Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
นิมิตแสงจันทร์ - บรรพที่ 3 ติดต่อทีมงาน

บรรพที่ 3


คิล ชลันธีร์ ยังนั่งครุ่นคิดถึงบางสิ่งอยู่ในโถงนั่งเล่น  แม้ว่าจะส่งตัวต้นเหตุแห่งความวิตกกังวล
เข้านอนไปแล้วก็ตาม  แต่ดูเหมือนสิ่งที่รับรู้มาจะแพร่เข้าสู่ห้วงความคิดได้ไวราวกับเชื้อโรค  
ชายหนุ่มไม่เข้าใจนิมิตแห่งฝันของน้องชายนัก  แต่ก็เชื่อในสังหรณ์นั้น  ครั้งนี้ดูท่าจะเป็นเรื่อง
ร้ายแรงไม่น้อย  ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไรคำถามก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาไม่อาจ
ตอบปริศนานั้นได้เลยสักข้อเดียว   อคิลสะบัดศีรษะโดยแรงไม่อยากปล่อยให้ความเครียด
เข้าปกคลุมตนเองอย่างน้องชาย  เขาลุกขึ้นเดินไปยังบานหน้าต่าง  มองลอดผ่านม่านราตรี
ออกไปยังดวงจันทร์ที่ทอแสงบนฟากฟ้า


“มามา...ถ้าเป็นมามา จะรู้ไหมว่ามันเป็นลางอะไร?” นายทหารหนุ่มพึมพำอยู่เดียวดาย
หากไม่นานนักก็ตอบตนเองว่ามารดาของเขาต้องรู้แน่  นิมิตของมารดาแรงกล้ากว่าภามินนัก!



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



‘นางพรายนีรา’ นามอาถรรพ์นี้ผุดขึ้นมาในสมองอคิล  ตามด้วยอีกนามหนึ่ง ‘ปาฏิรา’
ชื่อสกุลใหญ่ที่เคียงคู่วิปุลามาแต่ต้นปฐมบทแห่งประเทศ  หากกล่าวถึงมุขปาฐะ
การก่อตั้งประเทศแบบตำนานพื้นบ้านเสียหน่อย นางพรายนีราดลนิมิตให้ปฐมวงศ์
แห่งราชวงศ์ไทวาวัตผู้ปกครองประเทศ  มาเลือกสถานที่แห่งนี้เพื่อสร้างวิปุลา  
แล้วสืบต่อความเชื่อนั้นว่านางพรายนั้นสืบเชื้อสายมาในตระกูลปาฏิรา  และมารดา
ของเขา ชามี – ดามิสา ก็มาจากตระกูลปาฏิราเช่นกัน  ทว่าความเชื่อนั้นมีข้อแม้  
พลังนิมิตของนางพรายนั้นจะสืบสายเลือดมายัง ‘ชามี แห่ง ปาฏิรา’ เท่านั้น  
ยังไม่เคยได้ยินว่ามี ‘เชวา’ ของปาฏิราคนใดได้รับพลังนี้  แล้วยิ่งกับภามิน  น้องของเขา
เป็นเชวาของชลันธีร์เสียด้วยซ้ำ  


แต่ภามินได้มันมา พลังที่เจ้าตัวเองมิได้ต้องการ บางทีอาจจะเป็นลิขิตของสวรรค์ หรือจะเป็น
ความปรารถนาสุดท้ายก่อนปราณมรณะของมามาจะมาถึงก็เป็นได้


อคิลยังจำได้ตอนที่เขาเริ่มรับรู้จิตนิมิตของมามา  ชามี ดามิสา กำลังตั้งครรภ์บุตรคนสุดท้อง
ได้หกเดือน  ส่วนเขาอายุได้ห้าปี  อคิลยังแนบสนิทในความทรงจำว่ามารดาผู้อ่อนโยน งดงาม
และร่าเริง ประหนึ่งผีเสื้อน้อยกำลังเริงระบำอยู่ท่ามกลางมวลมาลี  


“คนนี้น่าจะเป็นลูกสาวนะ” ยศในขณะนั้นของบิดาคือพันโทภัณฑิล  ผู้ซึ่งหมายมั่นว่า
มีบุตรชายมาแล้วคนหนึ่ง คนต่อมาน่าจะเป็นบุตรี  


“นั่นสิคะ ชามีหน้าใสเนียนสวยเชียว อย่างนี้น่าจะเป็นผู้หญิงแน่ๆ” แม่บ้านวัยกลางคน
กล่าวสนับสนุน


“ก็ดีสิ...ยัยหนูต้องออกมาสวยเหมือนแม่แน่ๆ  คราวนี้จะเรียกสินสอดจากไอ้ธรัณให้หนักเลย”


ภัณฑิลหมายถึงธรัณ ธราณินทร์ สหายรัก ซึ่งเคยสัญญากันไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะ  ว่าหาก
แต่ละฝ่ายมีบุตรเป็นเพศตรงกันข้าม จะให้แต่งงานเพื่อผูกสัมพันธ์สองตระกูลให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น  
แต่บุตรคนแรกของทั้งสองฝ่ายกลับเป็นบุตรชาย  ประมุขของทั้งสองตระกูลก็ยังไม่ทิ้งความหวัง
และเมื่อดามิสาภรรยาของเขาตั้งท้องอีกครั้ง  ภัณฑิลจึงเกิดความหวังขึ้นมาอีกครา


“โฮะ โฮะ โฮะ เสียใจด้วยนะคะท่านพี่ ท่าทางจะต้องให้ลูกชายท่านธรัณไปหาเจ้าสาว
เอาข้างหน้าแล้วล่ะ”


