9 พรกามเทพ
ฉันดีใจแทบตายเมื่อเห็นเงาร่างของ เขา ปรากฎตัวขึ้นที่ขอบฟ้า (เหอๆ ฉันก็บรรยายให้มันได้ภาพไปอย่างงั้นเอง จริงๆ เขาอยู่ปลายนาทางด้านโน้น) และกำลังวิ่งตรงมาทางนี้
พระเอกของฉัน นักรบหนุ่มโบราณคนนั้น อา... ในที่สุด คุณก็มาทันเวลา ช่วยแองจี้ด้วยค่ะ แองจี้โดนรังแก
ฉากนี้ คุณจะนึกภาพแบบสโลวโมวชั่นก็ได้นะคะ มันได้อารมณ์ดี... นางเอกกำลังวิ่งหนีควายอันธพาลซึ่งกำลังไล่ปล้ำเธอด้วยความหวาดกลัวสุดชีวิต นักรบหนุ่มรูปงามผ่านมาโดยบังเอิญ จึงยื่นมือเข้าช่วยด้วยมนุษยธรรม
จากที่ฉันเห็นเขาเป็นเพียงจุดเล็กๆ อยู่ไกลแสนไกล ร่างของเขาก็ค่อยๆ ใหญ่ขึ้น...ใหญ่ขึ้น... ทุกทีที่เราวิ่งเข้ามาใกล้กันมากขึ้น...มากขึ้น... จนกระทั่งมาหยุดที่ขนาดร่างสูงประมาณหนึ่งเมตร ไม่ใหญ่ขึ้นอีก ใช่สิ เพราะเขามายืนอยู่ตรงหน้าฉันแล้วนี่ มันจะไปใหญ่กว่าที่เห็นในตอนนี้ได้ยังไงล่ะค้า ...แป่ว!
เย้ย... ทะ...ทำไมพระเอกของฉันถึงได้ตัวเท่าลูกหมาอย่างงี้ล่ะ!? เวรกรรม! ที่สำคัญเมื่อฉันได้เห็นเขาเต็มๆ ตา
กรี๊ดดดดดด!!...โป๊ด้วย!!! อะไรเนี่ย?
ไม่ใช่ค่ะ นักรบหนุ่มรูปงามไม่ใส่เสื้อผ้า แต่กลับเป็นเด็กชายตัวกระจ้อยแก้ผ้าวิ่งโทงเทงมายืนจังก้า เอาตัวเองกันไอ้สิงโตไว้แล้วโบกมือน้อยๆ ทำสัญญาณให้ฉันวิ่งไปหลบข้างหลังเขาด้วยมาดพระเอกอย่างเท่ (ทั้งๆ ที่หุ่นไม่ให้เอาซะเลย ดูยังไงเจ้าหนูน้อยนี่ก็อายุไม่น่าจะเกินสี่ห้าขวบ) ในมือของเขามีไม้ง่ามผูกหนังยางใส่หินเล็กๆ ก้อนหนึ่งเป็นกระสุนง้างค้างไว้พร้อมตั้งท่าเล็งไปที่กระบืออันธพาลโดยหรี่ตาลงข้างหนึ่ง ปากก็ตวาดขู่ด้วยเสียงแหลมเล็กอย่างเด็กไร้เดียงสา แต่ว่า คำพูดของเขาฟังดูช่างกล้าหาญและโอหังยิ่งนัก
หยุดเดี๋ยวนี้นะ เจ้าควายปีศาจ บังอาจรังแกสัตว์ที่อ่อนแอกว่างั้นเหรอ อภัยให้ไม่ได้!
แง๊... เขาเห็นฉันเป็นแค่ สัตว์ที่อ่อนแอกว่า !
