12 เปลี่ยน
นี่ขนาดพ่อเอ็งไถนา ยังโดนพ่อตาหาว่าขี้เกียจ ถ้าเอ็งไปบอกตาเอ็งว่าพ่อเลิกไถนา ปล่อยให้ข้าวขึ้นตามยัตถากรรม...
ตามธรรมชาติตะหากพ่อ ปั้นเมฆรีบแก้
มันต่างกันยังไงวะ เออ นั่นแหละ... จะปล่อยข้าวขึ้นตามธรรมชาติหรือตามยัตถากรรม มีหวังพ่อโดนตาเอ็งด่าเละแน่
แนวความคิดจากโรงเรียนชาวนาที่ฉันพยายามจำมาถ่ายทอดให้ปั้นเมฆนั้น เดินสวนทางกับกระแสความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นแบบคนละทิศทางกันเลย
ความจริงสิ่งที่พ่อของปั้นเมฆได้รับมรดกตกทอดและทำมาโดยตลอดคือการเกษตรแบบพื้นบ้านดั้งเดิมของไทย ซึ่งมีแนวทางคล้ายกับการเกษตรแบบผสมผสานที่โรงเรียนชาวนาส่งเสริม แต่ว่ามันกลับถูกค่านิยมของสังคม ทัศนคติ และกลไกทางตลาด ทำให้ ต้องเปลี่ยน ไป...
ประชุมจ้า ประชู๊ม
เอ๊ะ... เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึไง ทำไมเจ๊นางรมร้องเรียกพวกให้รีบไปรวมกลุ่มกันตรงนั้น ...พ่อเทพทุยยืนเด่นเป็นสง่ารออยู่บนขอนไม้ริมทุ่งนาในฐานะประธานการประชุม ฉันไม่รอช้า รีบแจ้นตามพวกเจ๊ๆ ไปล้อมวงฟังด้วยความอยากรู้อยากเห็น
วันนี้เราไปประชุมที่ลานวัดข้างบ้านกำนันกับนาย... แหม พ่อเทพก็พูดซะโก้ ใครจะเอากระบือไปประชุมล่ะคะ จริงๆ ก็คือนายอาทิตย์ขี่พ่อเทพไปนั่นเอง ...รู้ไหมว่าเราได้เห็นตัวอะไรมา ...ลองเดาดูซิ
ควายบิน?
ควายยักษ์?
ควายสามเขา... ควายห้าขา? เจ๊ๆ ต่างพากันเดากันมั่วไปให้พ่อเทพส่ายหัว
ควายเหล็ก นั่นคือคำเฉลย พวกเราคงเคยได้ยินมาบ้าง
เห็นเค้าว่ามีแต่คนรวยจริงๆ เท่านั้นที่มีควายเหล็ก บ้านกำนันเค้ามีใช้อยู่ตัวหนึ่ง พวกเราได้ยินแต่ชื่อ แต่ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ สักที
เราได้เห็นแล้ว ควายเหล็กตัวใหม่เอี่ยมมาไกลจากต่างประเทศ
มันก็พูดภาษาไร?
มันพูดไม่ได้เลยต่างหาก แต่มันร้องเสียงโคตรดังเลยเวลาไถนา คนขายเค้ามาสาธิตให้ชาวบ้านดู หนวกหูมากเพราะมันร้องตลอดเวลา
เหรอๆ ...แล้วมันหล่อล่ำดำใหญ่มั๊ย สู้พ่อเทพได้เปล่า?
