มณีนาคินทร์ ตอนที่ 32 - 33
|
 |
ตอนที่ 32
ร้านอาหาร ตวงสิทธิ์สั่งอาหารที่พินทิพย์ชอบมาให้ พอบริกรเริ่มเสิร์ฟกับข้าวบนโต๊ะ พินทิพย์ก็เริ่มมีอาการแปลกๆ เธอรู้สึกเหม็นกับกลิ่นของคาวปลา และเครื่องเทศที่ใช้ปรุงอาหาร หนักเข้าก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาทันที
พิน เป็นอะไรน่ะ? ตวงสิทธิ์ถาม เมื่อเห็นสาวคนรักทำท่าทางผิดปกติ
พินเหม็นคาวปลาค่ะ และก็รู้สึกเหม็นพวกเครื่องเทศพวกนี้ด้วย พินเวียนหัวจะอ้วก
ไม่พูดเปล่า เธอทำท่าเหมือนจะสำรอกของเก่าออกมา พินทิพย์รีบลุกขึ้นวิ่งไปห้องน้ำหญิงทันที ตวงสิทธิ์นั่งมองร่างหญิงสาวที่เพิ่งวิ่งออกไปอย่างงงๆ แล้วหันไปมองจานปลาและพูดว่า
วันนี้มาแปลก ก็เห็นทุกทีชอบกินอยู่นี่นา ทำไมวันนี้กลับเหม็นไปได้
พินทิพย์อ้วกลงในโถส้วมของร้านอาหาร สักพักพอรู้สึกดีขึ้น เธอจึงค่อยๆ เดินออกมาที่อ่างล้างหน้า เปิดน้ำก๊อกและบ้วนปาก เอื้อมมือไปหยิบทิชชู่มาซับปาก แล้วเงยหน้ามองกระจก ความกังวลใจเริ่มก่อตัวขึ้น พินทิพย์พยายามซับหน้าซับตาให้ดูปกติ แล้วเดินกลับมาที่โต๊ะอาหาร แล้วพูดกับตวงสิทธิ์ว่า
ตวงคะ พินไม่สบาย พาพินกลับบ้านเดี๋ยวนี้เถอะนะคะ
พินคุณเป็นอะไรหรือเปล่า? ตวงสิทธิ์ถาม
เรากลับกันเถอะ พินทิพย์บอกอย่างระโหยโรยแรง
ตวงสิทธิ์ถอนใจแล้วกวักมือเรียกบริกรของร้านให้เก็บเงิน อาหารที่เพิ่งสั่งมาก็ให้เขาห่อใส่ถุงกลับ
ตลอดทางที่ขับรถกลับ พินทิพย์กังวลใจ เธอเอาแต่นั่งเงียบ มองออกไปนอกหน้าต่างรถด้านข้าง ตวงสิทธิ์เริ่มอึดอัดและอารมณ์เสีย เขาจึงพูดเสียงดังขึ้นว่า
นี่คุณเป็นอะไรหรือพิน ผมไม่เข้าใจคุณเลย คุณโทรไปชวนผมออกมาเที่ยว จู่ๆ ก็บอกว่าจะไปทานอาหารอย่างเดียว พอไปถึงร้านอาหารคุณก็ไปอ้วกแตกที่ร้าน พอออกจากห้องน้ำ คุณก็เร่ิงให้ผมพากลับบ้าน แล้วคุณก็ไม่พูดอะไรกับผมเลย มันอะไรกัน?
พินกำลังกลัวค่ะตวง พินทิพย์ค่อยๆ พูด แต่สายตายังคงเหม่อมองไปด้านข้างรถ
กลัว...คุณกลัวอะไร ไหนคุณบอกผมซิ? ตวงสิทธิ์เอ่ยถาม
หญิงสาวกลืนก้อนบางอย่างที่ขึ้นมาจุกอยู่ที่คอหอยลงไป ก่อนจะค่อยๆ ตอบชายคนรักว่า
พินกำลังกลัวว่า...พินท้อง
คำพูดของพินทิพย์ทำให้ตวงสิทธิ์เบรกรถยนต์ทันที ทำให้ทั้งคนนั่งและคนขับเกือบหน้าคะมำ
ว้าย!... เสียงพินทิพย์ร้องลั่น เมื่อรถจอดสนิท ตวงสิทธิ์หันมาทางพินทิพย์ทันที
