เรื่องสั้นเรื่องนี้ เกิดจากคำพูดของน้องสาวมี่เองค่ะ จู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมาว่า คนที่เป็นฝ่ายจำ กับ คนที่ถูกลืม อย่างไหนทรมานมากกว่ากัน จึงเป็นที่มาของเรื่องนี้... เช่นเคยค่ะ เป็นเรื่องหัดเขียนสำหรับมือใหม่ หากมีข้อผิดพลาดประการใด มี่ขอน้อมรับคำแนะนำเพื่อนำไปปรับปรุง และพัฒนางานเขียนค่ะ
****************************************************
ฉันเฝ้ามองดูผู้คนเดินออกมาจากโบสถ์หลังสีขาวสะอาดตาด้วยอาการนิ่งสงบ มันเป็นธรรมดาที่ฉันจะเฝ้ามองคุณอยู่ตรงนี้ ฉันนั่งรออยู่นานจนกระทั่งเห็นคุณเดินออกมาในที่สุด คุณใส่สูทสีดำผูกเนคไทเส้นโปรดที่ฉันเคยซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้ในปีที่ผ่านมา เฉพาะโอกาสพิเศษจริงๆ เท่านั้นที่ฉันจะเห็นคุณหยิบมันมาใช้ ใส่กว้างใหญ่ของคุณช่างเหมาะเจาะกับเสื้อสูทที่ตัดเย็บอย่างปราณีตเป็นที่สุด เส้นผมสีเทาอมเขียวของคุณ ยามต้องกับแสงแดดตอนบ่ายเช่นนี้ ช่วยขับให้หน้าตาที่คมคายนั้นชัดยิ่งขึ้นไปอีก ฉันเห็นคุณเอามือจรดริมฝีปากอยู่บ่อยๆ เวลาที่อยู่ในโบสถ์ คิ้วเข้มได้รูปถูกขมวดเข้าหากันบ่อยครั้งเกินความจำเป็น ดวงตาสีฟ้าเข้มจับจ้องไปด้านหน้า ฉันจำได้ แววตาแห่งความมุ่งมั่นอย่างนั้น... เดี๋ยวหน้าร้อนเราจะไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะ อลิซ คำพูดที่นุ่มนวลมาพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆ อ่อนละมุน ราวกับสายลมแผ่วกระซิบอยู่ข้างหูของฉัน ครานั้นเรานอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียง ในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ ฤดูหนาวอันทารุณ หิมะโปรยปรายอยู่ข้างนอก และอากาศก็เย็นเฉียบ แต่ข้างกายของฉันกลับอบอุ่นเมื่อมีวงแขนแข็งแรงโอบกระชับอยู่ข้างๆ
ไหนคุณบอกว่าช่วงนั้นงานจะยุ่งมากไม่ใช่หรือคะ จอห์น ฉันท้วงเขาหร้อมกับจุมพิตเข้าที่ริมฝีปากเข้าทีหนึ่งอย่างหยอกล้อ ร่างบึกบึนนั้นท้าวแขนยกตัวขึ้นเพื่อที่จะมองดูฉันอย่างถนัด แล้วเขาก็พูดต่อ ผมลงพักร้อนได้น่ะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงหรอก อลิซ หน้าหนาวของที่นี่ไม่เหมาะกับคุณเลยสักนิด ย้ายไปแถวเอเชียดีกว่านะ อากาศน่าจะอบอุ่นกว่า เขาให้เหตุผลประกอบคำอธิบาย ซึ่งนั่นทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออกเพราะความตื้นตัน ได้แต่เบียดตัวซุกเข้ากับแผงอกแกร่งนั้นเข้าไปอีก ผมรักคุณนะ อลิซ จอห์นเป็นคนไม่ค่อยพูด และยิ้มยากแต่ก็บู๊เก่งขาดใจ จนกลายเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว บ่อยครั้งที่เขาทำตัวเย็นชากับคนรอบข้าง ซึ่งใครๆ ก็ว่าอย่างนั้น แต่มีไม่กี่คนหรอกที่จะรู้ว่าเขาเป็นคนโรแมนติกแค่ไหน ฉันรู้ ว่าเขาใส่ใจกับทุกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับตัวฉัน เขาห่วงหา และอาทร พร้อมกับมีรอยยิ้ม