ตอนที่ 23
คืนนี้เป็นคืนเดือนเพ็ญ พระจันทร์ลอยเด่นสง่าอยู่กลางท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยกำมะหยี่สีดำ ประดับประดาไปด้วยดางดาราน้อยใหญ่กระจายแต่งแต้มตามมุมต่างๆ ของท้องฟ้า กัญชพรสวมชุดนอน คอกลม แขนยาวสีฟ้าอ่อน ความยาวของตัวเสื้อนั้น ยาวเลยหัวเข่าลงมาเล็กน้อย ยืนอยู่ท่ามกลางแสงจันทราที่ส่องตรงลงมาที่ระเบียงห้องนอนของเธอ มณีนาคินทร์ที่ห้อยอยู่ที่คอ เมื่อกระทบแสงจันทรามันกลับเรืองแสงสว่าง กัญชพรไม่ทันสังเกตเพราะเธอมัวแต่ปล่อยใจคิดถึงแสงขวัญ
ป่านนี้พี่แสงขวัญจะเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ว่าพี่แสงขวัญจะเป็นใคร พี่แสงขวัญก็ดูงดงามเสมอสำหรับกัญ
ขณะที่กัญชพรเอ่ยพึมพำกับตัวเองลำพังท่ามกลางแสงจันทร์ อีกร่างหนึ่งปรากฏกายขึ้น อัญญานียืนมองดูหญิงสาวตรงหน้าอย่างชื่นชม
จ้าวท่านต้องดีใจที่เจ้าคิดอย่างนั้น อัญญานีเอ่ยมาจากด้านหลังที่กัญชพรยืนอยู่ หญิงสาวตกใจรีบหันไปทิศทางของเสียงนั้น
คุณเป็นใคร? กัญชพรถามอย่างตื่นตระหนก ร่างของหญิงสาวในอาภรณ์ชุดสีน้ำเงินเข้ม สวมกำไลทองที่ข้อมือสองข้าง ผมยาวดำขลับปล่อยสยายยาวถึงกลางหลัง บนศีรษะมีรัดเกล้าสีทองรูปงูพันรอบศีรษะหนึ่งรอบเป็นวง หัวงูมาบรรจบที่หางพอดีกึ่งกลางหน้าผาก โดยมีพลอยสีัน้ำเงินเข้มหนึ่งเม็ดเป็นรูปวงรีตั้งตรงอยู่ระหว่างหัวงูและหางงูที่กึ่งกลางหน้าผาก อัญญานียืนยิ้มให้อย่างเอ็นดู และค่อยๆ สาวเท้าเดินออกจากมุมของระเบียงที่ยืนอยู่ แสงจันทราส่องกระทบกับเครื่องแต่งกายของอัญญานี เป็นประกายระยิบระยับส่งให้ผู้สวมใส่งามตายิ่งนัก กัญชพรเองทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ถอยหลังหนี
เดี๋ยวก่อนเด็กน้อย เรามาดี เราไม่ทำร้ายเจ้าหรอก
อัญญานีหยุดยืนกับที่พูด เพราะเห็นท่าทางหญิงสาวตกใจหน้าซีด เมื่อเห็นฝ่ายที่มาโดยไม่ได้รับเชิญหยุดอยู่กับที่ กัญชพรเองก็หยุดยืนพิงระเบียงเช่นกัน
คุณเข้ามาได้ยังไง แล้ว...