ไอ้เด็กเวรนี่ เจือกไม่เข้าเรื่อง ควายจะอื้บกัน มันเกี่ยวอะไรกับคนวะ หลีกไป๊
ฉันไม่รู้ว่า เพราะเด็กชายฟังภาษาควายไม่ออกหรือเปล่า ขาสั้นๆ ทั้งสองของเขาจึงยังคงปักหลักมั่นไม่ขยับแม้แต่น้อย เอ่อ...คือว่า... จะไหวเหรอเนี่ย เทียบขนาดตัวของเขากับไอ้สิงโตแล้วฉันก็รู้สึกใจคอไม่ดีเลย ยิ่งเห็นเขาแหลมเฟี้ยวที่อยู่บนหัวของมันแล้วสยอง... หวังว่าจะไม่มีภาพควายขวิดเด็กไส้ทะลักติดตาฉันไปตลอดชีวิตนะ คิดได้ดังนั้นแล้ว ฉันรีบก้มเอาจมูกไปสกิดไหล่เตือนสติเจ้าหนูน้อย เน่ๆ... จะช่วยใครเค้าน่ะ ดูสารรูปตัวเองซะก่อนเถอะพ่อคู๊ณ
เจ้ารีบหนีไปเร็ว ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าจัดการกับมันเอง เขากลับตะโกนบอกฉันโดยไม่หันหน้ามา ยังคงจ้องตากับเจ้าควายอันธพาลอย่างเอาเรื่อง พระเอกม๊ากมากค่ะ คุณน้องขา
ไอ้เด็กเปรตหน้าโง่ กลับบ้านไปดูดนมแม่ไป๊ กูอุตส่าห์หวังดี จะช่วยพ่อมึนขยายพันธุ์โคกระบือนะโว้ย... โอ๊ย!
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ไอ้สิงโตโดนลูกหินที่เด็กชายดีดใส่เข้าตาซ้ายเต็มๆ โอ้โห... ถ้าไม่เห็นกับตา ใครจะเชื่อล่ะคะว่าฮีโร่ตัวน้อยของฉันจะยิงแม่นได้ใจขนาดนี้ นายแน่มาก!
อ๊ากกก! ฉันเพิ่งเคยได้ยินเสียงควายร้องโหยหวนก็วันนี้เอง ก็สมควรจะร้องอยู่หรอกนะคะ เลือดทะลักออกจากเบ้าตาแดงฉาดซะขนาดนั้น สมน้ำหน้าอยากไล่ป้ำเค้าดีนัก อุ๊ย... ไม่ได้ๆ นางเอกต้องรักสัตว์ ฉันควรต้องบอกว่า น่าสงสารสิ
ขณะที่ฉันกำลังยืนสับสนในชีวิต ไม่รู้ว่าควรสมน้ำหน้าหรือสงสารไอ้สิงโตดี ก็รู้สึกว่าใต้กีบเท้าทั้งสี่สั่นสะเทือนเหมือนแผ่นดินไหว อ่า... ไม่ใช่แผ่นดินไหวหรอกค่ะ ควายอันธพาลแปลงร่างเป็นกระทิงดุต่างหาก มันใช้เท้าหน้าตะกุยจนดินกระจายพร้อมพ่นลมหายใจฟืดฟาดออกมาทางจมูกด้วยความโมโหสุดขีด ก่อนจะก้มหัวลงจนเขาแหลมโค้งชี้ชันตั้งท่าเตรียมพุ่งเข้ามาขวิดเด็กชายที่ทำร้ายมันบาดเจ็บ
ตายซะเหอะมึน!!!
ยังจะยืนจังก้าทำท่าเท่อยู่อีกเหรอ พ่อฮีโร่น้อย เดี๋ยวก็ไส้ทะลักหรอกไอ้หนู ยามกระทันหัน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำอีท่าไหน ถึงสามารถจับเด็กชายขึ้นขี่หลังได้ ที่แน่ๆ ฉันเผ่นหนีสุดฝีเท้าโดยมีเจ้าตัวน้อยเกาะเขาทั้งสองของฉันเอาไว้แน่น ไม่รู้เวรกรรมทำมาแต่ชาติปางไหน ฉันถึงต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้ นึกว่าจะได้เจอพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยแล้วเชียว ที่ไหนได้กลายเป็น...
