บทที่ 10 : ห้องพักผีดุ !!
ฉันชื่อนางสาวประกายแก้ว สกุลสุวรรณ นักเรียนมัธยมปลายโรงเรียนลานนาวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ เวลานี้ฉันได้แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนบ้านเก่าที่อำเภอฝาง โดยจุดมุ่งหมายส่วนหนึ่งคือเพื่อสังเกตการณ์ทำงานของแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลรัฐบาล ทั้งนี้นั่นเพราะนักเรียนที่ตั้งเป้าหมายจะสอบเข้าคณะที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุขจะต้องผ่านการดูงานเสียก่อน นั่นเองจึงเป็นสาเหตุที่ตอนนี้ฉันต้องมาศึกษาดูงานที่นี่
งานในห้องฉุกเฉินถูกจัดให้ฉันและเพื่อนสังเกตการณ์ ถูกต้องแล้ว การมาในคราวนี้เป็นเพียงแค่การเฝ้าดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ในทุกระดับเท่านั้น เหตุก็เพราะการดูแลผู้ป่วยในห้องฉุกเฉินนั้นรีบเร่งเสียจนคุณพยาบาลที่มีหน้าที่ดูแลพวกฉันแทบไม่มีเวลาอธิบายเรื่องความเจ็บไข้ของผู้ป่วยตรงหน้า พวกฉันเองก็ได้แต่ยืนลุ้นให้เหตุการณ์ต่างๆผ่านพ้นไปด้วยดี ผู้ป่วยบางรายมาด้วยเรื่องชักกระตุก อุบัติเหตุแขนขาหัก บางรายหนักถึงขนาดต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ขณะที่ผู้ป่วยบางคนดูทีแรกก็ไม่น่ามีอาการหนัก แต่ไปๆมาๆกลับกลายเป็นอาเจียนออกมาเป็นเลือดสดๆเปรอะเปื้อนเหม็นคาวไปทั่วห้องฉุกเฉิน
พวกฉันเองนอกจากเฝ้าสังเกตการทำงานตามวัตถุประสงค์หลักของการเยี่ยมชมโรงพยาบาลแล้ว ฉันและเพื่อนๆต่างก็พยายามช่วยเหลืองานเอกสารเท่าที่จะสามารถทำได้ เช่น การตัดใบนัดผู้ป่วยให้พร้อมใช้ การเตรียมกล่องใส่หลอดทดลองที่มีไว้สำหรับใส่เลือดที่จะส่งตรวจ ตลอดจนถึงการประกอบไม้ดามที่เตรียมไว้สำหรับผู้ป่วยกระดูกหัก
หนูๆ ถ้าเหนื่อยก็ไปพักได้นะ พยาบาลปุ๊หันมาบอกกับฉัน ยังไม่ทันจะได้คำตอบเธอก็เดินไปเตรียมยาที่จะฉีดให้ผู้ป่วย ฉันและพวกเพื่อนมองนาฬิกาแล้วยังอีกนานกว่าจะเที่ยง ทุกคนจึงตกลงใจที่จะอยู่ในบริเวณห้องฉุกเฉินไปก่อน เอาไว้สักห้านาทีก่อนเที่ยงค่อยออกไปหาอะไรกินที่ร้านค้าสวัสดิการที่ตั้งอยู่ตรงข้ามตึกผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน แก้วๆ คนนั้นแย่แล้ว ยายมิ้นท์สะกิดเรียกให้ฉันและส้มเช้งดู
พยาบาลปุ๊วางเข็มฉีดยาที่กำลังเตรียมพร้อมกับเร่งสืบเท้ามาทางผู้ป่วยที่มีอาการหนักกว่า ขณะที่พยาบาลท่านอื่นกำลังช่วยกันญาติและผู้ป่วยรายอื่นที่ไม่เร่งด่วนมากให้รออีกทาง ผู้ป่วยฉุกเฉินที่สุดในตอนนี้ก็คือคุณตาท่านหนึ่งที่มีอาการโรคหัวใจกำเริบ เขานอนหายใจหอบอยู่ตรงเตียงแรก บัดนี้ดูท่าทางอาการหนักอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้นายแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินยืนพร้อมอยู่ทางทิศศีรษะเพื่อเตรียมใส่ท่อช่วยหายใจนีกไม่กี่นาทีนับจากนี้
ม่านเขียวๆที่มีไว้กันสายตาญาติและไทยมุงจากภาพหวาดเสียวถูกดึงปิด แต่กระนั้นตำแหน่งที่พวกฉันนั่งอยู่สามารถมองเห็นการปฏิบัติงานได้อย่างชัดเจน ท่อช่วยหายใจถูกสอดผ่านลำคอไปแล้ว ทว่าแม้จะต่อเครื่องช่วยหายใจเข้าไป ฉันและเพื่อนก็ยังไม่เห็นวี่แววของการขยับเขยื้อนร่างกาย วินาทีถัดมานายแพทย์สั่งน้ำเกลือ และยาชนิดต่างๆที่ฉันไม่รู้จัก พยาบาลปุ๊รีบวิ่งไปเอาเครื่องวัดคลื่นหัวใจมาเชื่อมต่อกับร่างกายคนไข้ และสิ่งที่เห็นในจอมอนิเตอร์เขียวๆนั้น มันคือกราฟที่วิ่งแสดงการเคลื่อนไหวเป็นเส้นตรงราบ !
