(อิ..อิ หายหน้าไปนานเกิน สงสัยคนอ่านหายหมดแล้วมังเรา)
ตอนนี้ขอลงเรื่องก่อน แล้วเดี๋ยวคุยกันด้านล่างค่ะ ส่วน บทนำ - บทที่ 4 ได้ลบไปแล้วตามที่ได้แจ้งไว้คราวก่อนนะคะ แต่สามารถอ่านย้อนหลังได้ที่ blog ตามลิ้งค์ค่ะ
บทนำ
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=suratiyaa-raveejan&month=01-2011&date=24&group=12&gblog=1
บทที่ 1
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=suratiyaa-raveejan&month=03-2011&date=06&group=12&gblog=2
บทที่ 2
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=suratiyaa-raveejan&month=03-2011&date=12&group=12&gblog=3
ตอนที่ 3-4
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=suratiyaa-raveejan&group=12
---------------------------------------
บทที่ 5 บ้านนับดาว
หลังช่วงเวลารัตติกาลผ่านไปจวบจนถึงเวลาแห่งแสงแรกของยามรุ่งอรุณในวันใหม่ เส้นปลายฟ้าทาบทับด้วยสีเรื่อเรืองจากแสงอาทิตย์เปล่งประกายรัศมีสีทองระยับกระจายรอบขอบเมฆงามจับตา บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นเพราะรายล้อมด้วยไม้ใหญ่น้อยนานาพันธุ์ ทางด้านหนึ่งมีทางเดินยื่นลงไปในน้ำเพื่อเชื่อมต่อไปถึงศาลาสีขาวทรงหกเหลี่ยมตั้งเด่นอยู่กลางสระใหญ่ หญิงสาวร่างสูงระหงในชุดเสื้อกางเกงลำลองสีเรียบผู้หนึ่งยืนสงบนิ่งอยู่เพียงลำพังใกล้ริมสระ ผมหยักศกสลวยของเธอซอยสั้นสไลด์เป็นทรงสวยรับกับใบหน้าเนียนสีน้ำผึ้ง ดวงตาหวานคมกำลังมองเหม่อผ่านสายหมอกบางทอดจับไปยังกลางผืนน้ำกว้างใหญ่ใสและลึก อันปรากฏแรงกระเพื่อมไหวสะเทือนเป็นพลิ้วระลอกคลื่น เนื่องจากการทำงานของกังหันน้ำที่ช่วยเติมอากาศบำบัดน้ำเสีย
บรรยากาศตรงนี้ดีมาก..โดยเฉพาะเช้าๆ อย่างนี้
คนที่ยืนใจลอยถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงห้าวทุ้มทัก พร้อมกับวงแขนแข็งแรงอบอุ่นโอบกระชับจากทางด้านหลัง
คุณจักร..แหม..มาเงียบๆ ตกใจหมด
ขอโทษครับ ขอโทษ
ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาดีผิวค่อนขาวแต่งกายสุภาพอย่างคนที่พร้อมจะออกไปทำงานกล่าวกลั้วหัวเราะ..นึกเหมือนกันว่าหญิงสาวอาจตกใจ ใจลอยออกอย่างนั้น
ตัวคุณหอมจัง ใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไรบอกกันบ้างได้มั้ย?
คนถามถามแบบไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจังอะไรนัก เพราะพอพูดจบใบหน้าคมก็ก้มต่ำลงมาจนลมหายใจอุ่นๆ เป่าปะทะรดตรงต้นคอของหญิงสาว จมูกโด่งเคล้า
เคลียอยู่แถวซอกคองามเพื่อสูดกลิ่นหอม
ฉันไม่ชอบใส่น้ำหอมหรอกค่ะ คงเป็นกลิ่นดอกไม้แถวนี้มากกว่า
ไม่ใช่หรอก..แถวนี้มีดอกไม้หอมๆ ที่ไหนกัน อีกอย่างกลิ่นหอมแบบนี้..
ชายหนุ่มส่งสายตาเจ้าชู้..พลางทำท่าสาธิตด้วยการจรดจมูกลงกับบนแก้มเนียนใสประกอบคำพูด
มาจากตัวคุณแท้ๆ เชียว..ลัลธริมา
ฮื้อ..ไม่เอาล่ะ..คุณแกล้งเอาเปรียบฉันนี่
เสียงต่อวาแกมประท้วงทำให้จักรวาลหัวเราะอย่างอารมณ์ดีอีกครั้ง
รู้มั้ยผมอยากกอดคุณไว้อย่างนี้ทั้งวันเลย
แย่จัง!