คุณว่าอะไรนะ คุณท้องหรือ? ตวงสิทธิ์ถามย้ำ น้ำตาเริ่มคลอเบ้าตาคู่สวยของพินทิพย์ ก่อนที่เธอจะตอบว่า
ค่ะ พินคิดว่าพินท้อง รอบเดือนพินไม่มาสองเดือนกว่าแล้วนะตวง และอาการเมื่อกี้นี้อีก พินกลัวนะตวง พินจะทำยังไงดี? พินทิพย์ร้องไห้และเริ่มฟุ้งซ่าน
พิน พิน ตวงสิทธิ์จับตัวหญิงสาวเขย่าเรียกสติกลับมา พินทิพย์หยุดร้องไห้โวยวาย หันมามองหน้าคนรัก ตวงสิทธิ์จึงปลอบว่า
พิน ทำใจดีๆ ไว้ก่อน เรายังไม่รู้แน่ว่าใช่หรือไม่ใช่ อย่าเพิ่งปักใจเชื่อสิ เอางี้พินไปตรวจก่อนดีมั้ย เดี๋ยวผมพาไป
ไม่เอา ไม่เอา ตวง พินกลัว พินทิพย์เริ่มโวยวายอีก
เถอะน่าพิน ไม่เป็นไรหรอก ผมไปเป็นเพื่อนนะ ไม่ต้องกลัว ตวงสิทธิ์ปลอบ พินทิพย์สงบลง เธอมองหน้าคนรักสักครู่ จึงค่อยๆ พยักหน้ารับ
ที่คลินิกเก่าๆ เป็นตึกแถวไกลจากตัวเมืองออกไป ตวงสิทธิ์พาพินทิพย์ไปตรวจที่นั่น เขานั่งคอยอยู่ด้านนอก พินทิพย์เข้าไปได้ประมาณยี่สิบห้านาที ก็เดินออกมา มีหญิงผู้ทำหน้าที่เป็นพยาบาลเดินพยุงเธอออกมาส่งให้ตวงสิทธิ์ แล้วคุณพยาบาลก็พูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า
ยินดีด้วยนะคะ คุณสองคนกำลังจะมีลูกด้วยกันแล้ว ยินดีด้วยค่ะ
ตวงสิทธิ์ถึงกับตัวชา ไม่ต่างอะไรกับพินทิพย์ที่ได้รับรู้ข่าวการจะกำเนิดชีวิตใหม่ในท้องของเธอ พยาบาลพาพินทิพย์มาส่งให้ตวงสิทธิ์แล้ว ก็เดินหุบยิ้มกลับเข้าไปในห้องเหมือนเดิม และยังไม่วายไปซุบซิบกับพยาบาลอีกคนที่อยู่ในห้องว่า
แปลกแฮะ ทำอย่างกับเจอผี แทนที่จะดีใจ
ตวงสิทธิ์จ่ายค่าตรวจและค่ายาให้พินทิพย์เรียบร้อย ก็พากันเดินกลับมาที่รถและขับออกไปจากตึกเก่าๆ นั้น
ทั้งตวงสิทธิ์และพินทิพย์ต่างนั่งเงียบกันมาตลอดทาง จนกระทั่งพินทิพย์ทนไม่ไหวเริ่มพูดขึ้นมาก่อนว่า
ตวงคะ เราแต่งงานกันเถอะค่ะ
อะไรนะพิน คุณจะบ้าหรือ? ตวงสิทธิ์โวยวายทันที
แล้วคุณจะให้พินอุ้มท้องโตโดยไม่ได้แ่ต่งอย่างนี้หรือคะ? พินทิพย์เริ่มขึ้นเสียงบ้าง ตวงสิทธิ์เบรกรถทันที และหันมาทางพินทิพย์
คุณก็รู้อยู่ว่าถ้าผมแต่งงานกับคุณตอนนี้ ผมก็จะไม่ได้อะไรเลย
คุณก็ห่วงแต่สมบัติ คุณไม่ห่วงพินและลูกของเราเลย พินรักคุณนะคะตวง และในท้องพินก็เป็นลูกของคุณ เป็นเลือดเนื้อของคุณ คุณจะไม่รับผิดชอบหรือไงคะ?
