.
บทที่ 24 ยิ้มไม่ได้...
วันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์ วันสุดท้ายของการพักผ่อน วันเดินทางกลับ
สองหนุ่มเก็บของออกรถแต่เช้า แวะกินโจ๊กที่ตัวอำเภอ แล้วรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อคันโตติดฟิล์มกรองแสงดำมืดก็มุ่งสู่กรุงเทพฯ โดยมีเสียงเพลงจากซีดีแผ่นเดียวกันกับตอนขามาขับกล่อม
โตมรเหลือบมอง ท่านเจ้าของรถ ที่ดูมีสมาธิแน่วแน่ตามปกติ ขนาดตัวเขาเองเป็นคนนอกแท้ๆ ยังรู้สึกใจหายที่ต้องกลับ แล้วพี่ชายของเขาจะรู้สึกมากมายขนาดไหน
เมื่อเช้าที่แวะลาบุญทาเจ้าของบ้าน เจ้าเอกก็พาวัวออกไปทุ่งแล้ว ต้องล่ำลากันล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อคืนตอนกินข้าวเสร็จ โตมรถึงกับอึ้งไปเมื่อหลานชายคนใหม่เข้ามากอดแน่นๆ เงียบๆ สนุกกันมาบ้างก็ใช่ แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับเกียรติ ได้รับความไว้วางใจจากหนุ่มน้อยแบบนี้
แล้วภาพที่ชะลอกอดลูกทูนหัวนิ่ง... นาน... มันดูอุ่นเหลือเกินในความรู้สึก ตอนที่พี่ชายจูบหน้าผากเจ้าหลานชาย เหมือนไม่อยากจะคลายแขนปล่อยมือ
หลังจากนั้นชะลอไม่ได้พูดอะไรอีก โตมรก็ไม่คิดจะรบกวน ปล่อยให้พี่ชายใช้เวลาดื่มด่ำซึมซับชั่วโมงนาทีสุดท้ายไปเงียบๆ ตอนเข้านอนเขารู้สึกอยากกอดพี่ชาย แต่ฝนไม่ตก อากาศไม่หนาว เขาเลยเพียงแต่จับมือพี่ชายไว้เหมือนคืนที่ผ่านมา
จะว่าไปตอนนี้เขาก็รู้สึกอยากจับมือพี่ชายไว้เหมือนกัน แต่ฝ่ายนั้นกำลังขับรถ โตมรเหลือบมองมือข้างซ้ายของพี่ชายสลับกับเสี้ยวหน้าคมสันบ่อยครั้ง
นึกปลอบใจตัวเองว่า ถึงเขาจะไม่มีโอกาสได้กลับไปเจอเจ้าหลานชายจอมขรึมที่นั่นอีก แต่ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้าพี่ชายก็จะมีเวลาหยุดพัก และจะได้กลับไปเจอลูกชายเหมือนเดิม
แค่ได้รู้ว่าพี่ชายมีความสุข เขาก็ยิ่งกว่าดีใจแล้ว
แวะจอดรถถ่ายรูปทิวทัศน์ข้างทางนิดหน่อย แต่ก็มาถึงกรุงเทพฯ ทันก่อนเวลารถติดรอบเย็นพอดี
สองหนุ่มช่วยกันขนของลงจากรถเข้าไปไว้ที่โถง เหลือกระเป๋ากีฬาขนาดกลางที่โตมรหย่อนไว้ข้างประตูรั้ว ก่อนจะเดินไปลาพี่ชาย แต่ยังไม่ทันพูดอะไร อีกฝ่ายก็ชิงบอก
เดี๋ยวไปส่ง
โตมรส่ายหน้ายิ้มกว้าง
ไม่ต้องหรอกครับ ผมไปแท็กซี่สบายมาก พี่ลอขับรถมาทั้งวัน พักผ่อนดีกว่าครับ แล้วก็ขอบคุณมากๆ นะครับที่พาผมไปเที่ยวด้วย สนุกมากเลยครับ
เห็นพี่ชายย่นคิ้ว โตมรก้าวเข้าไปประชิดตัวแล้วกราบลงตรงเนินบ่าของอีกฝ่าย กลิ่นเหงื่อของผู้ชายสองคนกระจ่างชัดอยู่ท่ามกลางกลิ่นหวานอ่อนของดอกไม้รายรอบ พี่ชายยืนนิ่งขึงอยู่ชั่วอึดใจ
ก่อนจะยกสองแขนขึ้นมาโอบกระชับเขาไว้เบาๆ
