Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ตำนานสงครามบัลลังก์เหนือ 3 - บทที่ 4 - นายและข้ารับใช้ ติดต่อทีมงาน

อ่านเนื้อหาภาค 1 ได้ที่นี่ครับ

เจ้าชายไร้บัลลังก์กับเจ้าหญิงไร้อำนาจ

เด็กดี
http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=471973

พันทิป
บทนำ - บทที่ 5
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9892447/W9892447.html
บทที่ 6-10
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9906021/W9906021.html
บทที่ 11-15
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9924896/W9924896.html
บทที่ 16-20
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9958591/W9958591.html
บทที่ 21-25
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10402840/W10402840.html

เดี๋ยวจะลงตอนที่ 20-29 ในพันทิพอีกครั้งนะครับ

เนื้อเรื่องต่อภาค 2

เจ้าชายแห่งความมืดกับเจ้าหญิงแห่งความฝัน

เด็กดี
http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=623553

พันทิป
บทนำ - 1 (ครึ่งแรก)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9280262/W9280262.html
1 (ครึ่งหลัง)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9290547/W9290547.html
2
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9301954/W9301954.html
3 (ครึ่งแรก)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/05/W9315581/W9315581.html
3 (ครึ่งหลัง)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9326678/W9326678.html
4
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9355723/W9355723.html
5
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9380192/W9380192.html
6
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/06/W9404897/W9404897.html
7
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/07/W9435713/W9435713.html
8
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/07/W9500605/W9500605.html
9
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/08/W9571637/W9571637.html
10
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/08/W9623060/W9623060.html
11 (ครึ่งแรก)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/09/W9647241/W9647241.html
11 (ครึ่งหลัง)
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/09/W9678374/W9678374.html
12
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/10/W9812163/W9812163.html
13
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/10/W9846618/W9846618.html
14
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9875051/W9875051.html
15
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9892519/W9892519.html
16
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9907488/W9907488.html
17
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9916888/W9916888.html
18
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9927562/W9927562.html
19
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/11/W9939927/W9939927.html
20
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W9980469/W9980469.html
21
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10002038/W10002038.html
22
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10021934/W10021934.html
23
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2010/12/W10051706/W10051706.html
24
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10085054/W10085054.html
25
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10107249/W10107249.html
26
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10121033/W10121033.html
27
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10132938/W10132938.html
28
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10149703/W10149703.html
29
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10166956/W10166956.html
30
http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2011/01/W10188373/W10188373.html

เนื้อเรื่องต่อภาค 3

ศึกสองราชินี วิถีสองราชัน

เด็กดี
http://writer.dek-d.com/Anithin/writer/view.php?id=689975

พันทิป
บทนำ - 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10366513/W10366513.html
บทที่ 2
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10385694/W10385694.html
บทที่ 3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10407703/W10407703.html


* * * * *


ขอบคุณคุณ Mnemosyne สำหรับกิฟท์นะครับ ^^

คุณ scottie - งานนี้คงได้เห็นมังกรน้ำโชว์อะไรเด็ดๆ พอสมควร เช่นเดียวกับตัวละครใหม่ครับ :)


* * * * *


บทที่ ๔
นายและข้ารับใช้


บริเวณลานซ้อมเงียบฉี่เสียจนอาจได้ยินเสียงเหงื่อหยดกระทบพื้นดิน

แม้เนิ่นนานหลังสิ้นเสียงผู้ให้สัญญาณ ก็ยังไม่มีฝ่ายใดขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว

ทั้งหมาป่าทมิฬซิอ์บุลกับตาลุงหน้านกชื่อครอมล้วนแต่นิ่งไปนาน กระทั่งรูอาร์คอดคิดไม่ได้ว่าทั้งสองเห็นจะถอดจิตออกมาฟาดฟันกันแทนเสียแล้วกระมัง