น้ำตาของความน้อยใจไหลอาบสองแก้มนวลของพินทิพย์ ตวงสิทธิ์ได้แต่อึ้งไป สุดท้ายเขาก็ดึงตัวพินทิพย์เข้ามากอดไว้แล้วพูดว่า
พิน ผมรักคุณนะ แต่ตอนนี้ ถ้าเราแต่งงานกัน ผมจะพาคุณไปลำบาก คุณก็รู้ว่าผมไม่มีอะไรเลย ตอนนี้เรื่องทุกอย่างในบ้าน คุณแม่ก็กำลังจัดการ อดทนหน่อยได้มั้ยพิน รอผมสักนิด เพื่อพิน เพื่อลูกของเราจะได้สบายในวันข้างหน้า รับปากผมนะว่าจะไม่ทำอะไรบ้าๆ ลงไป
พินทิพย์ตอนนี้เธออ่อนแอเหลือเกิน ไม่มีแรงแม้จะพูดหรือขัดขืนใดๆ เธอได้แต่ร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของตวงสิทธิ์
หลายวันที่ผ่านมารัศมีเห็นตวงสิทธิ์เงียบๆ ไป ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว เอาแต่หลบหน้าหลบตาผู้เป็นมารดา จนกระทั่งรัศมีต้องเดินไปเคาะประตูห้องนอนลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเอง
ก๊อกๆๆๆ
ตวง เปิดประตูให้แม่หน่อยสิ ตวง
รัศมียืนรออยู่สักพัก ก็ได้ยินเสียงปลดล็อคประตูจากด้านใน ตวงสิทธิ์ค่อยๆ เปิดประตูให้กว้างขึ้น ผู้เป็นแม่รีบเบียดกายเข้าไปในห้องลูกชายทันที ตวงสิทธิ์จึงปิดประตูเหมือนเดิม และเดินตามผู้เป็นแม่มา ทิ้งตัวเองลงนั่งบนโซฟาตรงข้ามกับมารดาของเขา
เอ้าว่าไป มีอะไรหรือเปล่า? รัศมีถามอย่างรู้นิสัยบุตรชาย
อะไรล่ะครับคุณแม่? ตวงสิทธิ์ถามกลับ
นี่ ตาตวง ฉันเป็นแม่แกนะยะ ฉันเลี้ยงแกมากับมือ ทำไมฉันจะไม่รู้นิสัยของแกดี เวลามีเรื่องทีไรแกต้องหลบหน้าหลบตาแม่ ไหนว่าไปซิว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกคราวนี้? รัศมีถาม ตวงสิทธิ์ถอนหายใจยาวก่อนที่จะเริ่มเล่า
คือว่าตอนนี้ผมกำลังกลุ้มใจเรื่องพินทิพย์
อะไรกันอีกล่ะ แม่พินทิพย์ของแกก่อเรื่องอะไรอีก? รัศมีถามกระแทกบุตรชาย
เปล่าครับ พินไม่ได้ก่อเรื่องหรอก แต่ตอนนี้พินกำลังตั้งท้อง
สิ้นเสียงลูกชายสุดสวาทเท่านั้น รัศมีถึงกับอุทานเสียงดังว่า
อะไรนะ! ท้อง พูดจบผู้เป็นมารดาก็ดีดตัวขึ้นยืนทันที
แกว่าพินทิพย์ท้องงั้นเหรอ รัศมีถามเหยียดๆ
ครับ ตวงสิทธิ์ตอบ
แล้วแกแน่ใจได้ยังไง ว่าลูกในท้องของแม่พินทิพย์เป็นลูกของแก รัศมีถามพร้อมกอดอกรอคำตอบ
คุณแม่ครับ คุณแม่กำลังดูถูกพินนะครับ ตวงสิทธิ์ขึ้นเสียงไม่พอใจมารดา อะไรนะ ก็ลองใจง่ายแบบนั้น แน่ใจได้ยังไงว่าเขาจะมีแกคนเดียว รัศมีพูดตอกย้ำด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน
คุณแม่ครับ ผมรู้จักพินทิพย์ดี ถึงเธอจะง่ายกับผม แต่ผมเชื่อใจเธอ เธอไม่ไปยุ่งกับใครแน่ พินไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผมเคยคบมา ตวงสิทธิ์เถียงแทน แต่เขาลดน้ำเสียงให้เบาลงกว่าตอนแรก
แกแน่ใจนะ รัศมีถามย้ำ
ครับ ผมแน่ใจ ตวงสิทธิ์ตอบย้ำอย่างมั่นใจ
แล้วทีนี้แกจะทำยังไง เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว กับหนูกัญแกก็ยังไม่คืบหน้า และถ้าหนูกัญรู้พวกเราก็จบกันพอดี เท่ากับตลอดเวลาสิบแปดปีที่ฉันเฝ้ารอมาก็เปล่าประโยชน์
รัศมีพูด้วยความน้อยใจ
คุณแม่ครับ มันต้องมีทางแก้ไข ตวงสิทธิ์พูดจบ รัศมีก็หันมาถามเสียงดังใส่เขาทันทีว่า
แล้วทางไหนล่ะ?
ตวงสิทธิ์ได้แต่นิ่ง รัศมีมองหน้าบุตรชายแล้วถอนใจอย่างแรง พร้อมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรง
กัญชพรกำลังนั่งสมาธิอยู่บนเตียงนอนของเธอ แม่นิ่มเปิดประตูเข้ามา ในมือถือถาดนมอุ่นๆ เมื่อเห็นนายสาวกำลังนั่งสมาธิอยู่ แม่นิ่มจึงค่อยๆ ย่อง และเอานมอุ่นมาวางไว้ตรงโต๊ะใกล้กับเตียงนอนอย่างเงียบกริบ และค่อยๆ ย่องออกไปจากห้องนอนพร้อมปิดประตูให้เหมือนเดิม หลังจากแม่นิ่มออกไปได้สักพักใหญ่ๆ เสียงเคาะประตูห้องนอนของกัญชพรก็ดังขึ้น กัญชพรค่อยๆ ถอนจากสมาธิ และลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วค่อยผ่อนลมหายใจยาวๆ แล้วหันไปทางประตูห้องนอน ซึ่งตอนนี้มีเสียงเคาะประตูซ้ำอีก
เข้ามาสิคะพี่ตวง ประตูไม่ได้ล็อคค่ะ กัญชพรร้องบอกผู้ที่อยู่หลังประตู ตวงสิทธิ์ค่อยๆ เปิดประตูไว้จนกว้างทิ้งไว้ แล้วจึงเดินเข้ามาภายในห้องนอนของกัญชพร กัญชพรลุกขึ้นจากเตียงนอนเดินตรงไปที่เก้าอี้หวายที่เคยนั่งคุยกับตวงสิทธิ์ ญาติผู้พี่เอ่ยถามหญิงสาวทันทีที่เธอเดินมานั่งตรงข้ามกับเขา
น้องกัญรู้ได้ยังไงว่าเป็นพี่ตวง?
