1 นางฟ้าที่ไม่มีใครรัก
ฉันชื่อ แองเจลล่า ลี ค่ะ... ชื่อฝรั่ง นางสกุลพยางค์เดียว ไม่ว่าใครเห็นชื่อฉันก็ต้องฟันธงฉับว่ายัยนี่ไม่ใช่คนไทยแน่ๆ ชื่ออย่างนี้ต้องเป็นฮ่องกง ไม่ก็ใต้หวัน ไม่ก็พวกชาวจีนโพ้นทะเลในยุโรปหรืออเมริกา แถมหน้าตาของฉันก็หมวยซะจนคนจีนแท้ๆ จากแผ่นดินใหญ่ดูคมเข้มไปเลย
ผมของฉันเป็นสีดำ แต่ก็ไม่ดำสนิท เวลาไปยืนกลางแดดแล้วจะเห็นเป็นสีน้ำตาล ผมตรงเส้นเล็ก ทรงผม เอ่อ... ไม่มีทรงแน่นอน เพราะฉันไว้ผมยาวถึงเกือบกลางหลัง ถ้าขี้เกียจ ฉันก็ปล่อยมันอย่างงั้น บางวันฉันก็รวบไว้ นึกครื้มใจก็ลุกขึ้นมาถักสองเปียมั่ง มัดสามจุกบ้าง บางทีก็ยีฟูๆ หรือถักเปียเล็กๆ ทั้งหัว บางครั้งก็ติดกิ๊บดีไซน์แปลกๆ ที่ฉันสะสมไว้ ซื้อบ้าง ออกแบบและทำเองบ้างจนเต็มหัว ไม่ก็ทำทรงที่ยังไม่มีใครตั้งชื่อ คนอื่นเรียกรวมๆ ว่า ทรงบ้าๆ บอๆ ...ไม่รู้สิคะ ฉันตอบไม่ได้ว่าทำไปเพื่ออะไร มันเป็นความสุขใจเล็กๆ น้อยๆ อาจจะด้วยความเป็นศิลปิลลล... ชอบทำอะไรให้มันแตกต่างจากชาวบ้านชาวช่องเข้าไว้ ดูมีเอกลักษณ์ดี หรือลึกๆ แล้ว... ฉันก็แค่อยากเรียกร้องความสนใจก็เป็นได้
เรียกร้องความสนใจจากใครเหรอคะ? หุหุ... ไม่มีหรอกค่ะ ฉันก็พูดไปให้มันน่าสงสารไปอย่างงั้นเอง จริงๆ ฉันพอใจในสิ่งที่ฉันมีอยู่ ฉันไม่ใช่เด็กมีปัญหา ขาดความรัก หรือด้อยโอกาสสักหน่อย
จริงๆ ที่ฉันต้องเรียกร้องความสนใจให้มากๆ อาจจะเป็นเพราะหน้าตาฉันมันไม่มีอะไรน่าสนใจ...ใบหน้าเล็กๆ คิ้วบางๆ ตาเล็กๆ จมูกเล็กๆ ปากเล็กๆ ผิวขาวๆ เกลี้ยงๆ ... ไม่มีอะไรโดดเด่น ยกเว้นรอยยิ้มของฉัน
ตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว พวกผู้ใหญ่มักชมว่า ฉันยิ้มน่ารัก ฉันคิดมาตลอดว่าพวกเขาคงไม่รู้จะชมหน้าขาวๆ จืดๆ ของฉันว่าอะไร แต่เกรงใจ เลยหาเรื่องชมไปตามมารยาท ...แต่พอโตขึ้นมา กลับมีเพื่อนๆ หลายคนช่วยกันยืนยันบอกว่า ฉันยิ้มได้ใจมาก บางคนก็บอกว่า เห็นฉันยิ้มแล้วหายเครียดดี ส่วนบางคนบอกว่า ยิ้มของฉันทำให้ใครๆ อยากยิ้มตามไปด้วย...