คุณเคยเจอนวนิยายหรือหนังเรื่องไหนมั๊ยล่ะคะ ที่นางเอกวิ่งหนีอันธพาลปล้ำมาเจอพระเอกตัวเตี้ยแค่เอว แถมไม่นุ่งผ้าวิ่งโทงเทงมา แล้วนางเอกต้องแบกพระเอกวิ่งหนีอันธพาลต่อ (กรุณาอย่ามโนลงลึกในรายละเอียดนะคะ ว่าพระเอกแก้ผ้าแล้วขี่หลังนางเอกเนี่ย หลังของคุณนางเอกเธอจะต้องเจอะเจอกับอะไรบ้าง ฮือๆ... เอาน่า ตัวมันเตี้ยแค่เอว ยังไม่มีพิษมีภัย คงไม่เป็นไรหรอกมั๊ง)
แฮ่กๆๆ... ฉันวิ่ง... วิ่ง... วิ่งจนเหนื่อยหอบแทบขาดใจ จนในที่สุด ก็หลุดพ้นจากการไล่ขวิดของไอ้สิงโตได้
ไม่สิ... ต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ ควายน้อยตัวผอมแห้งอย่างฉันซึ่งมีน้ำหนักของเด็กชายถ่วงไว้ จะไปวิ่งได้เร็วกว่าควายตัวผู้รูปร่างสูงใหญ่ที่กำลังบ้าคลั่งได้ยังไง? ชักเอะใจว่าทำไมจู่ๆ มันถึงไล่ฉันไม่ทันจึงเหลียวกลับไปมองด้านหลัง ก็เห็นว่ามันหยุดวิ่งแล้ว และกำลังยืนอ้าปากกว้างตาเหลือกค้างอย่างตื่นตะลึง
เอ...ทำไมไอ้สิงโตทำหน้าเหมือนเห็นผีอย่างงั้น? ตอนนั้นฉันยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น มองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ แต่เพื่อความปลอดภัย ฉันตัดสินใจวิ่งหนีมันต่อ เพราะกลัวว่ามันจะบ้าขึ้นมาอีก จนกระทั่งมาถึงยุ้งข้าว ฉันรีบก้าวขึ้นบันไดพาเด็กชายตัวน้อยเข้าไปแอบไว้ข้างในโดยไม่รอรี
ฮู่...ค่อยยังชั่ว
เมื่อมั่นใจแล้วว่าปลอดภัย ฉันก็ปล่อยเจ้าหนูน้อยโดดลงจากหลัง ส่วนตัวเองก็นั่งแปะบนพื้นพิงฝาในท่าหมดสภาพ แต่แทนที่จะได้นั่งพักอย่างสบายใจ กลับเป็นต้องงุนงงสงสัย เพราะพอเด็กชายหันหน้ากลับมา ก็ยืนจ้องฉันตาไม่กระพริบ ปากเล็กๆ อ้ากว้างค้างอาการเดียวกับไอ้สิงโตเปี๊ยบเลย
เป็นอะไรไปอีกคนแล้ว ทำไมทำหน้าอย่างงั้น?
นิ้วเล็กๆ ของเขาชี้มาตรงหน้าฉันเป็นคำตอบ
อารายยะ? ชี้หน้าฉันหมายความว่าไง?
ค...คะ... ควาย... ควาย...
ย่ะ ไม่ต้องย้ำก็ได้ไอ้หนู รู้แล้วว่า ฉันมันควาย ชิ เด็กอะไรหยาบคายที่สุด... กรี๊ด!!! เด็กบ้ากล้าดียังไงมาจับน๊มนมช้านนนน
ตายซ้า... อีตาบ้าลามกตั้งแต่เด็ก นี่แน่ะๆๆๆ อย่างงี้ต้องสั่งสอน ฉันจับมือเล็กๆ ของเด็กน้อยที่กำลังลูบคลำตัวฉันอย่างไร้มารยาทมาตีเพี๊ยะๆๆ ...แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักค้าง
เอ๊ะ ทำไมฉันตีเด็กได้? ควายน้อยอย่างฉันมีมือตั้งแต่เมื่อไหร่กัน???
...และเมื่อก้มลงดู ฉันก็ได้เห็นฝ่ามือบางๆ อันคุ้นเคยของตัวเอง... มองเลยต่อมาก็พบว่ามือทั้งสองข้างนั้นต่อกับแขน และอา... ร่างกายเปลือกเปล่าของฉันขาวโพลนอยู่ในความสลัวของยุ้งข้าว
กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!! ฉันคืนร่างกลับกลายเป็นคนตั้งแต่เมื่อไหร่ ?
บัดนั้น ภาพควายอันธพาลตาเหลือกค้างกลางทุ่งนาก็ผุดขึ้นมาในสมอง นั่นแปลว่ามันคงเห็นน้องนางฟ้าแปลงร่างเป็นคนแน่แล้ว อา... มิน่าเล่า ฉันถึงเดินขึ้นบันไดยุ้งข้าวได้โดยง่ายดาย ไม่เหมือนตอนมีสี่ขาฝ่าเท้าเป็นกีบเลย
ไม่นะ...หวังว่านอกจากเจ้าสิงโต (ซึ่งเที่ยวบอกชาวบ้านไม่ได้) แล้ว จะไม่มีใครที่พูดภาษาคนได้มาเห็นฉันในสภาพนี้อีกนะ
อ๊ะมีสิ! มีแน่นอน... เจ้าของสองตากลมแป๋วที่กำลังจ้องมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความอยากรู้อยากเห็นนั่นไง ตัวปัญหาใหญ่เลยล่ะ! เพราะว่าเขาพูดได้!