กัญชพรยิ้ม คืนนี้กัญชพรยิ่งแปลกกว่าตอนเช้า ตอนแรกที่เขาเปิดประตูก้าวเข้ามา เขาเห็นร่างของกัญชพรมีแสงสีเงินยวงครอบร่างไว้ แต่เพียงแวบเดียวแสงนั้นก็หายไป
คงเป็นเสียงเคาะประตูมั้งคะ เพราะพี่ตวงกับแม่นิ่มเคาะกันคนละแบบ กัญชพรแกล้งเฉไฉไป
หน้าตาี่พี่ตวง ดูไม่ค่อยสบายเลยนะคะ กัญชพรทัก ตวงสิทธิ์พยายามยิ้ม และพูดว่า
เอ่อ พี่ปวดหัวนิดหน่อยน่ะ ดูออกด้วยเหรอ
กัญชพรมองหน้าพี่ชายตรงหน้า ยิ้มและพูดว่า
พี่ตวง กัญอยากบอกอะไรพี่ตวงอย่างหนึ่งนะคะ พี่ตวงควรรักคุณพินทิพย์ให้มากๆ เพราะเธอรักพี่มากนะคะ กัญว่าถ้าเธอตายแทนพี่ได้เธอก็ยอมแน่ค่ะ กัญชพรบอก ตวงสิทธิ์หน้าเสีย เขาไม่คิดว่ากัญชพรจะพูดเรื่องนี้มาจี้ใจดำของเขาได้
เรามาคุยกันเรื่องอื่นดีกว่ามั้ยน้องกัญ? ตวงสิทธิ์พยายามจะเปลี่ยนเรื่อง
งั้นก็ได้ค่ะ เรามาคุยกันว่าเราจะตั้งชื่อลูกพี่ตวงที่กำลังจะเกิดว่าชื่ออะไรดีก็แล้วกัน กัญชพรบอก คราวนี้ตวงสิทธิ์ถึงกับหน้าซีดแทน
กัญ พูดอะไรน่ะ? ตวงสิทธิ์ถามปากคอสั่น
กัญรู้ทุกอย่างหมดแล้ว กัญชพรตอบ
ใครบอกเรื่องนี้กับน้องกัญ ตวงสิทธิ์ขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย
เอาเป็นว่ากัญรู้ก็แล้วกัน พี่ตวงไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ กัญชพรยิ้ม ตวงสิทธิ์เถียงอะไรไม่ออกในตอนนี้
พี่ตวงคิดให้ดีนะคะ พี่ตวงไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้ามาเสี่ยงกับบาปกรรมหรอก ยังไงกัญก็เป็นน้องสาวของพี่ตวงอยู่แล้ว กัญไม่เคยคิดเป็นอื่นกับพี่ตวงแม้แต่น้อย เรามีกันอยู่สองคนพี่น้องนะคะ ยังไงเสียลูกของพี่ก็คือหลานแท้ๆ ของกัญ คุณพินทิพย์เธอรักพี่มาก พี่ควรดูแลเธอให้ดี
ตวงสิทธิ์ได้แต่มองหน้ากัญชพรนิ่ง เหมือนเธออ่านใจของเขาได้หมด เขามองกัญชพร เด็กสาวที่นั่งตรงหน้าของเขาเหมือนคนแปลกหน้า เด็กสาวที่อ่อนต่อโลก ทำไมวันนี้ดูเหมือนกับผู้ใหญ่เกินกว่าอายุจริงเสียอีก กับตัวเขาเสียอีกกลับรู้สึกเหมือนกลับเป็นเด็กพึ่งหัดเดิน ตวงสิทธิ์ยกมือทั้งสองขึ้นลูบใบหน้าตัวเอง น้ำตาเริ่มคลอเบ้าตาของเขา
พี่...พี่ผิดไปแล้ว เป็นคำพูดที่สารภาพออกมาจากใจของด้วยความรู้สึกที่ผิด กัญชพรลุกขึ้นไปนั่งลงข้างๆ พี่ชายที่ตอนนี้กำลังอยู่ในภาวะอ่อนแอ กัญชพรเอื้อมมือไปจับมือของตวงสิทธิ์และพูดกับเขาว่า
ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ตวง ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดและทำผิดกันได้เสมอ แต่ถ้ารู้ตัวว่าผิดแล้วรู้จักกลับตัว นั่นสิคะเขาเรียกว่าเป็นคนประเสริฐ
กัญ... ตวงสิทธิ์ไม่รู้จะพูดสิ่งใด น้ำตาเริ่มไหลออกมาด้วยความละอาย เขาฟุบหน้ากับฝ่ามือตัวเอง พร้อมกล่าวคำขอโ์ทษ
พี่ขอโทษ
กัญชพรบีบมือพี่ชายของเธอเบาๆ เป็นการรับคำขอโทษนั้น
ตอนที่ 33
ตวงสิทธิ์ลงมานั่งรอกัญชพรแต่เช้าอย่างอารมณ์ดี หลังจากปรับความเข้าใจกันได้เรียบร้อยตามประสาพี่น้อง รัศมีเดินลงมาจากข้างบน เห็นท่าทางบุตรชายก็รู้สึกแปลกใจ และอดถามไม่ได้ เมื่อเดินเข้ามาหาเขา
เอ วันนี้ดูตวงอารมณ์ดีจังนะลูก มีอะไรพิเศษหรือเปล่า?
