Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
PSYCHO HELL (จอมใจอเวจี 5).........อาหารมื้อเที่ยง ติดต่อทีมงาน


=============
เรื่อง : จอมใจอเวจี
เขียนโดย : GTW
บทที่ 5 อาหารมื้อเที่ยง
=============

ตอนที่แล้ว
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10410592/W10410592.html

ไนท์ นำทาง พา เฟรี่ ออกจากขอบอเวจี
เพื่อพาเธอกลับสู่อ้อมแขนของคนรัก ในโลกของเธอ
แต่ระหว่างทางเจอเทวบุตรมารและพรรคพวก
ต่อสุ้กัน จนไนท์และเฟรี่หลุดเข้าสู่เกาะของปีศาจขาว
จะเป็นอย่างไรต่อไปนะ

----

“ที่นี่ไม่มีความหรือแมวหรือแม้แต่คน มีแต่ปีศาจ”

เฟรี่หันไปมองแล้วก็ตัวเย็นเฉียบ

ข้างทางใต้ต้นไม้ใหญ่ หญิงสาววัยครึ่งอายุคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่ มาปรากฏตัวแบบเงียบเชียบจนไม่รู้ตัว สวมเสื้อผ้าชุดยาวรุ่มร่ามแขนกว้างสีขาวทั้งชุด เส้นผมก็เป็นสีขาว และที่สำคัญคือนัยน์ตาเป็นสีขาวเจิดจ้าไม่มีส่วนใดเป็นสีดำเลยแม้แต่น้อย

แม้จะมีกลิ่นไอของปีศาจอยู่มากมายจนน่าประหวั่นพรั่นพรึงแต่หญิงสาวคนนี้ก็ยังดูแล้วมีความสวยงามแบบปีศาจอยู่อย่างน่ามองและน่ากลัวในขณะเดียวกัน ขอบตาสีดำเข้มล้อมรอบนัยน์ตาสีขาวเป็นภาพตัดกันรุนแรงในในความรู้สึก

“ปีศาจขาว..”

เฟรี่หลุดปากออกมาอย่างไม่ตั้งใจ จ้องตาไม่กระพริบขณะถอยมาหลบด้านหลังของไนท์อย่างอัตโนมัติ ถึงแม้จะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนก็พอจะเดาได้ว่าบุคลิกภาพแบบนี้จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจากเป็นปีศาจขาวที่ได้ยินชื่อเสียงผ่านหูมาแล้วหลายครั้ง

ปีศาจขาวก้าวตรงเข้ามาอย่างช้า ๆ ท่าทางไม่ได้มีแววคุกคามอะไร แต่เหมือนมีรังสีไร้สภาพกดดันจนหนักอึ้ง

“ปกติถ้าใครเรียกชื่อข้าแบบนี้ข้าจะแยกวิญญาณของมันออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย”

เสียงของสตรีชุดขาวเย็นยะเยียบ มายืนหยุดอยู่ข้างหน้าของนักรบปีศาจด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกเหมือนสวมหน้ากากซีดขาวจนน่ากลัว นางฟ้าตกสวรรค์เกาะแขนของนักรบปีศาจกระซิบด้วยเสียงสั่นๆว่า

“ทำไงดี ท่าทางผู้หญิงคนนี้ร้ายเอาเรื่องเลย จะจับพวกเราแยกชิ้นส่วนด้วย”

“ถ้าเธอจะทำคงทำไปแล้ว”

ไนท์กระซิบตอบเบาๆ เช่นกัน ท่าทางไม่ได้ตื่นตระหนกอะไรเลยสักนิด ทำให้เฟรี่ใจชื้นขึ้นมาบ้าง

“ท่าทางเจ้าโดนหนักมาเหมือนกัน”

ปีศาจขาวมองไนท์ไปมาแล้วเปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา

“ข้าสู้กับเทวบุตรมารมาเมื่อครู่นี้”

ไนท์บอกเสียงเรียบๆ เฟรี่รู้สึกทันทีว่าภายใต้ท่าทางห่างเหินไม่ใส่ใจของทั้งคู่เหมือนมีสายใยอันมองไม่เห็นชนิดหนึ่งเกี่ยวข้องกันไว้อย่างน่าแปลกใจ

สตรีเจ้าถิ่นจ้องมองอย่างเงียบๆครู่หนึ่งแล้วบอกสั้นๆ ให้ทั้งคู่ตามไปก่อนหันหลังเดินนำหน้าโดยไม่รอฟังความเห็น นักรบอเวจีหันมาทางเพื่อนร่วมทั้งพยักหน้าเหมือนจะบอกว่าให้ตามไป

“จะดีหรือ..”