และวงแขนอบอุ่นชนิดที่เก็บเอาไว้ให้ฉันคนเดียว เฮ้ย! อย่าพังร้านฉันอีกนะจอนห์ โอลิเวอร์ตะโกนออกมาขณะที่เรากำลังจะเดินผ่านบาร์เหล้าของเขา จอห์นยิ้มเล็กๆ มือของเขาโอบกระหวัดรอบเอวฉัน จะว่าไปโอลิเวอร์ก็เป็นเพื่อนบ้านที่น่ารักของเรามานาน เขานิสัยดี แม้ว่าบางครั้งจะดื่มหนักไปหน่อยก็เถอะ ไม่หรอกน่า คราวนี้มีอลิซมาด้วย รับรองว่าไม่ทำตัวงี่เง่าแน่ ประโยคหลังจอห์นหันมาหลิ่วตาให้ฉันอย่างขี้เล่น
เธอน่าจะมากับเขาบ่อยๆ นะ อลิเซีย อย่าน้อยฉันจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าซ่อมร้านเกินเดือนละสองครั้ง โชคดีที่เจอเธอวันนี้ เอ้อ..ว่าแต่ว่าว่างดื่มกับฉันหน่อยไหมล่ะที่รัก โอลิเวอร์ยังแซวไม่เลิก หน้าแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์แต่หัววัน
ขอบใจ โอลิเวอร์ แต่ไม่ใช่วันนี้ ฉันจะพาอลิซไปเดินเล่นน่ะ จอห์นตอบปฏิเสธอย่างรวดเร็วทันทีที่โอลิเวอร์ยื่นแก้ววิสกี้อุ่นๆ มาให้ และพาฉันเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างน่าเสียดาย
ท่าทางโอลิเวอร์จะเมาอีกแล้ว ฉันพูดขณะเดินลงเนินไปเรื่อยๆ และจอห์นก็ประคับประคองฉันราวกับเจ้าหญิง เขาไม่พูดอะไรอีก นอกจากส่งยิ้มให้เท่านั้น
ถนนที่ลื่นแฉะ ทำเอาเราเดินไม่ถนัดเลย แต่จอนห์ยืนยันว่าวันนี้อากาศดี และอยากจะพาออกไปเดินเล่น หลังจากที่ฉันนอนซมอยู่บนเตียงมาตลอดหนึ่งเดือนเพราะอาการเจ็บป่วยที่เรื้อรัง
นั่งตรงนี้ก่อนนะ เขาดึงฉันนั่งลงบนม้าหินที่เย็นชืดตัวหนึ่งเมื่อเห็นฉันทำท่าเหนื่อย ตอนนี้เรานั่งอยู่บนถนนที่สวยงามมากที่สุดสายหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากบ้านมากนัก ตลอดสองข้างทางจะมีร้านอาหาร ฟาสต์ฟู้ด บาร์เหล้า ตั้งเรียงราย และมีผู้คนมาใช้บริการมากมาย เนื่องจากถนนสายนี้เป็นเนินทอดตัวยาวลงไปสู่ทะเลกว้าง ทำให้เนินแห่งความสุขนี้ไม่เคยหลับใหล ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือว่ากลางคืน
หนาวไหม จอห์นกระซิบที่ข้างหูฉันอีกครั้งพร้อมทั้งเอาหมวกไหมพรมที่สวมอยู่ถอดออกมาใส่ให้ เขาถอดถุงมือออกแล้วใช้อุ้งมือใหญ่หนาของเขาสัมผัสที่แก้มของฉัน ฉันอบอุ่น และมีความสุขเมื่อได้อยู่ใกล้ๆ เขา
จอห์นใช้นิ้วม้วนผมของฉันเล่น ฉันมีผมสีน้ำตาลเข้ม และไว้ผมยาวถึงกลางหลัง ดูแลอย่างดีและไม่เคยตัดเลยสักครั้ง เพราะโดนขอร้องเอาไว้ เขาชอบผมของฉันมากถึงขนาดที่บางครั้งเขาจะเอาแปรงนุ่มๆ มาหวีผมของฉันให้ด้วยตัวเองเลยทีเดียว
อุ๊ย หิมะ ฉันร้องและกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ เมื่อเห็นเจ้าเกล็ดน้ำแข็งสีขาวโปรยปรายลงมา ทุกอย่างพร่างพราวไปหมด ดูสบายตาอย่างบอกไม่ถูก ท้องฟ้าสีครึ้มตัดกับหิมะสีขาว เป็นภาพที่ฉันชอบที่สุด
ไปทะเลกันเถอะ จอห์น ฉันร้องเรียกเขาพลางวิ่งลงเนินไปด้วย ไม่วายจะมีเสียงเข้มตะโกนไล่หลังตามมา
ไม่เอาน่าอลิซ อย่าวิ่งอย่างนั้น มันอันตรายนะ!