มันตัวโตมาก เค้าว่ามันแข็งแรงกว่าพวกเรา ทำงานได้ไม่จำกัดเวลา ไม่ต้องพักเพราะมันไม่รู้จักเหนื่อยเหมือนอย่างพวกเรา นายก็ไม่เหนื่อยด้วยแค่ขึ้นไปขี่จับเขามันเลี้ยวไปมาได้ตามใจ มันไม่ดื้อ ไถนาที่ใหญ่ๆ ได้สบายๆ มีแรงเหลือไปรับจ้างไถให้เพื่อนบ้านได้เงินอีกด้วย
สรุปว่าดีกว่าพวกเรางั้นสิ งี้นายจะส่งเราไปเป็นลูกชิ้นไม๊เนี่ย พวกเจ๊ๆ เริ่มวิตกกังวล
นายเราเค้าไม่เอามันมาหรอก นายว่ามันดีสู้เราไม่ได้ เพราะมันไม่ช่วยกินหญ้า กินฟางในนา
อ้าวแล้วมันไม่หิวเร๊อะ เจ๊นางแอ่นถามด้วยความสงสัย
มันกินน้ำเหม็นๆ เรียกว่าน้ำมัน นายว่าเปลืองตังค์ แถมยังกินแล้วหกเรี่ยราดเลอะนาอีก สู้ควายอย่างเราไม่ได้ กินหญ้ากินฟางในนา ไม่ต้องเสียเงินซื้อ ช่วยกำจัดวัชพืชได้ด้วย
ใช่แล้วๆ พวกเจ๊ๆ ดีใจกันใหญ่ที่ได้ยินแบบนั้น ยังไงพวกเราก็ดีกว่า
แล้วมันก็ไม่ขี้ ไม่มีขี้ก็ไม่มีปุ๋ย แถมไม่ออกลูกอีกต่างหาก มีแต่โทรมลงๆ แล้วเวลาตาย ก็กลายเป็นซากเหล็ก ไม่เน่า ไม่เปื่อยชิ้นสดตับริ้วตก เฮอะๆ สรุปว่านายไม่เอา
เย้... งี้ทำไมพ่อเทพต้องทำหน้าเครียดเรียกพวกเรามาประชุมล่ะ?
จริงๆ ในทุ่งรังสิตเรานี้ บางบ้านที่เค้าพอมี ก็ซื้อหรือเช่าควายเหล็กมาใช้พักใหญ่แล้ว แต่คราวนี้ คนขายเค้ามาพร้อมกับคนที่มีเงินมาให้ชาวนายืมด้วย
โห ใครอ่ะ ทำไมใจดีจัง? เถ้าแก่โรงสีใหญ่คนนั้นรึเปล่า ที่นาตรงโน้นเจ้าของไม่มีจ่ายคืนโดนเค้ายึดไปแน่ะ
ไม่ใช่อ่ะ สองคนนั้นข้าพอจะคุ้นหน้าบ้าง แต่นี่ข้าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ไม่ใช่คนแถวๆ นี้ เห็นเค้าว่ามาจากอะไรคานๆ ชาวบ้านดีใจกันใหญ่ พูดกันว่าดอกถูกๆ ข้าก็ไม่รู้ว่าดอกอะไรถูก ดอกอะไรผิดหรอกนะ รู้แต่ว่าผู้ใหญ่บ้านโน้น...พ่อตาของนายอาทิตย์ก็เอาเงินเค้ามาซื้อแล้วยังบอกด้วยว่า จะเลิกใช้ควายแล้ว ขายทิ้งให้หมดเลย
อุ๊ยเหรอ?
หลายบ้านก็คิดอย่างงี้ บ้างก็ว่าจะขอเช่าไปใช้ พวกเรายังโชคดีที่มีนายเห็นคุณค่า นายอาทิตย์ว่า ออมเงินไว้กับควาย ดีกว่าเป็นหนี้เขา
นายอาทิตย์นี่เค้าพอเพียงดีจัง ปั้นเมฆถือว่าโชคดีที่มีพ่อแบบนี้ แต่ไม่รู้ว่า ในยุคสมัยที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ เขาจะโชคดีไปได้อีกนานแค่ไหน
วันหนึ่ง ฉันก็ได้พบกับเรื่องมหัศจรรย์ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าฉันจะได้พบเจอในชาตินี้...
วันนั้น ปั้นเมฆวิ่งกระหืดกระหอบกลับมาจากบ้านคุณตาของเขา
พ่อๆๆ... ตาไม่สบาย
เป็นไรมากรึเปล่า? นายอาทิตย์หันมาซักลูกชาย
ไม่เป็นอะไรหรอกมั๊ง ยังมีแรงเอ็ดตะโรเสียงดังฟังชัดอยู่เลย แต่ตาบ่นปวดหลัง ลุกไม่นั่งไม่ค่อยไหวเลยใช้เมฆให้เป็นตัวแทนของตาไปประชุมที่บ้านกำนันแทน
อะไรวะ เอ็งตัวแค่นี้ จะไปประชุมแทนผู้ใหญ่บ้านได้ไง? แล้วลุงเอ็งล่ะ?
