Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ครูแดงแข้งปืนกล ติดต่อทีมงาน

ครูแดงแข้งปืนกล

บทที่ 1
ความช่วยเหลือ

ต่อไปนี้คือเรื่องราวของครูสาวเหลือน้อย
กับเด็กตัวจ้อยหลายชีวิตที่พรหมลิขิตให้มาอยู่ด้วยกัน

ณ มุมหนึ่งของชนบท มีครูหญิงหม้ายขาพิการอยู่คนหนึ่ง
รับเลี้ยงเด็กอนาถา ที่พ่อแม่พาไปทิ้งตั้งแต่ยังจำความกันไม่ได้ หรือไม่ก็ถูกปล่อยลอยแพเพียงเพราะไม่ครบสามสิบสองต้องตามจิต ที่คิดจะมีบุตรปานเทวดานางฟ้ากลับชาติมาเกิด
เด็กเหล่านี้ล้วนแล้วแต่พิการทางร่างกายและสมอง
บางคนแขนขาด ขาขาด ตาบอด หูหนวก ออทิสติก
พวกเขาไม่ได้จะขอพลิกฟ้าท้าพระเจ้าเพื่อให้ดวงดาวเห็นใจในโชคชะตาอันบ้าบิ่นที่เล่นลิ้นกับเด็กน้อยตาดำๆ
หากแต่เพียงขอความอุปถัมภ์ค้ำจุนเกื้อหนุนให้มีพื้นที่เล็กๆ
ได้ซุกหัวนอนอยู่ในโลกที่พวกผู้ใหญ่อุปโลกน์ว่าเป็นดินแดน
แห่งความเท่าเทียม

ครูสาวใหญ่วัยหกสิบ เกษียรตัวเองจากอายุราชการ
รับเงินบำนาญเพียงน้อยนิดดูแลชีวิตเด็กยากไร้
ที่ใช่หาบุตรของตนไม่ หากแต่ครูทำสิ่งที่เรียกได้เต็มปากว่าบุญ ซึ่งคุณอันนี้จะส่งผลถึงเด็กทั้งหลายให้มีวิญญาณของนักสู้
ผู้ไม่ยอมสิโรราบกับขีดจำกัดทางร่างกายของพวกเขา

พวกเธอพิการ ครูเองก็พิการ แต่ใจเราจะไม่พิการตาม...

เรื่องราวซาบซึ้งกินใจนี้ ลอยล่องไปถึงหูผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเป็นที่เลื่องลือของครูใจบุญผู้อุปการคุณอุทิศตนเพื่อเยาวชน
ผู้น่าสงสาร แถมพิกลพิการแต่กำเนิด จึงเกิดไอเดีย
จัดทัวร์ผู้มีอันจะกินทั้งหลายไปมอบข้าวของเครื่องใช้
สัพเพเหระ ทั้งกระทะและหม้อหุงข้าว
ราวกับสาวๆเจอนักร้องเค-ป๊อปก็ไม่ปาน
อีกทั้งพวกข้าราชการ ทหาร ตำรวจ สส. สข. สว. สจ. อบต. กอ.รมน. ยัน รมต. แห่แหนกันไปช่วยเหลือ เผื่อจับพลัดจับผลู
ได้ดูตัวเองออกข่าวภาคค่ำ

“สวัสดีค่ะคุณครู” ฯพณฯท่านคุณหญิง พ.ต.ท.ศ.ดร.ไฉไล กล่าวทักทายครูผู้ยาก

“สะสะ สวัสดีจ้ะ” ครูสาวยกมือไหว้กลับ พลางนึก คนนี้ใครหนอหน้าแก่คราวพ่อ มาเรียกเราครู กรูไม่เคยสอน กศน.นะเว้ย

“มะ มากันทำไมเยอะแยะเลยคะเนี่ย”

“มาช่วยเหลือคุณครูไงครับ” ชายใส่สูทผูกไท้ รองเท้าหนังมันวับ สำทับ

“พวกนักข่าวเอาเรื่องของครูไปออกรายการวงเวียนชีวิต
ในเวบบอร์ดก็เอาประวัติไปลงทางอินเตอร์เนตจากนั้นก็กลายเป็นฟอร์เวิร์ดเมล์ ชีวิตของครูกับเด็กๆไม่ธรรมดาเลยค่ะ
พวกเราเลยมาช่วยเหลือในสิ่งที่ครูต้องการ”

