลิ้มระเรื่อหยัดยิ้มหยัน ไม่สะทกสะท้านกับสายตาเรืองวาวของอีกฝ่าย ตบท้ายด้วยคำพูดเสียดสี กลับไปเลียแข้งเลียขาพี่เมฆคนเดียวก็พอ ไม่ต้องสะเออมายุ่งกับฉัน แล้วก็หันเดินเข้าบ้าน
ตี๋ได้แต่มองตามอย่างเจ็บใจ :-)เอ้ย ! มันน่าตบให้คว่ำจริงๆ
ใจเย็นน่า ยังไงก็น้องพี่เมฆนะโว้ย
ฮึ ! ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องพี่เมฆล่ะก็ กูจับขึงพรืดแล้ว ชายหนุ่มหายใจฟึดฟัด แต่เมื่อรู้ว่าทำอะไรไม่ได้ก็ชวนเพื่อนกลับ แต่ภายในใจก็ยังกรุ่นโกรธ..อย่าให้เขาได้มีโอกาสก็แล้วกัน จะทวงแค้นให้สาสม
เมธิกากระแทกเท้าเข้าห้องอย่างหงุดหงิด ทั้งๆที่อุตส่าห์อารมณ์ดีแล้วเชียวนะยังมีมารผจญอีก และกดโทรศัพท์ชวนเพื่อนรักทั้งสองให้ออกมาเดินเที่ยวด้วยกัน แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อทั้งสองติดภารกิจทางบ้าน ทำให้เธอต้องออกมาเดินแกร่วเพียงลำพัง
เฮ้อ! จะไปไหนดี
คิดไปคิดมา สุดท้าย..ก็วนเวียนอยู่ในวัฏจักรเดิมๆ คือ เข้าคลินิกเสริมความงาม แต่งเล็บทำผมในร้านเสริมสวยต่อด้วยการช็อปปิ้ง ซึ่งตัวเธอเองก็รู้สึกเบื่อๆเช่นกัน แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรให้มันดีไปกว่านี้ เพราะมันก็ยังดีกว่าอยู่บ้านล่ะน่า
เมธิกาเลือกซื้อของได้หลายอย่างจนเริ่มล้า จึงแวะหาเครื่องดื่มเพื่อผ่อนคลาย และหยิบโทรศัพท์มือถือกดหาพิมพ์กมล เพื่อชวนออกมาเที่ยวในค่ำคืนนี้
โอ้ย..ช่วงนี้คงต้องเพลาๆ ลงแล้วล่ะแก พ่อเริ่มบ่นเป็นหมีกินผึ้งแล้ว..เนี่ย ขู่ว่าจะจับขังฉันด้วยนะ
หูย ทำไมเดี๋ยวนี้พ่อแกโหดจัง
คงเครียดๆเรื่องงานด้วยน่ะ ฉันก็ไม่อยากขัดใจนักหรอก เดี๋ยวจะงอนไม่ยอมพูดด้วยอีก
รอยยิ้มเจื่อนเจือด้วยความอิจฉากับประโยคที่ได้ยิน เพราะเพื่อนมักจะบ่นให้ฟังบ่อยครั้งถึงบิดาที่เป็นถึงนายทหารใหญ่ มีผู้ใต้บังคับบัญชานับร้อย แต่เวลาอยู่กับครอบครัวมักจะเรียกร้องความสนใจกับลูกและภรรยาเสมอ พอถูกขัดใจก็ขึงโกรธไม่ยอมพูดด้วยเป็นวันๆ ต้องให้เข้าไปง้องอน ซึ่งใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็สามารถเรียกรอยยิ้มได้แล้ว
ในขณะที่เธอกับบิดาไม่เคยแสดงความสนิทสนมเช่นนี้ต่อกันเลยสักครั้ง อืม งั้นคืนนี้ฉันไม่ไปไหนก็ได้ ไปกับนังบีมแค่สองคนมันก็ไม่ค่อยสนุกเหมือนกัน
เออๆ ดูหนังสืออยู่บ้านมั่งก็ดี..เนี่ย ฉันก็กำลังอ่านอยู่เหมือนกัน
ไอ้ที่แกอ่านน่ะ หนังสือการ์ตูนหรือว่านิยายอย่างว่าล่ะ
อีกฝ่ายหัวเราะคิก เมื่อเพื่อนจับไต๋ได้ มันก็หนังสือเหมือนกันล่ะน่า..จะได้ไม่มีใครมาพูดได้ไงว่า คนไทยอ่านหนังสือไม่ถึงสามบรรทัดน่ะ
เออ งั้นแค่นี้ล่ะ ฉันไม่รบกวนเวลาอ่านหนังสือของแกแล้ว
พูดจบก็ตัดสายพร้อมส่ายหน้าไปมา เฮ้อ งั้นดูหนังอีกสักเรื่องแล้วค่อยกลับดีกว่า
และกว่าเมธิกาจะออกมาจากโรงภาพยนตร์อีกครั้งก็ค่ำมืดสมกับที่ตั้งใจ..ขณะเดินไปยังลานจอดรถ ก็ไม่ได้สนใจกับชายหนุ่มอีกคนที่เดินก้มหน้ากดโทรศัพท์ตามหลังอยู่ไม่ไกล เพราะคิดว่ากำลังไปที่รถยนต์ของเขาเช่นกัน จนกระทั่งปลดล็อกเปิดประตูวางถุงข้าวของและกระเป๋าถือก่อนเตรียมเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ เสียงสตาร์ทเครื่องดังมาจากรถเอสยูวีสีดำคันใหญ่ติดฟิล์มทึบซึ่งจอดอยู่ก่อนจะถึงช่องจอดรถของเธอ และตัวรถก็แล่นออกมา..ซึ่งเธอคงไม่สนใจหรอก หากเจ้ารถคันดังกล่าวไม่มาหยุดกึกขวางทางเสียดื้อๆ
บ้ารึไง !
เมธิกาเดินฉุนเฉียวไปเคาะกระจกหมายจะไล่ให้เจ้าของรถขับไปให้พ้นทาง..ในจังหวะเดียวกัน ชายหนุ่มที่เดินตามมาก็เข้าถึงตัว
มีอะไรกันหรือครับ
หญิงสาวหันไปหมายจะให้เขาช่วยเป็นพยาน ก็เจ้าของ..
แต่ก็พูดได้เพียงเท่านั้น ชายหนุ่มที่คิดว่าเป็นมิตรก็พ่นละอองน้ำออกมาจากสเปรย์ขวดเล็กในมือ
ว้าย! อะไรน่ะ!?
เธอโวยวายเสียงหลง และอึดใจต่อมาดวงตาพลัน พร่าเลือน แม้จะพยายามสะบัดหัวไปมาเพื่อเรียกสติพร้อมขยับถอยห่างหวังหาคนช่วยเหลือ แต่ก็ทนฝืนได้ไม่นาน..ร่างบางโงนเงนทรุดฮวบลงกับอ้อมแขนแกร่งที่ยื่นมารับอย่างรู้ทัน ก่อนหันเปิดประตูรถเอสยูวีพาร่างไร้สติของหญิงสาวทอดตัวลงนอนบนเบาะหลัง โดยมีสายตาของพี่ชายจับจ้องผ่านกระจก
เรียบร้อยแล้วเฮีย
ศราหันมาบอกก่อนปิดประตู อชิระจึงขับรถจากไป ปล่อยให้น้องชายขับรถของหญิงสาวออกไปอีกทาง
ต่อค่ะ
จากคุณ |
:
ระรินใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
14 มี.ค. 54 11:27:37
|
|
|
|