โธ่พ่อ นี่มันแค่สองโมงเช้า ลุงยังไม่สร่างเลย
ใครๆ ก็รู้กันว่าพี่ชายของแม่ฝนหยำเปไม่เอาไหน พ่อของแม่ฝนก็แก่ตัวลงทุกวันๆ... ความจริง แกก็พอมองเห็นภาพแล้วว่า ต่อไปภายหน้า คนที่จะมาดูแลที่นาและทำงานแทนตัวได้คงไม่พ้นนายอาทิตย์ลูกเขย แต่ด้วยทิฐิคนแก่ ก็เลยได้แต่ใช้ปั้นเมฆเป็นตัวกลาง อย่างวันนี้ แกรู้สึกไม่ค่อยสบาย ก็ให้คนมาตามลูกสาวไปดูแลแต่เช้า แล้วสั่งงานผ่านหลานชายมา คนที่ต้องไปประชุมแทนก็ไม่พ้นต้องเป็นพ่อของหลานชายนั่นเอง
นายอาทิตย์ไม่ไปประชุมคนเดียว แต่พาลูกชายกับสัตว์เลี้ยงน่ารักไปด้วยหนึ่งตัว ซึ่งก็คือเจ้าชมพูน้อยฉันเองค่ะ ...การประชุมจัดขึ้นในเต้นท์ขนาดใหญ่ซึ่งกางเด่นเป็นสง่าอยู่บนลานนวดข้าวข้างบ้านกำนัน ส่วนหัวข้อการประชุมวันนี้คือ เกษตรอำเภอมาแนะนำข้าวพันธุ์ใหม่ที่ให้ผลผลิตสูง มีการแจกตัวอย่างพันธุ์ให้ชาวบ้านเอาไปทดลองปลูกในฤดูนี้ และให้ปุ๋ยเคมีไปใส่ด้วย ฉันเห็นยี่ห้อแล้ว เอ๊ะคุ้นๆ... โลโก้นี้ ทรูฟู๊ตสมัยก่อนนี่เอง
ใส่ปุ๋ยของเค้าแล้วต้นข้าวง๊ามงาม เขียวววว...ขจีไปทั้งทุ่ง รับรองจะติดใจ... ชาวบ้านที่ได้รับแจกมาแล้วได้ทดลองปลูกฤดูก่อนหน้านี้คุยฟุ้ง ...ข้าลองมาแล้ว เชื่อข้าเหอะ พันธุ์นี้มันสุดยอดมาก ยังดีนะ สมัยนี้ยังไม่มีพระเจ้าจ๊อด ...ปีที่แล้ว ข้าเกี่ยวข้าวได้ไร่ละเกือบเกวียนแน่ะ คนนี้ก็เอ๊ะคุ้นๆ เหมือนกัน... ใครหว่า? เหมือนเคยเห็นที่ไหน อ๊า นึกออกแล้ว หน้าตาอย่างงี้ หัวทรงนี้ อีตาคนนี้ต้องเป็นต้นตระกูลหรือญาติไม่ห่างทางใดทางหนึ่งของลุงจ้อน...เอ้ย ป๋าจอห์นแน่ๆ เลย
พ่อๆ เราจะเปลี่ยนไปปลูกข้าวพันธุ์ใหม่เหมือนพ่อไอ้จ้อยเค้ารึเปล่า?
โอ้... เขาคือพ่อไอ้จ้อยขี้โม้เองหรอกเร๊อะ อย่างงี้ไอ้จ้อยก็ต้องเป็นญาติป๋าจอห์นด้วยสิ เหอๆ
ขี้โม้กันทั้งตระกูลเลย
ไอ้จ้อยคุยว่าพ่อมันเกี่ยวข้าวได้ตั้ง 90 ถังแน่ะ แต่ของเราที่เคยเกี่ยวได้ มากสุดก็แค่ไร่ละสี่ห้าสิบถังเองนะพ่อ
แต่เราก็พอกินนี่หว่า... เอ็งจะเกี่ยวเอาข้าวเยอะๆ ไปทำไรวะ
อื้ม... จริงด้วยพ่อ
ไอ้เมฆ เอ็งอย่าไปเชื่อไอ้จ้อยมันมาก เล่นห่างๆ ลูกบ้านโน้นหน่อยก็ดี ดูจากท่าทางของนายอาทิตย์แล้ว เขาคงไม่ค่อยปลื้มครอบครัวไอ้จ้อยเท่าไหร่ ...เดี๋ยวติดนิสัยไม่ดีมา ส่วนเรื่องที่มาประชุม เขาสรุปกับลูกชายว่า... เราเตรียมเมล็ดสำหรับปลูกไว้แล้วด้วย แม่เอ็งนั่งคัดแทบตาย ไม่เอามาปลูกได้ไง เดี๋ยวแม่เอ็งเสียใจนะ อีกอย่าง ถ้าใช้พันธุ์ใหม่ ก็ต้องซื้อปุ๋ยเค้ามาใส่ พ่อไม่อยากเป็นหนี้ว่ะ
ที่มาพร้อมกับพันธุ์ข้าวส่งเสริมและปุ๋ยเคมี คือเจ้าหน้าที่ธนาคารใหม่ที่รัฐบาลตั้งขึ้นเพื่อชาวไร่ชาวนาโดยเฉพาะ ...ธกส.นั่นเอง ฉันถึงบางอ้อแล้วว่าที่พี่เทพทุยพูดถึงอะไรคานๆ ก็คือธนาคาร ส่วนดอกถูกนั้น...
