14 ความลับของแม่มด
ฉันกลับมาโลกปัจจุบันคราวนี้ ปรากฎว่าคุณพลพายัยแม่มดกลับไปแล้ว เย้...!
พอยัยแม่มดกลับไป ตาทัพพีก็กลับมาเป็นปกติ... ฉันก็เลยซวย เย้ไม่ออก เพราะถูกตาทัพพีซักแทบตายว่าหายไปไหนมาสามวันเต็มๆ เฮ่อ... ไม่น่าเลยฉัน ดันเผลอใจอยู่ในโลกอดีตนานไปหน่อย... ต้องบอกเขาไปตามความจริง
หุหุ... ป้าไปวัดมาน่ะจ้า
วัดอะไร?
อ่า... วัด... วัดอะไรล่ะค้า ...ก็วัดความสูงของหนุ่มน้อยปั้นเมฆอ่ะดี๊ (ฉันไม่ได้โกหกเลยเห็นมั๊ยคะ)
ตาทัพพีอย่าซักป้าเหมือนป้าทำผิดมาสิ วุ้ย บาปกรรมนะยะ ป้าไปล่ะ ง่วง... ฉันแกล้งหาววอดๆ
ฮ่าววววว...ป้าทำสมาธิมาท้างคืน
ฉันไม่ได้โกหกเหมือนกัน... ฉันทำสมาธิตั้งสติอยู่ทั้งคืนจริงๆ ก็มันสับสนหัวใจนี่นา ตั้งแต่เป็นสาวมา ไม่เคยมีหนุ่มมาจีบ เพิ่งจะมีก็คราวนี้ ดันเป็นหนุ่มวัยละอ่อนที่ฉันเห็นเขามาตั้งแต่ตอนตัวเท่าลูกหมา... เฮ่อ...ไม่รู้จะปรึกษาใครดี กามเทพกับพระแม่โพสพก็ไม่เห็นปรากฎตัวสักที
คุณย่าขา... แองจี้ควรทำยังไงดีคะ... เมื่อไม่มีใครให้ปรึกษา ฉันเลยต้องมานั่งระบายความในใจให้คุณย่า...แม่ลุงสิบที่บ้านของแก
เวลาที่นึกถึงเขา ...เวลาที่สบตา ...เวลาเขาเข้ามาใกล้ อกใจแองจี้ก็สั่นไหวกระเพื่อมๆ ไม่ยอมหยุด
อะไรนะ? ขี้กระเพื่อมเร๊อะ? นี่เอ็งแอบไปขี้ลงคลองรึ บอกหลายครั้งแล้วว่าให้ขี้ในนา จะได้ใช้เป็นปุ๋ย
ม่ายช่ายยยย ไม่ใช่... อกใจค่า อกใจกระเพื่อมสั่นไหว
อ่อ... อกสั่นหรอกเร๊อะ เล็กขนาดนั้น
หญิงชราเหล่มองมาที่อกใจของฉัน ...สั่นได้ด้วยเหรอ? กรี๊ด คุณย่าใจร้าย
คุณย่าว่า... ถ้าแองจี้รักเด็กนี่ผิดมากมั๊ยคะ?
ผิดเซ่ ทำอีท่าไหน ถึงไปขี้เลอะเด็ก?
เฮ่อ... คุณย่าหูหนวกก็ดีไปอย่าง ฉันจะเล่าอะไรยังไงก็ได้ ความลับไม่แตก เหอๆ
แองจี้สับสนหัวใจไปหมดแล้ว ตอนแรกที่รับงานนี้มา ไม่เคยนึกว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ เฮ่อ... ภาระกิจยังไม่ทันทำได้สำเร็จ หนูก็เสร็จ... เอ้ย... ยัง ยังไม่เสร็จค่ะ หุหุ... แองจี้หมายถึงหนูสังเวยหัวใจให้เค้าไปแล้ว หนูควรทำยังไงดี ทำยังไงดี๊
ฉันไม่รู้ว่าคุณย่าได้ยินหรือเปล่า ฟังรู้เรื่องแค่ไหน แกใช้สายตาเอ็นดูมองฉันเงียบๆ นั่งเท้าคางฟังฉันบ่นไปเรื่อยๆ
เขาอายุแค่สิโหะเอง ยังหัวเกรียน เรียนหนังสืออยู่แค่มศ. สาม แองจี้ อายุ 22 แก่กว่าเค้าตั้ง 6 ปี คุณย่าว่าน่าเกลียดไม๊คะ ใครๆ จะมองว่าแองจี้หลอกกินเด็กรึเปล่า?