“เอ่อ...ครูกับเด็กๆไม่ต้องการอะไรหรอก”รำพันในใจว่าไม่เข้าใจที่คุณท่านสาธยายมาด้วย

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ พวกเรามีกินมีใช้ไม่ลำบากเท่าครูหรอก รับไว้เถอะนะ พวกเราอยากช่วยจริงๆ”

“นี่ไงๆ น้องคนนี้ขาพิการ ส่วนคนนู้นแขนพิการ ต๊าย...สองข้างเลยค่ะคุณขา”

“น่าสงสารจริงๆดูซิ  ขี้มูกเกรอะจมูกเชียว มา เดี๋ยว ’พี่’ เช็ดให้”
ว่าแล้วท่านรัฐมนตรีวัยเหยียบห้าสิบก็อุ้มเด็กอายุห้าขวบขึ้นมา
หันหน้าไปทางนักข่าวที่ตามมาถ่ายทำ
ว่าแล้วก็ลงมือเช็ดขี้มูกหนูน้อยด้วยตัวเอง
พวกบรรดาไฮโซไฮซ้อ เห็น รมต.ทำอย่างนั้นต่อหน้ากล้อง
ก็จัดแจงเครื่องเพชรให้เสด็จเข้าที่(กลัวหล่นหาย)
อุ้มเด็กขึ้นหอมบ้าง เช็ดเนื้อเช็ดตัวบ้าง กอดบ้าง
สุดแล้วแต่ช่วงเวลาที่นักข่าวจะบันทึกได้ทัน

“แล้วครูแดงดูแลเด็กสิบกว่าคนนี้คนเดียวเลยหรือคะ” ไฮโซสาวที่โดนพวกเชี่ยวชาญในการตีบทดาราหลังข่าวจองเด็กไปหมด
ไม่เหลือถึงตัวเองสักคน จึงดึงความสนใจของตากล้องให้กลับมาที่ครูอีกครั้ง ซึ่งก็ได้ผล

“ครูแดงขาพิการได้ยังไงคะ” ไฮโซหน้าตึงเพราะดึงหนังไปเก็บไว้หลังหู เห็นนักข่าวแพนกล้องมาที่ครู จึงสู่รู้ถามสอดขึ้นบ้าง

“ใช่จ้ะ หลังจากที่สามีของครูตายไปเมื่อซัก 3 ปีได้ ครูก็รับอุปการะเด็กเหล่านี้ ส่วนขาขวา...มันพิการเมื่อกว่าสิบปีก่อน เป็นเพราะโรคเบาหวานน่ะจ้ะ ขาเทียมก็ใส่มาตั้งแต่คราวนั้น”

“โรคร้ายเลยนะคะนั่น อ่อ ทราบมาว่าสามีครูแดงเป็นทหาร”

“ใช่จ้ะ แกเป็นทหารตระเวนชายแดน ส่วนหนึ่งที่ทุกวันนี้ครูรับเลี้ยงเด็กพิการก็เพราะว่าสามีครูเองด้วย แกเคยบอกว่า
สงสารเด็กๆตามตะเข็บชายแดน นอกจากโอกาสทางการศึกษา
จะไม่ค่อยมีแล้ว ยังต้องมาบาดเจ็บหรือพิการแม้กระทั่งล้มตายเพราะเหยียบกับระเบิด ที่คนรุ่นก่อนสร้างความอัปยศกันไว้
แกบอกว่าสักวันหนึ่งจะรับเลี้ยงเด็กเหล่านี้
เหมือนมันเป็นปณิธานนะ ครูเลยอยากรับภาระนี้ต่อจากเขาจ้ะ”

“น่านับถือในวีรบุรุษของชายชาติทหารผู้นี้จริงๆครับ ผมในฐานะ ผบ.ทบ. ขอมอบยศสูงสุดให้กับสามีของครูแดง
เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล” ว่าแล้วก็มีเสียงปรบมือแสดงความยินดีกับคุณครู