โครม-ม-ม-ม
ภาพที่ฉันจำได้คือ ฉันเสียหลักลื่นหกล้ม และจอห์นกระโดดตะครุบตัวของฉันเอาไว้ได้ก่อนที่หัวจะฟาดพื้น เราสองคนกลิ้งหลุนๆ ลงเนินกันมา จนถึงทะเลในที่สุด โชคดีที่ไม่มีบาดแผลเลยสักนิด
ขอบ...คุณ ฉันละล่ำละลักบอกกับเขา ขณะที่หัวก็ซุกอยู่ในอ้อมกอดของอกแกร่ง เขากอดตัวของฉันเอาไว้แน่น มือหนึ่งประคองหัว อีกมือหนึ่งโอบรอบตัว
พระเจ้า! อลิเซีย คุณนี่มันน่าตีนักเชียว โล่งอกที่ไม่เป็นอะไร เขาพูดเสียงเข้มแล้วพรมจูบลงไปบนหน้าผากของฉันนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อให้แน่ใจว่าฉันยังอยู่รอดปลอดภัยดีจริงๆ ใบหน้าแดงก่ำของจอนห์ทำให้ฉันรู้ทันทีว่าเขาเครียด และวิตกแค่ไหน เป็นห่วงกลัวฉันจะเป็นอันตราย เพราะเมื่อใดที่เขาเรียกชื่อจริงของฉันแบบนี้ นั่นแสดงว่าโกรธจริงๆ
ฉันขอโทษที่รัก อย่าโกรธเลยนะคะ ฉันจูบเขาอย่างเอาใจ ทำให้เขามีสีหน้าที่ดีขึ้นมานิดหนึ่ง ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมมาดึงแขนฉันให้ลุกขึ้น
โอ้โห ทะเล ดูสิคะจอห์น หิมะตกลงทะเล สวยจัง ฉันชี้ให้ดูเจ้าเกล็ดน้ำแข็งที่กำลังพากันลอยลงไปสู่ทะเล
อีกไม่นาน คุณก็มาเล่นเสก็ตน้ำแข็งได้แล้วนะ อลิซ จอห์นพูดพร้อมกับสวมกอดฉันจากทางด้านหลัง คางของเขากดลงบนบ่าของฉันเบาๆ
ฉันจะมีชีวิตอยู่ถึงตอนนั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ
ไม่เอา! นั่นคุณพูดอะไรออกมา ได้โปรดเถอะ อลิซ อย่าพูดอย่างนี้อีกเลย รู้ไหมว่าคุณกำลังจะทำให้ผมใจขาดไปด้วย เขาอ้อนวอนพร้อมกับสวมกอดฉันแน่นเข้าไปอีก
ฉันเหม่อมองออกไปยังทะเลตรงหน้า ทะเลที่กำลังจะกลายเป็นน้ำแข็งในอีกไม่ช้า แต่มันคงช้าไปที่ฉันจะทันอยู่ดูฉันสูดลมหายใจลึกเข้าเต็มปอด แล้วหันกลับไปเผชิญหน้ากับเขา
คุณก็รู้นี่คะว่าทำไม โรคของฉันไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ และฉันก็คงจะอยู่กับคุณได้อีกไม่นาน...