อ๋อ ไม่มีอะไรหรอกครับ วันนี้ผมจะพาน้องกัญออกไปเที่ยวน่ะครับ ตวงสิทธิ์ตอบอย่างอารมณ์ดี
จริงเหรอ! ดีจริง อย่างนี้แผนของเราก็ไปได้สวย ดีมากจ้ะตวง ลูกไม่ทำให้แม่ผิดหวังจริงๆ รัศมีกล่าวชมบุตรชายของเธอ ตวงสิทธิ์ไม่ได้ตอบอะไรไป ได้แต่ยิ้มให้เท่านั้น
แล้ววันนี้จะไปเที่ยวไหนกันล่ะ? รัศมีอดถามอย่างตื่นเต้นไม่ได้
ก็ว่าจะพาน้องกัญไปในเมืองสักหน่อยน่ะครับ ตวงสิทธิ์ตอบ
ดีสิ ไปเปิดหูเปิดตากันซะบ้างก็ดีนะ รัศมีเห็นด้วยอย่างยิ่ง
ครับ คุณแม่จะเอาอะไรหรือเปล่าครับ? ตวงสิทธิ์ถาม
ไม่หรอกจ้ะ ไปเที่ยวกันให้สนุกเถอะ ทางแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ขาดเหลืออะไรเดี๋ยวแม่จัดการเอง รัศมีพยายามเปิดทางให้ลูกชายเต็มที่ ตวงสิทธิ์ยิ้มให้มารดาของเขา
กัญชพรเดินลงมาจากข้างบนพอดี วันนี้หญิงสาวสวมกางเกงยีนส์สีเข้มและเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวพอดีตัว สวมแจ๊คเก็ตสีน้ำเงินเข้มทับเสื้อยืดไว้ รัศมีหันไปเห็นกัญชพรเดินมา เธอรีบส่งยิ้มหวานให้หลานสาวคนสวยทันที
เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะหนูกัญ รัศมีอวยพร
ขอบคุณค่ะ กัญชพรกล่าวขอบคุณ และหันไปทางตวงสิทธิ์ที่ลุกขึ้นยืนรออยู่แล้ว
เราไปกันได้หรือยังคะพี่ตวง?
ไปสิจ๊ะ ตวงสิทธิ์ตอบ และหันมาทางมารดาของเขาที่ยืนยิ้มไม่หุบ
งั้นเราสองคนไปก่อนนะครับคุณแม่ เดี๋ยวสายไปจะร้อน ตวงสิทธิ์บอกมารดาของเขา
ไปเถอะจ้ะ ขอให้เที่ยวให้สนุกนะ ยังไม่วายรีบอวยพรให้ซ้ำอีก สองหนุ่มสาวเดินเคียงข้างกันออกไปจากบ้านพัก รัศมีมองตามด้วยสายตาและรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหวัง
พินทิพย์นั่งคอยตวงสิทธิ์อยู่หน้าบ้านพักของเธอ หลังจากได้รับโทรศัพท์จากตวงสิทธิ์เกือบสี่ทุ่ม บอกว่าตอนเช้าจะมารับไปทานข้าว หญิงสาวชะเง้อมอง แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏบนริมฝีปากที่อวบอิ่มของพินทิพย์ เพราะเธอเห็นรถของตวงสิทธิ์เลี้ยวเข้ามาและตรงมายังบ้านพักของเธอ พอรถจอด พินทิพย์ก็รีบลุกขึ้นยืน แต่ก็ต้องชะงัก เพราะคนที่ลงจากรถคนแรกคือ..กัญชพร และหญิงสาวผู้อ่อนวัยกว่าก็เดินตรงเข้ามาหาเธอทันที พินทิพย์มองเจ้าของร่างบอบบางที่เดินเข้ามายืนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่แปลกใจและสงสัย...ทำไมตวงสิทธิ์ถึงได้พากัญชพรมาหาเธอที่นี่ด้วย?...เป็นคำถามที่ผุดขึ้นในใจของพินทิพย์ กัญชพรเดินมาหยุดยืนใกล้กับที่พินทิพย์ยืนอยู่ก่อน แล้วเธอก็ยิ้มให้หญิงสาวผู้มากวัยกว่า แล้วพูดว่า
เราไปกันได้หรือยังคะ?
