Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
>>>> ปาฎิหาริย์รักจากฟากฟ้า ตอนที่ 4 <<<< อัพรับปีใหม่ค่า ^^ ติดต่อทีมงาน

ในการรับประทานอาหารค่ำในวันนี้ช่างแสนอึดอัด สิรดนัยรู้สึกแปลกใหม่กับการที่มีสมาชิกอีกคนเพิ่มเข้ามาในบ้านแบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อเย็นนี้ขณะที่เขากำลังพักผ่อนหลังจากการกลับมาจากที่ทำงานด้วยการนั่งอ่านหนังสืออยู่ในสวนหย่อมหลังบ้าน รถแท็กซี่ก็นำเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาหย่อนไว้ ตอนแรกเขาก็นึกสงสัยว่าใครกันที่มาโวยวายตะโกนหาปัณฑ์ธรเสียให้ลั่นบ้าน แต่พอได้พบก็รู้ว่า ไม่ใช่แฟนลับ ๆ ของนายปัณน้องชายเขาหรอกที่มาเยี่ยมเยือนในยามเย็นวันนี้ หากแต่เป็เพ็ญนีต์ คู่หมั้นของเขาต่างหากเล่าที่โผล่มาเซอร์ไพร์สแบบไม่ทันตั้งตัว
       ชายหนุ่มแอบเหล่มองคนที่นั่งตรงข้ามกับเขาบนโต๊ะอาหารอย่างสนใจ เธอดูไม่ต่างกับตอนเด็ก ๆ ที่เขาพบ แม้ว่าจะไม่ได้เจอกันมากว่าสามปีแต่เธอก็ไม่ได้ดูแตกต่างกับตอนมัธยมสักเท่าไรนัก จะแปลกตาก็ตรงที่ผมดำขลับยาวตรงกลางหนังของเธอ บัดนี้ถูกทำสีใหม่และดัดเป็นลอนใหญ่ตามสมัยนิยม กับใบหน้าที่มีการแต่งแต้มสีสันอ่อน ๆ

  “ มองหน้าเดือนทำไมคะ ”

  เพ็ญนีต์เอ่ยทักขึ้นด้วยน้ำเสียงติดจะไม่พอใจ เด็กสาวไม่ค่อยชอบใจนักเวลาที่จะมีคนแอบมองดูเธอทำอะไรสักอย่าง ยิ่งผู้ชายหยิ่ง บ้าอำนาจแบบคนตรงหน้ามองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉยแบบนั้น ยิ่งทนไม่ได้ !

  “ พี่มองว่าเดือนเปลี่ยนไปแค่ไหน ” เขาตอบ ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ “ เดือนดูไม่ต่างจากสมัยมัธยมนะ ”

      “ พี่แดนกำลังจะว่าเดือนว่าเดือนไม่รู้จักโตหรือคะ ”

เขาถอนหายใจอย่างเอือมระอากับนิสัยชอบคิดไปเองของเพ็ญนีต์  ซึ่งสีหน้าอ่อนใจของเขายิ่งทำให้เด็กสาวไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม เธอจงกระแทกช้อนเสียงดังเพื่อดูว่าเขาจะยังบ้าอำนาจ ชอบว่าคนอื่นอยู่หรือเปล่า

      “ นี่ไงล่ะ ” เขาทำหน้าดุ “ พี่ถึงบอกว่าเธอไม่เปลี่ยนไปสักนิด นิสัยแบบนี้จะให้พี่ชมเธอว่าเธอโตเป็นผู้ใหญ่หรือยังไง แล้วการที่เธอหนีออกจากบ้านมาเพื่อมาที่บ้านของพี่ พ่อแม่ของเธอต้องไม่พอใจมากแน่ ๆ กินข้าวเสร็จแล้วก็ไปเก็บของ พี่จะไม่ส่งที่บ้าน ”

เพ็ญนีต์ยืนขึ้นทันควัน

“ บ้าอำนาจ ” เธอตะโกนเสียงดัง “ สิ่งที่จะทำให้เดือนก้าวออกจากบ้านหลังนี้ได้ก็คือการตัดสินใจของเดือนเอง ไม่มีใครหน้าไหนมาสั่งเดือนได้ทั้งนั้น อีกอย่างที่เดือนมาที่นี่ก็เพื่อมาพบกับพี่ปัณ และทำให้ทุกคนยอมให้เดือนแต่งงานกับพี่ปัณให้ได้ ”

        สิรดนัยจ้องหน้าเธออย่างไม่พอใจ

        “ ถ้าเธอทำได้ ก็ลองดูสิ ” เขาบอกเสียงหนักแน่น “ แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่านายปัณมีคนรักอยู่แล้ว และพี่ก็วางแผนจะช่วยให้เขาสมหวังกัน ”

        เพ็ญนีต์ขมวดคิ้วอย่างสงสัย รีบวิ่งไปขวางหน้าสิรดนัยที่ทำท่าจะเดินหนีเธอ

          “ เดือนไม่เชื่อหรอก ” เด็กสาวบอกเสียงดัง “ พี่ปัณไม่มีทางจริงจังกับใครแน่ เท่าที่เดือนรู้จักพี่ปัณ เขาไม่ยอมผูกมัดกับใครง่าย ๆ หรอก เพราะเขาจะรอเดือนเท่านั้น ”

      สิรดนัยก้มหน้าลงมองร่างเล็ก สายตามีแววขบขัน ซึ่งสำหรับเพ็ญนีต์แล้ว มันเหมือนกับแววตาดูถูกเธออย่างรุนแรงเสียมากกว่า

        “ ปัณเคยบอกเธออย่านั้นหรือเปล่าล่ะ ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายได้แต่โกรธจนตัวสั่นเทา กัดริมฝีปากแน่น เขาก็วางมือบนไหล่เด็กสาวเบา ๆ “ กลับไปเถอะเดือน เลือกคนที่เหมาะกับเธอจริง ๆ คนที่รักเธอและเธอรักเขาจริง ๆ อย่าได้พยายามเอาชนะผู้ใหญ่หรือเอาชนะพี่ด้วยวิธีแบบนี้ พี่เข้าใจเธอว่าเธอยอมรับความคิดผู้ใหญ่ไม่ได้ที่ต้องจับคู่เธอให้กับพี่ เธอจึงพยายามต่อต้านตั้งแต่เด็ก ๆ พยายามเกาะติดนายปัณที่นิสัยคล้าย ๆ เธอและชอบตามใจเธอ แต่เชื่อพี่เถอะว่านั่นไม่ใช่ความรัก ”

          เด็กสาวรู้สึกถึงน้ำใส ๆ แสนร้อนที่กรีดลึกลงไปในหัวใจ

          “ พี่แดนไม่เคยมีความรัก พี่แดนไม่รู้หรอก อย่ามาตัดสินว่าความรักของคนอื่นไม่ใช่ความรัก เพราะพี่แดนไม่มีสิทธิ พี่แดนเป็นได้แค่ว่าที่คู่หมั้นของเดือน เป็นแค่พี่ชายของพี่ปัณ แต่ไม่ใช่เจ้าชีวิตของใคร สักวันเดือนจะพิสูจน์ให้พี่แดนเห็น ว่าความรักของเดือนก็หนักแน่นและยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใคร ”

            สิรดนัยนิ่งอื้ง และมองร่างเล็กน้ำตาเอ่อล้นจนอาบสองแก้ม ที่วิ่งหนีหายไปบนห้องที่เขาจัดให้

เช้านี้มาธวีไม่ต้องอัปเปหิตัวเองออกมานอนนอกห้องเหมือนเมื่อคืนก่อน เพราะเมื่อวานนี้เธอได้ซื้อเตียงนอนของเด็กเอาไว้ให้สำหรับลูกชายของปัณฑ์ธร แถมวันนี้พ่อของเด็กน้อยก็รับหน้าที่ดูแลลูกของเขาตามหน้าที่ที่พ่ออย่างเขาควรกระทำ จึงทำให้วันนี้ปัณฑ์ต้องเอาถุงนอนมานอนข้างเตียงของเธอแทน แม้เมื่อเช้าตาหนูจะร้องเสียงดังเหมือนทุกวัน แต่ปัณฑ์ธรก็จัดการอย่างเรียบร้อย
        “ มาธวี ~ ” เสียงเรียกอย่างอ่อนระโหยโรยแรงของปัณฑ์ธร ทำให้หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นอย่างหงุดหงิด เพราะเธอเองยังอยากที่จะนอนชดเชยให้เต็มอิ่มมากกว่านี้

        “ ตื่นได้แล้ว ฉันจะตายแล้ว ”