เวลายิ้ม ตาหยีๆ เล็กๆ ของฉันจะหยีจนเป็นเส้นโค้งสองเส้น ฉันไม่เคยภูมิใจกับตาสองชั้นแบบหลบในคู่นี้เลย จนกระทั่งวันหนึ่งข้างหน้า... มีคนคนหนึ่งบอกกับฉันว่ารอยยิ้มของฉันไม่ได้อยู่ที่ปาก แต่อยู่ที่ตา
เขายังบอกอีกว่า เขาชอบตาของฉัน มันดูสดใสไร้เดียงสาเหมือนพระจันทร์เสี้ยวบางๆ ดวงใหม่ในคืนแรกของข้างขึ้น
แอร๊ง... เขิลจังเยย... งิ๊งๆ
ที่สำคัญ... เขาเห็นเคียวเกี่ยวข้าวทีไร เขาจะคิดถึงรอยยิ้มที่ตาของฉันทุกที... คุณห้ามเม้นนะว่า คนอะไรพูดจาเชยสิ้นดี ฉันจะโกรธด้วย
สรุปว่า หน้าฉันไม่สวย แต่ก็ไม่ถึงกับห่วย ออกแนวลั้นลา มีรอยยิ้มเป็นที่เชิดหน้าชูตา กับทรงผมบ้าๆ เป็นเอกลักษณ์
รูปร่างเหรอคะ... เล็กค่ะ ด้วยความสูง (ปัดเศษขึ้น) 157 ซม. น้ำหนัก (ปัดเศษลง) 42 กก. กับสัดส่วนแบนๆ คัพ A75 หลวมๆ ของฉัน หญิงสาวที่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีอายุย่างยี่สิบสองจึงมองไกลๆ เหมือนเด็กเพิ่งกำลังโต... หุหุ เด็กบ้าด้วย เพราะฉันชอบออกแบบและตัดเสื้อผ้าใส่เอง รับรองได้ไม่ซ้ำใคร แม้แต่ลายผ้าฉันก็ยังเพ้นท์เอง เสื้อผ้าเครื่องประดับตามแฟชั่นไม่ว่าจะแบรนด์เนมหรือโนเนมที่ขายๆ กันน่ะเหรอ เหอๆ อย่าหวังแอ้มเงินในกระเป๋าฉันเลย ฝันไปเหอะ
เครื่องประดับส่วนมากฉันก็ออกแบบและทำเอง ไม่ก็ซื้อของที่เขาทำแฮนด์เมด อีกทีก็เพื่อนทำให้เป็นของขวัญเพราะรู้ว่าฉันชอบ ฉันสะสมกำไลข้อมือข้อเท้า สร้อยคอ สร้อยเอว ปลอกคอ ตุ้มหู ตุ้มจมูก ตุ้มสะดือ เข็มขัด เข็มกลัด และอื่นๆ อีกมากมาย นับรวมแล้วกว่าหมื่นชิ้น
ฉันเจาะรูที่หูข้างละสิบกว่ารู ฉันอยากอวดด้วยความภูมิใจอีกด้วยว่า นอกจากใส่ตุ้มหูที่ฉันทำเองแล้วฉันยังเจาะหูเองกับมือ สะดือฉันก็เจาะเอง คิ้วกับจมูกด้วยนะคะ (เฮ่อ... ไม่น่าเลย ตอนที่ฉันเจาะจมูกนี่ ฉันไม่คิดมาก่อนว่า ในอนาคต ฉันจะได้ใช้มันในอีกรูปแบบนอกจากใส่ตุ้มจมูก เหมือนสาปแช่งตัวเองว่าสักวันหนึ่งจะต้องกลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่เค้าไม่ใส่ปลอกคอแต่นิยมร้อยเชือกที่จมูกผูกกับเสาใต้ถุนบ้าน!)