พินทิพย์มองข้ามร่างของกัญชพรไปยังตวงสิทธิ์ซึ่งเขายังคงนั่งอยู่หลังพวงมาลัย และโบกมือให้กับเธออีก กัญชพรเอื้อมมือไปจับมือพินทิพย์และจูงมือเธอให้เดินตามมาขึ้นรถ พินทิพย์รู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ ไม่เข้าใจว่าสองคนพี่น้องนี่กำลังเล่นอะไรกันอยู่ พินทิพย์ถูกกัญชพรพาเดินมานั่งที่เบาะข้างๆ คนขับ เธอจัดการให้พินทิพย์ขึ้นนั่งเรียบร้อยและปิดประตูให้อีกด้วย ส่วนตัวกัญชพรเองกลับเปิดประตูหลังและขึ้นไปนั่งด้านหลังของพินทิพย์และปิดประตูเรียบร้อย พินทิพย์หันไปมองหน้าตวงสิทธิ์เงียบ เขากลับยิ้มให้เธอแทน
ออกรถได้แล้วค่ะ โชเฟอร์ กัญชพรพูดเล่นกับตวงสิทธิ์
ได้ครับผม ตวงสิทธิ์รับคำด้วยอารมณ์ขัน และเขาก็ออกรถไป พินทิพย์นั่งเงียบ เธอพยายามมองหน้าตวงสิทธิ์หลายครั้งแต่เขากลับทำเป็นไม่สนใจ กลับถามเล่นๆ กับหญิงคนรักว่า
มีอะไรติดหน้าตวงหรือเปล่าพิน?
นี่มันอะไรกันคะตวง? พินทิพย์เหลืออด ตวงสิทธิ์กลับหันมายิ้มทะเล้นกับเธอและตอบว่า
ก็ไม่มีอะไรนี่จ๊ะ เราสามคนจะไปทานข้าวและช็อปปิ้งกันในเมืองไง
เราสามคน พินทิพย์ทวนคำเสียงดัง
อืมม์ ตวงสิทธิ์ทำเสียงรับดังในลำคอของเขา แล้วเขาก็มองที่กระจกส่องด้านหน้ารถ เห็นคนนั่งหลังนั่งยิ้มแฉ่งอยู่
วันนี้น้องกัญจะเป็นเจ้ามือเลี้ยงพวกเรา ตวงสิทธิ์หันไปบอกพินทิพย์
นี่มันเรื่องอะไรกันคะ? พินงงไปหมดแล้ว พินทิพย์เริ่มหัวเสีย
ก็ไม่มีอะไรนี่จ๊ะ ตวงสิทธิ์ตอบ
หยุดรถเดี๋ยวนี่นะ!...พินบอกให้คุณหยุดรถ พินทิพย์เริ่มโวยวาย ตวงสิทธิ์หยุดรถทันที
ไหน ใครช่วยอธิบายให้พินทราบหน่อยเถอะค่ะว่า ทำไมเราสามคนต้องไปทานข้าวพร้อมกันด้วย
พินทิพย์ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างยิ่ง
กัญชพรเปิดประตูรถยนต์ ก้าวลงจากรถ และเอื้อมมือไปเปิดประตูรถให้พินทิพย์ และพูดว่า
กัญขอคุยกับคุณพินทิพย์เป็นการส่วนตัวหน่อยได้มั้ยคะ?