วันอาทิตย์ถัดไปเป็นการเริ่มวาดจริง โตมรมาถึงตอนบ่ายโมงตามที่ชะลอขอเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้น
พอเข้าห้องทำงานก็สังเกตเห็นว่ามีการเตรียมอุปกรณ์เคร่งครัดกว่าคราวก่อนๆ กล้องวิดีโอวันนี้ย้ายไปวางอยู่หลังตำแหน่งยืนวาดของชะลอ แม้ขาตั้งภาพก็ยังมีเทปพลาสติกสีน้ำเงินติดเป็นเครื่องหมายไว้ที่พื้น แล้วยังมีม้วนเทปกับกรรไกรวางอยู่บนโต๊ะคอมพิวเตอร์มุมห้องด้วย
เขาถอดเสื้อผ้าพับวางบนเก้าอี้ไม้ ส่วนพี่ชายเดินไปเดินมาระหว่างขาตั้งภาพกับกล้องวิดีโอ คงต้องการให้มุมกล้องใกล้เคียงกับตาเห็นมากที่สุด ยืนรอซักพัก พี่ชายก็หันมาชี้บอกให้เขาก้าวเข้าประจำที่
ภาพนี้จะโชว์กล้ามเนื้อของเขาในมุมที่สวยงามที่สุด พี่ชายบอกว่าอย่างนั้น โตมรจัดท่าทางตามคำสั่ง บิดตัวไปทางซ้ายเล็กน้อยแต่ให้หันเฉพาะหน้าไปมองทางขวาที่หน้าต่างเหนืออ่างล้างมือ พี่ชายสั่งให้เขาเปลี่ยนทิศทางชี้ปลายเท้าไปทางนั้นทางนี้จนได้มุมที่พอใจ แล้วให้เขาเกาะมือขวาไว้หลวมๆ ที่หลังสะโพก ส่วนมือซ้ายให้ยกขึ้นจับท้ายทอย ขยับศอกขึ้นลงอยู่หลายครั้งกว่าจะได้ที่
พี่ชายสั่งให้เขาจำท่านี้ไว้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากสำหรับโตมร เพราะเขารู้จักกล้ามเนื้อทุกชิ้นของตัวเองอย่างดีเยี่ยมมานานแล้ว เพียงแค่หลับตาตั้งสมาธิ ส่งความรู้สึกไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย จดจำตำแหน่งและมุมนั้นไว้ ไล่ขึ้นไล่ลงซักสามสี่เที่ยวก็เรียบร้อย
ลืมตาอีกทีก็เห็นพี่ชายก้มติดเทปสีน้ำเงินลงบนพื้นรอบเท้าเขา พี่ชายลุกขึ้นมาขมวดคิ้วดุ โตมรยิ้มทะเล้นแล้วรีบหันหน้ากลับไปทางหน้าต่าง ...มุมเดิมเป๊ะ... แอบชำเลืองเห็นพี่ชายหรี่ตาทำท่าพินิจพิเคราะห์เหมือนจะจับผิดอยู่พักนึง แล้วก็พยักหน้านิดเดียว เดินกลับไปที่หน้าขาตั้งภาพ
...เข้มจริงเว้ยพี่เรา... น่าแกล้งชะมัด...
...ซักนิดละกันนะครับพี่ชาย...
พี่ลอครับ
ตัวนิ่งสนิท แต่แกล้งหันหน้าไปเรียก พี่ชายตวัดสายตาดุส่งมาทันที โตมรยิ้มเผล่สะบัดหน้ากลับไปทางหน้าต่างในองศาที่ถูกต้องทุกประการ แล้วทำเสียงซื่อสุดใจ
ผมยืนโป๊คนเดียวเหงาชะมัดเลยครับ พี่ถอดผ้าขาวม้าวาดได้มั้ยครับ จะได้เป็นเพื่อนกัน
มองเหล่ๆ แบบนี้ไม่ได้อารมณ์ โตมรเลยหันหน้าไปยิ้มแป้นส่งสายตาใสปิ๊งๆ ให้คุณพี่ชายที่ไม่ยักขมวดคิ้ว แต่ทำท่าถอนหายใจสั้นๆ แบบไหล่ไหวเห็นได้ชัด หน้าตาเบื่อโลกหน่อยๆ
กะว่าพี่ชายต้องหลุดปากบ่นแน่แล้วรอบนี่ โตมรแอบยักคิ้วสองจึ๊ก พี่ชายสบตากลับมานิ่ง
หรี่ตา
แล้วปลดผ้าขาวม้าทิ้งลงพื้น
.
จากคุณ |
:
พิธันดร
|
เขียนเมื่อ |
:
12 เม.ย. 54 16:33:05
|
|
|
|