กัญชพรมองเครื่องแต่งกายของหญิงสาวผู้นี้ มันช่างคลับคล้ายคลับคลา กับเครื่องแต่งกายของหญิงสาวที่เธอฝันเห็นเมื่อคืนก่อน แต่ความฝันนั้น มันก็เลือนลางเต็มที
เราเคยพบกันแล้ว อัญญานีตอบเพราะอ่านความคิดของเธอได้ และภาพในความฝันก็ผุดขึ้นมาในหัวของกัญชพร เธอหลับตาลงและเอามือสองข้างกุมหัวไว้ชั่วครู่ ภาพของหุ่นฟางที่เข้ามาอย่างประสงค์ร้าย แต่ต้องพ่ายแพ้แก่อัญญานีไป พอภาพเหล่านั้นเริ่มเลือนหาย เธอจึงค่อยลืมตา และเอามือที่กุมศีรษะออก และมองหน้าหญิงสาวแปลกหน้าผู้นั้นอีกครั้ง กัญชพรค่อยๆ ยอบตัวจะคุกเข่า แต่อัญญานีรีบเข้าไปประคองร่างอรชรนั้นไว้ให้ลุกยืนเหมือนเดิม
เจ้าแม่ใช่มั้ยคะ กัญนึกออกแล้ว กัญฝันเห็นท่านด้วย เจ้าแม่ช่วยกัญไว้จากตัวประหลาดนั้น กัญชพรบอก
เราชื่อัญญานี เป็นบริวารของจอมนาคา นาคีสาวแนะนำตัว อย่างเป็นทางการ
นี่กัญกำลังหลับฝันอีกใช่มั้ยคะ กัญอยู่ในความฝันใช่มั้ยคะ? กัญชพรเงยหน้าถามอัญญานี
เจ้าไม่ได้หลับหรอก กัญชพร เจ้ากำลังตื่นอยู่ อัญญานีพูดและยิ้มอ่อนหวานให้
แล้ว...เป็นไปได้ยังไง? กัญชพรเองก็ยังไม่ค่อยเชื่อกับสิ่งที่ตัวเองกำลังประสบอยู่
กัญชพร เจ้าเป็นนางมนุษย์ที่โชคดีเหลือเกินรู้หรือไม่ อัญญานีพูดและเชยคางหญิงสาวตรงหน้าขึ้น ดวงจันทราที่ลอยเด่นอยู่กลางนภา ส่องต้องร่างงามพริ้งของนางนาคี กัญชพรไม่เข้าใจความหมายของคำพูดของหญิงงามตรงหน้า
หมายความว่าอะไรคะ? กัญชพรถาม อัญญานีเอามือออกจากคางกลมมนของนางในดวงใจของจอมนาคา เธอยิ้มอ่อนหวานและตอบว่า
เจ้าเป็นนางมนุษย์คนเดียวที่ได้ครอบครองมณีนาคินทร์และหัวใจของจอมนาคา
มณีนาคินทร์... จอมนาคา... กัญชพรทวนสองคำที่แปลกหู และก้มหน้ามองมณีที่ห้อยอยู่ที่คอของเธอ เอามือหยิบมณีที่ห้อยคอนั้นขึ้นมาจ้องมอง แล้วหันไปมองหน้าอัญญานี
เจ้าไม่สังเกตหรือว่า ตอนนี้อาการป่วยของเจ้าแทบไม่กำเริบอีก สัตว์เลื้อยคลานมากมายไม่กล้าเข้าใกล้เจ้า ก็เพราะฤทธิ์แห่งมณีนาคินทร์ที่เจ้าครอบครองอยู่ นางนาคีอัญญานีบอก
กัญชพรเพิ่งจะนึกได้ถึงอาการป่วยของตัวเอง เธอลืมนึกถึงความเจ็บป่วยของตัวเอง...จริงด้วย!...อาการที่เคยเจ็บหน้าอกอยู่บ่อยๆ ตอนนี้ไม่มีอาการนั้นอีกแล้ว กัญชพรเองคิดว่าอาการที่หายไปอาจเป็นเพราะยาที่เธอทานไม่ขาด ล่าสุด เธอไปพบแพทย์ แพทย์ประจำตัวยังแปลกใจในอาการป่วยของกัญชพร เพราะอาการเต้นของหัวใจกลับใกล้เคียงกับคนปกติ และสัตว์เลื้อยคลานต่างๆ โดยเฉพาะงู ไม่กล้าเข้าใกล้เธอ ถ้าเจอกันจังๆ เจ้างูก็ได้แต่ผงกหัวชูคอและรีบเลื้อยหนีจากไปอย่างเงียบๆ
จริงด้วย! กัญชพรบอก
ท่านว่ากัญได้ครอบครองหัวใจของจอมนาคาหมายความว่ายังไงคะ จอมนาคาเป็นใคร? กัญยังไม่เคยรู้จักท่านเลย กัญชพรเงยหน้าถามอัญญานี นางนาคีหัวเราะเบาๆ อย่างเอ็นดู
โธ่เอ๋ย! เด็กน้อย เจ้าไม่ัสังเกตเลยหรือว่า คนที่เจ้าพบและคิดถึงเขาอยู่น่ะเป็นใคร?