“ครูแดง เด็กๆเหล่านี้ต้องการความช่วยเหลือ เราจะปล่อยให้เป็นภาระของครูคนเดียวคงไม่ได้ ขาดเหลือสิ่งใดบอกมาเลยครับ”
ชายอ้วนมั่งคั่งอีกคนเอ่ย

“จริงๆก็มี แต่ไม่อยากรบกวนอะไรมากมายหรอกจ้ะ”

“กรุณาบอกมาเถอะค่ะ พวกเรายินดี”

“เอ่อ งั้น ดิฉันอยากได้ขาเทียม แขนเทียมให้กับเด็กๆ พวกเขาจะได้วิ่งเล่น ปีนต้นไม้ หรือหัดวาดรูป แค่นั้นแหละจ้ะ”

“โอว ช่างน่าประทับใจ คุณคือครูผู้เกิดมาเป็นครูโดยแท้ เดี๋ยวพวกเราจะจัดหามาให้ ภายในอาทิตย์นี้นะคะ” ท่านคุณหญิงน้ำตากระซิกๆ ซาบซึ้งในความยิ่งใหญ่ของครูใจบุญ

“ขอบคุณพวกคุณจริงๆจ้ะ พวกเด็กๆคงดีใจที่พวกเขาจะได้วิ่งไล่จับกันในสวน ได้มีชีวิตเหมือนเด็กปกติทั่วไป”

“เดี๋ยวครั้งหน้าพวกเรามาเตรียมดีใจกันได้เลย เตรียมท้องให้ว่างๆกันด้วยนะเด็กๆ พวกพี่ๆจะเอาขนมมาฝากด้วย” ไฮโซหนุ่มกล่าว

“คร๊าบบบบบ---ค่า” เด็กๆขานรับ

“งั้นพวกเราขอตัวกลับกันก่อนนะครับ-ค่ะ เอ้าคุณนักข่าว คราวหน้าก็มากันด้วยนะ”

“ขอบคุณจริงๆนะคะ ขอบคุณมากๆ” ครูแดงยกมือไหว้ อวยพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ให้บรรดาคนใจบุญเหล่านั้นพบพานกับความสุขความเจริญ ไม่เจ็บไม่จนเหมือนตน
ถึงพวกเขาหายลับกลับไปนานแล้ว แม้จะไม่ได้ยินในสิ่งที่ครูอวยชัยให้ก็ตาม แต่ครูแดงเองก็อฐิษฐานนานนมจนเด็กน้อยต้องมาสะกิด

“แม่แดง...ไปวาดรูปกังเถอะ”



บทที่ 2
ของเหลือ

“ง่า...แม่แดงๆ ขาเทียมของผมพังแล้วอ่า...” เด็กน้อยร้องจ้า หลังจากวิ่งเล่นกับขาใหม่ได้เพียงชั่วอึดใจ

“เป็นไปได้ยังไง จอร์จ นี่ของใหม่เลยนะ เราเล่นซนล่ะสิ ดูซิ พวกลุงๆป้าๆซาร่า เขาอุตส่าห์ซื้อให้” ครูแดงทำหน้านิ่ว

“แง้ๆๆๆๆ แม่แดงค๊า แขนเทียมหนูงอไม่ได้ มะกี๊มันยังงอได้อยู่เลย เจ๊งแล้ว เจ๊งโบ๊ะเลย แง้ๆๆๆ” เด็กหญิงอีกคนร้องลั่น

“แม่แดงๆ ไอ้น้อย ไอ้หนู ไอ้ติ๊ก แย้วก็คนอื่นๆ ขี้แตกเลอะกางเกงเต็มเลย เหม็นเน่าสุดๆ”

“อ้าว ตายล่ะ กินอะไรกันเข้าไปเนี่ย แล้วเราล่ะ เป็นเหมือนเพื่อนๆเค้ามั้ย”

