นิอาหลุดจากภวังค์เมื่อเรือที่เธอโดยสารมาเข้าเทียบท่า ที่ซึ่งเธอกับกัปตันและผู้โดยสารคนอื่นๆ ซึ่งก็มีทั้งชาววีกาเองและคนต่างดาว ก้าวขึ้นสู่ฝั่งอย่างเงียบสงบ อาคารของท่าเรือนั้น เป็นสีทึมๆ หรือไม่ทาสี อีกทั้งตกแต่งแต่น้อยตามความนิยมของชาววีกา
หลังจากที่พ้นเขตท่าเรือแล้ว นิอาและกัปตันจึงได้เข้าสู่เขตตัวเมืองที่แท้จริง วีกานั้นมีพื้นที่ใช้ประโยชน์ได้น้อย และมีประชากรมาก ตึกต่างๆ จึงสร้างค่อนข้างเล็กและอยู่ชิดติดกัน แม้กระทั่งในย่านค้าขายของเมืองเช่นที่พวกเขากำลังเดินผ่านก็ตาม
เราจะต้องไปที่ไหนกันต่อคะ ท่าน นิอาเอ่ยถามหลังออกห่างจากท่าเรือได้ระยะหนึ่งแล้ว
ลอร์ดเดรคแจ้งฉันมาว่า เขานัดต้นหนไว้ที่ศาลเจ้าบนภูเขา กัปตันตอบ ท่านว่ามันเป็นที่ท่องเที่ยวสำคัญของวีกา ถามคนแถบนี้คงบอกได้ไม่ยากหรอกกระมัง
หลังจากนั้นกัปตันจึงดำเนินการทันทีโดยการตรงเข้าไปสอบถามชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่เดินอยู่แถบนั้น นิอาที่มองอยู่ข้างนอกดูแล้วไม่ค่อยแน่ใจนักว่าชายคนนั้นจะฟังรู้เรื่องหรือเปล่า แต่หลังทำท่าทำทางกันได้พักใหญ่ ชายคนนั้นก็ทำท่าเหมือนกับจะนำกัปตันไปที่ไหนสักที่ นิอาเห็นเช่นนั้นจึงรีบจ้ำตามไป แต่ชายคนดังกล่าวก็เพียงเดินนำกัปตันไปมา สลับกับหยุดพูดกับคนนั้นคนนี้ครั้งละสองสามประโยคด้วยภาษาวีกาซึ่งทั้งกัปตันและนิอาฟังไม่ออก
ท้ายสุดจึงมีเด็กชายอายุราวสิบกว่าคนหนึ่งเดินผ่านมา ชายคนที่กัปตันถามจึงเรียกไว้ และนิอาจึงค่อยโล่งใจว่าน่าจะมีอะไรคืบหน้าขึ้สักที เพราะเธอเห็นว่าเด็กชายคนนั้นพูดกับกัปตันโดยตรง และกัปตันก็ดูพอจะจับใจความได้บ้าง
นิอาเห็นเด็กชายคนนั้นโค้งหลายครั้งก่อนจะถอยจากกัปตันไป เธอไม่กล้าเข้าไปแทรกแซงจึงยืนอยู่ห่างๆ และไม่ได้ยินว่าเด็กชายคนนั้นบอกอะไรกัปตันบ้าง แต่เมื่อเด็กชายออกไปแล้ว กัปตันจึงพยายามสื่อสารอะไรบางอย่างกับชายคนแรกแล้วจึงเดินกลับมาหานิอา
ความจริงเธอจะเข้ามาฟังพร้อมกันเลยก็ได้ กัปตันพูด เพราะอยู่แบบนี้อย่างไรใครๆ ก็ดูออกอยู่แล้วว่าเรามาด้วยกัน ไม่มีใครจะหาว่าเธอยุ่งไม่เข้าเรื่องหรอก ดีเสียอีก เผื่อจะได้ช่วยฉันฟังภาษากลางสำเนียงวีกานี่บ้าง ฟังยากชะมัด
แล้วได้ความมาอย่างไรบ้างล่ะ
เหนื่อย! กัปตันร้องออกมา เจ้าหนูนั่นบอกว่าคนที่นี่ โดยเฉพาะพวกที่มีอายุมากๆ หน่อย ใช้ภาษากลางกันไม่ค่อยได้หรอก เลยมาบอกขอโทษยกใหญ่ แต่สำหรับเรื่องศาลเจ้าบนภูเขา ทางไปไม่ได้ยากอะไร จากที่นี่ก็แค่ตรงไป แล้วพอถึงเชิงเขาก็เลี้ยวขวาเลียบเขาไปจนถึงทางขึ้นเท่านั้น และถ้าเดินไม่ไหวก็จ้างรถลากไปก็ได้ เธออยากจะไปอย่างไรล่ะ นิอา
ความจริงเดินไปก็ไหวค่ะ หญิงสาวพูด ดูระยะทางก็ไม่ไกลนัก
ตามใจเธอ กัปตันพูด ก่อนทั้งสองจะเดินไปตามทางที่ได้รับการบอกกล่าวมา
----------------------------------