อ้าว ทำไมล่ะ?
ถ้ายืนกอดกันอย่างเดียวทั้งวันมีหวังเมื่อยแย่ซิคะ แล้วจะไม่ได้ไปทำงานด้วย
ผมยอมเมื่อย
ตกงานกันพอดี
ว่าแต่วันนี้ลัลตื่นแต่เช้าเลยนะครับ
ที่จริงตื่นเช้าทุกวันแหละค่ะแต่ปกติเดินเล่นอยู่แถวสวนหย่อมหน้าบ้าน เพิ่งได้มีโอกาสเดินเลยไกลออกมาถึงสระก็วันนี้
ผมเข้าใจ จักรวาลพยักหน้า
ตลอดหลายเดือนมานี่คุณแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัวเลย ต้องดูแลคุณพ่อเกือบตลอดตั้งแต่เช้าจรดค่ำ พอคุณพ่อเสียคุณยังต้องมาพยาบาลคุณแม่อีกคน
ชายหนุ่มคลายอ้อมแขนออกเลื่อนมือมากุมมือหญิงสาวไว้
ผมกำลังหาพยาบาลพิเศษที่ไว้ใจได้มาช่วยผ่อนแรง แต่งงานแล้วคุณจะได้มีเวลาเป็นส่วนตัวมากขึ้น ตอนนี้ผมอนุญาตให้คุณมีอิสระได้มากเท่าที่ต้องการ..จะทำอะไรก็ได้ในบ้านหลังนี้ ยกเว้นอย่างเดียว..
อะไรคะ?
นอกจากผมแล้ว..ห้ามมองผู้ชายคนอื่นอีก
โธ่! คุณนี่ชอบล้อเล่นอยู่เรื่อย
ไม่เล่นล่ะ ผมเอาจริงนะ ลืมไปแล้วหรือว่าเรากำลังจะแต่งงานกัน ผมเต็มใจที่จะทำทุกอย่างให้คุณมีความสุข แล้วคุณจะรู้ว่าคุณจะไม่มีวันผิดหวังจากผมแน่นอน
หรือคะ?
ทำไมต้องหรือคะ..ไม่เชื่อที่ผมพูดหรือ?
ไม่ใช่ไม่เชื่อ คุณดีกับฉันมากเสียจนเกรงใจไปหมดแล้ว..ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างฉันจะเอาอะไรไปตอบแทนคุณได้ล่ะคะ?
อย่าเกรงใจเลย ผมเต็มใจน่ะ
ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าจริงจังจริงใจ แววตาคมบอกความรู้สึกในใจที่มีต่อหญิงสาวอย่างเปี่ยมล้น
ถ้าคิดจะตอบแทน ไม่ต้องถึงกับรักผมเท่าฟ้าอะไรอย่างนั้นหรอก แค่รักผมเท่าหัวใจคุณผมก็พอใจแล้ว
แม้ใบหน้าสวยของหญิงสาวจะไม่มีรอยยิ้มระบายอย่างเปิดเผย..หากดวงตาหวานคมที่ปรากฏแววยิ้มจรัสทำให้จักรวาลพอใจที่ได้เห็นความสุขบนใบหน้านั้น
ลัลธริมาอาจจะผิวคล้ำไปสักนิดแต่ก็สะสวยอย่างสาวเชื้อสายไทยผสมบราซิล-ลาตินอเมริกัน ถ้าเป็นไปได้เขาอยากให้เธอเปิดใจรับตัวเขามากกว่านี้ เพราะเท่าที่สังเกตดูจักรวาลรู้สึกว่าลัลธริมายังคงครึ่งๆ กลางๆ ระหว่างเต็มใจกับความลังเลที่จะเป็นเจ้าสาวของเขา คงเป็นเพราะชีวิตที่กำพร้าทั้งพ่อและแม่ทำให้หญิงสาวดูมีบุคลิกที่ซับซ้อน
ลัลธริมาเติบโตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในบราซิล จนอายุย่างเข้าเจ็ดขวบคุณยายรัตน์ รัตตยา หญิงหม้ายวัยหกสิบหน้าตาท่าทางใจดีมาขอรับเธอไปเลี้ยงเป็นหลานบุญธรรม จากนั้นชีวิตของลัลธริมาก็พลิกผันได้เหินฟ้ามาอยู่เมืองไทย อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของบิดาซึ่งหญิงสาวไม่เคยแม้แต่จะได้เห็นหน้า รู้แต่ว่าเป็นคนไทยเท่านั้น
ตอนยายบุญธรรมเสียชีวิต ลัลธริมาเพิ่งได้ทำงานเป็นพยาบาลพิเศษใหม่ๆ ดังนั้นปัจจุบันจึงเท่ากับว่าหญิงสาวตัวคนเดียวไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้จริง
