<ต่ออีกนิด>
สุนัขสามหัวตัวหนึ่งโผล่หน้าออกมาจากมุมของโขดหิน เขี้ยวขาววาววับนัยน์ตาทั้งสามคู่ลุกแดงปานแสงไฟ ที่สำคัญลำคอของมันมีโซ่เส้นหนึ่งคล้องคออยู่บ่งบอกถึงความมีเจ้าของ มันตามกลิ่นคนทั้งสองมาจนเจอ
ใครกันที่สามารถจับสุนัขสามหัวแห่งอเวจีมาใช้งานแบบนี้ได้ ดูเหมือนไม่ต้องทายให้ยากเพราะคนทั้งหกเดินเรียงกันออกมาจากแนวหิน เป็นกลุ่มคนที่คุ้นตาเหลือเกิน พวกของเทวบุตรมารปรากฏตัวโดยพร้อมเพรียงกัน
คนซึ่งรั้งท้ายมีบุคลิกภาพโดดเด่นกว่าใคร สวมชุดนักรบรัดกุมสีดำใบหน้าคมเข้มจนไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ในอเวจี ผมเผ้ายุ่งเหยิง นัยน์ตาซ้ายปิดทับด้วยเหรียญประหลาดร้อยสายคาดไปด้านหลังกับผ้าคาดผมสีดำเรียวยาวสีหน้าสงบเยือกเย็นแต่เต็มไปด้วยกลิ่นไอของความตาย
อีกห้าคนอยู่ในชุดนักรบสีดำเช่นกันแต่คล้ายถอดแบบมาจากพิมพ์เดียวกัน สีหน้าท่าทางจริงจังและเต็มไปด้วยความมีระเบียบวินัย กระทั่งการย่างก้าวเดินก็แทบจะพร้อมเพรียงกัน คนเดินนำหน้าสุดกระชับโซ่คล้องคอสุนัขสามหัวไว้มั่น
ทั้งหกหยุดยืนห่างออกไปไม่มากนัก จ้องมองไนท์แล้วมองเฟรี่สลับกันไปมาพักหนึ่งด้วยสายตาเย็นชา
“ไนท์...เจ้าละเมิดกฎของพวกเรา ผ่านเข้ามาในเขตของข้าโดยไม่มีใบอนุญาต”
นักรบตาเดียวเขม้นมองพูดขึ้นเหมือนคนเคยรู้จักกันมาก่อน
“พอดีข้าไม่มีเวลาดำเนินการในเรื่องนี้ นึกว่าข้าขอสักครั้งให้พวกเราผ่านไป”
“ไม่เคยมีใครขอแบบนี้มาก่อน” น้ำเสียงของเทวบุตรมารตาเดียวจริงจัง
“และก็จะไม่มีใครขอแบบนี้ได้ แต่ข้าจะอ่อนข้อให้สักนิดในฐานะเราเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน เจ้ากลับไปในเส้นทางเดิม แล้วข้าจะไม่เอาเรื่อง”
ไนท์ชี้มือไปด้านหลังของตัวเองพลางกล่าวด้วยเสียงราบเรียบว่า
““ไกลออกจากนี้ไม่มากนัก ก็จะเป็นแม่น้ำมรณะ ข้ามแม่น้ำไปก็จะพ้นเขตของเจ้าแล้ว หวังว่าเจ้าคงผ่อนปรน”
“เจ้าคงบ้าไปแล้ว”
เทวบุตรมารหนุ่มแสยะยิ้มพูด “นั่นเป็นเขตของปีศาจขาว เจ้าถอยกลับไปทางเดิมยังจะดีเสียกว่า ข้ามแม่น้ำมรณะไปก็เท่ากับรนหาที่ตาย”
“ข้าจำเป็นต้องไป”
เทวบุตรมารตาเดียวจ้องมองด้วยสายตาเหมือนมองคนบ้าแล้วมองเฟรี่ซึ่งยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆ นักรบปีศาจหน้ากาก แล้วพลันมีประกายตาเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาทันที
“เจ้าจะพาผู้หญิงคนนี้ออกจากดินแดนนี้ ข้ารู้ ไม่เช่นนั้นเจ้าไม่มีทางมาทางนี้แน่นอน”
“เจ้าพูดถูก” ไนท์ยอมรับโดยดี
“ให้ข้าไปได้หรือยัง”
เจ้านี่ดื้อจริง” เทวบุตรมารตาเดียวกระชากเสียง
“ข้าบอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ต้องลงไม้ลงมือกันบ้างแล้ว”
บริวารของเทวบุตรมารขยับตัว แต่ผู้นำทีมนักล่าแห่งนรกยกมือห้ามเอาไว้ก่อนบอกว่า
“ไม่ต้อง...งานนี้ข้าจัดการเอง อยากประลองฝีมือกับหมอนี่มานานแล้ว ถ้าข้าไม่สั่งห้ามพวกเจ้าลงมือยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด”
คนทั้งห้าพากันถอยไปด้านหลังทันทีรวมทั้งลากเจ้าสุนัขสามหัวซึ่งคำรนคำรามอยู่แทบตลอดเวลาไปด้วย
“ออกมาสู้กันตัวต่อตัว”
เทวบุตรมารร้องท้าพลางกระชากดาบออกมาจากด้านหลังทันที ดาบเป็นประกายสีรุ้งแพรวพรายงดงามแต่แฝงอำนาจพิเศษพิสดารชวนขนลุกชนิดหนึ่ง ไนท์เอามือกันหญิงสาวชาวสรรค์ให้ถอยห่างออกไปทางด้านหลัง ก้าวเท้ามาเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามอย่างระมัดระวัง กระชากดาบสีดำออกมาจากฝักเช่นกัน
“ข้าไม่อยากสู้กับเจ้า” ไนท์พูด อีกฝ่ายหัวเราะก่อนตอบว่า
“ข้าอยากสู้กับเจ้ามานานแล้ว ตั้งแต่สมัยพวกเราอยู่ในกลุ่มเดียวกัน เจ้ามักจะถูกยกย่องว่าเป็นนักรบมือหนึ่งแต่ข้าไม่เคยเชื่ออย่างนั้น หากเป็นเพราะว่ามีกฎห้ามไม่ให้คนในกลุ่มต่อสู้กันเอง ข้าจึงพิสูจน์ความคิดของข้าไม่ได้ วันนี้เจ้ากับข้าอยู่คนละฝั่ง ยังไงก็ต้องลองให้ได้”
“ถ้าข้าชนะ”
“พวกเจ้าผ่านไปได้ แต่ถ้าแพ้....”
เทวบุตรบุตรมาหันมามองทางเฟรี่แล้วพูดด้วยสีหน้าท่าทางดูใจยากเหลือเกินว่า
“ทิ้งผู้หญิงคนนี้ไว้ให้ข้า”
“เฮ้ย....”
********
โปรดติดตาม ตอนที่ 4)
แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 54 23:26:43
จากคุณ |
:
GTW
|
เขียนเมื่อ |
:
21 มี.ค. 54 20:42:38
|
|
|
|