โป๊
นั่นไง เห็นมั๊ยคะ ฉันบอกแล้วว่าเขาพูดได้
เดี๋ยวก่อน ว่าอะไรนะ? ฉันรีบเอามือปิดบังหน้าอกให้พ้นจากสายตาอยากรู้อยากเห็นนั่น ส่วนด้านล่างก็รีบไขว้ขาหนีบเข้าหากันไว้แน่น ...เด็กบ้า มาหาว่าฉันโป๊เร๊อะ หนอย...นายก็โป๊เหมือนกันล่ะย่ะ พูดออกไปแล้ว ฉันก็เพิ่งนึกขึ้นได้ อร๊ายยยย... นี่ฉันกำลังเปลือยกายอยู่กับผู้ชายสองต่อสองในที่รโหฐานเหรอเนี่ย ตายแล้วๆๆ ใครรู้เข้าล่ะก็ ฉันจะทำยังไงดี จะทำยังไงดี๊
แต่เมฆสี่ขวบนะ สี่ขวบไม่ต้องนุ่งผ้า
เอิ่ม... จริงด้วย จะตีโพยตีพายไปทำไมล่ะเนี่ย ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ตัวแค่นี้เอง หุหุ ยังเด็กอยู่ ไม่เป็นไรหรอกมั๊ง
ฉันไม่รู้เลยว่า ในอนาคต... ฉันกับเขาต้องมาอยู่ในสภาพนี้ในสถานที่เดิมอีกครั้ง โดยมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคืออายุของเขาซึ่งทำให้สถานการณ์แตกต่างกันลิบลับ ตอนนั้น ฉันจึงไม่ทันคิดอะไรมาก นอกจากพยายามตีซี้กับเด็กชายเพื่อผลประโยชน์ อย่างน้อย หลอกเขาให้ช่วยรักษาความลับของฉันเอาไว้ได้ก็ยังดี
เน่... นายว่านายชื่ออะไรนะ?
ชื่อเมฆ
เมฆ? ฉันได้ยินชื่อเด็กน้อยแล้วอดสงสัยไม่ได้ อย่าบอกนะว่าเขาคือ...
ปั้นเมฆเหรอ?
อืม
นายปั้นเมฆจริงๆ ด้วย! เฮ้ย ทำไมตัวโตเร็วอย่างงี้?! ฉันกลับบ้านไม่กี่วันเองนะ กลับมาอีกทีตัวขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?
แล้วตะกี๊ว่า กี่ขวบแล้วนะ?
สี่ขวบ เขาตอบพร้อมชูมือโชว์นิ้วมอมแมมทั้งสี่โดยงอนิ้วโป้งลง
อา... มิติเวลาของสองโลกไม่เท่ากันนี่มันน่ากลัวจริงๆ ฉันต้องระวังหน่อยแล้ว
เธอ... เอ่อ... พี่... เด็กน้อยเริ่มงง ไม่รู้จะเรียกหญิงสาวแสนสวยอย่างฉันว่าอะไรดี รู้จักเมฆเหรอ?
รู้ซี่ เมฆมีพ่อชื่ออาทิตย์ มีแม่ชื่อฝนใช่มั๊ยล่ะ?
