บทที่ 13 : จิราพร
ประกายแก้ว สกุลสุวรรณในชุดนักเรียนชั้นมัธยมปลาย ลานนาวิทยาลัย กำลังเดินเข้าโรงเรียนทางประตูหน้า แม้เหตุการณ์วุ่นวายจากการเสียชีวิตของจิราพรจะผ่านพ้นมาแล้วถึงสามวัน แต่กระนั้นบรรยากาศภายในรั้วโรงเรียนก็ยังเต็มไปด้วยความอึมครึม แก้วรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงหนาวๆร้อนๆ ด้วยพักนี้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นในรั้วโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิตของครูพยาบาล ครูฝึกสอนรตี หนำซ้ำยังมีการตายของจิราพรเพื่อนร่วมห้องอีก
ยิ่งยายจิเป็นบุตรสาวของผู้ที่มีสายสัมพันธ์กับนักการเมืองท้องถิ่น ด้วยเหตุนี้สื่อต่างๆเลยมุ่งคุ้ยแคะเจาะประเด็น สันนิษฐานกันยกใหญ่ สำนักข่าวหลายเจ้าพยายามผูกเรื่องของยายจิเข้ากับคดีฆ่าตัวตายที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ... และนั่นยิ่งทำให้ประกายแก้วยิ่งหวาดหวั่นใจมากขึ้น
เพราะเด็กสาวรู้ดีว่าเรื่องทั้งหมดล้วนเกี่ยวเนื่อง เชื่อมโยงกัน ... ทว่าไม่ใช่อย่างที่สำนักข่าวพยายามสันนิษฐานและโยนบาป โยนความผิดต่างๆให้กับนายภูวดล หนึ่งในตัวเก็งผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯเชียงใหม่ ทว่าเบื้องหลังแล้วอาจมีใครบางคนชักใยอยู่ !?
ประกายแก้วเดินเกือบถึงปากประตูทางเข้าโรงเรียน เด็กสาวถอนใจเมื่อเห็นบรรดานักข่าวที่นั่งรอเตรียมสัมภาษณ์หากมีครูหรือใครสักคนเดินผ่านมา เด็กสาวเดินทำตัวลีบๆผ่านประตูเข้าไป เธอทำหูทวนลมเมื่อได้ยินนักข่าวสองสามคนตะโกนให้หยุดเพื่อขอสัมภาษณ์ คงไม่มีใครให้ข้อมูลง่ายๆ นั่นเพราะทั้งครูใหญ่ ทั้งครูประจำชั้นแต่ละห้องได้ทำการขอร้องเอาไว้ก่อนแล้ว
เมื่อเด็กสาวเดินเลยเข้าไปในเขตรั้วโรงเรียนเล็กน้อย แก้วจึงเจอกับใครคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะกำลังรอเธออยู่ ... เขาคือวิญญาณนายทหารผู้รักษาโรงเรียน เด็กน้อยหยุดก่อนเถิด เสียงผู้พิทักษ์เรียก
ประกายแก้วหยุดฝีเท้า เมื่อมองไปทางต้นเสียงจึงได้เห็นคุณลุงเจ้าที่ในชุดขุนพลทหาร เธอไม่รู้สึกกลัวด้วยตระหนักดีว่าลุงเจ้าที่คงไม่ทำร้ายเธอ คะ ? แก้วขานรับพร้อมทำทีเป็นยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาคุย เด็กสาวเดินไปนั่งที่ม้านั่งริมรั้วติดประตูทางเข้า
เด็กน้อยพอมีเวลาคุยหรือไม่ ? ก็พอมีค่ะ ยังไม่แปดโมง ว่าแต่วันนี้คุณลุงดูไม่อ่อนเพลียเหมือนวันก่อนนะคะ เด็กสาวพูดตามความเห็นของตัวเอง เพราะวันที่จิราพรกระโดดตึกนั้น ลุงทหารเจ้าที่ดูหมดสิ้นเรี่ยวแรงซ้ำยังถูกโซ่บางอย่างพัวพันรัดแน่น