แต่ในที่สุด ร่างของต่างฝ่ายก็ไหวน้อยๆ กับการสูดหายใจพร้อมกัน

...และโผนเข้าหาคู่ต่อสู้ในเวลาเดียวกัน

ชายผมแดงอ้าปากค้างกับภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า ขณะที่เสียงฮือฮาเริ่มดังกระหึ่มขึ้นโดยรอบสนาม ดังเสียยิ่งกว่าตอนที่เหล่าผู้ชมเห็นรูอาร์คเลือกใช้มีดสั้น หรือเกือบเข้าประชิดตัวหัวหน้าหน่วยย่อยได้อย่างไม่คาดฝัน

เร็วจนมองไม่ทัน

เร็วเสียยิ่งกว่าตอนที่อาเมียร์ประมือกับซิอ์บุลเสียอีก

รูอาร์คแทบมองไม่ออกว่าใครเป็นฝ่ายรุกหรือฝ่ายรับ...หรือที่แท้ควรบอกว่าเมื่อใดที่มองออก อีกฝ่ายก็พลันพลิกกลับในทันที ดาบประดาบด้วยความเร็วจนเกิดเสียงกระทบดังระรัว และเผลอๆ ก็เหมือนจะเห็นสะเก็ดไฟวูบวาบประปราย การเคลื่อนไหวของสองนักรบว่องไวราวกับวางแผนกันมาแล้ว หรืออ่านใจออกว่าต่างคนจะทำสิ่งใดเป็นอย่างต่อไป และดักทางหรือสวนกลับได้ในระดับสัญชาตญาณ

เขานึกอยู่แล้ว ว่าตาลุงที่มากับดูลัสย่อมไม่ธรรมดา...แต่ก็ไม่ทันนึกว่าจะเหนือธรรมดาถึงขนาดนี้

การประลองดำเนินไปยาวนานกว่าคู่ก่อนๆ และพื้นลานรูปทรงรีก็เหมือนจะเพิ่งได้ทำงานเต็มที่ของมันในครั้งนี้ ชายทั้งสองขยับเท้า พาร่างเข้ารุกหรือล่าถอยตั้งรับไปโดยรอบบริเวณ ...ถ้วนทั่วเสียจนหากพื้นรองเท้าอาจใช้ระบายสี ก็คงได้ภาพคล้ายฝูงปลาที่ถูกดูดเข้าไปในน้ำวนอย่างสับสนอลหม่านเข้าแล้ว

การประลองสิ้นสุดกะทันหันด้วยเสียงดังเปรี๊ยะ และ...ปลายดาบที่หลุดร่วงลงกระทบพื้นดิน

ทีแรก รูอาร์คนึกว่าดาบของใครสักคนถูกปัดร่วงจากมือ แต่แล้วก็ยังเห็นนักรบทั้งสองกำด้ามดาบอยู่ในมือ ในท่าขัดดาบกับต่างฝ่าย แม้ว่าปลายดาบของครอมจะหักไปแล้วก็ตาม

ซิอ์บุลถอนดาบออกช้าๆ ก่อนจะพูดขึ้น

“ผ่าน”

รอบลานซ้อนเงียบกริบไปชั่วครู่หนึ่ง ก่อนเสียงโห่ร้องอย่างยินดีจะดังขึ้นจากผู้ชมโดยรอบ ราวกับอยู่ในสนามประลองประจำเทศกาลสมโภชแห่งลูคนาซัธ

การประลองยุทธ์ครั้งใหญ่... ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนนึกบางสิ่งออกในชั่วแวบนั้น

ครอมย่อมเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคนผู้นั้น


* * * * *


“ข้าขอสละสิทธิ์”

ถ้อยเอ่ยแผ่วเบาของคู่ต่อสู้ ซึ่งกำลังก้มลงเก็บปลายดาบซ้อมที่หักไปอย่างเรียบเฉย หาได้ทำให้ซิอ์บุลประหลาดใจ