พี่...เอ่อ...เธอ...เอ่อ...รู้จักพ่อกับแม่ด้วย? งั้นเมฆต้องเรียกน้าหรือป้า แม่สอนให้เรียกเพื่อนแม่ว่าน้าหรือป้า
นี่แน่ะ เดี๋ยวก็เขกกบาลแตกซะหรอก ...ตอนเด็กๆ ฉันอยากโตเร็วๆ เลยบังคับให้ตาทัพพีเรียกฉันว่าป้า แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้อยากแก่เร็วๆ สักหน่อย ...เรียกพี่ก็พอย่ะ ฉันไม่ได้เป็นเพื่อนแม่นาย เด็กชายทำหน้างงอย่างแรง
เอาเป็นว่าเรียกฉันว่าพี่ก็แล้วกัน พี่ชื่อ... แองจี้คงยากไปสำหรับเด็กยุคโบราณอย่างเขาละมั๊ง ...พี่นางฟ้า
อ๋อ พี่เป็นนางฟ้านี่เอง มิน่าล่ะ... เด็กชายพยักหน้าหงึกๆ ...พ่อเคยเล่านิทานเรื่องนางฟ้าแปลงร่างเป็นควายมาช่วยไถนาด้วย ฉันได้ยินว่าเด็กชายเชื่ออย่างงั้นก็รีบเนียน บอกเขาว่า
ใช่แล้ว ฉันก็คือนางฟ้าประจำตัวของปั้นเมฆไง
จริงเหรอ? เมฆมีนางฟ้าประจำตัวด้วย!? เด็กชายปั้นเมฆตาโตด้วยความยินดี
เดี๋ยวซี่ ฟังก่อน อย่าเพิ่งดีใจไปไอ้หนู ฉันเป็นนางฟ้า บินลงมาดูว่าปั้นเมฆน่ะ เกเรรึเปล่า ถ้าเกเรพูดมาก ฉันก็จะพาไปตัดหัว ฉับๆๆๆ
... เด็กชายฟังแล้วขมวดคิ้ว ...แต่พ่อไม่ได้เล่าแบบนี้สักหน่อย เขาเถียง
พ่อเมฆเค้าไม่รู้เรื่อง
ไม่จริงพ่อเก่งที่สุด พี่นางฟ้าห้ามมาว่าพ่อนะ เด็กชายรีบโวยวายปกป้องพ่อของเขาเสียงดัง
ชู่ว์ เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้าจะทำยังไง เจ้านี่นิ...เออๆ พ่อนายต้องเก่งอยู่แล้วล่ะ วันก่อนฉันยังเห็นพาแม่นายหายเข้ากระท่อมไปปั้นเมฆอยู่เลย วันนี้นายออกมายืนเถียงกับฉันฉอดๆๆ เด็กน้อยฟังแล้วเข้าใจไปว่าฉันชมพ่อของเขาจริงๆ ก็ยิ้มหน้าบานแฉ่ง เมื่อเราญาติดีกันแล้ว ฉันก็พูดชักแม่น้ำร้อยสายเพื่อมาถึงข้อสรุป... ห้ามเมฆไปพูดเรื่องฉันให้ใครฟังเด็ดขาด เข้าใจมั๊ย ไม่งั้นล่ะก็... เอ... ฉันจะขู่เด็กนี่ว่ายังไงดีนะ ตะกี๊ขู่ว่าจะตัดหัว ก็ไม่เห็นกลัว ...ไม่อย่างงั้นล่ะก็ ฉันจะตัด... ตัด... ฉันหรี่ตามองหาอวัยวะน่าตัดไปทั่วตัว...
เด็กชายรีบกุมเป้าหันก้นให้ แล้วเหลียวหน้ามามองหน้าฉันด้วยสายตาไม่ไว้วางใจทันที เฮ่ย เห็นฉันเป็นคนยังไง ยังไม่ได้พูดสักหน่อยว่าจะตัดตรงนั้น เน่ ฉันนางฟ้านะยะ!
แต่สุดท้าย เราก็เกี่ยวก้อยตกลงกันได้โดยสันติวิธี
ถ้าปั้นเมฆพูดเรื่องพี่นางฟ้าออกไปแม้แต่คำเดียวล่ะก็ ฉันจะไม่มาให้เมฆเห็นหน้าอีกเลย
ตัดอะไรก็ไม่ร้ายเท่าตัดสัมพันธ์ สิ่งที่เด็กชายปั้นเมฆกลัวที่สุดคือ นางฟ้าประจำตัวแสนสวยและใจดี (ที่ขู่ว่าจะตัดตรงนั้นตรงนี้) หายตัวจากเขาไปตลอดกาล เชื่อไหมคะว่า นั่นคือเหตุผลซึ่งทำให้เขาไม่เคยผิดสัญญาที่ให้ไว้กับฉันเลย เรื่องของฉันจึงยังคงเป็นความลับเรื่อยมา โดยมียุ้งข้าวเก่าๆ หลังนี้เป็นที่ซ่อนตัว
แม่ฝนคนสวยคงสงสัยนิดหน่อยว่า ทำไมลูกชายของเธอถึงได้ชอบแอบไปเล่นคนเดียวในยุ้งข้าวนัก
จากคุณ |
:
Acciacatura
|
เขียนเมื่อ |
:
30 มี.ค. 54 22:23:49
|
|
|
|