เมื่อมองจากมุมสูง บ้านดอกไม้เหมือนภาพเขียนรูปดอกไม้อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมที่เกิดจากต้นชาทองที่ปลูกเรียงเป็นแถวอยู่ข้างรั้ว ถนนที่ทอดยาวจากประตูหน้าถึงตัวบ้านไม่ได้ตัดตรงแหน่วเหมือนถนนโดยทั่วไป แต่กลับตัดเป็นเส้นโค้งอ่อนช้อยสมกับเป็นลำต้นของบ้านดอกไม้ ทางด้านซ้ายขวามีลานรูปใบไม้อยู่สองใบ ใบทางด้านซ้ายได้มีการติดตั้งหลังคาทำเป็นโรงรถ ขณะที่ใบทางขวายังคงถูกใช้เป็นลานอเนกประสงค์อยู่เหมือนเดิม เช้าวันนี้ อาณาเขตเป็นรายแรกที่ออกจากบ้าน เขาโบกมือลาธารระรินที่ตื่นมารดน้ำต้นไม้แต่เช้าอย่างร่าเริงก่อนจะขับรถกระบะคู่ใจไปรายงานตัวที่มหาวิทยาลัย เมื่อเห็นว่าประตูไฟฟ้าเลื่อนปิดเรียบร้อย ธารระรินก็หันไปรดน้ำต้นไม้ต่อ ไม่ได้สังเกตเลยว่าอีกฟากของรั้วมีหัวสีดำผลุบๆโผล่ๆมาเป็นระยะๆ
ที่อีกด้านของรั้ว ชายหนุ่มอายุประมาณสามสิบ สวมสูทสีเทาเต็มยศ ผูกไทด์ผ้าไหมสีเดียวกับเสื้อสูทมีลายเส้นสีขาวเล็กๆแบบอนุรักษ์นิยมสุดขีด ยืนมองชายในเสื้อยืดลายดอกสีแสบตาและกางเกงขาสั้นแค่เข่ากำลังก้มๆเงยๆอยู่ข้างรั้วมาพักใหญ่ จนเขาทนไม่ได้ต้องเดินไปตบไหล่เป็นการเตือน
ปั๊บ
เฮ้ย คนที่ก้มๆเงยๆสะดุ้งสุดตัว แล้วก็มาทำหน้าย่น นึกว่าใคร ที่แท้ก็คุณชาย จะไปทำงานก็ไปสิครับ
ทำอะไร คนที่ถูกเรียกว่าคุณชายถามคิ้วขมวด ซึ่งมันขัดกับผมเรียบกริบ ไม่กระดิกสักเส้นของเขาเป็นอย่างยิ่ง
ดูคนสวย ไม่เห็นเหรอ คนใส่เสื้อยืดหันไปก้มๆมองๆต่อ
ไอ้คุณชิต นายจะมัวมาแอบดูสาวไม่ได้นะ วันนี้ผมมีประชุมเช้าต้องออกภายในห้านาทีนี้ คุณชายโวยได้ไม่จบ ไอ้คุณชิตก็กระโดดมาตะครุบปากคุณชายให้เงียบ หลังจากที่ใช้ภาษาใบ้สื่อสารกันจนเข้าใจดีแล้ว ว่าการส่งเสียงดังของคุณชายจะทำให้คนสวยรู้ตัว จึงเป็นการไม่บังควรเป็นอย่างยิ่งที่คุณชายจะทำอย่างนั้น ไอ้คุณชิตจึงได้ปล่อยคุณชาย แล้วล้วงกระเป๋าหยิบกุญแจรถส่งให้
เอ้า วันนี้ขับไปเองละกัน ผมลาป่วย พอพูดจบไอ้คุณชิตก็หันไปปฏิบัติการถ้ำมองต่อ ส่วนคุณชายก็อ้าปากค้างทำอะไรไม่ได้ นอกจากจะเอามือเสยผมอย่างขัดใจ แต่พอนึกได้ว่ากำลังจะสาย เขาก็เดินจากไปทันที แต่เมื่อไปถึงรถและเห็นเงาตัวเองในกระจก คุณชายก็รีบเข้าไปในรถแล้วจัดแต่งทรงผมใหม่ทันที เขาใช้เวลาเกือบห้านาทีเต็มกว่าจะเริ่มสตาร์ทรถ ---------------------------------------- ในขณะเดียวกัน มุกล้อมในชุดแซคแขนกุดลายเสือดาวก็เดินมาที่รถแจ๊สคันเก่งของเธอเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน มอร์นิ่งริน วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ มุกล้อมทักทายน้องร่วมบ้านอย่างอารมณ์ดี
