รอยยิ้มบนใบหน้าของขุนนางยศสูงจางหายไป บรรยากาศภายในห้องเงียบงัน ได้ยินเสียงเนื้อผ้าเสียดสีกันยามขยับตัวจากเทียร่า
เชิญท่านว่าไป
ชายหนุ่มสบตาบุรุษตรงหน้า รอยยิ้มละไมจืดจางลง หากยังไม่หายไป ยามนี้เขานึกถึงสถานการณ์ที่พยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด คือการมีเรื่อง
ก่อนจะเข้าเรื่องอย่างแท้จริง คงต้องรบกวนบาร์นเล่าเกี่ยวกับเมืองของเราให้เจ้าฟังก่อน
ตัวตลกเพียงยิ้มรับ เข้าใจในเจตนาของขุนนางผู้ไม่ยอมเล่าเอง เนื่องจากหากเป็นฝ่ายฟังเพียงอย่างเดียวย่อมสามารถสังเกตอากัปกิริยาของผู้สนทนาทั้งคู่ได้มากกว่าอยู่ร่วมสนทนาเสียเอง
เขานึกชังสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว เมื่อตนทำได้เพียงแค่ตามน้ำอย่างใจเย็น
อา...ข้าหรือ ไม่มีผู้ใดตอบถามนั้น อิคซีน่า บาร์นจึงเริ่มเล่าทั้งที่ยังหลับตา เมืองของเราเคร่งครัดในกฎระเบียบอย่างยิ่ง มีวิธีปกครองและกฎหมายที่เด็ดขาด ชาวบ้านจึงไม่สามารถมีปากเสียงเลยแม้แต่น้อย ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเรื่องที่รู้กันดี
เงียบไปนาน จนกระทั่งเทียร่าผู้ทำได้เพียงรอฟังอย่างเดียวอึดอัดจนต้องร้องท้วง
บาร์น มากกว่านั้น!
ขอบคุณเทียร่า ชายผิวซีดว่า ก่อนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ หากบอกว่าเมืองนี้เป็นเมืองประหลาดก็ไม่ผิดอะไร ผู้คนล้วนไม่นิยมปรากฏตัวออกนอกบ้าน ถนนส่วนใหญ่อ้างว้างเงียบเหงา แม้กระทั่งทำการค้ายังเป็นไปอย่างเงียบงัน หลบๆ ซ่อนๆ ทั้งที่ไม่ได้ทำผิด
ฮื่อ ประหลาดแท้อย่างโคตร
ตัวตลกรำพึงพลางพยักหน้าเนิบช้า แม้แต่เทียร่ายังอดบ่นอุบด้วยความหงุดหงิดไม่ได้
ข้าล่ะเกลียดนัก
เราทุกคนล้วนนึกชังระบบเหล่านี้ยิ่ง รู้หรือไม่ว่าผลที่ตามมาจากนั้นคืออะไร
ชายผิวซีดเบือนหน้ามาถามเขาราวกับนึกอยากจะสบตา ทว่าไม่อาจลืมตาใต้แสงไฟได้ ตัวตลกมองใบหน้าไร้สีเลือดของบาร์นนิ่ง รอยยิ้มจืดจางลงกว่าเดิม มีแววครุ่นคิดชัดเจนขึ้นบนสีหน้า แต่เพียงไม่นานก่อนที่รอยยิ้มจะกลับมาเปื้อนเต็มดวงหน้าอีกครา
เชิญท่านเล่าต่อ
ขุนนางชื่ออาลีลอบมองตัวตลกอย่างสังเกต เห็นเพียงแววตาลึกลับ ซ่อนประกายบางอย่างที่ยากจะคาดเดา ช่างเป็นตัวตลกที่แอบซ่อนความคิด ความรู้สึกได้แนบเนียน ท่าทีเยือกเย็นดั่งคนชราที่มีชีวิตอยู่มายืดยาวบนโลกใบนี้ ทั้งที่ยังหนุ่มนัก และอาจมีอายุอานามคราวลูกด้วยซ้ำ
เมืองนี้กลายเป็นแหล่งการค้าผิดกฎหมาย...หากเจ้ารู้
ไม่มีตัวตลกคนใดชอบฟังเรื่องเคร่งเครียด ต้องการให้ข้าทำอะไรก็บอกมา
ชายหนุ่มเบือนสายตาไปยังขุนนาง เอ่ยวาจาเรียบนิ่ง แววตาราวกับจะมองทะลุเข้าไปภายในใจของอีกฝ่าย
เจ้าช่างไม่สมกับเป็นตัวตลก
ถือเป็นคำพูดที่ทำให้ข้ารู้สึกเสียใจยิ่งนัก
ชายยศสูงพยักหน้าเล็กน้อย ส่งเสียงอืมอยู่ในลำคอ
เจ้าไม่สมกับเป็นตัวตลกในสายตาข้าเลย ขณะที่เจ้าคงมองว่าข้าช่างสมกับเป็นขุนนางใช่หรือไม่ หากเจ้ามายืนอยู่จุดเดียวกับข้าคงติดนิสัยพูดจาอ้อมค้อมมาเป็นธรรมดา ยิ่งอยู่มากว่าสามสิบปีจะเหลืออะไร แต่ต่อไปนี้เราจะเอาอย่างนักเลง รอยยิ้มจางหายไป มีเพียงความดุดันที่เด่นชัดบนใบหน้า เทียร่า บาร์น ขอพวกเจ้าออกไปจากห้องนี้ก่อน แล้วบอกฮิวจ์ให้รีบมาที่นี่
สิ้นเสียง บาร์นลุกขึ้นเดินออกไปก่อน ขณะที่เทียร่ายังคงลังเล นางเหลือบมองตัวตลกอย่างนึกเป็นห่วง
โชคดีนะ