“จะเหลือเหรอคับ...ยังติดตูดอยู่เลยคับ” เด็กน้อยออทิสติก ขมิบก้นไว้ กันรั่วซึม

“เกิดอะไรขึ้นกัน” ครูแดงชักหน้าเสีย ทำไมจึงเกิดเรื่องวุ่นวายในคราวเดียวกันแบบนี้

“ผมว่าเป็นเพราะไส้กรอกคุณป้านั่นแน่ๆเยยคับ ผมว่าแย้ว
กลิ่นมันตุๆ ไม่เหมือนที่แม่แดงซื้อให้พวกเรากิน”
เด็กน้อยออทิสติกพูดเสร็จ ขี้ที่อั้นไว้ก้อนดังกล่าวก็ร่วงกราวราวเม็ดฝน

ความสับสนอลหม่านมาเยือนบ้านครูแดงเสียแล้ว ครูแดงจัดแจงหายาและเกลือแร่มาให้เด็กๆกิน หลายคนสะรืมสะรือ
แต่อาการไม่น่าเป็นห่วง เมื่อเสร็จภาระกับเด็กๆ
ครูแดงนั่งครุ่นคิด พบว่าของทั้งหลายแหล่ที่บรรดาท่านๆคุณๆนำมามอบนั้นล้วนแต่เป็นของสัปปะรังเค อาหารเอย ขนมเอย
ของเล่นเอย ไม่ได้ผ่านมาตรฐาน มอก. หรือ อย. ใดๆ เมื่อพลิกซองด้านหลังมาดู ก็พบว่าหมดอายุแล้วทั้งสิ้น
แล้วไหนจะแขนขาเทียมที่เด็กๆใฝ่ฝันว่าสักวันจะได้เดินได้วิ่งเหมือนคนปกติ ก็หักก็พัง เพราะไม่ได้คุณภาพ
ครูแดงหยิบจับขึ้นมาพิเคราะห์แล้วเปรียบเทียบกับขาเทียมของตนก็ทราบได้ทันทีว่า นี่มันเปเปอร์มาเช่ชัดๆ
แขนขาเทียมนะโว้ย ไม่ใช่กระปุกหมูออมสิน ครูแดงนั่งร้องไห้ เด็กๆที่ยังพอเดินไหวต่างกรูกันเข้ามาหาแม่อันเป็นที่รักของพวกเขา

“แม่จ๋า...เป็นอะไรจ๊ะ” เด็กน้อยถาม

“เปล่าจ้ะ...แม่ไม่ได้เป็นอะไร เดี๋ยวแม่มานะ ไปทำธุระข้างนอก
ก่อน เอ่อ..แม่ฝากน้องๆไว้กับหนูได้มั้ยคะ”

“ได้ค่ะ”

“แม่ขอแขนเทียมข้างที่หักของหนูไปด้วยนะคะ”

“ได้ค่ะ เอ่อ..แม่แดงคะ แขนเทียมนี้มันสมุดหน้าเหลืองนี่คะ”



บทที่ 3
ความเหลืออดเหลือทน

“นี่มันอะไรกันคะ ทำไมเอาของที่พวกเราเต็มใจให้มาปาทิ้งกันอย่างนี้” คุณหญิงส้มเช้ง กระเด้งกระดอน ราวถูกน้ำร้อนลวก

“ใจเย็นๆกันก่อนครับ อาจมีเรื่องเข้าใจผิด ครูแดงทำไมทำอย่างนี้ล่ะครับ” ไฮโซหนุ่มหน้าหักสะบัดผมทรงเกาหลี เข้าห้ามปราม

“ดิฉันจะมาถามพวกคุณๆนี่แหละ ว่าของที่ให้มาน่ะ มันเป็นอะไรกันแน่” ครูแดงสวนกลับ

“ท่าทางครูมันจะรู้แล้วว่ะ เฮ้ย..ไอ้ปื๊ด ไปดูซิว่านักข่าวมันกลับไปกันหมดหรือยัง” ท่านรัฐมนตรีกระซิบกับคนขับรถให้ไปดูลาดเลา

“คงมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ๆ ครูแดงเรามาคุยกันเงียบๆ มีเหตุผล แบบชนชั้นคนมีการศึกษาดีกว่านะครับ”

“จะให้ดิฉันตีหน้าเซ่อเหมือนพวกคุณได้ยังไง ดูนี่สิ นี่มันแขนเทียมที่ทำมาจากสมุดหน้าเหลือง” ครูพูดจบก็ยื่นให้เหล่าเศรษฐีทั้งหลายชม