นี่เค้าคิดดอกแค่ร้อยละสิบต่อปี คิดแล้วเดือนหนึ่งไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซนต์ ถูกกว่าไปกู้เถ้าแก่ตั้งเยอะ เถ้าแก่คิดดอกตั้งเดือนละสามเปอร์เซ็นต์แน่ะ
ชาวบ้านที่เคยกู้นอกระบบอยู่ดีใจกันใหญ่ ส่วนคนที่ไม่เคยติดหนี้ พอได้ยินอย่างงี้ก็ลองติดหนี้
เค้าว่าได้ข้าวเยอะกว่า ขายได้เงินมากกว่านี่ เดี๋ยวมีกำไรก็คืนเค้าได้แล้ว กู้ก็กู้วะ
น้องบืออย่างฉันได้แต่มองสิ่งที่เกิดขึ้นเงียบๆ ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี ทั้งๆ ที่รู้ว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ก่อให้เกิดปัญหามากมายเรื้อรังตามมาจนถึงทุกวันนี้ และฉันก็ถูกส่งข้ามมิติมาเพราะปัญหานี้ด้วย
ในขณะที่ฉันคิดไม่ตก เดินวนเวียนไปมา สายตาฉันก็ไปหยุดค้างอยู่ที่หนุ่มใหญ่วัยสามสี่สิบท่าทางภูมิฐานคนหนึ่ง... เขากำลังนั่งคุยอยู่กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางธนาคารที่มาด้วยกันโดยไม่สังเกตุเห็นเลยว่า ไม่ไกลจากตรงนั้นเท่าไร มีควายเผือกตัวหนึ่งเห็นเขาแล้วตะลึงค้างจ้องหน้าเขาตาไม่กระพริบ
อา... ไม่เคยคิดว่าชาตินี้ เราจะได้มีโอกาสพบหน้ากันอีกครั้ง
คุณปู่ของฉันเองค่ะ! คุณปู่ซึ่งจากฉันไปหลายปีแล้ว ยังมีชีวิตอยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้จริงๆ เหรอเนี่ย ...ไม่ผิดแน่ ถึงฉันจะเคยเห็นท่านตอนแก่ แต่ฉันก็มีรูปคุณปู่เมื่อตอนหนุ่มๆ อยู่หลายใบไว้ดูต่างหน้า ทำไมจะจำไม่ได้ คนที่รักเด็กหญิงแองจี้ในโลกนี้มีอยู่แค่สองคนเองนี่คะ
คุณปู่ขา แองจี้อยู่นี่ค่ะ... แองจี้อยู่นี่ ได้ยินไหมคะ ฉันได้แต่ร่ำร้องอยู่ในใจแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลนองหน้าอยู่เงียบๆ ด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกเลย รู้แต่ว่า ฉันอยากจะวิ่งเข้าไปกระโดดกอดท่านแน่นๆ ด้วยความรักและคิดถึงสุดหัวใจ แต่ทำไงได้ ฉันอยู่ในร่างน้องบืออย่างงี้ และถึงจะแปลงร่างกลับไปเป็นแองจี้คนเดิม คุณปู่ก็คงไม่รู้จักฉัน ไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร เพราะนี่มันก่อนเวลาที่ฉันจะมาเกิดเป็นหลานท่านตั้งนาน
จากคุณ |
:
Acciacatura
|
เขียนเมื่อ |
:
2 เม.ย. 54 22:22:25
|
|
|
|