ตอนที่ 28 วิษุวัตนั่งเอนศีรษะพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยๆหลังจากพิมพ์ข้อความส่งไปให้อันธิกา ว่าถ้าเปิดเครื่องแล้วให้ โทรกลับหาเขาทันที คิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากัน ในขณะที่สายตาก็จ้องมองภาพถ่ายตอนไปค่ายครั้งก่อนบน หน้าจอโน้ตบุ๊คตรงหน้าไปเรื่อยๆ
เป็นไรรึเปล่าวะ น้องเอินไม่ยอมคุยด้วยเหรอ ทำหน้าเครียดจัง
ปยุตซึ่งนั่งเปิดหนังสือเพลงเกากีต้าร์เล่นอยู่ที่โซฟาอีกฟากเอ่ยถามขึ้น เวลานี้เกือบสี่ทุ่มแล้ว แต่ทั้งสอง ยังคงนั่งอยู่ด้วยกันที่ห้องทำงานขององค์การนักศึกษา
เมื่อกี้กูโทรไปหาเอินมา มีผู้ชายรับสาย กูโมโหเลยลืมคิดไปว่าดึกป่านนี้ คงเป็นพี่ชายเอินรับแน่ๆ แต่ ตอนนั้นมันลืมไง เลยพูดไม่ดี ทำเสียงไม่ดี เค้าปิดโทรศัพท์ใส่เลยว่ะ โทรไปใหม่ตั้งหลายครั้งแล้วก็ยังเหมือนเดิม เรื่องของเรื่องคือ น้องเอินงอนกูอยู่ด้วยน่ะสิ ก็เลยไม่แน่ใจว่าที่ปิดเครื่องนี่ พี่สั่งให้ปิดหรือว่าเจ้าตัวไม่อยากคุย ซะเอง
อีกฝ่ายตอบเสียงเครียดพลางคลิกเมาส์กดดูภาพถ่ายไปด้วย
คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง อย่าเพิ่งคิดมากเลยน่า สมมติว่าถ้าเป็นพี่ชายเอินรับโทรศัพท์จริงๆ เดี๋ยวเค้าก็ ต้องไปคุยกับเอิน แล้วเอินก็อธิบายให้เข้าใจเองแหละ รอดูพรุ่งนี้ก่อนแล้วกัน ถ้าน้องเค้าไม่โทรกลับมาหรือ ไม่ยอมรับสายค่อยว่ากันอีกที
วิษุวัตไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก เหมือนในใจลึกๆก็จะเห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อน จึงเปิดดูภาพถ่าย อย่างมีสมาธิ โดยมีเสียงเพลงจากกีตาร์คลอเบาๆให้ไม่รู้สึกว่าเงียบสงัดเกินไปนัก
กูชอบรูปนี้ว่ะ ยุต
ปยุตหยุดเล่นกีต้าร์และเงยหน้าขึ้นมอง แม้เห็นจากมุมไกลๆ แต่เขาก็พอจะนึกภาพเหตุการณ์ใน ภาพถ่ายได้ ภาพถ่ายจากมุมหน้าเวที ที่มองเห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างของชายหนุ่มที่กำลังใช้ลิปสติกเขียนบน ใบหน้าของสาวน้อยท่ามกลางแสงไฟสีส้มสลัว
เออ กูก็ชอบว่ะ น่ารักดี แต่กูไม่คิดว่ามืงจะจริงจังกับน้องเค้าขนาดนี้เลย ไม่น่าเป็นไปได้