ก่อนหน้านี้ลัลธริมาทำงานอยู่ที่กุหลาบทอง ศูนย์พยาบาลเอกชนใหญ่โตแห่งหนึ่งในกรุงเทพ จักรวาลติดต่อไปที่ศูนย์เพราะเชื่อถือในชื่อเสียงของศูนย์กุหลาบทอง เขาแจ้งความประสงค์ว่าต้องการพยาบาลพิเศษ สามารถไปทำงานประจำอยู่ที่จังหวัดระยองได้ ทางศูนย์จึงได้ส่งประวัติของพยาบาลพิเศษมาให้เขาพิจารณาสี่คน รวมทั้งนางสาวลัลธริมา รัตตยา ด้วย ชายหนุ่มตกลงรับลัลธริมาในทันที
แม้ว่าช่วงเวลาที่อยู่ภายใต้หลังคาเดียวกันจะเป็นเวลาเพียงแค่สี่เดือน แต่เป็นสี่เดือนที่จักรวาลทั้งสุขที่สุดและทุกข์ที่สุดในเวลาเดียวกัน สุขเพราะได้พบกับลัลธริมา..หญิงสาวที่เขาประทับใจตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้สบตา
ทุกข์เพราะรู้ว่าบิดาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก โรคเบาหวานแทรกซ้อนด้วยโรคหลอดเลือดสมองทำให้สมองหยุดทำงานอย่างเฉียบพลันส่งผลให้บิดาเขากลายเป็นอัมพาตไปครึ่งซีก เรียกว่าเสียการทำงานของระบบประสาทไปอย่างถาวร ทุกคนในครอบครัวอยากให้กฤษณ์รักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่ในความดูแลใกล้ชิดของแพทย์ หากเป็นความประสงค์ของกฤษณ์เองที่ต้องการกลับมาอยู่บ้าน ในตอนที่บิดายังพอพูดได้ กฤษณ์เคยสั่งกับผกาวัลย์ผู้เป็นภรรยาไว้ว่า
พาพ่อกลับบ้าน..พ่ออยากกลับบ้าน ถ้าจะต้องตายขอใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายอยู่ในบ้านของเราดีกว่า
บิดากลับมาอยู่บ้านได้ไม่นานอาการกลับทรุดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเสียชีวิตในที่สุดเมื่อสามเดือนที่แล้ว
ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ รู้สึกตัวว่าความคิดของตนกำลังเรื่อยเปื่อยไปไกล จักรวาลรีบดึงความคิดกลับมาสู่จุดที่กำลังสนทนา เขาเอ่ยถามเสียงนุ่มกับหญิงสาวว่า
อีกไม่กี่วันเราจะแต่งงานกันแล้ว..กลัวหรือเปล่า?
ถ้ากลัวคงเป็นพยาบาลไม่ได้ซิคะ
ลัลธริมาเข้าใจดีว่าเจ้าของบ้านหนุ่มหมายถึงอะไร แต่แสร้งทำเป็นตอบไปกันคนละเรื่องเพื่อที่จะได้ไม่ต้องตอบคำถามใกล้ตัวแบบนั้น
คนละเรื่องกันเลย..ไม่เห็นเกี่ยวกับการเป็นพยาบาลสักหน่อย ไอ้เรื่องนั้นมันอย่างหนึ่งแต่ไอ้เรื่องนี้ก็อีกอย่างหนึ่ง
หญิงสาวหัวเราะเบาๆ นึกขำกับคำพูดของเขาที่ว่า..เรื่องนั้น..เรื่องนี้ เพราะถ้าบังเอิญมีใครมาได้ยินปลายประโยคก็จะไม่มีทางเข้าใจเลยว่าเขากำลังพูดถึงอะไร
เอาเถอะ ไว้ค่อยตอบผมทีหลังก็ได้ เรามีเวลาอยู่ด้วยกันอีกนานนัก
จักรวาลว่าแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย เขาพยักหน้าไปทางเรือนศาลาสวยกลางบึงใหญ่
เป็นยังไง ชอบหรือเปล่าครับ? ข้างในมีชุดนั่งเล่นมีเก้าอี้ปรับเอนไว้นอนเล่นได้ ร้อนนักก็เปิดพัดลมกลางเพดาน กลางคืนไม่ต้องกลัวยุงหรือแมลงเพราะทำบานเลื่อนบุมุ้งลวดไว้เรียบร้อย เรียกว่าเป็นทั้งศาลานั่งเล่น..พักผ่อนหรือจะใช้เป็นห้องนอนก็ได้ทั้งนั้นเรียกว่าเอนกประสงค์เลยล่ะครับ เจ้าของบ้านสาธยายน้ำเสียงภูมิใจ