เฟรี่ทำท่าอิดออด อีกฝ่ายเลยคว้าข้อมือแล้วออกแรงลากไปอย่างไม่สนใจอาการต่อต้านขัดขืน เฟรี่ตาเขียวปัด ทำท่าจะโวยวายแต่พอสตรีชุดขาวหันมามองก็รีบสงบปากสงบคำแต่โดยดี ตามไปอย่างไม่ออกฤทธิ์ออกเดชอะไร

ทางเดินเล็กๆคดเคี้ยวไปตามสวนไม้อันร่มรื่นจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นดินแดนขอบอเวจี ยิ่งเดินลึกเข้าไปมากเท่าไรยิ่งมีมวลพฤกษามากมายหลายหลากปรากฏให้เห็นมากขึ้นเท่านั้น

“เรามาผิดที่หรือเปล่า”

หญิงสาวกระซิบเพื่อนร่วมทางอีกพลางดึงแขนเสื้อไว้ ขณะมองซ้ายมองขวาอย่างตื่นตาตื่นใจ

“ข้าไม่ผิดที่หรอก แต่เจ้าต่างหากตกมาผิดที่”

“หมายความว่ายังไง”

คนฟังกระซิบเสียงเข้มดุ

“ก็ไม่ได้หมายความอะไรไปมากกว่าว่ายังไงข้าก็เป็นคนของดินแดนเบื้องล่าง แต่เจ้าเป็นพวกที่หลุดหลงเข้ามาเอง จึงจัดว่าเป็นพวกผิดที่”

“ข้าไม่ได้อยากมาสักนิด”

“ข้าก็ไม่ได้บอกว่าเจ้าอยากมา แต่ยังไงก็มาแล้ว ทำตัวให้ดีๆ ไม่งั้น...”

“ไม่งั้นอะไร” น้ำเสียงเริ่มมีอารมณ์ไม่พอใจ

“ไม่งั้นเจ้าโดนแยกชิ้นส่วนอยู่แถวนี้แน่นอน”

“ใครจะมาแยกชิ้นส่วนข้า”

ไนท์ยกหัวแม่มือหันไปทางคนเดินนำมา บอกสั้นๆคำเดียวว่า

“นาง”

“แล้วเจ้าจะไม่ช่วยข้าหรือไง”

“เรื่องอะไรข้าจะช่วย ตัวใครตัวมัน เจ้าไม่เรียกคนรักของเจ้ามาให้ช่วยล่ะ อ้อ..หรือจะเป็นหนุ่มเทวบุตรมารคนนั้นก็ได้”

เฟรี่แยกเขี้ยว เอื้อมมือไปหยิกบริเวณแขนของไนท์เต็มแรงหมั่นไส้ แต่คนโดนหยิกแทนที่จะสะดุ้งหรือออกอาการให้เห็นบ้างกลับเดินเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนคนหยิกรู้สึกผิดหวังเล็กๆ จะสะดุ้งสะเทือนให้หัวเราะเยาะหน่อยก็ไม่ได้..รู้สึกไม่สาสมใจเลย หงุดหงิดแบบไม่มีเหตุผล โดนหยิกหนักๆแบบนี้ต้องมีความรู้สึกอะไรบ้าง  ถ้าไม่คิดว่าบาดเจ็บอยู่ก็อยากจะเอากำปั้นฟาดหนักๆสักสองสามครั้ง

“อย่าลืมสิว่าเจ้าสัญญาว่าจะช่วยข้าให้ออกไปจากที่นี่” หลังจากเงียบไปพักหนึ่งก็เริ่มทวงสัญญา

“ข้าก็รับปากไปงั้นเอง จะมาเชื่ออะไรกับคำพูดของคนอย่างข้า”

“แล้วคนอย่างเจ้าเป็นยังไง”

“ก็อย่างที่เห็นนี่ล่ะ”

“”กวนประสารทเป็นที่สุด นิสัยไม่ดี ใจร้ายใจดำ”

“ใช่..แล้วไง”

ยังมีการรับปากรับคำแบบไม่สะดุ้งสะเทือนแล้วยังมีหน้ามาย้อนถามอีก แบบนี้มันน่านัก..

