|
บทที่ 9 เรื่องเล่ามหาวิทยาลัย บทนี้ไม่ค่อยเกี่ยวกับความรักใคร่ซักเท่าไหร่เพราะผมเองก็ไปก่อล้อก่อติดกลุ่มน้องเพื่อนที่ไปจีบเพราะไปตามๆเพื่อนซะโดยมาก
จริงๆมีคนบอกว่ามีน้องที่เป็นแนวแบบที่ผมชอบคือหมวยๆคุณหนูหน่อยๆมาชอบผมเหมือนกันแต่ไม่เข้าไปสานเพราะถ้าทำตามเพื่อนคนนั้นผมคงได้ไปคบกับเขาจริงๆและสาเหตุที่น้องเขามาชอบผมผมถามเพื่อนไปสรุปเพราะผมยิ้มตลอดเวลาเห็นแล้วสบายใจดีจะบอกว่ามันเหตุผลที่แสนเจ็บชะมัด ส่วนทิพย์เองก็เปิดร้านขายไอศครีมอยู่หลังมหาวิทยาลัยโดยมีเพื่อนในเมเจอร์เป็นคนไปช่วยขายด้วยมีเพื่อนบางคนแซวว่าแกชอบกินไอศครีมไม่ใช่เหรอไม่ไปหละ
แต่ที่แน่ๆสำหรับผมสบายใจที่ได้รู้ว่าส่วนใหญ่เขาอยู่ไหนและมีเพื่อนมากขึ้นก็รู้สึกพอใจละ ตอนนี้ใครไม่อยากอ่านเรื่องผีมากๆก็ข้ามไปเลยนะครับเพราะอยากให้พักเครียดกัน
เรื่องมันมีอยู่ว่าผมกับเพื่อนยังก่อล้อก่อติดกับกลุ่มน้องฝนที่มีคณะอื่นรวมพวกผม 10 คนพอจบกิจกรรมก็เข้าช่วงอ่านหนังสือสอบกลางภาคที่ 1 ก็ไปอ่านตามหอต่างๆมาในตอนแรกแต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่สงบวุ่นวายเพราะใครๆก็ไปอ่านกัน เลยเกิดความคิดไอเดียว่าไปอ่านกันใต้ตึกเรียนกันดีไหม พอตกดึกวันนั้นก็ไปเจอกันที่ตึกเลกเชอร์ไบโอเพื่อไปอ่านหนังสือกันโดยทำเลที่เลือกก็คือใต้บันไดไขว้ขึ้นทางเดินของตึกเพราะตอนนั้นมีโต๊ะไม่อยู่ 2 ชุดพอดีก็นั่งกันโต๊ะละ 5 คนพวกผมก็ตั้งใจอ่านหนังสือกันตามเรื่องตามราว อ่านกันตั้งแต่ 2 ทุ่มเกือบเที่ยงคืนเริ่มมีอาการหิวข้าวกันเพราะอ่านมานานแล้วไม่ได้ซื้ออะไรมาทานด้วยนอกจากกาแฟเลยตัดสินใจไปหาอะไรทานแถวๆประตูท่าแพก็ได้บาร์บีคิวมากินกันส่วนผมไม่ได้ซื้อเพราะกะไปกินไก่ทอดที่ตลาดสันป่าข่อยตอนตี 3 เลยไม่ได้ซื้ออะไรทาน กลับมาจากประตูท่าแพก็มาอ่านหนังสือกันตรงที่เดิมแต่ที่รู้สึกประหลาดใจนิดๆคือทำไมเพื่อนของน้องอีกกลุ่มที่มาอ่านด้วยกันแถวนั้นถึงกลับไปเพราะตอนแรกบอกจะอ่านต่อด้วยแต่ก็ไม่สนใจอะไร ตอนนั้นก็เลยเหลือแค่พวกผม10คนเท่านั้นที่อ่านอยู่ตรงนั้น อ่านหนังสือจนเครียดคิดอะไรไม่ออกไม่เข้าหัวแล้วก็เลยคิดว่าจะเล่าเรื่องผีที่ได้ยินมาให้น้องๆฟังกันก็เล่ากันไปตามที่ได้ยินจริงมั่งขำมั่งอย่างเช่นเรื่องหนึ่งเกิดที่ หอ 4 หญิง
คืนหนึ่งมีคนนอนไม่หลับรู้สึกหงุดหงิดมากพอซักประมานเที่ยงคืนก็มีเสียงลากโซ่ เสียงดังแครกๆ แก็ก แครกๆ ก็กลัวมากเลยนอนคลุมโปงทั้งคืนพอตื่นเช้าขึ้นมาก็พบว่า.......