“อ้าว?” ทั้งสามีทั้งแม่บ้านหันขวับกลับมามองหล่อนเป็นตาเดียว


“ก็ในท้องนี่น่ะ...เป็นตาหนูไม่ใช่ยายหนูสักหน่อย  คงต้องหาชื่อเด็กผู้ชายเตรียมไว้แล้วล่ะค่ะ”


“หะ..หา เด็กผู้ชาย?” พันโทภัณฑิลตั้งตัวไม่ทัน จึงนึกฉงนอย่างที่สุด


“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ  หรือว่าท่านพี่ไม่อยากได้ลูกชาย  แบบนี้ตาหนูเสียใจแย่เลย”


“เปล่า! ไม่ใช่อย่างนั้น  สำหรับพี่น่ะ ลูกสาวหรือลูกชายก็ได้  ลูกของเราพี่รักทั้งนั้นแหละ  
แต่ว่าดามิสาน้องไปอัลตร้าซาวด์มาเมื่อไรรึ? ไม่เห็นบอกพี่บ้างเลย” แน่ล่ะเขาอยากรู้เพศลูก
จะแย่อยู่แล้ว หากภรรยาบอกสักคำเขาจะลางานไปเป็นเพื่อนทันที


“โอ้ยยย..ย ของแบบนี้ไม่ต้องไปอัลตร้าซาวด์หรอกค่ะท่านพี่  เรื่องแบบนี้น่ะคนเป็นแม่เขา
รู้ก่อนหมออีกค่ะ


“อย่างนั้นเหรอจ๊ะ?” คิ้วเข้มของสามีเลิกขึ้นด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่ติดใจสงสัยอะไร  
จนดามิสาลอบขบขันสามีที่แสนซื่อของหล่อน  ยามปกติเขาเคร่งขรึมจริงจังยิ่งนัก  แต่บัดนี้
สีหน้าประหลาดใจที่หลุดออกมาดูช่างเด๋อด๋าน่ารัก


“อุ๊ย...ถ้าอย่างนั้นคงต้องเตรียมชุดเด็กอ่อนเป็นของเด็กผู้ชายแล้วสินะคะ” บารวัณแม่บ้าน
ของดามิสานั้นติดตามชามีของหล่อนมาแต่บ้านเดิม  เมื่อได้ยินนายสาวพูดดังนั้น
หล่อนก็ไม่ติดใจสงสัยสิ่งใดอีก


“ใช่จ้ะ ป้า  แต่คงต้องซื้อใหม่  เสื้อผ้าเก่าของอคิลตอนเล็กๆ ฉันก็ดันเอาไปบริจาค
หมดแล้วด้วยสิ”


“ไม่เป็นไร ซื้อใหม่ไปให้หมดนั่นแหละ เท่าไรเท่ากัน” พันโทภัณฑิลกล่าวอย่างยินดี “แต่นะ...
เจ้าธรัณมันคงเสียดายแย่  ที่ไม่มีบุญมาดองกับเรา ฮ่า ฮ่า ฮ่า”


“ก็อย่าเพิ่งไปบอกเขาสิคะ  ปิดไว้ก่อน  เขาจะได้เตรียมของรับขวัญตาหนูคนใหม่ไว้เยอะๆ
เพราะคิดว่าจะได้เป็นลูกสะใภ้ไงคะ” แล้วนายหญิงแห่งตระกูลชลันธีร์ก็ส่งเสียงหัวเราะ
ให้กับความคิดเจ้าเล่ห์ของตนเอง


“เออจริง อย่าเพิ่งให้มันรู้  เดี๋ยวมันพาลของขวัญจะชิ้นเล็กไม่ดีๆ”


สองสามีภรรยาหัวเราะให้กันและกันอย่างมีความสุข   ในขณะที่บุตรชายคนโตที่เพิ่งอิ่ม
จากอาหารมื้อกลางวัน ริมฝีปากยังเปื้อนซอสอยู่เล็กน้อย  หันมามองบิดามารดา
ด้วยความงุนงงว่าขบขันสิ่งใด


“อคิล อยากได้น้องผู้หญิงหรือผู้ชายจ๊ะ?” ชามีดามิสาถามเขา พลางดึงทิชชู่มาคราบซอสให้


“ผู้ชายสิฮะ จะได้เล่นกัน”


“งั้นลูกสมใจแล้วล่ะ  น้องเป็นผู้ชายจ้ะ”


“จริงเหรอ?” เด็กชายมีสีหน้าตื่นเต้น แล้ววิ่งเข้าไปจ้องมองท้องกลมๆ ของมารดา ก่อนจะ
ขออนุญาตลูบครรภ์นั้น


“อคิล เป็นพี่แล้ว ต้องดูแลน้องนะ รักน้องให้มาก” พันโทภัณฑิลคุกเข่าลงข้างร่างเล็กของบุตรชาย
แล้วปลูกสร้างความเป็นพี่มาในคำสั่งสอนนั้น


“ครับ ผมจะปกป้องน้องเอง” เด็กชายให้สัญญา


“ดี...งั้น ปอปอ กลับไปทำงานต่อนะ” ผู้เป็นบิดาลุกขึ้น พลางมองนาฬิกาข้อมือ “บ่ายโมงกว่าแล้ว
เห็นทีต้องรีบกลับเข้ากรม” เขายิ้มให้ภรรยาและบุตรก่อนจะเร่งฝีเท้าออกจากห้องไป



แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 54 17:03:00

จากคุณ : แก้วกังไส
เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 54 16:59:52




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com