สักพักก็เห็นตึกสูงหลังหนึ่งโผล่พ้นแนวไม้อยู่ไกลๆ มีลักษณะเหมือนปราสาทขนาดเล็กก่อสร้างมาจากหินอ่อนขาวสะอาดทั้งหลัง เฟรี่มองอย่างตะลึงแล้วส่ายหน้าพึมพำอย่างไม่เชื่อตัวเอง

“แบบนี้มันไม่ใช่...”

ปีศาจขาวเหมือนได้ยิน หันมามองแล้วแค่นยิ้มเล็กน้อยบอกว่า

“เจ้าคงคิดว่าอาคารแบบนี้จะมีเฉพาะโลกเบื้องบนของพวกเจ้าเท่านั้นสินะ”

“ท่านรู้ยังไงว่าข้ามาจากเบื้องบน”

เฟรี่หลุดปากถามอย่างสงสัย เพราะตั้งแต่ข้ามฝั่งแม่น้ำมรณะมาไม่เคยเอ่ยปากพูดถึงเรื่องที่มาที่ไปของตัวเองเลย แล้วปีศาจผู้ลึกลับนี้รู้ได้อย่างไร

“ข้ารู้ก็แล้วกัน รู้ว่าเจ้าเอาระเบิดมาถล่มดินแดนแถบนี้จนวุ่นวายแตกตื่นไปหมด ถ้าเจ้าไม่ข้ามฟากมารับรองเกิดเรื่องมากมายฝั่งโน้นแน่”

ยิ่งฟังยิ่งงง เพราะไปๆมาๆก็พบว่าการข้ามฟากแม่น้ำมรณะครั้งนี้เหมือนมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว ตั้งแต่คนแจวเรือชุดดำที่ไปรอรับอยู่ฝั่งโน้นและการที่ปีศาจชุดขาวผู้นี้รู้เรื่องของหญิงสาวพลัดถิ่นเป็นอย่างดี

แล้วนักรบปีศาจจอมเย็นชาจะเกี่ยวข้องด้วยไหมนะ รวมทั้งเทวบุตรมารตาเดียวมาดเท่คนนั้นด้วย

เหมือนจะรู้ความคิดของหญิงสาว ไนท์หันมาบอกว่า

“ข้าไม่ได้บอกใครทั้งนั้นว่าเจ้าเป็นใครมาจากไหน ไม่ต้องมาสงสัยข้า อยากรู้อะไรก็คุยกันเอง ข้าไม่เกี่ยว”

“ข้ายังไม่ได้ว่าอะไรสักคำ” เฟรี่เถียงคำไม่ตกฟาก

“อย่ามาพูดแบบคนร้อนตัวหาเรื่องข้าหน่อยเลย”

“ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรเหมือนกัน ไม่ต้องอธิบายยาวเฟื้อยแบบนี้ก็ได้”

“แล้วทำไมต้องมาพูดเหมือนว่าข้าสงสัยเจ้าด้วย แบบนี้หาเรื่องกันชัดๆ”

ปีศาจนักรบหัวเราะหึหึในลำคอ ก่อนบอกว่า

“คนที่หาเรื่องเก่ง เจ้าต่างหาก”

“เจ้าต่างหากที่มาหาเรื่องข้าก่อน”

“พูดมากเดี๋ยวก็ทิ้งไว้ที่นี่เสียหรอก”

“ทิ้งก็ทิ้งสิ นึกว่าจะง้อหรือไง”

“งั้นทิ้งดีกว่า”