ทำไมวะ คนอย่างกูจะรักใครสักคนจริงๆบ้างไม่ได้รึไง ที่ผ่านมากูอาจจะทำอะไรไม่ดีๆ ไว้เยอะ แต่ก็ เคยบอกตัวเองว่า กูพร้อมจะปรับเปลี่ยนตัวเอง ถ้าเจอใครที่รู้สึกว่าใช่ และอยากหยุดที่เค้าจริงๆ
เรื่องนั้นน่ะ ก็พอเข้าใจอยู่ ที่บอกว่าไม่น่าเป็นไปได้เพราะ คิดว่าผู้หญิงในสเปคของมืงจะออกแนว สวย เซ็กซี่ แบบนั้นซะอีก ไม่ใช่ว่าน้องเอินไม่สวยนะเว้ย น้องน่ารักมากเลยล่ะ ตาโต ผมยาว แก้มป่อง แต่เค้า ไม่สวยน่ารักแบบสะดุดตาน่ะ ดูเรียบๆเกินไป
ปยุตวิจารณ์ไปตามที่รู้สึก วิษุวัตฟังแล้วก็ยิ้มนิดๆ
สวย เซ็กซี่ก็เท่านั้นแหละวะ มันก็แค่เปลือกนอก ให้คบแบบผิวเผินชั่วครั้งชั่วคราว โอเคอยู่ แต่ถ้าต้อง คบกันจริงๆ ขอแบบคนที่ทำให้เรารู้สึกดี เวลาได้อยู่ใกล้ๆ ได้คิดถึง แล้วก็ต้องเรียนรู้นิสัยใจคอตัวตนทีทแจริงของ กันและกันไปทีละนิด ไม่ต้องรีบร้อน มันเป็นความรู้สึกที่ดีออก กูก็ไม่เคยคิดว่า จะมีใครทำให้รู้สึกอะไรแบบนี้ได้ เหมือนกัน น้องเอินมีอะไรที่บางทีก็คล้ายๆพี่สาวกูว่ะ กูชอบผู้หญิงแบบนี้
กูก็ชอบผู้หญิงแบบพี่สาวมืงด้วยคนนะ สวย เก่ง ฉลาด เป็นดอกเตอร์ที่ไม่ได้ดูเป็นสาวมั่นเกินไปจน ไม่น่าเข้าใกล้ ออกแนวหวานซึ้ง น่าทนุถนอมด้วยซ้ำ
วิษุวัตได้ยินแบบนี้ถึงกับหันขวับไปมองตาขวางใส่คนพูดในทันใด
เฮ้ยๆ พอเลย หยุดลามปาม
ลามปามอะไรวะ กูพูดถึงแบบชื่นชมจากใจจริงเลยนะเว้ย ทำมาเป็นหวงกับกู ไม่เห็นจะกล้าหือกับ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์คนนั้นเลย ตกลงเค้าเป็นแฟนกันจริงเหรอวะ พักกลางวันเห็นออกไปด้วยกันตลอด
เฮ้อ พูดเรื่องนี้แล้วก็เซ็งว่ะ กูก็ไม่เข้าใจพี่ว่านเหมือนกัน ว่าไอ้อาจารย์ขี้เก๊กนั่น มันมีดีตรงไหน กะอีแค่ เคยเป็นแฟนเก่าตอน ม ต้น ลืมๆไปไม่ได้รึไง คนที่ดูดีกว่านั้นมีตั้งเยอะแยะไม่ยอมสนใจ มืงคิดดูละกัน ผู้ชายประเภทไหนวะกินวาซาบิ ยังไม่ได้เลย โดนกูแกล้งไป ถึงกับวิ่งไปอ้วก
ปยุตส่ายหน้าขำๆ กับอาการกระฟัดกระเฟียดของวิษุวัต
กูว่า อาจารย์แกก็หน้าตาดีจริงๆ บุคลิกสุขุม นิ่งๆ ขรึมๆ แบบนั้นขวัญใจสาวๆเลยนะ ไม่งั้นคงไม่มีคนสนใจ เยอะแยะขนาดนี้หรอก หมายถึงพวกนักศึกษาผู้หญิงน่ะ ไปถามได้เลย แทบไม่มีใครไม่รู้จักอาจารย์กนต์รพี
พอเถอะ ฟังแล้วยิ่งหมั่นไส้ว่ะ ยังไงๆ ก็ไม่คู่ควรกับพี่สาวกูอยู่ดี