กรุบๆ
อ่า... คุณย่าว่าอะไรนะค้า?
อ้าว ก็ตะกี๊เอ็งว่า กินเด็ก ไม่ใช่เหรอ? ก็เลยช่วยเอ็งพากย์เสียงกินเด็กไงล่ะ อิอิ...
อ๊า... คุณย่าได้ยินได้ไง๊
เอ็งพูดอย่างอื่นน่ะ ข้าฟังไม่ชัดหรอก แต่ กินเด็ก ข้าได้ยินชัดแจ๋ว อิอิ เพราะข้าก็ช๊อบบบบบ กระดูกอ่อน กรุบๆ เคี้ยวมันดี อิอิ เอ๋า... คุณย่านี่น้า ร้ายจริงๆ
ผัวข้าก็เด็กกว่าเหมือนกัน
จริงดี๊ พ่อลุงสิบเด็กกว่าแม่ลุงสิบเหรอเนี่ย?
ไม่เห็นต้องไปกลัวเล้ย เดี๋ยวเด็กมันก็โต
โอ้... จริงด้วย เดี๋ยวเด็กมันก็โต!!!
ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย เรื่องง่ายๆ แค่นี้ ทำไมคิดไม่ออกนะแองเจล่า ๕๕๕
เวลาของสองมิติต่างกัน ฉันต้องใช้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ ง่ายนิดเดียว ก็แค่รออยู่ในโลกปัจจุบันให้นานหน่อย อย่าข้ามไปข้ามมาบ่อยๆ ปล่อยให้เวลาทางโน้นเดินผ่านไปๆ ปั้นเมฆของฉันก็จะโตขึ้นๆ จนได้ที่ เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี ไม่เคี้ยวกรุบๆ (นั่นมันมาม่าแล้วแองจี้)
ภาพที่ฉันเห็นในสมองตอนนี้... ภาพปั้นเมฆกลายเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่วัยฉะกัน เอ้ย... วัยฉกรรจ์ สัก...25-26 ปี ...อืม... แก่กว่าฉันสัก 4-5 ปี กำลังงาม หุหุ
เสียงห้าวเปลี่ยนเป็นเสียงทุ้มนุ่ม (แต่ต้องยังคงน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนตอนเป็นเด็กน้อยด้วยนะคะ) เรียกฉันอย่างอ่อนหวาน... นางฟ้าที่รักของผม
อร๊ายยยยยยย... หัวใจละลาย ...กรี๊ดๆๆๆ แค่คิดก็เขินจะแย่แล้ว มันต้องให้ได้แบบนี้ซี่ ถึงจะสุขสม เอ้ย... เหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกเซนเตอร์
ขอบคุณนะคะ คุณย่าขา ที่อุตส่าห์ชี้แนะ ฉันก้มกราบคุณย่างามๆ สามทีแล้วลาจากมา ...ตัดสินใจแล้วว่า จะรออยู่ทางนี้ ไม่กลับโลกอดีตสักอาทิตย์สองอาทิตย์ เพื่อพบกับปั้นเมฆโฉมใหม่ใหญ่กว่าเดิม
หุหุ... ฉันหมายถึง...เป็นผู้ใหญ่กว่าเดิมค่า
และแล้ว... ฉันก็ได้เห็นเขาสมใจ ปั้นเมฆที่เติบโตเป็นหนุ่มเต็มวัย รูปร่างของเขาสูงใหญ่อย่างที่ฉันคาดเดาไว้จริงๆ ด้วย แต่ไม่ได้สูงผอมเก้งก้างเหมือนตอนแตกเนื้อหนุ่มแล้ว กล้ามเนื้อแข็งแรงของชายหนุ่มเจริญเติบโตขึ้นมาจนดูสมส่วน อกผาย ไหล่กว้าง ใบหน้าคล้ำแดดคมคายขึ้นกว่าเดิม นัยน์ตาคมแพรวระยับรับกับคิ้วเข้มและผมหยักศกสีดำสนิทที่ตัดสั้นแต่ไม่ใช่เกรียนจนติดหัวอย่างครั้งสุดท้ายที่ฉันเจอ
อา... ในที่สุดเราก็ได้พบกัน เนื้อคู่ของฉันก็คือนายนั่นเอง... ปั้นเมฆ
ซะเมื่อไหร่ล่ะ! ที่ไหล่กว้างของเขามี ของแถม เกาะมาด้วยตัวหนึ่ง!!