ว่าแล้วไนท์ก็เดินเลี้ยวซ้ายตรงทางแยกแทนที่จะเดินตามปีศาจขาวเข้าไปยังปราสาท แถมเดินจนหายลับไปในแนวไม้ด้านนั้นต่อหน้าต่อตาแบบไม่บอกลาเลยสักคำ

เฟรี่มองอย่างงงๆแกมตกใจ

นี่อะไรกัน บทจะทิ้งก็จะทิ้งกันแบบหน้าตาเฉยแบบนี้ ใช้ได้ที่ไหนกัน ทันใดนั้นก็รู้สึกใจหายวูบลง ความจริงคนที่จะต้องรับบทถูกทิ้งจะต้องเป็นปีศาจจอมเย็นชาผู้นั้น ไม่ใช่เราสักหน่อย  นี่เรื่องอะไรกันมาพลิกบทแบบนี้ แถมเดินหนีต่อหน้าต่อตาเห็นๆ ไม่ใส่ใจไม่ไยดี

หญิงสาวพลันรู้สึกทั้งโมโหทั้งแค้นใจและน้อยใจจนอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ คนบ้าแบบนี้ก็มีในนรก แล้วนี่จะทำอย่างไรต่อไป

ปีศาจขาวหยุดเดินแล้วหันว่าบอก

“รีบตามข้ามา อย่างชักช้า”

“แต่...” หญิงสาวอึกอัก

“ไม่ต้องพูดอะไรมาก คนเขาจะมาจะไปใครจะห้ามได้ อย่าว่าแต่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันมากมาย ตอนนี้ข้าจะเป็นคนดูแลเจ้าเอง”

เฟรี่พยายามวางสีหน้าให้เป็นปกติอย่างสุดความสามารถไม่อยากแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น เราเป็นคนเบื้องบน จะต้องเข้มแข็ง อีกหน่อยคนรักของเราคงต้องหาทางช่วยเหลือเราเอง คงไม่ทิ้งให้มาตายอยู่ในอเวจีนี่หรอก

ป่านนี้เขาจะห่วงเราขนาดไหนนะ คนรักที่แสนดีคนนั้น วูบนั้นหญิงสาวนึกถึงตนรักขึ้นมาอย่างจับจิต ถ้าเธอไม่ดื้อเอาแต่ใจชวนให้มาเล่นแข่งอวกาศคงไม่มีเรื่องราวเลวร้ายแบบนี้ ต้นเหตุมาจากเราคนเดียวแท้ๆ ถ้าไม่ลากคนรักออกมาในงานแข่งอวกาศป่านนี้คงได้อยู่สุขสบายในบ้านหลังใหญ่มีคนมากมายคอยเอาใจ เพียงบอกว่าจะเอาอะไรจะกินจะใช้อะไรไม่นานก็จะมีคนวิ่งหามาให้ จะไปทำงานสายนอนตื่นสายก็ได้ไม่มีใครว่าไม่ต้องมาลำบากแบบนี้

“คิดถึงคนรักของเจ้าล่ะสิ”

ปีศาจขาวเจ้าถิ่นมองด้วยหางดาแล้วดักคอขึ้น นางฟ้าตกสวรรค์ฝืนยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มหม่นๆอย่างปิดบังไม่มิดชิด ทำไมพวกปีศาจมักจะรู้ทันความคิดความอ่านคนอื่นไปหมดนะ คิดแล้วก็ได้แต่เงียบไม่ต่อปากต่อคำ เดินตามไปจนถึงหน้าตึกใหญ่

ทางเข้ามีเด็กสาวหน้าตาหมดจดแต่งตัวชุดขาวอีกสองคนยืนเฝ้าประตูทางเข้าและโค้งทำความเคารพเจ้าบ้าน ขณะแอบมองแขกผู้มาใหม่ด้วยสายตามีคำถาม

“เธอคนนี้เป็นแขกของข้า ดูแลให้ดี”

ปีศาจขาวบอกกึ่งแนะนำ คนรับใช้ทั้งสองจึงก้มหัวให้เฟรี่แบบกึ่งทักทาย ภาพของปีศาจขาวผู้นี้ผิดแผกแตกต่างจากภาพวาดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง นึกว่าจะเป็นปีศาจดุร้ายคลุ้มคลั่งเข่นฆ่าคนไม่กระพริบตา