เขารู้อยู่แล้ว ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจมาประมือกับตน เพื่อรับการคัดเลือกเข้าหน่วย

กระนั้น หัวหน้าหน่วยย่อยยังคงถาม

“ด้วยเหตุใด”

“ข้ามีนายอยู่แล้ว และไม่คิดจะเปลี่ยนนาย” ชายร่างสันทัดเอ่ยพลางยืดร่างขึ้นตรง และสบตากับเขา

“ท่านมาสู้กับข้าเพื่อนายของท่าน”

นั่นไม่ใช่คำถามหรือข้อสังเกต แต่เป็นคำยืนยัน

อดีตนักรบทะเลทรายรู้จาก ‘อาเมียร์’ ตั้งแต่คืนที่แล้ว ว่าดูลัสกับ ‘องครักษ์’ มาถึงเคนมาราตามคาด ดังนั้นจึงไม่ประหลาดใจตั้งแต่เดินทางออกจากบ้านมาแต่เช้าตรู่...โดยมีความรู้สึกว่ามีใครบางคนจับตามองบ้านของตนอยู่ แต่ในเมื่อคนที่ว่าไม่มีจิตมุ่งร้าย ซิอ์บุลจึงไม่ตามไปเล่นงานเขา แต่ทำทุกสิ่งตามปรกติเหมือนกับไม่สังเกต

ครอมพยักหน้าน้อยๆ ขณะเดินออกจากลาน ไปยังชั้นวางอาวุธที่ใต้ร่มเงาอาคาร ซิอ์บุลเดินไปด้วยกัน พร้อมกับคำถามแผ่วเบา

“เหตุใดไม่ใช้มือที่ถนัด”

หากทำเช่นนั้น ครอมอาจชนะซิอ์บุลไปแล้วก็ได้ มิใช่เพราะอดีตนักรบทะเลทรายขาดมือซ้ายไว้คอยระวังปัดป้อง แต่เพราะผู้ท้าชิงนั้นย่อมใช้มือซ้ายได้เหนือกว่ามือขวาเป็นทุนเดิม

และตัวซิอ์บุลเองก็เป็นเช่นเดียวกับนักรบทั่วไป คือเคยชินกับการรับมือคู่ต่อสู้ที่ถนัดขวาจนเป็นปกติวิสัย

“ท่านไม่ได้ใช้อาวุธที่ถนัด”

หัวหน้าหน่วยย่อยยิ้มบางๆ ...ไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายรู้ความจริงนี้

ดาบไร้คมสำหรับซ้อมนั้น แม้จะทำมาให้แข็งแรงทนทานแทบไม่ต่างจากดาบจริง ก็ยังมีความแข็งแกร่งน้อยกว่าดาบโค้งยาวของชาวทะเลทราย ซึ่งทั้งแข็งแกร่งและยืดหยุ่นกว่า ซิอ์บุลใช้ดาบเช่นนั้นมาจนชินมือ เมื่อออกแรงเต็มที่กับดาบที่เปราะบางกว่า ย่อมเป็นธรรมดาที่จะทำให้ดาบนั้นเสียหาย

ดาบของครอมซึ่งรับแรงกระแทกเข้าไปมากถึงแก่เปราะหัก ทว่าดาบของซิอ์บุลเองก็มีสภาพที่ไม่ได้ดีไปกว่ากัน รอยบิ่นและร้าวเล็กใหญ่กระจายตามใบดาบทั้งสองด้าน เรียกได้ว่าขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นเอง ก่อนดาบของเขาจะหักพังตามคู่ต่อสู้

หากว่าต่างฝ่ายใช้มือกับอาวุธที่ถนัด และสู้รบกันอย่างเต็มที่ ก็คงจะเป็นการต่อสู้ที่สนุกและท้าทายกว่านี้มากนัก ...เหมือนครั้งที่จอมทัพเนมอสแห่งอาณาจักรสาบสูญได้ประมือกับผู้กล้าลูเธียนแห่งอารามสุริยเทพ โดยปราศจากหน้าที่หรือความเป็นปรปักษ์ใด