ตอนแรกกะจะสร้างเป็นศาลานั่งเล่นธรรมดา แต่เห็นบรรยากาศรอบๆ แล้วคิดว่าทำเป็นกึ่งเรือนกึ่งศาลาเสียเลยดีกว่า เรือนไทยที่เราอยู่ทุกวันผมกับคุณพ่อช่วยกันออกแบบ แต่เรือนศาลานี่ผมทำคนเดียวล้วนๆ
ความคิดสร้างสรรค์สมกับเป็นสถาปนิกจริงๆ ค่ะ
ชายหนุ่มเล่าเสริมต่อไปว่า
บึงนี่ความจริงมีมาแต่แรก ต่อมาได้ความคิดแต่งให้กลายเป็นสระสวยๆ แทนที่จะเป็นแค่บึงเฉยๆ ตอนแรกผมยังไม่แน่ใจว่าจะเข้าท่าหรือเปล่า..กลัวน้ำเสียน่ะครับ แต่ใช้กังหันน้ำเข้ามาช่วยก็หมดปัญหาไป..ถ้าคุณชอบผมยกให้ เอาไปได้เลย
หญิงสาวหัวเราะเปิดเผย ทำให้ใบหน้านั้นแลกระจ่างสดใสขึ้นทันตา
พูดเป็นเล่นไป เรือนทั้งหลังจะยกไปไหนได้ยังไงกันคะ
ไม่ต้องยกซิครับ ถือเป็นของขวัญแต่งงานชิ้นแรกที่ผมมอบให้กับว่าที่เจ้าสาว ต่อไปเรือนศาลาจะเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณเพียงคนเดียว ดีมั้ย?
ไม่ดีแน่ค่ะ
ทำไมล่ะ..ให้ผมทำอะไรเป็นการตอบแทนบ้างได้ไหม?
คุณจักรไม่ได้ติดค้างอะไรลัลสักหน่อย จะได้ต้องตอบแทนกัน
ทำไมจะไม่ติดค้าง..อย่างน้อยคุณก็ทำให้ผมได้รู้จักความรักในช่วงเวลาสี่เดือนที่ผ่านมา
แน่ใจหรือคะ?
แน่ใจอะไร? เรื่องความรู้สึกของผม หรือเรื่องเรือนศาลา?
เรื่องคุณน่ะค่ะ
ถามอะไรอย่างนั้น สีหน้าจักรวาลยิ่งจริงจังมากขึ้นไปอีก
เราจะแต่งงานกันอยู่แล้วยังถามแบบนี้อีกนะ สี่เดือนไม่สั้นเกินไปหรอกสำหรับคนที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกัน คุณดูแลคุณพ่อผมเป็นอย่างดีจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของท่าน จนถึงตอนนี้ก็ยังต้องรับหน้าที่ดูแลคุณแม่ด้วยอีกคน
ชายหนุ่มยกมือขึ้นโบก เมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าขยับปากคล้ายจะค้านคำพูดเขา
ผมรู้เป็นหน้าที่ที่คุณต้องทำอยู่แล้วในฐานะพยาบาลพิเศษ แต่คุณแสดงให้เห็นน้ำใจในทุกเรื่องไม่ใช่แค่เฉพาะดู แลคุณพ่อเท่านั้น คุณไม่เคยนิ่งดูดายที่จะช่วยเหลือทุกเรื่อง แม้กระทั่งในช่วงงานศพตั้งแต่สวดวันแรกจนถึงวันเผา ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ธุระที่คุณจะทำให้พวกเรามากมายขนาดนี้
ชายหนุ่มรวบมือเรียวนุ่มไว้ในอุ้งมือแข็งแรงของเขา น้ำเสียงห้าวเต็มไปด้วยความอ่อนโยนจริงใจ ตาคมจับจ้องหญิงสาวตรงหน้าอย่างแน่วแน่
ผมรักคุณ..ลัลา..รักทั้งๆ ที่รู้ว่าคุณไม่ได้รักผมเท่าที่ผมรักคุณ ตอนนี้คุณไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเหลืออีกแล้ว..ขอให้ผมเป็นคนรับผิดชอบชีวิตคุณเถอะนะ..ลัลธริมา
แม้ว่าคุณแม่ของคุณจะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้อย่างนั้นหรือคะ?