หญิงสาวหน้าตา... เอ่อ... ไม่เห็นได้เรื่องกำลังกอดแขนเขาแน่นไม่ยอมปล่อย วางท่าเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเต็มที่
ใครเหรอคะ พี่เมฆขา? ทำไมมองพี่เมฆอย่างงั้น เหมือนเด็กบ้าหิวโหยเห็นขนม
เอ่อ... จ๋า ไหว้พี่นางฟ้าเค้าสิ
เดี๋ยวก่อนนะ ชื่อจ๋าเหรอ? โอว... เธอคือยัยจ๋า เด็กผมบ๊อบใส่ชุดนักเรียนคอซองที่ชอบเหล่มองปั้นเมฆของฉันทุกครั้งเวลาที่เขาไปดูทีวีบ้านไอ้จ้อยตั้งแต่เด็กๆ แล้ว แต่ฉันไม่เคยสนใจยัยนี่เลย เพราะหัวหูดูเชยระเบิดระเบ้อ ปั้นเมฆก็ไม่เคยรู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีเด็กหญิงแอบมอง แล้วทำไมเขาถึงปล่อยให้ยัยนี่คนที่ไม่เคยอยู่ในสายตามาเกาะหนึบเป็นตุ๊กแกติดข้างฝาแบบนี้?
พี่นางฟ้า เมฆขอแนะนำให้รู้จัก นี่... จ๋า เมียผม
อะไรนะ! มะมะมะมียะ...เมีย?!!! ฟังแล้วจะเป็นลม!
มะ...ไม่จริง ไม่จริงใช่มั๊ย? เมฆแต่งงานแล้วเหรอ?
เพิ่งแต่งได้ห้าเดือนเองครับ ชายหนุ่มยิ้มอย่างมีความสุข โอบยัยผมบ๊อบเข้ามาแนบตัวอย่างแสนรักแบบคนที่กำลังอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน ...เมฆขอโทษด้วยที่ไม่ได้เชิญพี่มางานแต่งงาน เพราะไม่รู้จะส่งการ์ดไปให้พี่ที่ไหน ได้แต่จุดธูปอธิษฐานบอก ...แต่พี่ก็ไม่มา
ไม่มางานแต่งงานแสนหวานของพวกเราก็ดีแล้วล่ะค่ะ จะได้ไม่ต้องปวดใจ! หญิงสาวด้วยกันดูออก ว่าฉันรู้สึกยังไงตอนนี้ หัวใจเหมือนถูกแทงร้อยมีด ฟันพันดาบ จามหมื่นขวาน และเสียบล้านหอก ยิ่งกว่าชอกช้ำ ระกำเรียกแม่
เมียจ๋าพูดกับพี่เขาดีๆ หน่อยซี่ ... นี่พี่นางฟ้าเค้าเป็นครูสอนพิเศษผมตอนเด็กๆ นะ ...พ่ออยากให้ผมเรียนเก่งๆ เลยแอบจ้างครูพิเศษมาสอนการบ้านเมฆในยุ้งข้าว
เวรกรรม ทำไมกลายเป็นแบบนี้?!?! เห็นฉันเป็น แองจี้ สถาบันกวดวิชา ตั้งแต่เมื่อไหร่ก๊าน
บัดนั้น ฉันก็กลับกลายร่างเป็นเจ้าชมพูโดยไม่รู้ตัว โอ๊ะ... ฉันเสียใจจนเผลอตัวดันพูดเต็มประโยคออกไปหรือเนี่ย
ต๊าย พี่เมฆขา พี่เมฆมีควายเป็นครูเหรอค้า กิ๊วๆ
ปั้นเมฆทำหน้าเหมือนอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหน จึงตัดบทว่า ...เราไปกันเถอะ ว่าแล้วก็จูงมือเมียของเขาเดินจากฉันไปจนสุดสายตา
ไม่น้า.................. ฉันไม่ย้อม เอาปั้นเมฆของฉันคืนมาด้วย แง้... ฉันร้องไห้งอแงลงไปดิ้นพราดๆ แบบไม่เกรงใจใครทั้งนั้น กรี๊ดดดด... กรี๊ดๆๆๆ
กรี๊ด! เสียงกรีดร้องของฉันดังขึ้นในความมืดของยุ้งข้าว... สัมผัสของเตียงนุ่มกับแอร์เย็นฉ่ำเตือนว่าฉันไม่ได้ตื่นขึ้นมาในยุ้งข้าวหลังเก่าโน้น แต่เป็นยุ้งข้าวที่ดัดแปลงมาเป็นบ้านหลังปัจจุบันของฉัน
ฝันเหรอเนี่ย น่ากลัวจริงๆ ฉันปาดเหงื่อที่เกาะอยู่เต็มหน้าผาก แล้วลูบหน้าอกปลอบประโลมหัวใจที่เต้นแรง พร้อมถอนหายใจ... เฮ่อ... ฝันร้ายชัดๆ!