นี่คงเป็นอีกข้อที่คนมักทักผิดคิดว่าฉันไม่ใช่คนไทย เพราะหญิงไทยส่วนใหญ่ใส่เสื้อผ้าตามแฟชั่น เหมือนๆ กันหมด ถ้ายุคนั้นฮิตเสื้อๆ ตัวเล็กๆ ก็อายที่จะใส่เสื้อตัวหลวมๆ โตๆ ออกไปเดินนอกบ้าน กลัวเพื่อนดูถูกว่าเอ๊าท์ เก่า เชย และหน้าบางเกินกว่าจะกล้าแต่งตัวตามหัวใจอย่างฉัน
แนวไหน? ถ้าคุณถามว่าเสื้อผ้าเครื่องประดับที่ฉันผลิตเองเป็นแนวไหน ฉันต้องขอโทษด้วยที่ตอบคุณไม่ถูกเหมือนกัน ฉันไม่เคยตั้งชื่อแนว แต่ผลงานของฉันมีชื่อของมันเองทุกชิ้นนะคะ ถ้าจะให้ฉันบรรยายถึงผลงานที่ฉันทำ เพื่อให้คุณจิ้นออกว่าหน้าตาเสื้อผ้าที่ยัยนี่ใส่เป็นยังไงหว่า ฉันขอบอกว่า อย่าเลยค่ะ ไม่รู้ว่าต้องใช้พลังงานปั้นคำอธิบายกี่ตัวอักษรเพื่อบรรยายจนคุณเห็นภาพ เพราะฉันไม่ยึดติด ผลงานก็เลยมีความหลายหลายมาก ทั้งวัสดุและรูปแบบ ขอแค่ให้รู้ว่า เสื้อผ้าที่ฉันทำใส่ เต็มไปด้วยไอเดียกระฉูด ไม่มีใครเหมือน ส่วนสวยหรือไม่ ต้องแล้วแต่ว่าตาถึงหรือเปล่า มันนิชช์มาร์เก็ตสุดๆ ถ้าคิดจะเปิดร้านขายเสื้อผ้าล่ะก็ คงเจ๊งแน่ แค่ให้เพื่อนยืมใส่ ยังไม่มีใครเค้ากล้าใส่เลยค่ะ
กูยอมแก้ผ้าดีกว่าบ้าว่ะ ชิชิ... ไอ้พวกตาไม่ถึงมันเมินชุดสวยๆ ของฉันด้วยประโยคนี้
บ้าเหรอคะ? ไม่นะ ฉันไม่ได้บ้า แค่คนรอบข้างฉันมักเห็นฉันเป็นตัวตลก ไม่ว่าเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง อาจารย์ทุกสถาบันที่ฉันเรียนมา แม้แต่คนในบ้าน พวกเขาชอบแซวฉัน แกล้งฉันด้วยความรักใคร่เอ็นดู (มั๊งคะ) คงเพราะฉันน่าแกล้ง รับมุกได้ ไม่สะทกสะท้าน หน้าด้าน ไร้ยางอาย ไม่เคยโกรธงอน น้อยใจ หรือคิดมาก อารมณ์ดี แล้วที่สำคัญ ยุขึ้น ใครอย่ามาท้าให้ฉันทำอะไรนะ ฉันทำจริงๆ ด้วย
ดังนั้น ฉันมีชื่อเล่นว่า แองจี้ มาจากชื่อจริงของฉัน แองเจลล่า ลี แต่หลายคนเรียกฉันสั้นๆ ว่า จี้ ...บางทีก็ ยัยจี้เส้น หรือ ยัยบ้าจี้
ก็ฉันน่ะ เส้นตื้นสุดๆ อะไรนิดหน่อย โดยเฉพาะเรื่องติงต๊องงี่เง่า ก็ทำฉันขำได้แล้ว บางครั้ง พอเริ่มหัวเราะ ฉันก็เบรกไม่ได้ หัวเราะอยู่คนเดียวจนปวดท้อง แต่บางที...ฉันก็ดันขำในสิ่งที่ไม่ควรขำ กลั้นหัวเราะไม่อยู่ปล่อยก๊ากออกมาผิดที่ผิดทาง อย่างเช่น...
จากคุณ |
:
Acciacatura
|
เขียนเมื่อ |
:
20 มี.ค. 54 22:28:57
|
|
|
|