พี่แสงขวัญ กัญชพรเอ่ยชื่อเบาๆ ไม่มีคำตอบจากปากของนางนาคี กัญชพรขมวดคิ้ว รู้สึกสับสน
พี่แสงขวัญไม่ใช่คนจริงๆ หรือนี่ กัญชพรได้ข้อสรุปจากที่เคยสงสัย ตลอดเวลาที่ได้คบหากับแสงขวัญ แสงขวัญวางตัวไม่เหมือนมนุษย์คนอื่นๆ ที่กัญชพรเคยพบมา แม้แสงขวัญดูสง่างาม ดูน่ากลัวและน่าเกรงขามกับคนรอบข้างอย่างไร แต่กับกัญชพรแล้ว...พี่แสงขวัญกลับอ่อนโยนต่อเธอยิ่งนัก
เจ้ารู้จักตัวตนของจ้าวแสงขวัญแล้ว เจ้ายังคงความคิดเดิมหรือไม่? นางนาคีอัญญานีแกล้งถามลองใจหญิงสาว กัญชพรเงียบอยู่เป็นนาน เพราะตัวเธอเองตอนนี้รู้สึกสับสนเหลือเกิน เหมือนครึ่งหนึ่งอยู่ในความฝัน อีกส่วนอยู่บนความจริง หญิงสาวหันหน้าหนีอัญญานี มองออกไปยังเบื้องหน้า...ลำน้ำโขงที่อยู่ไกล
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งค่อนคืน กัญชพรมิอาจจะข่มตาให้หลับลงได้ การพบกันระหว่างเธอและอัญญานี กับการได้รับรู้ฐานะที่แท้จริงของชายที่เธอเฝ้าแต่คิดถึง ทำให้หญิงสาวสับสนในความรู้สึกของตนเอง
สมควรมั้ย ที่เราจะไปรักพญานาค? กัญชพรเอ่ยถามตัวเองเบาๆ มือลูบคลำมณีนาิคินทร์ที่ห้อยคอ และค่อยข่มตาหลับลง
เลือดแดงฉานเต็มลำน้ำโขง ศพของนาคามากมายลอยเกลื่อนเต็มพื้นน้ำ ทุกตนล้วนถูกฉีกกระชากร่างออกจากกันเป็นท่อนๆ เศษเนื้อกระจายเต็มลำน้ำโขง กัญชพรยืนอยู่ริมฝั่ง จ้องมองลงไปในลำน้ำโขงเบื้องหน้า ทุกศพลอยผ่านหน้าเธอไป จู่ๆ ก็มีลมพายุขนาดใหญ่พัดผ่านร่างเธอ กัญชพรล้มและกลิ้งไปตามพื้นตามแรงของลมพายุนั้น เงาดำมหึมาทับร่างของกัญชพรไว้จนมิด หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าที่มาแห่งเงาดำนั้น แล้วเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ได้เห็น พญานกตัวใหญ่สีทองกำลังบินถลาลงมาที่ร่างของเธอ มันกางกรงเล็บอันใหญ่และแหลมคมออก หมายตะปบร่างน้อยๆ ของเธอไป แต่แล้วบางสิ่งก็ทำให้มันเบี่ยงทิศทางไปทันที เปลวเพลิงพุ่งผ่านเฉียดร่างของพญานกยักษ์ไป กัญชพรลุกขึ้นยืนและหันไปทางแม่น้ำโขง พญานาคราชตัวใหญ่ โผล่หัวและลำตัวมีเกล็ดสีเขียวมรกตปกคลุมทั่วร่าง ดวงตาแดงสดดั่งทับทิม พ้นพื้นน้ำโขงขึ้นมา เพียงชั่วพริบตาก็มีบ่วงนาคบาศถูกโยนมาคล้องที่คอของพญานาคราชนั้น พญานาคราชดิ้นรน ได้รับความเจ็บปวดอย่างทุกข์ทรมานอยู่กลางลำน้ำโขง กัญชพรวิ่งไปที่ริมน้ำโขงแต่ถูกพลังบางอย่างกระแทกร่างของเธอให้กระเด็นกลับเข้าหาพื้นดิน....