นางกระซิบเสียงเบาก่อนจะเดินตามบาร์นไป เขามองส่งนางพร้อมกับส่งยิ้มให้แทนคำขอบคุณ เมื่อประตูปิดลง เหลือเพียงชายต่างวัยสองคนในห้องกว้าง ฝ่ายที่สูงวัยกว่าจึงเริ่มเปิดประเด็น
บอกมา จุดประสงค์ที่เจ้ามาที่เมืองนี้
ไม่ชอบอะไรแบบนี้เอาเสียเลย เขานึกเอือมระอาเต็มที
ข้าเร่ร่อนไปเรื่อย ไร้จุดหมาย ไร้ปลายทาง
ตัวตลกแย้มยิ้มบางพลางยักไหล่ขณะตอบ แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นบรรยากาศความกดดันที่แผ่ออกมาจากชายยศสูงข้างตัว ยังคงสบสายตาอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็น
คงมีเพียงวาจาเล่นสิ้นที่สมกับเป็นตัวตลก เจ้าควรจะตอบให้ตรงคำถาม
ไม่มีจุดประสงค์
ขุนนางพยายามจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของตัวตลก พยักหน้าให้กับตัวเองอีกครั้งก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ในท่าที่สบายตัว คิ้วขมวดราวครุ่นคิด
ถ้าอย่างนั้นเจ้าคิดว่าเพราะอะไรข้าถึงเลือกที่จะดึงเจ้าเข้ามาในเรื่องนี้
อันที่จริง เรื่องนี้เรื่องอะไรตัวตลกก็ยังนึกสงสัยอยู่
เพราะข้าชื่อเหมือนท่าน
ไม่ใช่ว่านั่นเป็นชื่อปลอมหรอกหรือ
อุ๊ย
ตัวตลกแสร้งอุทานยามมองรอยยิ้มรู้ทันของขุนนาง เขาไม่ใคร่จะใส่ใจกับเรื่องชื่อเท่าไหร่นัก หากใครจะจับได้ว่าเขาบอกชื่อปลอมทุกครั้งที่มีคนถามก็ไม่ติดใจอะไร ในเมื่อมันไม่สำคัญเรื่องวิธีการ ยิ่งอีกฝ่ายเป็นขุนนางมีอำนาจยิ่งสืบได้ง่าย หากจะมีอะไรที่ทำให้เขานิ่งงันได้คงเป็นการรู้ชื่อที่แท้จริง
ซึ่งไม่ควรเลย...ในเมื่อเจ้าของได้ทิ้งนามนั้นไปแล้วเมื่อแสนนาน
เพราะข้าบังเอิญเห็นเจ้าในร้านค้าที่ลอบขายของนอกกฎหมายไงเล่า เจ้าคงรู้ดีอยู่แล้วว่าร้านเหล่านั้นมีมากมายในเมืองนี้ ขายสินค้าใต้ดินที่บางอย่างก็มีเพียงไม่กี่ชิ้นในโลก และบางชิ้นก็อันตรายเหลือประมาณ
น่าทึ่งดี เมืองแบบนี้ก็มี
การคงอยู่ของเมืองนี้เป็นเหมือนดาบสองคม เหตุผลว่าเพราะอะไรเมือง[^_^]เช่นนี้ยังอยู่รอดคงไม่ต้องพูด แม้แต่ตัวข้าเองยังยอมรับว่าบางทีก็หาของที่ต้องการได้จากเมืองนี้ในราคาถูกกว่าคนนอก และย่อมถูกกว่าหาซื้อจากต่างเมือง ในหมู่ขุนนางก็มีแต่พอใจที่หาซื้อของที่ต้องการมาได้ในราคาถูก พ่อค้าแม่ค้าเองก็พร้อมใจปิดปากเงียบ เนื่องจากได้ทั้งประโยชน์และผู้มีอำนาจกดหัวอยู่
...และที่เหนือเหตุผลอื่นใดคือไม่มีใครกล้าเป็นศัตรูกับดินแดนนี้
ชายหนุ่มอดรำพึงอย่างเสียไม่ได้ รู้สึกคล้ายตนเองแก่ชราเหลือเกินเมื่อได้ฟังเรื่องเช่นนี้ ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าของคนทั้งคู่อีกต่อไป คล้ายจะถูกความรู้สึกสมเพชเข้ามาเกาะกุมจิตใจ
ถึงได้เรียกกันว่าเมืองคนใบ้ ทุกคนเรียกกันเช่นนี้จนลืมเลือนชื่อแท้จริงเสียแล้ว ข้าอยากถามนักว่าอะไรกันเล่า...อะไรกันที่ปิดปากทุกคนไว้ แม้กระทั่งยอมปล่อยให้เมืองต้องตกต่ำ
น้ำเสียงของขุนนางยศสูงฟังดูอ่อนล้าราวกับไม่ใช่คนเดิม ชั่ววูบหนึ่งที่เขารู้สึกว่าบุรุษตรงหน้าแก่ชรากว่าที่เคยรู้จัก แววตาสะท้อนความสิ้นหวังออกมาอย่างปิดไม่มิด แต่เพียงวูบเดียวที่บรรยากาศหม่นหมองเข้ามาครอบคลุมในอารมณ์ พลันแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกมุ่งมั่นที่ฉายแววรุนแรงในดวงตา
ได้เวลาน้ำชาแล้ว พักกันสักครู่ค่อยว่าต่อเถิด
ตัวตลกปรายตามองขุนนาง ไม่เอ่ยเอื้อนคำพูดใดๆ