ไม่...อย่าพูด! จอห์นเอามือมาปิดปากฉัน แววตาของเขามีความปวดร้าวอย่างถึงที่สุดซุกซ่อนเอาไว้ ความจริงที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงเผชิญหน้ากับมันมาตลอดสองปีเต็มๆ หากแต่ฉันไม่ยอมที่จะให้เขาหลอกตัวเองได้อีก ต่อไป
คุณต้องเข้าใจ...คุณต้องผ่านมันไปให้ได้นะคะที่รัก ไม่ใช่ว่าฉันไม่เจ็บปวด ไม่ใช่ว่าฉันไม่รักคุณ ที่ทำแบบนี้... แต่เพราะรัก รักมากจนไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ซึ่งคุณก็รู้ว่าฉันรักคุณมากแค่ไหน เพียงแต่ฉันไม่อยากเห็นแก่ตัว กักขังคุณเอาไว้อยู่กับดอกไม้ที่รอวันร่วงโรยอย่างนี้
ดอกไม้ที่รอวันร่วงโรย? เขาทำสุ้มเสียงประหลาดใจ ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง คุณพูดอย่างนี้ได้อย่างไรอลิซ คุณเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานอยู่ในใจผมต่างหาก และจะบานตลอดไปด้วย...ไม่เปลี่ยนแปลง จอห์นพูดเหมือนเด็กดื้อ ดิ้อที่พยายามฉุดยื้ออะไรบางอย่างเอาไว้
อย่าเลยจอห์น หยุดเถอะค่ะ อย่าฝืนอีกเลย ที่ผ่านมา...คุณพยายามเพื่อฉันมามากพอแล้ว
ฉันยื่นมือออกไปรองรับเกล็ดหิมะ มันตกลงมาในมือแล้วก็ละลายหายไปอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตา ฉันส่งยิ้มหวานให้กับเขา แล้วพูดช้าๆ
ถ้าฉันตาย ฉันก็คงจะเป็นเหมือนเกล็ดหิมะนี้...
ไม่...คุณต้องรอด แล้วเราจะอยู่ด้วยกันนะอลิเซียที่รัก เราจะมีลูกเล็กๆ น่ารักด้วยกัน มีบ้านเล็กๆ สวยๆ ตรงเนินอย่างที่คุณฝันเอาไว้... แต่ตอนนี้ คุณต้องเข้มแข็งเอาไว้นะ เดี๋ยวผมจะโทรไปหาเพื่อนที่นิวยอร์ก เขาเป็นหมอผ่าตัดที่เก่งมาก เขาต้องช่วยคุณได้แน่ และถ้าเป็นไปได้ เราจะบินไปที่นั่นให้เร็วที่สุด... เขาพูดเสียงรัว ร้อนรน และมีสีหน้าที่เจ็บปวด
อย่าพยายามอีกเลย ฉันกลั้นใจพูดออกไปสั้นๆ แล้วเม้มปากแน่น พยายามข่มใจกัดริมฝีปากด้านในจนเจ็บ แต่ผู้ชายตรงหน้ากลับทรุดเข่าฮวบลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง
หรือเราจะบินไปมิวนิคก็ได้ หมอเก่งๆ ก็มีเยอะ ผมจะพยายาม พยายามให้มากกว่านี้... เขาจับบ่าของฉันแน่น น้ำตาไหลพรากลงมาอาบหน้า
ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ ฉันรู้ตัวดี ฟังนะคะจอนห์ ฉันจะไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่ร้องไห้ใดๆ ทั้งสิ้น เชื่อใจฉันเถอะค่ะ