ผู้ป่วยมีอาการหัวใจหยุดเต้น !?
ขั้นตอนต่อจากนั้นคือการปั๊มหัวใจ แพทย์ผู้การรักษารีบกระโดดขึ้นคุกเข่าบนเตียงผู้ป่วย สองมือประสานและกดที่หน้าอกคุณตาอย่างเป็นจังหวะ พยาบาลปุ๊สลับที่ไปอยู่ตรงหัวเตียงเพื่อบีบลูกยางขนาดใหญ่สำหรับอัดลมเข้าในปอด พยาบาลอีกคนคอยควบคุมน้ำเกลือและให้ยาตามคำสั่งแพทย์ วงนอกสุดคือพี่ผู้ช่วยพยาบาลที่คอยจัดการเรื่องจิปาถะอื่นๆตามแต่คำสั่งแพทย์
นาทีนี้คือความเร่งด่วน ทุกคนในทีมกู้ชีวิตต่างพยายามเต็มที่เพื่อเรียกชีวิตให้กลับคืนสู่ร่าง ไม่มีใครสักคนที่จะยืนนิ่งๆโดยไม่มีงานให้ปฏิบัติ เว้นแต่ใครคนหนึ่ง ?
ฉันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ใครสักคนกำลังยืนอยู่ข้างเตียงตรงข้ามกับคุณหมอที่กำลังกดหน้าอกเพื่อปั๊มหัวใจผู้ป่วย ... หรือจะเป็นญาติของคุณตา ? ฉันขยี้ตาทีหนึ่งด้วยความสงสัย เมื่อมองอีกครั้งจึงประจักษ์แจ้งแก่ดวงตา ร่างที่มายืนดูการช่วยเหลือผู้ป่วย ... คือร่างของคุณตาเอง !?
วิญญาณชายชรากำลังยืนมองร่างเนื้อของตนเองกำลังได้รับการช่วยเหลือ ใบหน้าของเขาทั้งเศร้าสร้อย ทั้งสับสน ไม่รู้หนทางที่จะทำการใดต่อไป ฉันสลับสายตาจากร่างวิญญาณ ที่เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เส้นกราฟสีเขียวๆกระชากขึ้นลงตามจังหวะการปั๊มหัวใจของคุณหมอ ทว่าพอหยุดปั๊มลงครั้งใด คลื่นจังหวะขึ้นลงก็กลับเปลี่ยนเป็นราบเรียบเสียทุกครั้ง
บัดนี้หนทางเหลือน้อยเต็มที ฉันเห็นคุณหมอส่ายหน้าอยู่บ่อยครั้ง คุณหมอหารู้ไม่ว่าตนเองกำลังแสดงท่าทางหมดหวังต่อหน้าร่างวิญญาณของผู้ป่วยที่กำลังกู้ชีวิต ตัวฉันเองรับรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าความหวังเหลือเพียงริบหรี่ประดุจเปลวเทียน นั่นเพราะร่างวิญญาณที่ฉันเห็นนั้นหาได้มี สายใยชีวิต อันมีลักษณะเป็นด้ายเงินที่ออกจากศีรษะไม่ ... ดังนั้นวิญญาณคุณลุงที่เห็นจึงหาใช่ วิญญาณคนเป็น ... หากแต่เป็นวิญญาณของคนตาย !?
การปั๊มหัวใจยังดำเนินต่อไปอย่างสิ้นหวัง และแม้นายแพทย์และทีมกู้ชีวิตจะพยายามปั๊มหัวใจสลับให้ยากระตุ้นอย่างสุดความสามารถแล้ว ในที่สุดเมื่อเวลาล่วงเลยราวครึ่งชั่วโมง ปฏิบัติการกู้ชีวิตจึงถูกยุติลง ญาติสายตรงถูกเรียกให้เข้ามาพบ ... เพื่อแจ้งข่าวร้าย
จากคุณ |
:
Luckard
|
เขียนเมื่อ |
:
24 มี.ค. 54 10:00:34
|
|
|
|