ธารระรินยิ้มกว้างก่อนจะตอบ โรงเรียนหนูปิดไข้หวัด 2009 สองวันค่ะ
เฮ้อ อิจฉาครูอนุบาลจัง โรงพยาบาลจะปิดเพราะไข้หวัด 2009 บ้างไหมเนี่ย มุกล้อมแกล้งบ่นไปอย่างนั้น แต่แล้วเธอก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเปิดประตูรถด้านหลังเพื่อวางของ ริน มุกล้อมเรียกน้องเสียงดัง
คะ มีอะไรหรือเปล่าคะ ธารระรินทิ้งสายยางรดน้ำต้นไม้ รีบวิ่งมาดู เมื่อมาถึง เธอก็ต้องทำตาโตมองทีวี 29 นิ้วที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ที่เบาะหลังรถแจ๊สไปอีกคน ดูเหมือนว่ามุกล้อมจะลืมของ ไม่ได้ขนเข้าบ้านไปหนึ่งชิ้น
ริน ช่วยพี่ยกไอ้เจ้านี่เข้าบ้านทีนะ นะ พี่ยกไม่ไหว มุกล้อมขอร้องเสียงหวานทันที
ธารระรินยิ้มแห้งๆ พี่มุกขา หนูตัวเล็กกว่าพี่มุกอีกนะคะ หนูยกไม่ไหวหรอกค่ะ
สองสาวมองหน้ากันแป็บเดียว มุกล้อมก็ตัดสินใจไปตามตัวคนที่สาม วรรณจันทร์ถูกลากออกจากเตียงมาในสภาพดูไม่ได้ นอกจากเธอจะเมาขี้ตาจนเดินไม่ตรงทางแล้ว ผมซอยสั้นทรงเก๋ของเธอตอนนี้ยังชี้ไปทุกทิศราวกับเพิ่งโดนไฟช็อตมา
จันทร์ช่วยพี่ยกทีวีที แล้วเย็นนี้พี่เลี้ยงหมูกะทะ มุกล้อมเสนออย่างใจป้ำ
ไม่เอาอะ จันทร์มีตังค์ จ่ายเองได้ ไม่ต้องขายแรงงาน วรรณจันทร์ตอบด้วยท่าทางงัวเงีย แถมยังจะเดินกลับไปนอนเอาดื้อๆ แต่มุกล้อมคว้าตัวไว้ได้เสียก่อน
น่าช่วยพี่หน่อยนะ ยกเองเสื้อพี่ก็ยับ ขืนเอามันไปทำงานด้วย ก็เปลืองน้ำมัน ช่วยพี่ แล้วลดโลกร้อนด้วยนะจันทร์นะ มุกล้อมสามารถหาเหตุผลที่ไม่น่าจะเกี่ยว มาเกี่ยวด้วยจนได้
วรรณจันทร์หันมามองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีทีท่าว่าจะใจอ่อน และแม้จะง่วง เธอก็ยังอุตสาห์เห็นหัวดำๆผลุบๆโผล่ๆอยู่ที่ข้างรั้ว วรรณจันทร์เหลียวไปเหลียวมาอยู่สองทีก็เดินไปหยิบเอาร่มพับสีแดงสดในรถมุกล้อมออกมาแล้วเขวี้ยงสุดแรง โดยมีหัวดำๆที่ผลุบๆโผล่ๆเป็นเป้าหมาย
เฮ้ย คราวนี้สามสาวเห็นหน้าคนที่ซ่อนตัวอยู่ถนัดตา เพราะรายนั้นไม่ใช่แค่หลบร่มได้อย่างเฉียดฉิว แต่ยังเก็บร่มแล้วปีนรั้วข้ามมาหาสามสาวด้วยท่าทางเอาเรื่อง นี่คุณ ทำแบบนี้ได้ไง รู้ไหมว่า ถ้าผมหลบไม่ทัน มันถึงหัวร้างข้างแตกเลยนะ
แล้วหัวนายแตกไหมล่ะ มือขว้างถามด้วยสีหน้าเฉยสนิท
ยัง คนในชุดเสื้อยืดสีแสบตาตอบเสียงห้วน
นี่คุณ อย่าเอาเรื่องพี่จันทร์เลยนะคะ พอคนสวยขอร้อง ไอ้คุณชิตก็แทบจะละลายอยู่ตรงนั้น แต่...