พินทิพย์หันไปมองหน้าตวงสิทธิ์ ความหวั่นไหวเริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจของเธอ พินทิพย์จึงเอ่ยเรียกชื่อชายคนรักเบาๆ ว่า
ตวง
ไปเถอะ น้องกัญมีเรื่องจะบอกพินน่ะ ตวงสิทธิ์บอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
เชิญค่ะคุณพิน กัญชพรเอ่ยเสียงอ่อนโยน
พินทิพย์จำต้องก้าวลงจากรถยนต์และเดินตามกัญชพรออกมาห่างจากรถที่ตวงสิทธิ์นั่งคอยอยู่ ในใจของเธอประหวั่นไปสารพัด เมื่อเห็นว่าห่างพอแล้ว กัญชพรก็หยุดยืนรอ พินทิพย์จึงหยุดตามไปด้วย สองสาวยืนห่างกันพอประมาณ กัญชพรพหันมามองหน้าพินทิพย์ ตอนนี้พินทิพย์กลับรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ บอกไม่ถูก เหมือนเด็กที่ทำผิดแล้วต้องยืนต่อหน้าผู้ใหญ่ที่รอการไต่สวน กัญชพรยิ้มและพูดอย่างอ่อนโยนว่า
คุณพินทิพย์คะ กัญรู้เรื่องทั้งหมดของคุณกับพี่ตวงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องปิดบังกัน กัญแค่อยากถามว่า คุณพินทิพย์รักพี่ตวง พี่ชายของกัญหรือเปล่า? ขอเพียงคำตอบเดียวเท่านั้น
พินทิพย์ยืนมองหน้ากัญชพรอย่างงงๆ
เอ้า ว่าไงคะ คุณพิน กัญชพรถามย้ำเมื่อเห็นว่าที่พี่สะใภ้ยืนนิ่งไป พินทิพย์น้ำตาคลอก่อนตอบด้วยเสียงค่อนข้างสั่นเครือว่า
พินรักคุณตวง รักเขามาก แต่...
กัญชพรยกมือขึ้นห้ามก่อนที่พินทิพย์จะทันได้พูดสิ่งใดต่อ
ค่ะ กัญอยากได้ิยินจากปากคุณพินเท่านั้น ว่าคนที่จะมาเคียงข้างพี่ชายของกัญ รักเขาจริง กัญก็มั่นใจแล้วว่าพี่ชายของกัญคนนี้ต้องมีความสุข คุณพินโปรดเข้าใจด้วยนะคะว่า ระหว่างกัญกับพี่ตวง ไม่มีวันจะเปลี่ยนฐานะเป็นอย่างอื่นไปได้ นอกจากพี่ชายกับน้องสาวเท่านั้น กัญไม่ญาติที่ไหนอีกแล้ว ญาติของกัญที่เหลืออยู่ก็มีเพียงน้ารัศมีและพี่ตวงเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วกัญอยากให้พวกเขามีความสุขที่สุด ไม่ต้องการเห็นคนที่กัญรัก ต้องมีความทุกข์ พี่ตวงเขารักคุณนะ คุณพิน เขาแคร์คุณมาก
กัญชพรพูดจบ พินทิพย์ค่อยๆ หันกลับไปมองตวงสิทธิ์ที่นั่งคอยอยู่ในรถ แล้วเธอก็หันกลับมาที่กัญชพรเหมือนเดิม
หมายความว่า น้องกัญกับตวง... พินทิพย์พยายามจะถาม
ไม่มีวันแต่งงานกันได้ คุณพินสบายใจได้ ไม่ต้องกังวลมากนะคะ เดี๋ยวกระทบถึงหลานในท้อง กัญไม่ยกโทษให้นะ ถ้าหลานของกัญคนนี้เป็นอะไรไป กัญชพรพบอก
น้องกัญ พินทิพย์เรียกชื่อกัญชพรได้แค่นั้น ก้อนแห่งความตื้นตันก็วิ่งขึ้นมาจุกที่คอหอย เธอพูดอะไรไม่ออกอีก ทำนบที่เธอพยายามกั้นน้ำตาไว้ ตอนนี้มันพังไม่เป็นท่า พินทิพย์ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย กัญชพรเข้าสวมกอดร่างของว่าที่พี่สะใภ้ไว้ สองสาวกอดกันแน่น ตวงสิทธิ์หันไปมองสองสาวกอดกัน อย่างเข้าใจ เขาจึงยิ้มอย่างโล่งอก ตอนนี้ก็คงเหลือเพียงด่านของแม่ของเขาเท่านั้น เขาจะบอกท่านอย่างไรดี นี่คือปมปัญหาของตวงสิทธิ์ขั้นต่อไป
กัญชพรและพินทิพย์สนิทกันเร็วกว่าที่คิด พินทิพย์หันไปเอาใจกัญชพรมากกว่าตวงสิทธิ์ จนตวงสิทธิ์ต้องโวยขึ้นมาบ้างว่า
โอ๊ย ไม่เห็นมีใครตักกับข้าวให้ผมเลย ดูสิกินกันอยู่สองคนหรือไงครับ แล้วผมล่ะ นั่งหัวโด่อยู่ไม่เห็นมีใครสนใจเลย