คุณย่าขา
ถ้าเกิดแองจี้ไม่ไปหาเขา รอให้เขาโตโดยที่ไม่ได้พบหน้ากันนานๆ เขาอาจจะเปลี่ยนใจไม่รักพี่นางฟ้าอีกแล้วรึเปล่าคะ? คุณย่าว่า... รักแท้แพ้ใกล้ชิดจริงมั๊ยคะ?
ไม่แพ้! ข้าว่าไม่แพ้แน่นอน
จริงๆ นะคะ
ในเมื่อผู้มีประสบการณ์ให้ความมั่นใจกับฉันขนาดนี้ ฉันก็คงไม่มีอะไรต้องห่วง ยึดตามแผนเดิมก็แล้วกัน ...งั้นหนูจะรออีกสักสองสามวันค่อยไป
เมื่อสบายใจแล้ว ฉันก็กราบลาคุณย่าจากมา เลยไม่ได้ยินที่แกบ่นพึมพำคนเดียว...
ไม่แพ้ใกล้ชิดอยู่แล้ว ข้าอ่านข่าวทุระกิดทู๊กวัน เค้าว่าคอเกดเป็นเจ้าตลาด หึหึ... แต่ยังไงข้าก็ว่าดากี้อร่อยกว่าว่ะ ดอกบัวคู่ก็รสชาติไม่เลว
ภาพที่ฉันเห็นในฝันเมื่อคืนไม่มีจริงหรอกค่ะ... ปั้นเมฆไม่มีวันจะรักใครอื่นได้อีกนอกจากฉัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เขาก็เฝ้ารอพี่นางฟ้าคนเดียวอย่างมั่นคง ต่อให้ใครมาใกล้ชิดยังไงเขาก็ไม่สน จะคอเกด ดากี้หรือดอกบัวคู่ก็ไม่อาจสู้รักแท้ของเขาได้
แต่ทว่า... ฉันกลับมายังโลกอดีตอีกที กลับไม่ได้เจอชายหนุ่มร่างสูงอย่างที่ควร เขาหายไปไหนปล่อยให้ ที่นากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาว่างเปล่า เหลือแต่ยุ้งข้าวหลังเก่ายืนสงบเงียบอยู่ที่เดิม
ทุกคนหายไปไหนกันหมด? ...ความหวาดระแวงอันหนาวเหน็บเข้ามาเกาะกุมหัวใจทันใด เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?
โอ... ในที่สุด... เธอก็กลับมา... เสียงต่ำแหบพร่าเรียกให้ฉันหันกลับไปเพื่อพบกับชายชราแปลกหน้าคนหนึ่ง ดูจากท่าทางการเคลื่อนไหวที่แทบจะเคลื่อนไม่ไหวอยู่แล้ว กับผมหงอกขาวโพลนไปทั้งหัว ฉันไม่สามารถเดาอายุของเขาได้เลย
เอ่อ... คุณเป็นใครคะ? แล้วปั้นเมฆของฉันไปไหน?
พี่นางฟ้า
เอ๊ะ ทำไมเขาถึงเรียกฉันว่าพี่นางฟ้าเหมือนกับ... ปั้นเมฆ
มือเหี่ยวย่นสั่นหงึกๆๆ ยื่นมาพยายามแตะตัวฉัน ...พี่นางฟ้าจำเมฆไม่ได้เหรอ นี่เมฆไง
หา?