รถมอร์เตอร์ไซด์ที่จอดหน้าหอโดนล็อคและล่ามโซ่หมดเพราะหน้าหอเป็นที่ห้ามจอดไอ้ปิ๊กก็ตามแทรกมุขว่าหน้าตึกฟิสิกส์เหมือนกันกูจอดคืนเดียวโดนปล่อยลมยางหมดเลย อีกเรื่องที่เล่าก็เป็นเรื่องที่เพื่อนคณะมนุษย์เล่าให้ฟังเกี่ยวกับเพื่อนคนหนึ่งอยู่คณะมนุษย์แล้วมีการซ้อมละครกันจนดึก(เพื่อนเข้าเรียนก่อนผม 2 ปี)แล้วทีนี้ก็ปากดีพูดออกมาว่ามหาวิทยาลัยนี้จริงๆแล้วฉันไม่อยากอยู่หรอกกระจอกไม่ไฮโซ พูดจบก็เดินออกมาด้านนอกจะกลับหอก็มีผู้หญิงชุดขาวคนหนึ่งโดดลงมาจากตึกมาตกอยู่ตรงหน้าคนที่พูดแต่พอตกมาแทนที่จะตายกลับลุกขึ้นมาแล้วบอกมาโดดด้วยกันไหมสนุกนะหมอนั้นก็กรี๊ดทันทีเพื่อนๆก็ตกใจ
ออกมากันจะพาไปส่งแต่ก็โดนตามตลอด(คนพูดเห็นอยู่คนเดียว)ไม่รู้จะพาไปไหนเลยพาไปอยู่ที่หอพระ(ศาลาธรรม)จนถึงเช้าถึงมาทำการขอขมาจริงๆเรื่องผู้หญิงชุดขาวนี่ผมก็ได้ยินมาหลายเรื่องนะในมหาวิทยาลัยผม ผมก็เล่าต่อไปเรื่อยๆจนน้องกลัวกว่าเดิมบอกผมหยุดเล่าเหอะบังเอิญก่อนมาเรียนแม่ไปเมืองจีนมาแล้วไปขอยันต์มาเยอะแยะมากมายเลยให้ผมไว้จำได้ในนั้นแม่บอกมียันต์เสือคาบดาบที่ใช้ป้องกัน ผีก็เลยพูดไปว่า
ไม่เห็นต้องกลัวเลยพี่มียันต์อยู่เอาไว้บนโต๊ะก็ได้ กำลังจะเล่าเรื่องต่อก็มีเสียงเหมือหมาหอนดังขึ้น แต่มันโหยหวนกว่าและดังอือไม่ค่อยเหมือนหมาหอนเท่าไหร่ครั่งที่ 1 ดังผมไม่แน่ใจว่าจะเล่าต่อดีไหมเพราะรู้สึกว่าไม่ใช่เสียงหมาหลังจากนั้นก็มีหอนครั้งที่สองคราวนี้น้องที่บอกกลัวก็ทักมาว่า
มันหอนทำไมพี่ พอน้องทักจบผมก็ได้กลิ่นมะลิหอมฟุ้งทั้งๆที่มันเป็นเวลาตี 2 แล้วรู้สึกเหมือนมีใครจ้องเขม็งมาทางพวกผมจากทางด้านรั้วตาข่ายแต่มองไปผมก็ไม่เห็นใคร ผมเลยบอกไปว่าตอนนี้พี่มีเรื่องอีกเรื่องจะเล่าแล้วแต่ก่อนที่จะเล่าให้ฟังพี่อยากให้น้องเก็บหนังสือกันให้หมดแล้วไปทานไก่ทอดกันดีกว่าเพราะใกล้จะตี 3 ละไปตอนนี้ตลาดคงเปิดพอดี ใหม่เพื่อนผมพอได้ยินอย่างนั้นก็นึกขำเดินเข้ามาตบไหล่ผมแล้วพูดมาว่า
แน่จริงก็เล่าตอนนี้เลยดิไม่เห็นต้องกลัวเลยอยากฟังเหมือนกัน
ซักฟักใหม่ก็กลับไปนั่งที่เดิมแล้วก็บอกว่า
เห็นด้วยกับแต้อย่างที่สุดเลยตอนนี้น้องๆเก็บของกันเหอะเดี๋ยวพี่ว่าให้แต้ไปเล่าที่อื่นกัน ชิวก็ซักสวนมาอีกรอบบอกว่ากลัวอะไรเนี่ยก็อยู่กันตั้ง1,2,3
.11
ชิวก็นับหัว ได้ 11 คนผมจำได้ว่ามา 10 พอเท่านั้นหละสามคนช่วยน้องเก็บของอย่างรวดเร็วไม่ถึง 1 นาทีโดยปิ๊กและน้องยังไม่รู้เรื่องอะไร พอออกมาผมก็เอามอร์เตอร์ไซด์ไปจอดที่ อมช. แล้วคุยกันท้ายรถกระบะว่าแต่ละคนเจออะไร
ผมบอกผมเหมือนมีคนจ้องผมเขม็งและมีกลิ่นดอกมะลิ
ใหม่บอกว่าตอนแรกไม่เห็นอะไรแต่หลังจากท้าผมแล้วมองขึ้นไปเห็นเป็นเงาตั้งอยู่บนบันไดข้างบนที่นั่งกัน
ส่วนชิวบอกงานนี้ไม่ได้ล้อเล่นเรื่องนับคนนะเพราะนับ 2 ครั้งได้ 11 คนจริงๆตรงที่นั่งชิวนั่งกัน 2 คนแต่เหมือนมีคนถัดออกไปอีกคน
ก็เลยได้ไปทานข้าวที่ตลาดสันป่าข่อยแล้วนั่งรถไปหน้าครูบาจนเข้าแล้วมาใส่บาตรขอขมากันไป
แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 54 19:38:38
จากคุณ |
:
Peera Ler
|
เขียนเมื่อ |
:
26 มี.ค. 54 07:34:29
|
|
|
|
|