พี่แสงขวัญ! กัญชพรร้องเรียก และสะดุ้งตื่นจากความฝัน เหงื่อกาฬเต็มใบหน้า หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เธอค่อยๆ ปรับสายตามองไปรอบๆ ตัว
ฝันอีกแล้ว เธอพูดกับตัวเองเบาๆ และยกมือทั้งสองขึ้นลูบใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ
ทำไมฝันซ้ำซากอย่างนี้ เจ้าตัวรู้สึกเป็นกังวล นึกถึงมณีนาคินทร์ที่ห้อยคออยู่ เธอจึงรีบหยิบมันขึ้นมากำไว้ในมือ และพนมมือตั้งจิตอธิษฐาน
ด้วยอำนาจแห่งมณีนาคินทร์ ขออย่าให้ความฝันของกัญเป็นความจริงขึ้นมาเลย
อธิษฐานจบ ก็หันไปมองนาฬิกาตั้งโต๊ะที่วางที่หัวเตียง หน้าปัดที่เรืองแสงสีเขียวใส ทำให้มองเห็นตัวเลขบนหน้าปัดได้ชัดเจนในยามมืด ปาเข้าไปตีสามครึ่งแล้ว กัญชพรผ่อนลมหายใจยาวๆ เพื่อไล่ความอึดอัดที่มีผลมาจากความกังวลจากความฝันเมื่อครู่นี้ และล้มตัวลงนอน แม้จะพยายามข่มตาให้หลับอีก ก็ทำไม่ได้เสียแล้ว เธอจึงได้แต่นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอย่างไม่มีจุดหมาย
รถตู้สีขาวคันเดิมที่เคยพาคณะของกัญชพรมาที่บ้านพักตากอากาศที่ริมฝั่งโขง เข้าจอดเทียบหน้าลานบ้านพักตากอากาศหลังเดิม แม่นิ่มเปิดประตูลงจากรถเอง พอก้าวลงมา เด็กหนุ่มคนขับก็รีบวิ่งอ้อมมาหา และอาสาช่วยหิ้วกระเป๋าให้
มายาย ฉันถือให้
ขอบใจจ้ะ นายเปี๊ยก แ่ม่นิ่มกล่าวขอบใจเด็กหนุ่ม เปี๊ยกยิ้มแฉ่ง ก่อนคว้ากระเป๋าจากมือแม่นิ่มมาถือให้ตามที่อาสา และเดินตามแม่นิ่มเข้าบ้านพักไป
แม่นิ่ม กัญชพรเรียกเสียงดังด้วยความดีใจ และวิ่งเข้าไปกอดเอวแม่นมของเธอ แม่นิ่มเองก็สวมกอดคุณหนูของเธออย่างคิดถึง
คิดถึงแม่นิ่มจังเลย กัญชพรหยอดคำอ้อนทันที
โอ๊ย ไม่ต้องมาประจบแม่นิ่มหรอกค่ะ แม่นิ่มแกล้งเย้านายสาว กัญชพรย่นจมูกและตอบว่า
ใครบอกคะว่าประจบ คิดถึงจริงๆ นะจะบอกให้
ค้า แม่นิ่มรู้แล้ว แม่นิ่มก็คิดถึงคุณกัญเหมือนกัน แม่นิ่มตอบ
นี่จะกอดกันอีกนานมั้ย? รัศมียืนกอดอกถามอยู่ตรงประตูทางเข้าตัวบ้าน เธอก้าวพ้นประตูออกมา และเอามือออกลงข้างลำตัว พร้อมถามแม่นิ่มว่า
ว่าไงแม่นิ่ม ทุกอย่างที่ฉันให้จัดการเรียบร้อยมั้ย?
รัศมีถาม สองนายบ่าวที่เพิ่งแสดงความยินดีที่ได้พบกันเมื่อครู่ต้องผละออกจากกันและยืนหันมาทางรัศมี
ค่ะ เรียบร้อยทุกอย่างค่ะ แม่นิ่มตอบพร้อมรอยยิ้ม
ดีมาก อย่างนี้สิ ค่อยเบาใจหน่อย รัศมีพูดจบ ก็หันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้าน กัญชพรรอจนรัศมีเดินเข้าไป แล้วจึงหันมาถามแม่นิ่มว่า แม่นิ่มคะ น้ารัศมีให้แม่นิ่มทำอะไรหรือคะ?
อ๋อ คุณรัศมีให้แม่นิ่มอยู่คุมงานซ่อมห้องของเธอน่ะค่ะ ห้องน้ำคุณเกิดรั่วขึ้นมา ไม่รู้ไปทำอีท่าไหน ท่อน้ำจู่ๆ ก็แตกซึมกะทันหัน ฮึๆๆๆ
แม่นิ่มพูดจบก็หัวเราะเบาๆ กัญชพรก็หัวเราะตามไปด้วย
มาเถอะค่ะ แม่นิ่มเดินทางมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนดีกว่า เดี๋ยวกัญพาไป
กัญชพรพาแม่นิ่มตรงไปที่ห้องพัก โดยมีนายเปี๊ยกหิ้วกระเป๋าตามไปให้
จากคุณ |
:
ศรนรินทร์
|
เขียนเมื่อ |
:
23 มี.ค. 54 22:40:03
|
|
|
|