บทที่ 19 ยิ่งแก้ยิ่งแย่ สุดท้ายสิ่งที่เกิดก็คือเข้าวงจรเดิมคืออยู่ห่างๆอย่างห่วงๆเพราะยังไงก็จะไม่ให้ใครมารู้ว่าทำอะไรอยู่เพื่อนก็เริ่มจะห่างจากผมและดูเหมือนเบื่อที่จะว่าผมกันไปแล้ว
แต่ก็ไม่สนบางเรื่องที่อยากรู้ก็ถามเอากับเกตแต่ก็ไม่บอกกับเกตว่ากำลังทำอะไรอยู่และที่ทำไปทั้งหมดเพราะอะไร ต่อมาที่รู้ก็คือทิพย์ไปเปิดร้านเบียร์กับเพื่อนแถวๆทางกลับหอผม จริงๆก็ขับผ่านทางนั้นตลอดจะว่าไปก็ดีเหมือนกันเพราะถ้าเห็นรถมอร์เตอร์ไซด์ก็จะได้รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน และผมเองถ้าไม่เจอรถทิพย์ที่นั้นผมก็จะวกไปที่หอคณะอยู่แล้วเพื่อดูว่ารถอยู่ไหมโดยจะวนไปด้านหลังห้องทิพย์เพื่อดูว่าอ่านหนังสือหรือเปล่าหลับหรือยังทั้งที่ไม่รู้หรอกว่าทิพย์อยู่หรือเปล่า ถ้าวันไหนเจอรถอยู่ที่ร้านก็จะดูแสงไฟจากหอตัวเองร้านว่าปิดหรือยัง ถ้าร้านปิดซักพักก็จะไปที่หลังหอเพื่อดูว่าทิพย์กลับไปถึงที่หอหรือยังและทุกสิ่งก็ทำในโดยไม่อยากให้ทิพย์ได้รู้เรื่องใดๆ ตอนนี้ก็ไม่ได้ไปช่วยซ้อมน้องที่สนามรักบี้อีกเพราะมาช่วยชมรมบาสมากกว่าแต่ก็โดนข้อหาเดิมครับจีบน้องผู้จัดการครับจะบอกว่าทำดีกับใครไม่ได้เลยโดนข้อหาจีบตลอดแต่จริงๆก็คงเป็นเพราะน้องรหัสปอที่อยู่ชมรมบาสด้วยเหมือนกัน น้องแอ้วผู้จัดการปี 1จริงๆก็เป็นแบบที่ชอบแต่ในความรู้สึกจริงๆคงปลื้มน้องมากกว่ารู้สึกดีๆแต่ไม่ได้อยากเอามาเป็นแฟนแต่เรื่องน้องแอ้วนี้หละทำให้ต้นที่เป็นน้องรหัสปอทะเลากับแฟน ตอนแรกก็ไม่ได้รูหรอกครับเหตุที่เข้าไปเกี่ยวเพราะจะบอกว่าแฟนต้นน่าสงสารมากมาบ่นให้ฟังอยู่เรื่อยๆมีอะไรก็มาปรึกษาผมตลอดที่ผมคิดตอนนั้นคือเราไม่ได้อยู่กับคนที่เรารักก็อยากให้คนอื่นสมหวังก็พอแต่พอสืบไปสืบมาเรื่องของเรื่องก็คือนายต้นไปรับไปส่งน้องแอ้วที่เป็นผู้จัดการชมรมแล้วปุ้ยที่เป็นแฟนเริ่มไม่ไว้ใจจนทะเลาะกัน ด้วยความที่ต้นเป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้วเพราะเวลาเล่นบาสก็จะไปทะเลาะกับกรรมการจนทำให้กรรมการเป็นพวกเดียวกับฝ่ายตรงข้ามแทบจะทุกครั้งไปก็เลยเป็นเหตุให้ปุ้ยที่ไม่ไว้ใจเรื่องว่าต้นไม่ค่อยมีเวลาให้พอทักท้วงก็ยิ่งเตลิดไปกันใหญ่ ก็เลยต้องช่วยไปเรื่อยๆคอยปลอบปุ้ยไปตลอดแต่ก็ยังไปมองทิพย์ห่างๆอยู่เหมือนเดิมแต่ก็มีน้องบางคนแซวประมานว่าช่วยนี้กะไปจีบน้องแอ้วเองหรือเปล่าผมปล่อยไปครับอยากลืออะไรก็ลือแต่ไม่ได้พยายามให้ได้ควงกับน้องเขาจริงๆ แต่สุดท้ายไม่ว่ายังไงต้นกับปุ้ยก็ลงเอยบอกว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแต่ที่รู้คือลึกๆจริงไม่ใช่เพราะปุ้ยยังรู้สึกกับต้นอยู่พอเพราะพอต้นไม่อยู่ก็มาถามผมเรื่องประมานว่าตัวเองผิดตรงไหน ก็เป็นอีกครั้งที่แก้ปัญหาไม่ได้เพราะของตัวเองยังแก้ไม่ได้เลย
จริงๆก็มีเรื่องที่ทำให้ประทับใจในทิพย์อีกอย่างคือจากคราวที่ไปมิตติ้งปีที่ผ่านมาทิพย์ก็ร้องเพลงน้องๆในเมเจอร์เลยเอามาแสดงร่วมในตอนรับน้องที่แม่เหียะเพราะมีคนอยากให้มีการแสดงดนตรีตอนกลางคืนพวกน้องๆก็เลยอยากร่วมด้วยและก็ให้ทิพย์เป็นนักร้องด้วยในตอนนั้น
ส่วนผมไปป่วนอยู่ด้วยบ่อยๆก็เลยได้ไปร้องด้วยหนึ่งเพลง ช่วงนั้นทิพย์ก็ไปซ้อมบ่อยมากๆจนเสียงแหบไปและดูเหมือนทิพย์จะเกร็งและพยายามอย่างมากแต่สุดท้ายการแสดงก็ออกมาได้ดีครับรวมถึงผมด้วยเพราะผมเคยทำวงกับเพื่อนสมัยมัธยมปลายแต่ในตอนนั้นตัวเองเกร็งเกินไปจนเสียงมันไม่ออกตอนขึ้น ส่วนเรื่องชมรมถ่ายภาพก็ยังทำอยู่เพียงแต่พยายามให้มันเป็นรูปเป็นร่างมากว่าเดิมเพราะเราไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับการของบ ก็เลยทำให้ต้องออกเงินไปก่อน และกล้องก็ต้องซื้อใหม่ครับเพราะกล้องโดนขโมยตั้งแต่ปีที่แล้วโดยโดนจากในห้องนอนของผมเองและก็เป็นอีกเหตุผลที่ต้องย้ายออกจากหอคณะปีนี้ผมพยายามวนไปถ่ายรูปทิพย์ให้มากขึ้นเพราะผมอยากจำเรื่องทิพย์ในช่วงเวลาต่างๆเอาไว้เสมอ หอพักใหม่เป็นหอที่ดีมากๆเมื่อเทียบกับราคาการเข้าพักแต่รูมเมทไม่ค่อยกลับห้องเพราะน้องไปนอนกับแฟนซะมากกว่าสรุปเลยได้นอนห้องหรูๆเพียงคนเดียวแต่ติดนิสัยใหม่นอนเล่นแช่ในอ่างน้ำแบบที่ทำอย่างในหนังมันทำให้สบายจริงๆ แต่ก็มีบางเรื่องที่ทำให้รู้สึกเพราะน้องรูมเมทที่พักด้วยเป็นพวกเด็กอาชีวะทำให้บางครั้งก็มามึนกันในห้องบ้าง ก็มีน้องบางคนพาแฟนมาทำกันในแบบที่แฟนเขาทำกันหนะแหละครับไม่ได้เกรงใจคนไม่มีแฟนบ้างเลยเฮ้อ
สุดท้ายก็เลยต้องเดินออกจากห้องเพราะเราก็อดคิดอยากที่จะทำแบบแฟนกับทิพย์บ้างแต่แค่พูดตอนนี้ยังลำบากเลย ก็เลยไปขับมอร์เตอร์ไซด์เล่นแน่นอนไปหลังห้องทิพย์เหมือนเดิมไฟเปิดอยู่แต่ไม่รู้อยู่หรือไม่ กลับมาที่ห้องก็เดินสวนกับฝ่ายผู้หญิงออกไปพอดี
จากคุณ |
:
Peera Ler
|
เขียนเมื่อ |
:
2 เม.ย. 54 13:33:08
|
|
|
|