“พาแขกของเราไปพักก่อน แล้วค่อยเจอกัน เราจะคุยกันหลังอาหารเที่ยง ตอนนี้ข้าขอตัวก่อน”

ว่าแล้วเจ้าบ้านผู้มีพฤติกรรมอันน่าแปลกใจก็เดินเข้าไปในบ้านหายตัวไปอีกคน ทิ้งเฟรี่ให้ยืนแบบมึนงงอยู่กับสาวใช้ทั้งสอง พวกเบื้องล่างนี่เป็นยังไงกัน บทจะผละหนีก็เดินหนีเอาดื้อๆ

สาวใช้ทั้งสองหันมาก้มหัวให้เฟรี่อีกครั้ง

“เชิญมาทางนี้”

หญิงสาวตกยากไม่มีทางเลือก เดินตามหนึ่งในคนรับใช้ไปขณะอีกคนยังเฝ้าทางเข้าเช่นเดิม ภายในตึกไม่ได้มีข้าวของหรูหราอะไรมากมาย ทางเดินเป็นเส้นทางโล่งๆยาวเหยียด บันใดวนสูงขึ้นไปแบบคำนวณไม่ได้ว่าชั้นไหนแล้วจนมาถึงหน้าห้องหนึ่ง สาวใช้ผู้นั้นหันมายิ้ม เปิดประตูออกแล้วทำท่าทางเชิญเข้าไปในห้อง แขกผู้มาเยือนเดินเข้าไปแบบไม่คิดมากเพราะรู้สึกเหนื่อยและอ่อนเพลียเต็มทีจนอยากจะล้มลงนอนหลับยาวสักตื่น

“ข้าจะรออยู่หน้าห้อง มีอะไรเรียกข้าได้”

สาวใช้คนนั้นบอกอย่างนอบน้อม เฟรี่รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยก็ไม่โดดเดี่ยวเดียวตายเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูเพื่อความเป็นส่วนตัวก่อนมองสำรวจไปรอบๆห้องซึ่งถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยภาชนะเครื่องเรือนทำมาจากหินอ่อน มีเตียงตัวใหญ่กับที่นอนนุ่มๆ มีห้องน้ำอยู่ด้านข้างและนั่นเป็นสิ่งที่หญิงสาวต้องการมากที่สุดในตอนนี้

********

ปีศาจนักรบหลังจากเดินห่างออกมาอย่างรวดเร็วก็เดินอ้อมมาทางด้านหลังของตึกขาว เดินไปตามทางเดินเล็กปูแผ่นหินเป็นแนวยาวตัดไปยังป่าโปร่งบริเวณเชิงเขาแห่งหนึ่ง ใต้บริเวณชะง่อนหินสูงมีปากถ้าอยู่แห่งหนึ่ง ไนท์เดินเข้าไปอย่างคนคุ้นเคยสถานที่เป็นอย่างดี

ในถ้ำมีตะเกียงน้ำมันเล็กแขวนผนังให้แสงสว่างหม่นมัว มีเตียงไม้เก่าๆวางอยู่ชิดผนัง นักรบปีศาจพอเดินไปถึงเตียงไม้ก็เหมือนถึงคันธนูถูกเหนี่ยวจนสุดล้า ล้มตัวลงไปอย่างหมดความอดทน บริเวณขอบหน้ากากอันเย็นชาไร้อารมณ์สีขาวพลันมีเลือดสีดำไหลซึมออกมา

ความจริงอาการบาดเจ็บยังไม่ได้ทุเลาลงแม้แต่น้อย แถมยังหนักกว่าที่คาดคิดไว้เสียอีก อันเป็นผลของการปะทะกันกับเทวบุตรมาร

เขาต้องการพักผ่อนสักระยะ

แต่ดูเหมือนว่าการพักผ่อนครั้งนี้จะไม่สะดวกราบรื่นเสียแล้ว เมื่อปากถ้ำมีเงาการเคลื่อนไหววูบวาบของเงา
ราวภูตพรายชุดขาวผมสียาวสยาย