หญิงสาวย้อนถาม จักรวาลถึงกับอึ้งไป ในตอนแรกมารดาชอบลัลธริมาเพราะเห็นว่าเธอเป็นคนขยัน ไม่เคยละเลยต่อหน้าที่ที่รับผิดชอบแล้วยังแสดงน้ำใจเลยไปถึงเรื่องอื่นๆ ด้วย แต่พอรู้ว่าลูกชายคนเดียวจริงจังกับพยาบาลพิเศษถึงขั้นจะแต่งงานกัน มารดากลับไม่เห็นด้วย เขากำหนดพิธีแต่งงานขึ้นอย่างดันทุรังไม่ฟังเสียงทัดท้านของมารดา เป็นเหตุให้ผกาวัลย์เสียใจและประท้วงด้วยการมักจะเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่พูดคุยสนิทสนมกับเขาเช่นเดิม
อย่าไปใส่ใจเลย เพราะคนที่คุณจะแต่งงานด้วยคือผม
พอนึกถึงมารดา น้ำเสียงชายหนุ่มกลับห้าวห้วนขึ้นมาทันที
คุณจักรวาล น้ำเสียงอุทานเรียกฟังตกใจแกมตำหนิ
พูดอย่างนั้นได้ยังไง..นั่นคุณแม่คุณนะคะ..ฉันจะเป็นสะใภ้บ้านนับดาวได้ยังไงถ้าคุณป้าผกาวัลย์ไม่ต้อนรับฉันเข้าร่วมวงศ์ตระกูลกานต์ไท
ตอนที่หญิงสาวเข้ามาบ้านนับดาวแรกๆ ผกาวัลย์เอ็นดูเธอมาก ชมเสมอว่าเธอเป็นคนขยันไม่เคยละเลยต่อหน้าที่ที่รับผิดชอบแล้วยังมีน้ำใจสารพัดอย่าง ครั้นลัลธริมาตกลงใจตอบรับคำขอแต่งงานของจักรวาล ผกาวัลย์ก็เปลี่ยนท่าทีเป็นต่อต้านจนออกนอกหน้า
เราอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้กันเลย..ลืมไปแล้วหรือว่าวันนี้คุณมีแขก
หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องพูดเสียเมื่อเห็นสีหน้าคมเริ่มส่อเค้าหงุดหงิด
จริงซิ..ผมเกือบลืม..เรามีแขกนี่นา เรียกได้ว่าเป็นแขกชุดแรกที่จะมาร่วมงานของเรา
จักรวาลตอบรับเมื่อนึกขึ้นได้ เขานึกเลยไปถึงคำพูดที่ได้คุยกับนันท์นพินทางโทรศัพท์เมื่อสองสามวันก่อน
นึกยังไงถึงพาเพื่อนมาตอนนี้..อีกตั้งเป็นอาทิตย์กว่าจะถึงวันงาน..พี่อุตส่าห์บอกแล้วว่าจะเชิญแต่ญาติสนิทเท่านั้น เพิ่งผ่านงานศพคุณพ่อไปไม่ทันกี่เดือนไม่อยากจัดเลี้ยงให้เอิกเกริกมากไป
เฮ่อ อย่าทำเสียงดุอย่างนั้นซิ ไม่ดีใจหรือว่าจะได้เจอแฟนเก่า..จะแต่งงานทั้งที่ไม่บอกเขาได้ยังไง
พูดมากน่า..แฟนกงแฟนเก่าอะไรที่ไหน
เสียงน้องสาวตัวดีหัวเราะกวนประสาทมาตามสาย
ถ้าจะบอกว่าเสียดายคงสายเกินไปล่ะ..รู้สึกว่าแฟนน้องพริมจะหล่อเท่ห์ไม่เบา
จะพาเพื่อนมาก็ไม่ว่าล่ะ แต่ใครที่เป็นนักเขียนอะไรนั่นบอกตรงๆ ว่ามันพิลึกอยู่นะ อยู่ๆ จะเอาบ้านเราเป็นฉากเขียนนิยาย ถ้าจะมากันจริงๆ ก็ดูแลตัวเองกันด้วย พี่คงไม่มีเวลารับแขกมากเท่าไหร่ ไหนจะต้องดูแลเรื่องสถานที่จัดเตรียมงานแต่ง ไหนจะต้องดูแลคุณแม่ แล้วยังต้องสะสางงานที่ออฟฟิศอีก
ถึงตรงนี้เสียงลัลธริมาถามแทรกภวังค์ความคิดชายหนุ่มขึ้นมาว่า
แล้วนี่แขกของคุณจะมาถึงตอนไหนคะ?
