นิยายมันก็แค่....นิยาย บทที่ 29-32
|
 |
บทที่ 29 ผลของทั้งหมด สำหรับมหาวิทยาลัยผมออกจะไม่เหมือนที่อื่นซักหน่อยเพราะการซ้อมถ้ามาซ้อมไม่ครบวันก็จะไม่ได้ขึ้นไปรับในวันจริงครับเพราะฉะนั้นยังไงก็คงต้องเจอหลังจากที่ซ้อมเสร็จผมก็เดินหาทิพย์เพราะแม้สถานที่ซ้อมจะไม่ใหญ่มากจนผมสามารถเหลียวมองไปได้ทั่วแต่ก็ไม่เห็นทิพย์อยู่ในที่ซ้อมแต่ก็ได้เจอเท่งที่ตามหลักชื่อจะอยู่ใกล้กับทิพย์ก็ปรากฏว่าเท่งบอกว่า
คงไม่มาเพราะเขาก็ไม่เจอเหมือนกัน ในตอนนั้นก็เหมือนทุกอย่างมันว่างไปหมดครับทุกเรื่องที่เตรียมไว้ทุกอย่างที่อยากจะบอกก็เหลือเพียงต้องทำใจ
วันที่เรียกว่าความสุขครั้งหนึ่งในชีวิตสำหรับผมกลับเป็นวันที่ยิ้มไม่ออกกับมันเรื่องทั้งหมดที่ผมทำจะไปบอกใครจะให้ใครได้รับรู้ไม่มีครับนอกจากต้องเก็บมันต่อไป พอถามน้องเรื่องๆของทิพย์ก็ได้ข้อมูลว่ากำลังยุ่งเพราะเรียนหนักอยู่ที่โน้นคุ้นๆไหมครับเหตุผลเดียวกันกับที่ผมไม่ไปส่งทิพย์นั้นแหละครับที่ทำให้ผมไม่มีโอกาสที่จะได้เจอเขา
แต่ที่รู้ตอนนี้ผมเข้าใจแต่ก็ไม่อยากเข้าใจมันแน่ครับก็มีการเลี้ยงน้องเป็นปกติแต่ผมไม่แตะเหล้าตลอดทั้งช่วงรับปริญญาครับแม้เพื่อนจะชวนเลี้ยงข้าวน้องเสร็จก็กลับห้องอย่างเดียวอ้างไปว่าเดี๋ยวจะตื่นไปซ้อมไม่ไหวแต่ในความเป็นจริงผมคงหลุดปากหรือทำอะไรออกไปแน่ๆหากได้ดื่มผมคงจะทำอะไรที่ไม่ดีกับตัวผมเองอีก ผมไปซ้อมรับปริญญาทุกวันครับก็มีกล้องหนึ่งตัวแล้วก็เดินวนให้เพื่อนหรือตากล้องของเพื่อนที่อยู่ในงานช่วยถ่ายให้ครับถ่ายไปหลายรูปแต่ก็อยากถ่ายกับคนเพียงคนเดียวที่ไม่มา
ก็ยังคงมองหาทิพย์อยู่ตลอดเวลาโดยหวังว่าทิพย์จะมาแต่ก็ไม่มีแม้แต่เงา ก่อนวันจริงตอนเย็นพ่อกับแม่ก็มาถึงเชียงใหม่ครับแกมานอนค้างหนึ่งคืนบังเอิญได้โรงแรมที่ผมมาตอนสัมภาษณ์เข้าเรียนเพราะยังว่างอยู่เนื่องจากห้องแพงกว่าที่อื่นแถวนั้น
แต่ก็มาในแบบเดิมครับถ่ายรูปแถวหอประชุมก่อนแล้วก็ไปเข้าพักแต่ก็ให้ผมเตรียมพาไปซื้อผลไม้กับผักแถวกาดผลไม้แถวเจดีย์ขาวเพราะเขาบอกว่าราคาถูกแต่ก็รู้สึกงงเหมือนกันครับว่ามารับปริญญาผมหรือมาซื้อของกันแน่ พอพาไปซื้อของเสร็จผมก็กลับไปแต่ตัวแล้วกลับมารับไปหน้ามหาวิทยาลัยเพื่อไปถ่ายรูปกันแม่ก็ซื้อตุ๊กตาหมีให้ตัวหนึ่ง
พอจับก็ยิ่งทำให้คิดถึงทิพย์เพราะจำได้ว่าทิพย์แพ้ขนตุ๊กตาแบบนี้แต่ก็พยายามไม่สนใจกับเรื่องที่แวบเข้ามาในหัวผมตอนนี้เพราะต้องไปรับปริญญาและต้องพยายามไม่ให้นึกถึง พ่อแม่มาถ่ายรูปกับผมได้ประมาน 1 ชั่วโมงแกก็บอกไปแล้วจะต้องกลับบ้านเพราะไม่อยากนอนดึกเมื่อกลับถึงบ้านและเดี๋ยวไม่มีใครคุมงานมันทำให้ผมรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่ไร้ความสำคัญซะจริงๆ