แต่พี่จะเอาเรื่องหมอนี่ วรรณจันทร์แทรกหน้าตาเฉย
อะไรนะ ไอ้คุณชิตอุทานอย่างไม่เชื่อหู
นายบุกรุกเข้ามาในบ้านของเรา ปีนรั้วเข้ามาเห็นๆ มาในขณะที่มีแต่ผู้หญิงอยู่ในบ้าน แถมก่อนหน้านี้ยังด้อมๆมองอยู่ข้างรั้วอีก ต้องไม่มีเจตนาดีแน่ วรรณจันทร์ชี้หน้าคาดโทษท่าทางจริงจัง
เฮ้ย ก็คุณ... ยังไม่ทันที่ไอ้คุณชิตจะได้พูดถึงสาเหตุที่ทำให้ต้องปีนเข้ามา มุกล้อมก็เอื้อมมือมาหยิบร่มออกจากมือของไอ้คุณชิตไปอย่างรวดเร็ว เธอโยนมันเก็บเข้าไปในรถแล้วหันมายิ้ม
ร่มของฉัน อยู่ในรถตลอดเวลา ไม่เคยให้ใครยืมไปไหนเลย ดังนั้นจึงไม่มีทางที่มันจะไปเฉียดหัวใครได้ มีพยานอยู่ตรงนี้สองคน รับรองว่าตำรวจต้องเชื่อฉันมากกว่านายแน่ๆ มุกล้อมยิ้มหวานอย่างเป็นต่อ
เฮ้ย ไอ้คุณชิตร้องได้อีกคำ
สรุปว่า พี่มุกได้คนยกทีวีแล้วนะคะ จันทร์จะไปนอนต่อล่ะ ยังไม่ทันจะรู้เรื่อง วรรณจันทร์ก็จะไปอีกแล้ว
ได้ไง นายนี่ไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ พวกเธอต้องอยู่ช่วยพี่คุมหมอนี่ให้ช่วยพี่ขนของให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไป มุกล้อมพูดราวกับว่าไอ้คุณชิตรู้เรื่องแล้วว่าต้องทำอะไร ทั้งๆที่พนักงานขนของคนใหม่ยังยืนงงอยู่เลย
พี่มุกหมายความว่า เราจะไม่แจ้งตำรวจว่าคุณบุกรุก ถ้าคุณช่วยพี่มุกขนทีวีเข้าไปในบ้านน่ะค่ะ ธารระรินช่วยอธิบาย
ครับ ยินดีครับ ไอ้คุญชิตหันไปส่งยิ้มปัญญาอ่อนให้ธารระรินเสียจนธารระรินถอยไปยืนหลบหลังมุกล้อม
วรรณจันทร์มองหน้าบานเป็นจานเชิงของไอ้คุณชิตอย่างไม่ค่อยจะแปลกใจ ผู้ชายร้อยละเก้าสิบมักจะเอ๋อๆแบบนี้แหละเวลาที่ยายรินคุยด้วยหนแรก แม้ว่าส่วนมากจะอาการดีขึ้นหลังจากที่รู้จักยายรินได้สักพัก แต่ก็สามารถกลับมามีอาการเหมือนเดิมได้เสมอถ้ายายรินเผลอยิ้มให้แบบหวานกว่าปกติ ส่วนมุกล้อมก็เริ่มบงการให้ไอ้คุณชิตที่ยังเหม่อลอยให้เริ่มขนทีวีทันที
ขอบคุณนะคะ ไอ้คุณชิตแทบจะลอยได้ เมื่อได้ยินคำขอบคุณจากคุณคนสวย แต่ก็ต้องถูกกระชากกลับมาบนดิน เมื่อมีแบงค์ยี่สิบยื่นมาตรงหน้า
นี่ค่าแรง มุกล้อมให้ค่าขนด้วย คนอย่างเธอไม่เคยหลอกใช้ใครฟรีอยู่แล้ว
เอ่อ ไม่ต้องก็ได้ครับ ไอ้คุณชิตยิ้มแห้งๆก่อนจะปฏิเสธ
รับไปเถอะ ถึงจะไม่มาก แต่สำหรับคนสวนอย่างนายมันก็คงไม่น้อย มุกล้อมบอกเรียบๆ
เปล่า ผมไม่ใช่คนสวน ไอ้คุณชิตปฏิเสธเสียงลั่น
อืมม จันทร์ก็ว่าไม่เหมือน ขาวขนาดนี้คงไม่ใช่คนสวนที่ต้องตากแดดตัวดำหรอก จันทร์ว่า.... ตอนที่วรรณจันทร์เดินวนสำรวจไอ้คุณชิต เขายิ้มกว้างเตรียมรับคนตาถึง แต่ก็ต้องเหี่ยวลงในทันใดเมื่อวรรณจันทร์พูดจบประโยค ต้องเป็นคนขับรถแน่ๆเลย
-----------------------------------------------
จากคุณ |
:
Deckard
|
เขียนเมื่อ |
:
31 มี.ค. 54 15:35:13
|
|
|
|