“พังเร็วจังวะ เอ้ย พังได้ยังไงเนี่ย ต้องขอโทษครูแดงจริงๆ ครับ พวกเราไม่ทราบมาก่อนว่ามันใช้ของอย่างนี้ทำขาเทียม แขนเทียม เดี๋ยวพวกเราจะจัดซื้อให้ใหม่ คราวนี้เป็นไทเทเนี่ยมเลยเอ้า” ท่านรัฐมนตรีกล่าว

ระหว่างที่ครูแดงกำลังลังเลใจ คนขับรถก็วิ่งมาหาท่านรัฐมนตรีพลางกระซิบข้างหูว่า...

“ท่านครับ นักข่าวกลับไปกันหมดแล้วครับ”

“เหรอ   อืม.....ครูแดง มีสัมมาคารวะหน่อย อยากได้อีกก็บอกกันดีๆ ไม่เห็นต้องทำลายข้าวของกันเลย หลายบาทนะ น้ำหน้าอย่างครูมีปัญญาซื้อเหรอ คงไม่มีใช่มั้ยล่ะ”

“ครู พอเถอะ ให้แล้วก็แล้วกัน พวกเราเวทนาครูนะ ที่ต้องเลี้ยงเด็กเหลือขอพวกนั้น แต่ไม่เห็นต้องเดือดดารอย่างนี้เลย” คุณชายอีกคนพะงาบปากตามท่านรัฐมนตรี

“ฉันไม่ได้ต้องการอะไร ฉันแค่อยากให้เด็กๆได้ทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ เทียบเท่าเด็กคนอื่นๆ แต่พวกคุณ...พวกคุณเอาของห่วยแตกเหล่านี้มาทำให้พวกเขาดีใจแล้วกลับกลายเป็นแค่เศษขยะ ไหนจะอาหารที่หมดอายุเอามาให้กินกันอีก ลูกๆของดิฉันท้องเสียเกือบทุกคน ฮือๆ” ครูแดงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
บรรดาผู้มีกินเหลือใช้ทั้งหลายต่างกุรีกุจอรีบขึ้นรถเก๋งคันงาม
โดยทิ้งครูแก่ขาพิการไว้เบื้องหลัง หากไม่รีบไปกลัวจะต้องเสียเวลาและเดี๋ยวจะต้องออกข่าวสังคมที่อื่นต่อ

“กว่าผมจะเบิกเงินจากกระทรวงได้ เลือดตาแทบกระเด็น”

“อ้าว...ผมนึกว่าท่าน ใช้เงินส่วนตัวเสียอีก”

“หึหึ ผมไม่โง่ขนาดนั้นหรอก ซื้อแขนขาปลอมก็หลายบาทอยู่ ส่วนที่เหลือผมก็เอาเข้ากระเป๋าผมสิ ภรรยาคุณก็ทำอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ เรี่ยไรจากกองทุนอะไรนะ ผมจำไม่ได้ แต่ช่างมันเถอะ แล้วก็ซื้ออาหารสั่วๆให้แทนอย่างนี้ประจำไม่ใช่เหรอ ผมรู้น่า”

“แหม..ท่านก็ ทุกทีไอ้เด็กพวกนี้ กระเพาะวัวกระเพาะควายแท้ๆ แต่ทำไมคราวนี้ เอาของหมดอายุแค่ 2 เดือน ให้กินมันถึงขี้แตกกันนะ ผมล่ะงง”

“แล้วจะเอาเงินไปทำอะไรดีล่ะ ออกรอบตีกอล์ฟดีมั้ย”

“เดี๋ยวผมขอถามลูกสาวก่อน เห็นแกบ่นอยากได้น้องไบลด์
ตัวที่47”

“อะอะ รักลูกรักเมียจังนะคุณ ฮ่าๆ”



บทที่ 4
ความกราดเกรี้ยวของเสือเขี้ยวตัน
(บทสรุปของคนเหลือเดน)

“ครูแดง...พวกเราขอโทษ พวกเราผิดไปแล้ว ดะดะเดี๋ยวเอาเงินสดไปเลย อย่าทำอะไรฉันนะ พรีสสสส”

