Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
นิมิตแสงจันทร์ - บรรพที่ 4 ติดต่อทีมงาน

บรรพที่ 4


ขนมปังฌีนในเช้าวันนั้นเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำที่จะขาดเสียมิได้  นิ้วเล็กกลมป้อม
ของอคิลวัยสิบปีเขี่ยมันไปมา  เด็กชายไม่ชอบฌีนนักแม้จะเป็นอาหารประจำชาติก็ตาม  
แต่เครื่องเทศที่ผสมอยู่ในเนื้อขนมปังออกจะรสจัดไปสำหรับเด็กเล็ก  จนชามีดามิสา
ผู้เป็นมารดาต้องสั่งให้ทำฌีนไม่ใส่เครื่องเทศผสมแต่สาหร่ายแม่น้ำเพียงอย่างเดียวเท่านั้น      
ก่อนจะทาเนยที่ผลิตจากนมแพะลงไปแล้วค่อยเข้าอบจนหอมกรุ่น


“กินสิอคิล อย่าเขี่ยเล่น”


“ปอปอ...ผมไม่อยากกินฌีนนี่นา จืดๆ เค็มๆ ไม่เห็นอร่อยเลย” เด็กชายทำหน้ามุ่ย


“ไม่ใส่เครื่องเทศมันก็ต้องจืดสิคะคุณหนู” บารวัณแม่บ้านวัยกลางคนผู้ติดตามมารดา
ของเด็กน้อยมาแต่ตระกูลปาฏิรา  พยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะให้นายน้อยของหล่อน
รับประทานแต่โดยดี


“ทานกับซุปสิคะ  หรือจะเอาซอสมะเขือเทศมาจิ้มดีไหมคะคุณหนู” แต่ก่อนที่เด็กชายจะได้

ตอบอะไร  ภัณฑิลผู้เป็นบิดาบัดนี้ดำรงยศเป็นพันเอกแล้ว เอ่ยกำราบขึ้นมาด้วยเสียงเข้ม


“อคิลอย่าเรื่องมาก กินฌีนเข้าไปซะ  เดี๋ยวตอนสายครูจะมาแล้ว” แม้จะเป็นวันหยุด
แต่เด็กชายวัยสิบปี  ต้องเรียนพิเศษกับครูที่จ้างมาสอนที่บ้าน  เพื่อเป็นการปูฐาน
ต่อไปในระดับมัธยม


“แต่ว่า...”


“ไม่มีแต่...เด็กอีกมากไม่มีแม้แต่ฌีนแห้งๆ สักแผ่นจะกิน  แต่ลูกได้กินฌีนที่อบใหม่ทุกเช้า”
สายตาของบิดาบอกว่าเอาจริง จนบุตรชายตัวจ้อยไม่กล้าเถียง จึงแกล้งเสไปสนทนา
เรื่องอื่นแทน


“น้องยังไม่มาสักที  ภามินยังไม่ตื่นหรือไงป้า  ปล่อยให้นอนตื่นสายได้ยังไง  เป็นความผิด
ป้าบารวัณนะเนี่ย” อคิลถามหาน้องชาย และแสร้งตำหนิแม่บ้านด้วยท่าทางที่ลอกเลียน
มาจากบิดา


“คุณหนูภามินมีไข้อ่อนๆ ค่ะ  ชามีให้กินนมแล้วนอนพักไปอีกหน่อย  แต่ไม่เป็นอะไรมาก
หรอกค่ะ  เด็กเล็กก็อย่างนี้แหละค่ะ  สามวันดีสี่วันไข้”


“ไม่จริง  ตอนผมห้าขวบแข็งแรงกว่าภามินตั้งเยอะ”


หลังจากเกิดมาได้ห้าปี อคิลก็มีน้องชายตามมาอีกคน ในปีที่บิดาได้เลื่อนยศขึ้นมาเป็นพันเอก  
และก้าวขึ้นเป็นผู้บัญชาการกองกำลังปาลทัตเมื่อต้นปีนี่เอง  ปาลทัตเป็นกองกำลังพิเศษ  
ที่มีอำนาจในการดูแลบ้านเมืองและสยบเหตุการณ์อันไม่ปกติได้โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากรัฐสภา
หากขึ้นตรงกับสภาทหาร หน้าที่หลักคือปกป้องราชบัลลังก์ให้พ้นจากภัยคุกคามทั้งปวง


บิดามารดาตั้งชื่อน้องชายของเขาว่าภามิน  อันมีความหมายคล้องจองกันกับพี่ชาย  หากอคิล
คือดวงตะวันอันยิ่งใหญ่ ภามินก็คือแสงอันเจิดจ้างามกระจ่าง  ซึ่งน้องชายของเขาได้รับรูปโฉม
อันสมกับนาม  เด็กชายตัวน้อยไม่ค่อยเหมือนพี่ชายนัก  เรียกได้ถ้าไม่บอกว่าเป็นพี่น้องกันแท้ๆ
ก็คงไม่ใครเชื่อ  ก็ทั้งหน้าตาผิวพรรณอคิลได้รับมาจากบิดาเป็นส่วนใหญ่  แม้พิศเพียงผาด
ก็รู้ว่าเป็นทายาทผู้ใด  หากแต่ส่วนผสมที่ดีจากมารดาผู้เลอโฉม ทำให้กรอบหน้านั้น
ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป คิ้ว ตา จมูก คาง ถูกจัดวางอย่างลงตัว  จนหลายคนชมว่าโตขึ้น
ต้องหล่อกว่าพันเอกภัณฑิลเป็นแน่