คุณใจร้ายมาก อลิซ คำพูดของเขาเหมือนคนที่หัวใจแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ฉันมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกตืบตันในอกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
จอห์น มาร์ช ผู้ชายที่แข็งแกร่งที่สุดในสายตาของฉัน แต่กลับมีน้ำตาให้กับผู้หญิงตัวเล็กๆ มานับครั้งไม่ถ้วนเมื่อเราพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ และไม่ใช่ว่าฉันไม่อ่อนล้า เพียงแต่ว่า ฉันต้องแข็งแกร่ง ฉันต้องยืนหยัดด้วยขาของตัวเองให้ได้ หากฉันล้มลงไปตอนนี้ ก็เท่ากับว่าซ้ำเติมให้อีกฝ่ายไม่มีกำลังใจเหลืออยู่อีกไปด้วย
ฉันเข้าไปกอดเขาเอาไว้ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก จอห์นโอบกอดตอบฉันแน่น แน่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา
เมื่อไหร่ ที่คุณจะเข้าไปพบหมอ เขาถามด้วยเสียงแหบพร่า
พรุ่งนี้ค่ะ
เป็นคำตอบที่เหมือนกับหิมะถูกพัดพาให้ตกลงไปในทะเลตลอดกาล
ฉันกลับมาที่ปัจจุบันอีกครั้ง จอห์น มาร์ช คนเดิม แต่ใบหน้าซีดเผือด และดวงตาสีฟ้าใส บัดนี้กลับเต็มไปด้วยหยดน้ำตา ฉันแอบเดินตามเขาไปเรื่อยๆ
เขาออกจากโบสถ์ เดินกลับไปยังเส้นทางที่เราสองคนเคยมีความสุขด้วยกัน ช่วงเวลาแห่งความทรงจำ ร้านไอศกรีมที่เราเคยมา ร้านหนังสือที่จอนห์ชอบอ่าน ร้านเช่าหนังที่เราสองคนชอบหอบไปดูด้วยกันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ม้าหินเย็นชืดตัวเดิม กับหิมะ...
จอห์นเดินลงเนินไปเรื่อยๆ ตรงไปยังทะเลที่เราสองคนชอบมาดูด้วยกันบ่อยๆ เนินที่ฉันเคยลื่นสะดุดหกล้มเมื่อครั้งล่าสุด ฉันเห็นเขายืนล้วงกระเป๋าเสื้อโค้ท สายตาเหม่อมองออกไปไกลแสนไกล บางทีนะ จอนห์อาจจะคิดถึงฉันอยู่ก็ได้
เขายืนอยู่ตรงนั้นอยู่นาน จนฉันเกรงว่าเขาจะแข็งตายเสียก่อน พอฉันกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปหา เขาก็หันหลังกลับพอดีโดยไม่หันกลับไปมองทะเลอีกเลย
จอห์นเลือกเดินกลับมาที่ถนนสายเก่า ราวกับจะดึงภาพความทรงจำเก่าๆ ให้กลับคืนมาอีกครั้ง เขาหยุดแวะที่ร้านขายดอกไม้ แล้วผลุบหายเข้าไปในร้านนั้นอยู่เป็นนานสองนาน ฉันยืนรออยู่อีกฟากของถนนด้วยใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ อย่างไม่เป็นสุข
เขาคิดจะทำอะไรนะ...
ซื้อดอกไม้ให้ฉันอย่างนั้นหรือ...
เขาจะรู้หรือเปล่าว่าควรจะซื้อดอกอะไร...