ปีศาจขาวนั่นเอง

นางยืนมองอาการหมดสภาพของนักรบปีศาจแบบไม่พูดไม่จาครู่หนึ่ง แล้วก้าวเข้ามาใกล้ๆก่อนพูดขึ้นเหมือนรำพึงกับตัวเองมากกว่าจะตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน แต่คนฟังกลับได้ยินชัด

“ท่าทางสาวน้อยคนนั้นคงสำคัญมาก คนบางคนถึงฝืนสังขารพามาได้ถึงขนาดนี้”

ไนท์ลืมตาขึ้นอย่างอ่อนล้าพอเห็นว่าเป็นใครก็ไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกแต่ประการใด แต่ท่าทางเหมือนจะรำคาญนิดๆเสียด้วยซ้ำ

“ก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากมาย เพียงแต่ข้าเผลอไปรับปากเธอไว้เท่านั้น”

พูดแล้วก็หลับตาต่อไปเหมือนไม่อยากจะคุย เลือดยังไหลรินเป็นทางผ่านหน้ากากออกมาจนดูแล้วน่ากลัว ปีศาจขาวแค่นยิ้มแล้วบอกว่า

“ยังวางมาดหยิ่งๆ แบบเจียมตัวเหมือนเดิม แทนที่จะเข้าไปในตึก เจ้าก็รู้ว่าตึกของข้ามีตัวยารักษามากมาย กลับปลีกตัวออกมาที่นี่ มันจะเป็นการดูถูกน้ำใจกันมากไปแล้ว”

“ข้าไม่อยากรบกวนท่าน”

“ไม่อยากรบกวน แต่ทำให้ข้าต้องตามมาดูอาการถึงที่นี่ มันจะไม่มากไปหน่อยหรือ ว่าแต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้เจ้าแย่แน่ เดี๋ยวให้ข้าจัดการเอง”

ปีศาจหนุ่มผวาลุกขึ้นนั่งทันทีอ้าปากจะร้องห้ามแต่สายเกินไปเสียแล้ว

เงาร่างขาวๆ วูบเข้ามาถึงตัวด้วยความรวดเร็วจนน่าตกใจ

นักรบแห่งโลกเบื้องร่างพลิกตัวออกจากเตียงแบบไม่ต้องคิดแม้ว่าตอนนี้อยากจะหลับตานอนสักพักรักษาอาการ แต่ดูไม่มีโอกาสเสียแล้ว
มีเสียงดังเฟี้ยวพร้อมกับพลังแหลมคมสายหนึ่งเฉียดกกหูไปอย่างหวุดหวิด หน้ากากสีขาวด้านแก้มซ้ายมีรอยแตกปริเล็กๆเป็นไยแมงมุม ไนท์ถอยหลังปราดออกไปราวลมหอบ แต่ร่างในชุดขาวยังตามติดเป็นเงาตามตัวแบบรวดเร็วจนน่าใจหาย

กรงเล็บในเสื้อแขนกว้างรุ่มร่ามยื่นออกมาในท่วงท่าเดิม ไม่ซับซ้อนพิสดารแต่ตามคิดชิดตัวแบบน่าตกใจ
ปีศาจหนุ่มยกฝักดาบต้านรับแต่รู้สึกตาลายวูบหนึ่งพร้อมกับดาบถูกปัดกระเด็นออกไปจากมือ ดาบลอยไปทางซ้ายปักกระแทกเข้ากับผนัง ฝักดาบลอยไปทางขวากระแทกผนังถ้ำอีกด้านแล้วหล่นลงกับพื้น

แบบนี้ต่อให้ไม่บาดเจ็บเป็นทุนอยู่ก่อนก็ยากจะรับมือต่อสู้ ปีศาจสาวผู้นี้มีฝีมือสูงล้ำยากต้านทาน และสำคัญว่าตอนนี้ถอยไปไหนไม่ได้อีกแล้วเนื่องจากด้านหลังเป็นผนังหิน

ปีศาจขาวยื่นมือออกไปคว้าจับข้อมือขวาของอีกฝ่ายแล้วพลิกข้อมือบิดวูบหนึ่ง ร่างของนักรบเคราะห์ร้ายถึงกับถูกกระชากจนลอยขึ้นทั้งตัว