ผมรู้สึกอย่างนั้นเพราะดูเหมือนในครอบครัวผมไม่ได้จะใส่ใจกับมันเท่าไหร่แต่ก็ยังดีครับที่อุตส่าห์ขึ้นมากันแม้จะมาเที่ยวและซื้อของมากกว่าเรื่องรับปริญญาผมอยากจะกลับบ้านเลยดีไหมเพราะทุกสิ่งที่ทำและทุกสิ่งที่หวังในวันนี้มันมีแต่ผิดหวังแต่ก็คงต้องทำให้ถึงที่สุด พอพ่อแม่ผมกลับไปก็เดินแถวหน้ามหาวิทยาลัยซักพักก็เดินไปมาเห็นใครรู้จักก็ถ่ายรูปมาแต่ก็คนถ่ายไม่ค่อยซ้ำหน้าหรอกครับและฝีมือขึ้นๆลงๆแต่ก็ไม่แคร์เพราะเอามาจำบรรยากาศที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีกับเขา ก่อนจะเข้าไปรับก็ต้องท่องคำปฏิญาณตนให้ได้ครับเพราะถ้าท่องไม่ได้ก็คงดูแย่เพราะทั้งการเรียนก็เพื่อให้ได้มีวันนี้แต่ก็ไม่ได้ตามที่หวังเลยซักอย่างตลอดการมา ก็มีเต้นฝากของอยู่หน้าหอประชุมครับก็เจอจูนที่เรียนด้วยกันและเป็นคนที่มีอาจารย์ที่ปรึกษาทำเทอมร่วมกับทิพย์ก็มาคุยกับผมเพื่อรอเวลาเข้าเหมือนกัน เสียดายเนอะที่พี่ทิพย์ไม่มาเพราะติดเรียนแท้ๆเลย
จูนบอกกับผม เอาน่าเขามีความจำเป็นหนิ ครับมีความจำเป็นแต่สำหรับผมที่เกิดคือความเสียใจความรู้สึกที่ว่าผมไม่ดีครับที่ไม่ได้ไปส่งทิพย์ตอนที่จะไปอยากเจอทิพย์ให้นานกว่านี้อยากให้ตอนสุดท้ายไม่ใช่เพราะผมเดินหนีเขา ยังไงตอนนี้อยู่ในงานรับปริญญาก็ต้องทำไปให้ถึงที่สุดและตอนนี้หลังจากนี้คงต้องก้าวต่อไปกับชีวิตเพราะผมก็รอเขามานานพอแล้วและสิ่งที่ผมทำก็เพื่อให้เขาได้ดีก็น่าจะเป็นอะไรที่สมหวังนะ เข้ารับปริญญาก็มีการสาบานตนครับด้วยมีหลายคนและก็ท่องมาหลายรอบพอสมควรก็เลยผ่านไปได้ปกติหลังจากนั้นก็รอเตรียมเรียกแถวขึ้นไปรับครับเท่งนั่งถัดไปด้านหลังผมหนึ่งแถวก็หันไปทักแต่ในใจก็คิดแต่ว่าถ้าทิพย์มาเราก็คงได้นั่งไม่ไกลกันถ้าเป็นไปตามที่หวังก็คง แต่ก็ต้องหยุดคิดครับเพราะงานรับปริญญาเร็วมากแปบเดียวก็ถึงแถวผมครับการรับก็เหมือนลอยเข้าไปแล้วลอยออกมาเหมือนลมผ่านวูบเดียว หลังจากรับเสร็จก็ไม่รู้ว่ารูปจะออกมาเป็นอย่างไรเพราะมันไวมากจนขนาดผมที่ถ่ายมาหลายงานยังคิดว่าไม่น่าจะถ่ายทันแต่ลงมาก็สังเกตดูว่ามีหลายกล้องมากไม่น่าจะมีพลาดได้แต่ไม่ว่ายังไงพอจบเรื่องแล้วผมจะทำยังไงต่อไปดีเพราะไม่เคยคิดถึงเรื่องต่อไปจากนี้ที่ชิวิตจะไม่มีคนที่ผมรัก กลับมากรุงเทพก็วุ่นวายครับเพราะต้องกลับมาเริ่มหางานกันไปเพราะยังไงก็ต้องก้าวต่อไปแม้อาจไม่ได้เจอกับทิพย์อีกก็ตาม
จากคุณ |
:
Peera Ler
|
เขียนเมื่อ |
:
10 เม.ย. 54 00:02:25
|
|
|
|