ในขณะที่ภามินผู้เป็นน้อง  ถอดรูปกันมาแต่มารดา ผิวขาวผุดผ่อง นวลแก้มใส ปากเล็กบาง
จิ้มลิ้มสีสดราวกลีบดอกไม้น้อย  แล้วยังดวงตาหวานละมุนล้อมกรอบด้วยแพขนตาหนานั่น  
ดูอย่างไรก็เป็นดวงตาของชามีดามิสา จะผิดกันก็แต่ผมสีน้ำตาลนั้นสีเข้มจัดกว่ามารดา
ผู้มีเรือนผมยาวสลวยสีชา แต่นั่นเป็นเพียงแค่ช่วงวัยเด็กเท่านั้น  หลังผ่านเหตุการณ์
ในวันแห่งความทรงจำนี้ไป สีผมของเด็กชายผู้น้องอ่อนลงจนเป็นสีชาเช่นเดียวกับมารดา  
หากอคิลไม่แน่นักว่าหากชามีดามิสายังมีชีวิตอยู่  และมาเทียบเคียงกับบุตรชายคนเล็ก
แล้วสีผมของภามินจะเข้มหรืออ่อนกว่ามารดากัน


“จ้า...พ่อคนแข็งแรง  แต่ถ้ามัวแต่โอ้เอ้ไม่กินฌีนเข้าไปล่ะก็เดี๋ยวโดนตีแน่” เสียงหวานใส
กังวานอยู่เบื้องหลัง


“มามา!”


“เดี๋ยวถ้าปอปอตีล่ะก็จะไม่ห้ามเลย” อคิลฟังแล้วก็ทำจมูกย่นไม่พอใจนัก แต่จำต้องฝืน
หยิบฌีนขึ้นมาบิกิน


“ดามิสา  จะไปไหนรึ?” เขาทักขึ้นมาเมื่อเห็นเฮมมีหรือชุดชั้นนอกสำหรับคลุมทับเสื้อผ้า
สตรียามจะออกไปนอกบ้าน  


ตามปกติแล้วสตรีชาววิปุลาค่อนข้างจะสงวนตัวนัก ไม่นิยมใส่เสื้อผ้าเปิดเผยสรีระ
เท่าหญิงชาวตะวันตก  และไม่นิยมสวมกางเกงอีกด้วย  ชุดประจำชาติของสตรีที่เรียกว่า
‘ฮาเนีย’ เป็นชุดยาวกรอมเท้าสีเดียวกันตลอดชุด คอเสื้อคว้านเป็นรูปเหลี่ยมลงมาถึงเนินอก
มีผ้าสีสดหรือริบบิ้นเส้นเล็กรวบเป็นโบสีสันสดใสเน้นทรงอันอิ่มเอิบ ก่อนจะทิ้งตัวผ้าพลิ้ว
จากใต้อกยาวลงมากรอมเท้า ส่วนแขนเสื้อนั้นเป็นทรงตุ๊กตาพองเล็กน้อยที่ช่วงต้นแขน
ก่อนจะลีบเล็กลงมาแนบท่อนแขน


ฮาเนียยังเป็นชุดสามัญที่สวมใส่กันทั่วประเทศ จะแสดงฐานะก็ด้วยเนื้อผ้าและความประณีต
ในการตัดเย็บ หญิงพื้นเมืองทั่วไปนิยมใส่ผ้าป่าน  ส่วนชามีตระกูลสูงนั้นจะใช้แพรพรรณ
อันอ่อนนุ่นเบาแผ่วพลิ้วกว่า หากเหมาะสมกับอากาศตามฤดูกาลกาลและเทศะ


ในวันนี้ชามีดามิสาสวมชุดฮาเนียสีงาช้าง ตัวผ้าชั้นนอกเป็นลูกไม้อันโปร่งบาง ส่วนด้านใน
เป็นผ้าไหมเนื้อเนียนละเอียดสีเดียวกัน แล้วสวมเสื้อนอกที่เรียกว่าเฮมมีสีครามสดปักด้วย
ดิ้นทองตามสาบเสื้อปลายแขนเสื้อทรงกว้างและชายเสื้อ สวมคลุมทับชุดสีนวลอีกชั้น
มองดูสวยสง่าสมเป็นชามีแห่งชลันธีร์  


“ช็อปปิ้ง...” ภรรยาของพันเอกภัณฑิลเดาะลิ้นตอบด้วยสำเนียงฝรั่งจ๋า


“ซื้อของรึ?” เขาแก้คำให้


“ซื้อของก็ซื้อของสิ  ช็อปปิ้งก็ช็อปปิ้ง”


“มันต่างกันตรงไหน?” ผู้เป็นสามีถามด้วยความฉงนก็ในเมื่อคำทั้งสองต่างมี
ความหมายเดียวกัน


“ก็ซื้อของแปลว่าตั้งใจไปซื้อ  ทั้งของใช้ของสด ตามประสาคุณแม่บ้าน  แต่ไปช็อปปิ้งก็คือ...
การไปเดินเรื่อยเปื่อยอยากซื้ออะไรค่อยซื้อ ไม่อยากก็เดินเฉยๆ ดูโน่นนิด นี่หน่อย  
แวะจิบชาดอกไม้ แล้วซื้อของจุกจิกตามประสาผู้หญิง  อย่างไรเล่าคะนายท่าน” สรรพนาม
นั้นลงท้ายด้วยอาการหยอกเอิน  พร้อมทั้งรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้มอันเต็มไปด้วยเลศนัยนั้น



แก้ไขเมื่อ 29 มี.ค. 54 00:32:08

จากคุณ : แก้วกังไส
เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 54 00:31:38




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com