มีเพียงความระทึกฮึกเหิมในชั่วแวบที่ได้ประชันฝีมือ

“น่าเสียดาย ข้าอยากพบท่านในสนามประลอง มากกว่าสนามรบ” ครอมเอ่ยเรียบเฉย

ถ้อยคำนั้นทำให้ซิอ์บุลเดาสถานะของอีกฝ่ายได้ไม่ยาก

“ข้าก็เช่นกัน”

“หลังจบการประลอง ผู้แพ้ยังลุกขึ้นมาจับมือกับผู้ชนะได้ แต่หลังจบการรบ ผู้ชนะมีแต่ยืนค้ำร่างไร้วิญญาณของผู้แพ้”

หัวหน้าหน่วยย่อยยิ้มขื่นๆ เขาเคยสัมผัสความจริงข้อนี้มาดีจนเกินพอ

กระนั้น ซิอ์บุลก็ยังวางดาบลงบนชั้น เช็ดมือที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวกับกางเกง และยื่นส่งไป

“แต่เวลานี้ เราก็จับมือกันได้ไม่ใช่หรือ”

ครอมพยักหน้า มือสากกร้านดุจเดียวกันเอื้อมออกมา สีหน้าของเขายังคงเรียบเฉยไร้อารมณ์

ทว่านัยน์ตาสีฟ้าเทาเป็นประกาย คล้ายจะยิ้มรับ


* * * * *


“ไหวหรือ”

“อย่าห่วงเลย”

แอชลีนน์มองอาเมียร์ซึ่งแบกร่างอันหลับใหลของเคียราไว้บนหลัง ชายกระโปรงยาวของนางกำนัลสาวถูกตัดจนเหลือยาวราวเข่า เท้าพันผ้าพันแผลบางๆ และรองเท้าถูกถอดเก็บไว้ในกระเป๋าเป้ของอาเมียร์ ซึ่งเจ้าหญิงอาสาจะสะพายให้แทน

เพิ่งเดินทางได้แค่วันเดียว คณะเดินทางซึ่งต้องลัดเลาะอยู่แต่ในป่ามาวันเต็มๆ ก็เผชิญกับปัญหา...หรือที่ถูกควรจะบอกว่าเป็นปัญหาของสมาชิกเพียงคนเดียว แต่กระเทือนไปถึงอีกสองคน

แอชลีนน์ยอมรับว่าตนเองก็เหน็ดเหนื่อย การเดินมาทั้งวันทำให้สองขาล้าจนปวดแม้ในยามนี้ ต่อให้พักหลังหญิงสาวคิดว่าร่างกายของตนน่าจะแข็งแรงขึ้นบ้างจากการขี่ม้าและซ้อมดาบแล้วก็ตาม ...นับประสาอะไรกับเคียรา ซึ่งนอกจากจะไม่ชินกับการออกกำลังกายอย่างหนักแล้ว ยังอยู่ในเครื่องแต่งกายที่ไม่เหมาะสมกับการเดินทางสมบุกสมบันเลยแม้แต่น้อย

เมื่อวาน เพียงเริ่มเดินทางได้ไม่นาน ชายกระโปรงยาวกรอมเท้าของเคียราก็ถูกกิ่งไม้หรือรากไม้เกี่ยวขาดหลายครั้ง ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวยังคงปฏิเสธที่จะให้ตัดชายกระโปรงทิ้ง มิหนำซ้ำเธอยังทนฝืนเดินกะเผลกรั้งท้ายต่อไปทั้งๆ ที่รองเท้ากัด ต่อให้อาเมียร์รู้จากการอ่านจิตใจของนางกำนัลสาว และเสนอให้อีกฝ่ายขึ้นขี่หลังแล้วก็ตาม