แขกของเรา
เขาแก้คำพูด เพราะแขกที่จะมาก็มาเพื่อร่วมยินดีในงานแต่งงานของคนทั้งสอง
น่าจะไม่เกินเย็นนี้หรอก เดี๋ยวผมต้องไปทำงานก่อนแต่จะรีบกลับมาให้ทัน อ้อ..ผมสั่งให้ป้าภู่จัดเตรียมห้องพักไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าพวกเขามากันก่อนผมกลับ คุณออกหน้าต้อนรับได้เลยครับ
สี่คนใช่ไหมคะ?
ครับ..เห็นว่ายกทีมลาพักร้อนกันมา มี นันท์นพิน พริมมธุรสกับแฟน ส่วนอีกคนที่เป็นนักเขียนนั่นชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว
ทางบริษัทเขาไม่ว่าหรือคะที่พักร้อนพร้อมๆ กันอย่างนั้น
ขอโทษทีผมคงพูดไม่ชัดเจน เขาไม่ได้ทำงานที่เดียวกันหรอก คือต่างคนต่างลาพักร้อนมาน่ะครับ พริมเป็นโปรแกรมเมอร์ในบริษัท ส่วนแฟนเป็นนักจิตวิทยา..รู้สึกว่าจะทำงานที่เดียวกับนพินหรือยังไงอันนี้ผมไม่แน่ใจ
อ้อ หางเสียงรับรู้นั้นฟังคล้ายสะดุดนิดๆ ปนอยู่ในน้ำเสียง
พริมมธุรสคนนี้สวยไหมคะ?
คำถามของหญิงสาวทำให้จักรวาลถึงกับหัวเราะเสียงดังด้วยความเอ็นดู
ผู้หญิงนี่นะ
แล้วสวยหรือเปล่าล่ะคะ?
น่ารักมากกว่าสวย แต่ผมไม่ได้เจอน้องพริมมาหลายปีแล้วล่ะ
ชายหนุ่มตอบแล้วถามต่อแบบล้อเล่นว่า
หึงหรือ?
ไม่ใช่สักหน่อย..แค่จำได้ที่คุณเล่าให้ฟังว่าเคยจีบเพื่อนสนิทของน้องสาวอยู่ครั้งหนึ่ง คงจะเป็นคนนี้แน่ๆ
โธ่..นั่นมันนานมาแล้ว..แค่คิดเล่นๆ แต่ถึงจีบจริงๆ คงไปกันไม่รอดหรอก
ทำไมล่ะคะ?
อือม์..คงเป็นเพราะผมกับน้องพริมไม่เคยมีเรื่องขัดคอกันเลย ผมว่าการที่เป็นแฟนกันมีขัดแย้งกันบ้างก็ทำให้ชีวิตมีรสชาติมากขึ้นนะ แต่ถ้าไม่ลงรอยทะเลาะกันมากไปก็ทรมานไม่มีความสุข แต่คล้อยตามกันไปเสียทุกเรื่องยิ่งจืดชืดน่าเบื่อ
แล้วอย่างเรา ยังไม่เคยทะเลาะกันสักครั้ง แบบนี้คงเป็นคู่ที่น่าเบื่อแย่ซิคะ
สำหรับคุณ..ผมไม่เคยเบื่อ
จริงใจจัง!
ลัลธริมาแกล้งกระแทกเสียงนิดๆ ปรายตาเหมือนจะค้อนอันเป็นกิริยาที่หญิงสาวไม่ได้ทำบ่อยนัก จักรวาลรู้สึกเอ็นดูจนต้องรวบตัวเธอเข้ามากอดเต็มอ้อมแขนอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่แสนจะรักจับใจ
(มีต่อ)
แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 54 20:56:53
แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 54 20:54:03
แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 54 15:40:42
แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 54 15:13:40
แก้ไขเมื่อ 06 เม.ย. 54 15:10:15