วิษุวัตกระแทกเสียงตอบอย่างหงุดหงิด ปยุตจึงไม่โต้ตอบอะไรอีก เหลือเพียงเสียงเกากีต้าร์เบาๆพอให้ รู้สึกผ่อนคลายอารมณ์ในค่ำคืนนี้
ฝนที่ตกกระหน่ำลงมาตั้งแต่เช้ามืด ทำให้หัวใจที่มืดมัวราวอยู่ท่ามกลางพายุของกนต์รพี ยิ่งหนาวเหน็บ ยิ่งกว่าเดิม ชายหนุ่มยืนเหม่อมองสายฝนอยู่ตรงประตูกระจกบานเลื่อนในห้องนอนสักพักใหญ่ๆแล้ว วันนี้มีสอน ช่วงเช้า และเขาเพิ่งวางสายโทรศัพท์ที่โทรไปขอลาป่วย จากการอดนอนมาทั้งคืนเพราะนอนไม่หลับ บวกกับ อากาศที่แปรปรวนทำให้อาการป่วยเล่นงานได้ง่ายดายอีกตามเคย
ทุกครั้งที่มองเห็นเงารางๆในสายฝน ความทรงจำที่มีต่อใครคนหนึ่ง จะแจ่มชัดขึ้นมาในใจเสมอ...
ชื่อจริงของว่าน แปลว่า ฤดูฝน แล้วว่านชอบฤดูฝนรึเปล่า
เสียงเด็กชายที่ยืนกางร่มให้กับเด็กหญิง อยู่ใต้ร่มไม้ริมสนามเด็กเล่นของโรงเรียน ในระหว่างรอ ผู้ปกครองมารับหลังโรงเรียนเลิก ท่ามกลางบรรยากาศของฝนฟ้าคะนองแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
ชอบ แต่ไม่ชอบฟ้าแลบฟ้าร้อง มันน่ากลัว แล้วเลิฟล่ะ ชอบฤดูไหน ร้อน ฝน หนาว
ก็ ต้องชอบฤดูฝนอยู่แล้ว เย็นสบายดี
เด็กชายตอบพลางยื่นมือข้างหนึ่งออกไปข้างหน้าเพื่อสัมผัสกับสายฝน ทว่าก็ถูกมือเล็กๆตีเบาๆและ ดึงกลับอย่างรวดเร็ว
เลิฟอยากเป็นหวัดรึไง ยิ่งไม่สบายง่ายๆอยู่ พอไม่มาโรงเรียนแล้วใครล่ะต้องคอยบอกการบ้าน ต้องคอยสอนทบทวนวิชาที่เรียนไปแล้วให้
อ๋อ เมฆไง
ตอบพร้อมรอยยิ้มกว้างแบบอยากจะแกล้ง
งั้นพรุ่งนี้เวลาเรียน ไปนั่งกับเมฆเลยนะ ไม่ต้องมานั่งกับว่าน ไม่เข้าใจอะไรก็ไม่ต้องมาถาม
เด็กหญิงตอบด้วยน้ำเสียงงอนๆ แต่กลับเรียกรอยยิ้มของเด็กชายได้อีกครั้ง
โอ๋ๆ อย่าเพิ่งงอนสิ เลิฟแค่พูดเล่นเฉยๆ
ระหว่างที่กำลังพูด รถยนต์คันที่คุ้นตาก็แล่นมาจอดตรงริมฟุตบาธซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ทั้งสองยืนอยู่ มากนัก
น้องว่าน น้องเลิฟ มาขึ้นรถเร็วลูก
เด็กชายยืนนิ่งมองผู้เป็นพ่อของเพื่อน และไม่ยอมขยับเขยื้อน จนเด็กหญิงต้องดึงแขนเสื้อของเขา
ไปด้วยกันเร็ว เลิฟ เดี๋ยวให้คุณพ่อพาไปส่งบ้านนะ
จากคุณ |
:
Travel to the moon
|
เขียนเมื่อ |
:
10 เม.ย. 54 07:03:09
|
|
|
|