หลังอาหารเย็นในวันนั้น ชายหนุ่มจึงใช้เวทมนตร์ทำให้เคียราหลับสนิท จนรุ่งเช้ายังไม่ตื่น และแบกเธอไว้บนหลัง ขณะเดินทางต่อไปกับแอชลีนน์ เขาบอกว่าด้วยความเร็วในระดับนี้ ทั้งสามคงจะไปถึงได้ในบ่ายหรือเย็นวันพรุ่งนี้

อาเมียร์บอกว่าที่จริงการเดินทางจากมณฑลยาร์ลาธด้วยเวทมนตร์ปลานั้นใช้เวลาเพียงสองวัน ทว่าเขาใช้เวลาพักผ่อนในเมอร์คาห์อีกวันเต็มๆ เพื่อฟื้นฟูพลังเวท ก่อนจะใช้เวทมนตร์สร้างปีกพร้อมกับพรางกายบินเข้าไปหาเธอในคืนนั้น

นั่นเองที่ทำให้แอชลีนน์สงสัย และถามออกไป

“เวทมนตร์ของอาเมียร์ทำอะไรได้บ้างหรือ”

“ก็...หลายอย่าง ข้าเองยังเรียนรู้จากคัมภีร์ไม่หมดเลย”

เขาเล่าให้เธอฟังเรื่องคัมภีร์อนธการ ซึ่งได้มาหลังจากเอาชนะจิตของทัมมุซในร่างตนได้แล้ว

“เวทมนตร์ที่ใช้สร้างปีกกับสร้างปลาก็อยู่ในนั้นหรือ”

“สร้างปีกน่ะใช่ แต่สร้างปลาไม่มี”

“อ้าว! งั้นอาเมียร์ทำได้อย่างไร”

“ข้าทดลองดู จะว่าอย่างไรดีล่ะ...การใช้เวทมนตร์ก็คือการดึงพลังออกมา ก่อขึ้นเป็นรูปร่าง และบังคับให้เคลื่อนไหวตามต้องการ ดังนั้นข้าเลยใช้พลังสร้างเป็นรูปตัวปลา กักอากาศไว้ภายใน แล้วบังคับให้มันเคลื่อนไหวเลียนแบบการว่ายของปลาจริงๆ เพื่อเดินทางใต้น้ำได้เร็วขึ้น ข้าทดลองดูตอนคิดว่าจะลอบเข้าไปในเมอร์คาห์ได้อย่างไร และพบว่าทางน้ำน่าจะสะดวกที่สุด”

“อ้อ” เจ้าหญิงพยักหน้า ก่อนจะนึกไปถึงตอนที่เธอเคยพบจอมเวทอีกคนหนึ่ง “แล้วตอนนี้...ท่านใช้เวทมนตร์เสกม้าขึ้นมาได้เหมือนมาลิอาไหม ข้าว่าแบบนั้นน่าจะสะดวกขึ้นนะ”

มาลิอาคือแม่มดดำผู้เคยร่วมมือพระมหาเถระลูเธียนผนึกอำนาจของคัมภีร์ในตัวอาเมียร์ และเวลานี้ก็ต้องการหยุดยั้งจิตอีกด้านของทัมมุซ ซึ่งสิงสู่ในร่างของพระเถระมาดาย จึงคอยช่วยเหลือชายหนุ่มอยู่ในยามนี้ เธอดูเหมือนเด็กสาวตาบอด แต่งกายอย่างนางรำชาวทราย แต่แอชลีนน์รู้สึกรางๆ ว่าแม่มดน่าจะมีอายุมากกว่าร่างที่เห็นมากนัก เช่นเดียวกับอาเมียร์