หลังจากที่บรรดาเศรษฐีใจชั่ว ทยอยเดินทางกลับ ครูแดงซึ่งขับรถกระบะคันเก่าของสามี ออกตามขบวนพวกนั้นไป ขณะอยู่บนรถ
แกถอดเอาขาเทียมออก แล้วเอาปืนเอ็ม 16 ของสามีสมัยเป็นทหารมาเสียบแทนที่ ยกขึ้นพาดหน้าต่างรถ กราดยิงขบวนเก๋งคันหน้า คันแล้วคันเล่า ราวกับหนังแอ๊คชั่นฮาร์ดคอร์
เศษกระจกแตกเหมือนเมล็ดข้าวโพดที่ถูกคั่วกระโดดกระเด้ง
ละทิศละทาง บรรดาไฮโซ ผู้มีสีมีบารมี
มีอำนาจทางการเมืองตายคาเบาะหลัง คนขับตายคาพวงมาลัยก่อนจะได้ยินเสียงลมหายใจครั้งสุดท้ายของตัวเอง
เมื่อวิญญาณออกจากร่าง รถที่ไร้คนคุมก็ทยอยตกไหล่ทาง
ดั่งคนแพ้แล้วล้มกระดานหมากรุก
เสียงตูมระเบิดของรถยุโรปฟังดูไพเราะกว่ารถญี่ปุ่นซึ่งกลบเสียงสาดกระสุนระรัวถล่มเป็นเสียงร้องแร๊พแปล๊บๆยิ่งกว่าแบล๊ค อายส์ พีส์ ครูแดงสาดรังเพลิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นจนเหลือเพียงคันสุดท้าย
ซึ่งจอดตายอยู่เบื้องหน้า มียัยบ้าหัวกระเจิงคลานเป็นกิ้งก่าออกมาทางหน้าต่างรถที่พลิกคว่ำข้างถนน

“ครูแดง...พวกเราขอโทษ พวกเราผิดไปแล้ว ดะดะเดี๋ยวเอาเงินสดไปเลย อย่าทำอะไรฉันนะ พรีสสสส” เสียงท่านผู้หญิงกระเส่า
เหงื่อกาฬแตกพลั่กดั่งพายุฝนกระหน่ำฉ่ำใบหน้า
โชคดีฉี่ยังไม่ไหล

“ท่านรัฐมนตรีล่ะ ทะทะท่านอยู่ไหน ฮือๆ”

“รถตกไหล่ทาง..ตายห่าไปแล้ว”

“โฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

“หยุดร้องซักทีอีเปรต  ฟังนะ  ลูกๆของฉันไม่ได้เหลือขอ
ถึงร่างกายจะพิการแต่หัวใจไม่ พวกเขาลำบาก ด้อยโอกาส
แล้วสิ่งที่อยากได้ก็คือแขนขาเทียม เพื่อให้เขาได้มีอิสระในความเป็นมนุษย์เท่าที่ทุกคนพึงมี การได้วิ่ง การได้กระโดด
การได้ยืนและเดินเช่นเด็กอื่นๆ เพื่อพวกเขาจะได้หัวเราะหรือร้องไห้กับความเจ็บปวดที่ล้มเพราะปีนต้นไม้
เพราะความซนตามประสา
แต่พวกเขาต้องไม่ใช่มาร้องไห้เพราะไอ้ความเฮงซวยของผู้ใหญ่อย่างพวกแก ของมันก็เป็นของเทียมอยู่แล้ว
ยังจะเอาของปลอมมาให้อีก อีเวรเอ๊ย”

ครูแดงเอาขาที่ติดด้ามปืนตวัดเข้าปลายคางท่านผู้หญิง
ฟันปลอมกระเด็นหลุดออกมาทั้งกระทรวง ทบวง กรม
เลือดกลบปากไหลอาบถนนสีแดงฉาน

“อยากจะพูดอะไรก่อนไปเฝ้ายมบาลหรือเปล่า”

“ขะขะขะ...ขอใส่ฟันปลอมก่อนตาย...ด้ายยย....มั้ย”

 
 

จากคุณ : เตี้ยโต้รุ่ง
เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 54 20:13:28




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com