ฉันขยี้ตาแล้วมองหน้าเหี่ยวย่นจนหาพื้นเรียบไม่ได้ของตาเฒ่าตรงๆ ใหม่อีกที อะไรกันนี่! ใบหน้านี้... อา... คลับคล้ายว่าจะเป็น... ไม่นะ... ไม่ไม่ไม่ ฉันไม่เชื่อ! ไม่เชื่อเด็ดขาด แต่จะไม่ให้เชื่อได้ยังไง ดวงตาฝ้าฟางท่ามกลางรอยตีนกาห้าร้อยฝูงคู่นั้น ถึงแม้ว่ามันแทบไม่หลงเหลือแววคมพราวระยับอย่างที่ฉันเคยเห็น แต่ก็เป็นดวงตาที่มองฉันด้วยความรักตลอดมา เหมือนแววตาของเด็กชายปั้นเมฆไม่ผิดเลย!
เย้ย... อะไรกันนี่ ฉันไม่ได้ทะลุมิติมาแค่สามวันเองนะ ทำไมกลายเป็นอย่างงี้?!
เมฆเฝ้ารอพี่นางฟ้ามาเกือบร้อยปี หงึกๆ ชาตินี้ไม่เคยเหลียวแลหญิงใด หงักๆๆ เพราะเมฆรักแต่พี่นางฟ้าคนเดียวมาตลอด
ฉันได้ยินแล้วอ้าปากค้าง ยิ่งเมื่อตาเฒ่าปั้นเมฆโขยกเขยกคุกเข่า หงึกๆ หงักๆๆๆ ลงตรงหน้าฉัน...
พี่นางฟ้า... หงึกๆ...แต่งงานกับเมฆเถอะนะ นะ นะ มือเหี่ยวสั่นสะท้านหงักๆๆ เขย่ามือฉันเพื่อขอคำตอบ จะว่าเป็นรักแท้น่าประทับใจก็ใช่อยู่หรอกนะ แต่... เอ่อ... คือว่า...
เมฆไม่เคยมีหญิงอื่นใด เก็บความบริสุทธิ์ไว้รอจนถึงวันนี้ หงักๆ เราจะอยู่ด้วยกันฉันผัวเมียนะพี่นางฟ้า หงึกๆ... ถึงไวอาก้าที่เมฆเตรียมไว้จะหมดอายุไปหลายสิบปีแล้ว แต่เมฆจะพยายามทำเต็มที่ ให้พี่นางฟ้ามีความสุขให้ได้เลยนะจ๊ะ หงึกๆ ...สู้ๆ หงักๆ
กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!
ฉันกระเด้งยืนขึ้นทันทีที่รู้สึกตัวตื่นมาโดยไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนเป็นท่านั่ง! นี่ฉันฝันอีกแล้วใช่ไหม ฝันบ้าอะไรน่ากลัวอย่างงี้นะ เฮ่อ... ลืมคิดไป ถ้าฉันโอ้เอ้อยู่แถวนี้นานเกินไป ให้อีตาปั้นเมฆรอเงกจนแก่หงำเหี่ยวหง่อมซะก่อนล่ะ จะทำไงดี รักแท้ไม่ใกล้ชิด รักแท้ไม่แพ้กาลเวลา แต่รักแท้แพ้ความชรา! ไม่เอาดีกว่า
คิดถึงตรงนี้ ฉันแทบจะกระโจนลงกระพ้อมเลย แต่ว่า... พอล้างหน้าล้างตาเปิดไฟสว่างไสวไล่ความตกใจไปแล้วก็เพิ่งจะมาคิดได้ อ่านะ... ฝันก็คือฝันล่ะว้า ฉันก็เคยไม่ทะลุมิติไปสามวันเหมือนกัน อย่างมากเวลาทางโน้นก็เดินไปหลายเดือน แต่ไม่เคยเกินหนึ่งปีนี่นา ถึงเวลาที่แตกต่างกันจะคำนวณไม่ได้เป๊ะๆ แต่ว่าก็พอประมาณๆ ได้ ฉันว่าสามสี่วันไม่ไป เวลาของทางโน้นก็คงล่วงเลยไปปีสองปี... อย่างมากสุดก็ไม่น่าจะเกินสี่ปี หุหุ... ปั้นเมฆก็ประมาณยี่สิบติ๊ดๆ... หุหุ อ่อนกว่าฉันปีสองปี ไม่เลวทีเดียว
งั้น...เอาตามแผนเดิมดีกว่า วันมะรืนค่อยลงกระพ้อม สู้ๆ
จากคุณ |
:
Acciacatura
|
เขียนเมื่อ |
:
4 เม.ย. 54 20:45:29
|
|
|
|