ครั้งสุดท้ายที่เจ้าหญิงได้เห็นแม่มดดำ คือครั้งที่อาเมียร์พลาดพลั้ง ถูกดูลัสกับพวกของเขาจับตัวไว้ได้ ขณะต่อสู้เพื่อถ่วงเวลาให้เธอหนีไป แอชลีนน์จึงได้ยินยอมกลับไปกับราชองครักษ์หนุ่ม โดยตั้งเงื่อนไขให้พวกเขาส่งมอบอาเมียร์ให้แก่เจ้ามณฑลยาร์ลาธ และได้มาลิอากับพระมหาเถระลูเธียนรับอาสาจะพาตัวชายผมดำไป บนหลังม้าใหญ่สีดำตัวหนึ่ง

เจ้าหญิงรู้สึกขึ้นมาอย่างประหลาดว่านั่นไม่ใช่ม้าธรรมดา แม้จะบอกไม่ถูกว่าเป็นเพราะอะไรก็ตาม

“ไม่ได้หรอก” เจ้าชายแห่งความมืดกลับปฏิเสธทันควัน

“อ้าว! ทำไมล่ะ” แอชลีนน์กะพริบตาปริบๆ

อีกฝ่ายเหมือนจะเงียบไปเป็นนาน จึงได้ตอบช้าๆ

“การใช้เวทมนตร์สร้างเงาดำเลียนแบบสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวเป็นเอกเทศ โดยไม่ต้องใช้เวทมนตร์คอยกำกับตลอดเวลา จำต้องอาศัย ‘วิญญาณรับใช้’”

“วิญญาณรับใช้?”

“วิญญาณที่ถูกผูกมัดไว้ด้วยเวทมนตร์แห่งความมืด เหมือน...ตอนที่ข้าฆ่ากระต่ายตัวนั้น” อาเมียร์เอ่ยอย่างลังเล “ถ้าข้าทำพิธีผูกวิญญาณของมันไว้ ก็จะใช้วิญญาณของมันเป็นภูตรับใช้ได้ ข้าอาจสร้างร่างให้มันเป็นกระต่าย หรือสัตว์อื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ แต่เพราะวิญญาณเดิมเป็นสัตว์ ก็อาจจะทำอะไรไม่ได้มากนัก นอกจากวิ่งหรือกัด”

“...อา” เจ้าหญิงรับ “งั้นก็หมายความว่า...มาลิอามีวิญญาณม้าเป็นภูตรับใช้สินะ”

“ใช่” ชายหนุ่มพยักหน้า ขณะที่ยังเดินไปเรื่อยๆ “แล้วก็มีวิญญาณกา วิญญาณรับใช้จะคงอยู่กับนาย จนกว่าได้รับการปลดปล่อย ไม่ว่าโดยตัวนายเองหรือจอมเวทคนอื่น หรือไม่อย่างนั้นก็จนกว่านายจะตาย”

“...เพราะอย่างนี้ อาเมียร์เลยไม่อยากมีวิญญาณรับใช้หรือ”

“ฮื่อ” เขาพยักหน้าอีกครั้ง แต่แอชลีนน์เข้าใจดีว่านั่นคือการปฏิเสธ “ตอนอยู่ในทะเลทรายมายา ข้าเคยมีวิญญาณรับใช้มากมาย...ของสัตว์ทะเลทราย คนที่หลงหรือหนีเข้ามาในนั้น กองโจรที่ท่านพ่อซิอ์บุลเป็นคนปราบ เราจำเป็นต้องใช้พวกนั้นปกป้องดูแลแม่กับนาสิรา ...แต่ก่อนสะกดความทรงจำนี้ไว้ ข้าได้ปลดปล่อยพวกเขาไปหมดแล้ว การผูกสิ่งอื่นเป็นทาสโดยไร้ข้อแม้...ไม่ใช่เรื่องที่ควรกระทำหรอก”

“นั่นสินะ” เจ้าหญิงเอ่ยเจื่อนๆ ...เธอเองก็ไม่อยากตกอยู่ใต้อำนาจของใครไม่ใช่หรือ จึงได้เลือกที่จะสู้เช่นนี้