จอห์นเคยพูดเอาไว้ว่า ถ้าให้เลือกระหว่างถูกต้อง กับถูกใจ เขาขอเลือก อย่างหลังดีกว่า ดังนั้นฉันจึงไม่แปลกใจเลย ที่เห็นเขาออกมาจากร้านนั้นด้วยช่อดอกลิลลี่สีขาวบริสุทธิ์
จอห์นถือดอกไม้ช่อนั้นอย่างทะนุถนอม และเดินย้อนกลับไปทางเดิมอีกแล้ว เขากลับมาที่โบสถ์และยืนนิ่งอยู่หน้าตึกสีขาวอยู่นานราวกับจะชั่งใจอะไรบางอย่าง ก่อนจะออกจากตรงนั้นแล้วเดินไปยังสวนด้านถัดไป
ลมพัดมาวูบหนึ่ง ก่อนที่หิมะสีขาวจะพร่างพราวอีกครั้ง ฉันมัวแต่จ้องมอง เกล็ดน้ำแข็งที่ชอบ และเมื่อหันกลับมาอีกที จอห์นก็หายตัวไปเสียแล้ว
ฉันยืนนิ่งด้วยความรู้สึกที่บอกไม่พูด ฉันควรจะเดินตามหาเขาดีหรือไม่ ตอนนี้ทางเลือกของฉันมีอยู่สองอย่าง คือเดินไปข้างหน้า หรือก้าวถอยหลัง...
ฉันควรจะไปพบกับจอห์น หรือ จะหายไปจากชีวิตของเขาดี
กว่าเสียงในหัวจะกระซิบบอกทัน ขาของฉันก็ก้าวไปตามเสียงเรียกร้องของหัวใจเรียบร้อยแล้ว ฉันค่อยๆ เดินไปข้างหน้าทีละก้าว ทีละก้าว ยังไม่รู้ว่าถ้าเจอหน้าเขาแล้วฉันจะต้องทำตัวเช่นไร
ในขณะที่ก้าวไปข้างหน้าด้วยหัวใจเย็นชืด ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ ไม่นานนัก ไออุ่นแห่งรักก็ค่อยๆ ส่งผ่านเข้ามา และฉันรับรู้ได้ทันทีว่านั่นคือเขา!
หลับตาสิ อลิซ แล้วค่อยๆฟังเสียงกระซิบจากใจผม
ฉันค่อยๆ หลับตาลง ใช้ใจสัมผัสกับความรู้สึกอ่อนโยนที่เขาตั้งใจจะมอบให้
ฟังนะ ผมคิดถึงคุณ...และไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในโลก โปรดจงรับรู้เอาไว้ว่าคุณจะอยู่ในใจของผมเสมอ หนึ่งเดือนที่ผ่านมา มีคนบอกกับผมนับครั้งไม่ถ้วนว่า การจดจำน่ะมันเจ็บปวดมากกว่าการถูกลืม แต่ผมก็เลือกที่จะจำคุณ ไม่ใช่เพราะผมอยากเจ็บปวด แต่ผมไม่อาจอยู่ได้โดยปราศจากคุณ...อลิเซียที่รัก ผมยังจำได้ดี ภาพสุดท้ายตอนที่คุณจากโลกนี้ไป มันทรมานมากแค่ไหน แม้ว่าสิ่งที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ จะยังไม่ได้ครึ่งหนึ่งของที่คุณทุกข์ทนเลยก็ตาม ผมเสียใจ...ผมเจ็บปวดจนแทบบ้า เมื่อรู้ตัวว่าไม่มีทางช่วยคุณได้ แม้แต่ในนาทีสุดท้าย ผมก็ได้แต่นั่งมองคุณหลับไปในอ้อมกอดอย่างทรมาน...คุณคงจะไม่ว่านะ ถ้าผมจะขอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่นี้ จดจำคุณไว้ในหัวใจ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ผมก็ยังรักคุณ...หลับให้สบายเถอะ อลิซที่รัก
ฉันค่อยๆ ลืมตามองภาพตรงหน้าอย่างช้าๆ จอห์นจุมพิตที่แท่นหินสีขาวเหนือหลุมฝังศพของฉัน และนำช่อดอกลิลลี่ที่ฉันชอบมาวางไว้ให้แทนที่จะเป็นดอกไม้สำหรับเคารพหลุมฝังศพแบบทั่วไป
ถูกต้อง กับ ถูกใจ คุณเลือกได้ตรงใจฉันเหลือเกิน
ขอบคุณค่ะจอห์น
แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 54 14:13:04
แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 54 23:20:24
จากคุณ |
:
amipoom
|
เขียนเมื่อ |
:
5 เม.ย. 54 23:12:18
|
|
|
|