ตอนนั้นข้าโดนอาคม อาคม ? หมายความว่ายังไงคะ ? แก้วถามด้วยไม่เข้าใจในสิ่งที่นายทหารเทพพิทักษ์พูด
เอาเถอะ ... ไว้ทีหลังเราค่อยคุยกัน แต่ตอนนี้มีคนอยากคุยกับเจ้า ลุงทหารบอกจุดประสงค์ที่มาดักรอ ใครคะ ? แก้วถามงงๆ
แก้ว ... เราเอง เสียงหวานทว่าเศร้าสร้อยดังจากทางด้านหลังของวิญญาณเจ้าที่ มันเป็นเสียงที่เด็กสาวคุ้นหู และเมื่อมองตามไปเธอจึงได้เห็น
เด็กสาวในชุดมัธยมปลายกระโปรงม่วงเหมือนกับที่เธอใส่ ใบหน้าจริงจังทว่าแฝงแววหวานซึ้งที่บัดนี้กำลังถูกทาทับด้วยความโศกาอาดูรนั้นเป็นดวงหน้าที่เธอคุ้นเคย
จิราพร ? ประกายแก้วอ้าปากค้าง ขนลุกชูชันทั่วทั้งร่างราวกับถูกราดด้วยน้ำแข็งไล่จากต้นคอจนลงมาถึงก้นกบ ใช่จ้ะ ... เราเอง วิญญาณเพื่อนตอบเด็กสาว แก้วเห็นเลือดที่ศีรษะของจิราพรกำลังไหลรินเอื่อยๆ จิ .. จิราพรตายไปแล้วนะ แก้วชี้แจง ปากคอสั่น
จ้ะ แก้ว เรารู้ว่าตัวเองตายไปแล้ว ว้าย ! งั้นจิราพรอย่ามาหลอกแก้วเลย ไปผุดไปเกิดเถอะนะ แก้วกลัว เด็กสาวรีบบอก สั่นทั้งปาก สั่นทั้งตัว เด็กสาวลุกขึ้นจากที่นั่งเตรียมใส่หลวงพ่อโกย ... ก็เล่นโดนผีหลอกกลางวันแสกๆนี่นา
ช้าก่อนเด็กน้อย วิญญาณดวงนี้ไม่ได้มาหลอกหลอน รวมถึงยังไปเกิดไม่ได้ เจ้าที่รีบบอก คงเพราะกลัวว่าประกายแก้วจะเผ่นป่าราบไปเสียก่อน ใช่จ้ะ เรามาขอความช่วยเหลือจากแก้ว ยายจิพยายามอธิบาย
ให้แก้วช่วย ? ยังไงจ๊ะ ? เด็กสาวถาม ใจชื้นมาเล็กน้อย แต่ในใจก็ยังงงๆด้วยเพราะช่วงเวลาก่อนตายเธอและจิราพรก็แทบไม่ได้คุยกัน คือ ... เอ่อ คือว่า ... คนตายหน้าหวานอึกอัก
รีบว่าไปเถิด เดี๋ยวก็แปดโมงเคารพธงชาติกันพอดี ลุงทหารเจ้าที่เร่ง สงสัยจะเริ่มรำคาญ คือที่เราไปเกิดไม่ได้ ... ก็เพราะมีเรื่องคาใจ ยิ่งท้ายประโยค เสียงยิ่งเบา ประกายแก้วแทบจะตะแคงหูเข้าไปฟังใกล้ๆ แต่พอนึกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนตาย เด็กสาวจึงรีบกระเด้งตัวกลับในท่าตั้งตรงทันควัน
คาใจ ? คาใจเรื่องอะไรล่ะ แล้วแก้วช่วยได้ไหม ? คือ ... เรื่องนี้มันน่าอาย ... วิญญาณสาวน้อยมีท่าทางขวยเขิน แก้วแทบไม่เชื่อสายตาว่าวิญญาณที่ไม่มีการเต้นของหัวใจแล้ว ไฉนแก้มถึงแดงเปล่งปลั่งราวกับลูกตำลึงสุกได้ขนาดนี้
ก็บอกไปสิว่าชอบใครอยู่ เจ้าที่ในชุดทหารโบราณพูดแทรกอีก ท่าทางแกคงรำคาญเกินทน หา ? เด็กสาวอุทาน
ว้าย ! อย่าบอกใครนะแก้ว ! วิญญาณจิราพรอุทานบ้าง โธ่ถัง ! ถ้านี่เป็นการคุยกันระหว่างสองสาวแรกแย้มโดยที่ยังไม่มีใครตายล่ะก็คงจะดูน่ารักกว่านี้
จากคุณ |
:
Luckard
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเนา 54 19:49:02
|
|
|
|