“แต่ ‘ทัมมุซ’ ในร่างของมาดายอาจจะยังทำอย่างนั้นอยู่” อาเมียร์พูดเคร่งขรึมขึ้น “ข้าไม่อยากให้เจ้ากลัวหรือตกใจ...แต่คงต้องบอกไว้ก่อน พระมหาเถระลูเธียนเคยปะทะกับวิญญาณรับใช้ของทัมมุซมาแล้ว ในนั้นอาจมีคนที่เรารู้จักอยู่ก็เป็นได้”

“หือม์...” แอชลีนน์ไม่ค่อยเข้าใจ แต่เมื่อชายหนุ่มยอมเอ่ยชื่อคนที่เขาคิดไว้...ก็เกิดเย็นสันหลังวาบ

“แม่มดที่ตายในห้องไต่สวน กับเฟลิม”

“นั่นมัน—”

“โหดร้ายที่สุด ข้ารู้ แต่...อาจจะมีคนอื่นมากกว่านั้น” ชายหนุ่มระบายลมหายใจ “ข้าไม่อยากสันนิษฐานในแง่ร้าย แต่ถ้าทัมมุซเกี่ยวข้องกับเรื่องเมื่อสี่ปีก่อน ก็อาจมีคนที่เจ้ารู้จักอยู่กับมันด้วยเช่นกัน”

เจ้าหญิงหยุดชะงัก กำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ

อาเมียร์ซึ่งแบกเคียราไว้บนหลังหยุดเดินเช่นกัน เขาทอดสายตามาทางเธออย่างห่วงใย

“แอช ข้าขอโทษนะ”

หญิงสาวสูดลมหายใจลึก ก่อนจะฝืนยิ้มให้ แม้ในใจยังปั่นป่วน

“ไม่เป็นไรหรอก บอกไว้ก่อนก็ดี อย่างนี้ข้าก็ยิ่งมีเหตุผลที่จะให้ท่านช่วย...และช่วยท่านมากขึ้นกว่าเดิมแล้วละ”

ชายหนุ่มพยักหน้าให้กับเธอ รอยยิ้มยังเจื่อน ทว่าแฝงแววชื่นชม

หญิงสาวเดินต่อไป พร้อมกับบอกตนเองว่านั่นยังเป็นแค่ข้อสันนิษฐาน ทัมมุซในร่างของมาดายอาจไม่เห็นว่าจำเป็นต้องใช้ดวงพระวิญญาณของคนที่เธอรักที่สุดทั้งสามพระองค์ และไม่ได้ทำเรื่องที่อาเมียร์หวั่นเกรงเลย หรือมิเช่นนั้น...ต่อให้ฝ่ายศัตรูผูกมัดทั้งสามไว้ด้วยเวทมนตร์จริงๆ สิ่งเดียวที่พวกเธอทำได้ในตอนนี้คือเร่งเดินทางไปให้ถึงยาร์ลาธ เพื่อหาทางช่วยเหลือในขั้นต่อไปเท่านั้น

แอชลีนน์บอกตนเองว่าเธอจะทำตามอารมณ์ความรู้สึกเพียงอย่างเดียวไม่ได้อีก ทว่าต้องใช้ความคิดและเหตุผล ต่อแต่นี้ปัญหาของเธอไม่ใช่ปัญหาของตนเพียงคนเดียว แต่ยังเป็นปัญหาที่ผู้อื่นร่วมแบกรับ ทั้งอาเมียร์ รูอาร์ค ท่านเบเรค ท่านซิอ์บุล มาลิอา พระมหาเถระลูเธียน ...ตลอดจนคนอีกมากมาย ทั้งที่สมัครใจและหลีกเลี่ยงไม่ได้

นับจากนี้ไป ต้องตัดสินใจอย่างผู้นำ


* * * * *

จากคุณ : Anithin
เขียนเมื่อ : วันจักรี 54 01:15:45




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com