ถนนในวีกานั้นคลาคล่ำไปด้วยทั้งผู้คนและเหล่าหุ่นยนต์ที่เดินกันขวักไขว่ ทั้งสองใช้เวลาพอประมาณก่อนจะไปถึงทางขึ้นไปยังศาลเจ้าบนเขา ทางขึ้นเขานั้นตัดคดเคี้ยวมาทว่าร่มรื่นด้วยต้นเชอรี่ที่ผลิดอกเต็มที่แล้วค่อยๆ เริ่มทิ้งกลีบโรยลงมา จนในไม่ช้านิอาและกัปตันอาร์เค่นก็มาถึงบนศาลเจ้า
ที่ศาลเจ้าบนเขานั้นมีระเบียงอยู่ เป็นระเบียงที่สร้างยื่นออกจากหน้าผา นิอามองออกไปก็เห็นว่าเมืองหลวงของวีกานั้นเป็นเมืองที่มีเขาโอบโดยรอบ มองลงไปก็เห็นหอสูงของศาสนสถานที่สร้างอยู่เป็นพื้นราบซึ่งมีชายคาโค้งงอนดูแปลกตาปรากฏอยู่กระจัดกระจาย
ระเบียงแห่งวสันตพฤกษ์ ลอร์ดเดรคให้พวกเรามาที่นี่แหละ กัปตันพูดพลางมองไปรอบๆ เธอลองช่วยมองหาคนที่น่าจะเป็นต้นหนของเรือเราหน่อยก็แล้วกัน ฉันไม่เคยเห็นเขาหรอก แต่เดาว่าเขาคงอายุพอๆ กับฉันได้กระมัง
นิอาทำตามกัปตัน เธอมองไปรอบๆ ทว่าก็มองไม่เห็นคนที่น่าจะเป็นคนที่เธอมองหาอยู่เลย บนระเบียงไม้แห่งนั้นมีคนอยู่พอประมาณ และเกือบทั้งหมดก็เป็นชาววีกาหรือมิฉะนั้นก็เป็นเชื้อชาติที่ใกล้เคียงกัน เธอเห็นคู่สามีภรรยาสูงอายุคู่หนึ่งกำลังทำความเคารพรูปสลัก ในขณะที่ฝั่งตรงข้ามกันกลุ่มเด็กสาววัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังคุยกันอย่างเบาๆ ทว่าออกรส ใต้ต้นไม้ใหญ่ไกลออกไปเล็กน้อย ชายหนุ่มอายุไล่เลี่ยกับนิอายืนนิ่งอยู่พร้อมหุ่นยนต์ตัวเล็กลอยอยู่ข้างกาย ขณะที่กลุ่มนักเรียนประถมกำลังเดินเรียงแถวผ่านมาอย่างเป็นระเบียบทว่ามองไปรอบตัวด้วยท่าทีตื่นตาตื่นใจ
ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ได้ กัปตันหันมาพูดกับนิอา ปกติแล้วพวกวีกาไม่เคยมาสาย...
แต่ยังพูดไม่ทันจบ กัปตันก็ต้องชะงักไปเพราะมีเสียงพูดแทรกขึ้นมา
ขอโทษที่ให้รอครับ เจ้าของเสียงคนนั้นว่า ท่านคงเป็นกัปตันแห่งเรืออีเว้นท์ฮอไรซอนใช่ไหมครับ กระผมเร ซาร์กินาระ ต้นหนคนใหม่ ต้องขอความกรุณาด้วยครับ
กัปตันหันไปมองเจ้าของเสียง และนิอาก็กล้ายืนยันว่าเธอเห็นสีหน้าตกใจของกัปตันไวแอตต์ อาร์เค่นแห่งเรืออีเว้นท์ฮอไรซอน
------------------------------------------
จากผู้เขียน
ต้องขออภัยด้วยครับที่มาลงล่าช้าแบบนี้ เผอิญว่าช่วงหลังจากโพสคราวที่แล้วมีความจำเป็นต้องย้ายที่อยู่ครับ และหลังจากจัดการย้ายที่อยู่เสร็จก็ต้องออกค่ายต่างจังหวัดต่ออีกสองอาทิตย์ครับ เพิ่งกลับถึงบ้านมีเวลามาเขียนได้ไม่กี่วัน (หวังว่าคงจะไม่ลืมกันไปก่อนนะครับ)
เขียนตอนนี้เขียนไปเขียนมารู้สึกว่า เรื่องไม่ค่อยเดินเท่าไหร่เลยนะ จากตอนที่แล้วมีแต่ monologue ของกัปตัน ตอนนี้กลายเป็นมีแต่บทบรรยาย แต่ก็ตัดไม่ลงสักเท่าไหร่น่ะครับ เพราะใจหนึ่งก็อยากบรรยาย อยากพรรณาให้เห็นภาพฉากของเรื่องที่เกิดขึ้นให้ชัดๆ
ขอบคุณผู้อ่านทุกๆ ท่านอีกครั้งครับ ^^"
[ เจรามี ]
จากคุณ |
:
เจรามี (เจรามี)
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเถลิงศก 54 15:40:34
|
|
|
|