ไนท์ฟันสันมือซ้ายใส่ข้อมือของปีศาจขาว แต่กลับถูกเหวี่ยงหมุนกลางอากาศอีกครั้งเหมือนตุ๊กตาจนลอยมือกางเท้ากางไปกระแทกผนังถ้ำดังโครม

ยังไม่ทันจะทรุดลงก็มีเสียงดัง ต้ก ๆ ถี่ยิบ วัตถุเล็กเรียวโปร่งใสคล้ายแก้วยาวเรียวประมาณคืบกว่าถูกซัดออกมาจากแขนเสื้อของปีศาจขาวปักตรึงร่างของไนท์ไว้กับผนังราวกับเป็นผีเสื้อถูกเข็มหมุดปักตรึงจนไม่มีทางดิ้นรนหลุดรอด

ปีศาจขาวหลังจากใช้ฝีมืออันร้ายกาจออกไปก็มองดูผลงานของตัวเองอย่างพึงพอใจ หัวเราะเบาๆออกมาได้ แล้วบอกอย่างยิ้มแย้มเป็นครั้งแรกว่า

“ทีนี้คงพูดง่ายขึ้นแล้วสินะ ถูกตรึงกับผนังแบบนี้”

ใบหน้าขาวซีดและนัยน์ตาสีขาวจัดจ้าในขอบตาสีดำความจริงดูน่ากลัวแต่พอปรากฏรอยยิ้มก็ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไรแล้ว

ไนท์ขยับแขนขาดู แต่จนใจว่าบริเวณข้อมือข้อเท้าซ้ายขวาชายโครง ไหล่ถูก วัตถุโปร่งใสปักตรึงไว้แน่น ประกอบกับอาการบาดเจ็บเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้รู้ว่าไม่มีทางดิ้นรนออกมาได้ จึงได้แต่ถอนใจไม่พูดว่าอะไร

“นี่คือวิชาฝังเข็มของข้า เจ้าก็คงรู้ วางใจได้จุดที่โดนปักไม่ใช่จุดอันตรายไม่ใช่จุดตายไม่ตรงกับเส้นเลือดใหญ่ และเข็มพวกนั้นอาบยาห้ามเลือดและยารักษาไว้แล้ว อยู่เฉยๆจะดีกว่า”

ถูกปักตรึงอยู่กับผนังแบบหมดสภาพ แต่นักรบปีศาจกลับรู้สึกว่าความเจ็บปวดทรมานจากการบาดเจ็บเริ่มลดลงทีละน้อย วิชาทางการแพทย์ของปีศาจผู้ลึกลับช่างพิสดารดีเหลือเกิน แทนที่จะรักษาดีๆก็ใช้การปักหมุดตอกตรึง

พอเห็นอีกฝ่ายไม่โต้ตอบปีศาจขาวก็พยักหน้าแล้วพูดต่อไป

“เจ้าอยู่ที่นี่ไปก่อน เที่ยงนี้ข้ามีนัดกับเจ้าน้อยคนนั้น เราจะกินอาหารเที่ยงด้วยกัน ทางที่ดีเจ้าควรหาโอกาสไปด้วย ไม่งั้นข้าอาจจับเพื่อนของเจ้ากินทั้งเป็น ท่าทางน่าอร่อย ได้ยินมาว่าเนื้อของพวกเบื้องบนกินแล้วรักษาสุขภาพบำรุงกำลังวังชา หรือไม่อีกทางเจ้าก็เดินทางไปตามลำพัง ไม่ต้องมีใครเกะกะมือเท้า”

ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นเสยผมสีขาวยาวสยายแล้วหันหลังก้าวเดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยผีเสื้อตัวโตถูกปักหมุดตรึงไว้กับผนังถ้ำอย่างน่าสงสารและน่าสมเพทเวทนาตามลำพัง

สติของนักรบหน้ากากไร้อารมณ์พลันหรี่ลงเป็นไฟสิ้นเชื้อและดับวูบลง

*********

แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 54 22:20:05

แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 54 22:10:58

แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 54 21:36:33

แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 54 21:23:28

จากคุณ : GTW
เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 20:28:34




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com