ทั้งพินทิพย์และกัญชพรหันมามองหน้าชายหนุ่มพร้อมกัน และหัวเราะกับท่าทางใจน้อย และน้อยใจของตวงสิทธิ์ กัญชพรจึงตักกับข้าวไปใส่จานให้พี่ชาย และพูดว่า
แหม หัวก็ไม่ล้านสักหน่อย ทำเป็นใจน้อยไปได้ เอาค่ะน้องกัญตักให้พี่ชายสุดหล่อก็ได้ อ้ำ...กินเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ นะคะ
พินทิพย์หัวเราะที่กัญชพรแซวพี่ชาย ตวงสิทธิ์นึกหมั่นเขี้ยวจึงหยิบช้อนกับส้อมขึ้นมาชูตรงหน้า และพูดเล่นว่า
เปลี่ยนใจแล้ว ขอกินหนูกัญย่างแทนก็แล้วกัน
เฮอะ ได้ไง ใครจะให้กินง่ายๆ กัญมีคนช่วยนะ กัญชพรรีบไปเกาะแขนของพินทิพย์ทันที ตวงสิทธิ์จึงต้องยอมแพ้ วางช้อนและส้อมลง และพูดว่า ว้า อย่างนี้ก็แย่สิ เล่นหาพวกช่วย ไอ้เรามันหัวเดียวกระเทียมลีบน้อ
พอเถอะค่ะ เล่นเป็นเด็กๆ กันไปได้ อายโต๊ะข้างๆ เขาบ้างสิ ดูสิพวกเขามองเราและแอบหัวเราะกันใหญ่แล้ว พินทิพย์กระซิบบอกสองพี่น้อง แล้วสายตาของสองพี่น้องก็หันไปมองโต๊ะข้างๆ ที่เป็นครอบครัวใหญ่กำลังร่วมกันรับประทานอาหาร มองพวกเขาอย่างเอ็นดู ทำให้สงครามระหว่างสายเลือดต้องยุติลง
คุณพินคะ ถ้าไม่รังเกียจ กัญขอเรียกคุณว่า พี่พินได้มั้ยคะ?
กัญชพรถาม พินทิพย์มองหน้าหญิงสาวผู้อ่อนวัยกว่า ยิ้มและพูดว่้า
ได้สิจ๊ะ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ
กัญชพรยิ้มกว้าง และพูดอย่างดีใจว่า
ขอบคุณค่ะ งั้นเรามาทานข้าวให้เสร็จดีกว่า แล้วพวกเราจะได้ไปช็อปปิ้งกัน
สมาชิกทั้งสองลงความเห็นว่า...โอเค
พินทิพย์เดินเข้าบ้านพักอย่างอารมณ์ดี เธอเดินผ่านห้องของลุงเพียร เห็นประตูปิดไม่สนิท ตอนแรกเธอเดินเลยไปแล้ว แต่แล้วก็นึกฉุกใจขึ้นมา จึงถอยหลังกลับมาที่ประตูที่ปิดไม่สนิทนั้นอีกครั้ง เธอเห็นลุงของเธอกำลังนั่งบริกรรมคาถา ลุงเพียรต้องทำอะไรสักอย่างแน่นอน...พินทิพย์เกิดความไม่สบายใจขึ้นมาทันที เธอยืนอยู่หน้าห้องลุงของเธอได้สัก ก็เดินเลยตรงไปที่ห้องนอนของเธอ เปิดประตูเข้าไป และปิดประตู แล้วเอาหลังพิงประตูที่เพิ่งปิดไปด้วยความไม่สบายใจ
นี่เรากำลังนำความเดือดร้อนไปให้น้องกัญหรือนี่ โธ่!...ไม่น่าเลย! พินทิพย์พูดกับตัวเองเบาด้วยความไม่สบายใจ
รัศมีเห็นตวงสิทธิ์และกัญชพรเดินถือของเข้ามาด้วยกัน ทั้งสองคนเดินหัวเราะต่อกระซิกกันมาตลอดทางอย่างสนิทสนม รัศมีเฝ้ามองดูสองหนุ่มสาวตั้งแต่ลงจากรถและเดินเข้ามาในบ้าน ทำให้เธอรู้สึกสบายใจ ตวงสิทธิ์เห็นมารดาของตนยืนอยู่ จึงเดินยิ้มเข้ามาหาและยื่นถุงสีขาวใบหนึ่งให้มารดา
นี่ของฝากของคุณแม่ครับ
ขอบใจจ้ะ รัศมีรับของฝากจากมือบุตรชาย และส่งยิ้มหวานให้ทั้งสองหนุ่มสาว และพูดว่า
ท่าทางจะสนุกกันมาเชียว
ค่ะ
ครับ
ทั้งสองหนุ่มสาวตอบพร้อมกัน รัศมีเริ่มยิ้มแหย ความรู้สึกของเธอตอนนี้ รู้สึกว่าสองคนนี่แปลกๆ ทั้งสองพี่น้องจึงขอตัวขึ้นห้องของตน เพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย ไวเหมือนปรอท ทั้งคู่พากันหนีรัศมีไป ปล่อยให้เธอยืนถือถุงของฝากมองตามหลังสองหนุ่มสาวอย่างงงๆ
เอ ทำไมดูสนิทกันแปลกๆ รัศมีบ่นกับตัวเองคนเดียว
จากคุณ |
:
ศรนรินทร์
|
เขียนเมื่อ |
:
วันมหาสงกรานต์ 54 16:08:48
|
|
|
|