          ปัณฑ์ธรร้องเรียกอย่างหมดแรง เขาเหนื่อยกับตาหนูมาก ๆ เลยในวันนี้ ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะดื้อกับเขาเสียเหลือเกิน ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ดูเหมือนจะไม่ถูกใจเด็กน้อยไปเสียหมด แล้ววันนี้เขาก็ไม่มีแรงที่จะทำอะไรอีกแล้วด้วย เขาหิวมาก แต่ก็ไม่มีแรงแม้แต่จะแกะอาหารสำเร็จรูปใส่ไมโครเวฟ จึงได้ตัดสินใจมาเรียกมาธวีแต่ดูเหมือนหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนุ่มน่าอิจฉาคนนี้จะแกล้งทำเป็นหลับเพื่อที่จะได้ไม่ต้องลุกขึ้นมารับรู้กับความลำบากของเขา ชายหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

        “ ว้าย !!! แกทำอะไรอ่ะ ”

มาธวีกรีดร้องอย่างตกใจ เมื่อเพื่อนตัวแสบทิ้งตัวลงมาบนเตียงอย่างเต็มแรงก่อนจะกลิ้งตัวมาทับเธอไว้ราวกับเธอเป็นแค่วัตถุไม่มีชีวิต

      “ ฉันก็อยากนอนเตียงนุ่ม ๆ บ้างนิ ” เขาบอกเสียงอู้อี้

        “ นี่มันเตียงฉัน ลงไปนะ ” มาธวีร้องบอก ก่อนจะพยายามลากกเจ้าเพื่อนตัวแสบลงจากเตียง แต่พลังของเธอนั้นก็น้อยเกินกว่าที่จะลากเขาลงไปได้

        “ ฉันไม่มีแรง ” ปัณฑ์ธรบอก “ ทำอาหารให้กินหน่อยดิ ” นักร้องหนุ่มกระพือขนตาหนาขึ้นลงถี่ ๆ เพื่ออ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิท

        “ น้า ๆๆๆ ” เขาคว้าข้อมือเธอไปกุมไว้ “ หิวมาก เหนื่อยมาก ”

มาธวีสบตากับดวงตาหวานเยิ้มที่มองมายังเธออย่างอ้อนวอนแล้วรู้สึกประหลาด รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหัวใจของตนเองที่มันเต้นเร็วและแรงกว่าปกติ แล้วก็เพราะความหื่นของเธออีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ที่ดันไปคิดว่าปากสีชมพูเป็นธรรมชาติของปัณฑ์ธรนั้นเซ็กซี่เป็นบ้า มันน่า.....

       เฮ้ยยย คิดอะไรอยู่วะ !!!

     หญิงสาวสะบัดมือของปัณฑ์ธรที่กุมมือเธออยู่ราวกับว่ามันเป็นของร้อน ก่อนจะพยายามตะเกียดตะกายลงจากเตียงและส่งเสียงโวยวายอย่างไร้สติจนปัณฑ์ธรอดหัวเราะไม่ได้

มื้อเช้านี่เป็นมื้อเช้าที่แปลกประหลาดที่สุดในชีวิตของปัณฑ์ธรเลยก็ว่าได้ เมื่ออาหารเช้าวันนี้เป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหน้าตาและสีสันเหมือนจะเผ็ดจนโรคลำไส้อาจกำเริบได้ แถมสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายก็ไม่เห็นวี่แววสักนิด ส่วนอาหารของตาหนูก็เป็นสลัดผักสีสันน่ากิน

“ เด็กกินสลัดผักได้แล้วเหรอ ” ปัณฑ์ธรถามขึ้นอย่างสงสัย “ ไม่ใช่ว่าแกทำ
ส่ง ๆ เพราะคิดว่าตาหนูไม่ใช่ลูกแกก็จะทำอะไรให้กินก็ได้นะเว้ย ”

    มาธวีเงยหน้าจากชามบะหมี่ช้า ๆ ก่อนจะรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว

     “ เฮ้ย ! ไม่ใช่อย่างนั้นนะ แต่ฉัน..ฉัน...” หญิงสาวพยายามหาข้อแก้ตัว
เพราะจะให้พูดความจริงได้อย่างไรล่ะ ความจริงที่ว่าเธอหวั่นไหวกับไอ้ตัวน่ารังเกียจอย่างไอ้ปัณเนี่ยนะ

        “ เอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันไปชงอาหารเสริมสำหรับเด็กให้ตาหนู ส่วนเธอกับฉันก็....ฉันกินสลัดเอง แกก็กินมาม่าไปแล้วกันโอเคป่ะ ” เขาบอกอย่างเห็นแก่ตัว แล้วเดินจากไป

แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 54 09:12:34

แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 54 20:30:23

จากคุณ : kibosi
เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 20:08:25




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com