มณีนาคินทร์ ตอนที่ 34 - 35
|
 |
ตอนที่ 34
ราตรีกาลมาถึง กัญชพรยืนอยู่ที่ระเบียงรอการมาของใครบางคนอย่างใจจดใจจ่อ กายทิพย์หนึ่งปรากฏเบื้องหลังของกัญชพร หญิงสาวสัมผัสได้ของการมาของใครบางคน กัญชพรจึงรีบหันหลังกลับมาด้วยความดีใจ แต่แล้วเธอก็ต้องผิดหวัง เพราะกายทิพย์ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของเธอกลับไม่ใช่คนที่เธอเฝ้ารอคอยอยู่่
พี่อัญญานี
เสียงเรียกแผ่วเบาอย่างผิดหวัง นาคีอัญญานียิ้มให้และเดินเข้ามาหาหญิงสาว ที่พอเรียกชื่อผู้มาเยือนเสร็จก็ก้มหน้าหลบตา นาคีสาวเดินมาหยุดตรงหน้ากัญชพร และใช้มือเชยคางของกัญชพรขึ้นมองสบตาเธอ นาคีสาวยิ้ม และเอ่ยปลอบว่า
อย่าเศร้าสิจ้ะคนสวย ข้ามาวันนี้เพื่อมาแจ้งข่าวให้เจ้าได้รู้ว่า จ้าวแสงขวัญทรงติดภารกิจ ไม่สามารถขึ้นมาพบเจ้าได้ หวังว่าเจ้าคงเข้าใจ
กัญชพรฝืนยิ้มให้นางนาคพี่เลี้ยงจำเป็น และพูดตอบเสียงอ่อยๆ ว่า
กัญเข้าใจค่ะ
นางนาคีใช้นิ้วมือเขี่ยไรผมที่ระอยู่ที่ใบหน้าด้านข้างแก้มของนางมนุษย์น้อยอย่างเอ็นดู และพูดว่า
กัญชพร จ้าวรักเจ้ามากนะ เมื่อท่านเสร็จภารกิจ ท่านต้องรีบมาพบเจ้าแน่นอน ทำใจให้สบาย มานี่สิ
อัญญานีไม่พูดเปล่า นางเอื้อมมือไปจูงมือของกัญชพรและพาเดินตามมาที่เตียงนอนของเธอ แตะมือเบาเพื่อให้กัญชพรนั่งลงบนเตียงนอน และนางก็นั่งลงข้างๆ เธอ และถามว่า
เจ้าใช้มณีนาคินทร์ได้ถึงไหนแล้ว?
กัญยังไม่เคยใช้เลยค่ะ กัญชพรตอบตามจริง
ฟังนะกัญชพร มณนาคินทร์มีอำนาจหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับผู้ครอบครองมัน หากแม้ตกอยู่ในมือคนชั่ว มณีนาคินทร์ก็จะเป็นอันตรายกับสัตว์อื่นมากมาย หากแม้อยู่ในมือของคนดี มณีนาคินทร์ก็จะมีคุณอนันต์ เจ้าเข้าใจมั้ย? นาคีสาวพร่ำบอก
ค่ะ กัญเข้าใจ ลูกศิษย์สาวตอบพร้อมพยักหน้ารับ
พักนี้ร่างกายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? อัญญานีเอ่ยถาม กัญชพรนึกขึ้นได้ เธอลืมเรื่องโรคประจำตัวของเธอเสียสนิท
จริงด้วย หมู่นี้กัญไม่เจ็บที่หน้าอกสักนิด กัญชพรพูดพร้อมเอามือข้างขวาไปจับหน้าอกด้านซ้ายไว้ อัญญานียิ้มและพูดต่อว่า
นั่นเพราะอำนาจแห่งการรักษาโรคของมณีนาคินทร์
กัญชพรทำตาโตอย่างประหลาดใจ และถามต่อว่า
แสดงว่ามณีนาคินทร์ดวงนี้ก็รักษาคนอื่นได้เช่นกันสิคะ?
ไม่พูดเปล่า กัญชพรเลื่อนมือขวาที่จับหน้าอกข้างซ้าย ไปจับดวงมณีที่ห้อยอยู่หว่างกลางอกของเธอแทน อัญญานีิยิ้มและพยักหน้ารับเป็นคำตอบ
แต่มีข้อยกเว้นว่า ผู้ที่จะได้รับการรักษาต้องยังไม่ถึงฆาตเท่านั้น แม่ครูสาวย้ำ
งั้นเราจะรู้ได้ยังไงคะ ว่าใครถึงฆาตหรือไม่ถึงฆาต? กัญชพรสงสัย อัญญานียิ้มและมองหน้ากัญชพรและตอบอย่างอ่อนโยนว่า
มณีนาคินทร์จะบอกเจ้าเอง
เจ้าหลับตาสิกัญชพร ข้าจะพาเจ้าไปในที่แห่งหนึ่ง นางนาคพี่เลี้ยงจำเป็นบอก กัญชพรเลิกคิ้วงามถามทันทีอย่างสงสัยว่า
ไปไหนหรือคะ?
หลับตาเถอะ มนุษย์นี่ขี้สงสัยจริง ข้าจะพาเจ้าไปในที่ที่เจ้าจะได้ทดลองใช้อำนาจแห่งมณีนาคินทร์ไงเล่า
อัญญานีตอบ กัญพชรพยักหน้าเข้าใจ และทำตามที่อัญญานีบอก เธอหลับตาลง
สวนสัตว์ใหญ่แห่งหนึ่ง ที่กรงเสือโคร่งตัวใหญ่อ้วนพีสองตัว ตัวผู้มันกำลังป่วยหนัก สัตวแพทย์พยายามรักษามันอย่างสุดความสามารถ เสือสาวคู่ของมันถูกขังอยู่ในกรงไม่ห่างไปเท่าไหร่ สายตาของผู้เป็นภรรยาเฝ้ามองร่างของสามีอย่างเป็นห่วง อาการงุ่นง่านเดินเพล่นพล่านไปมาในกรงอย่างเห็นได้ชัด แล้วมันก็หยุด ยื่นหน้ามองชิดซี่ลูกกรงอีก สัตวแพทย์ที่กำลังตรวจเสือโคร่งตัวผู้นั้น หันไปหาคนเลี้ยงสองคนที่นั่งอยู่ใกล้และลงความเห็นว่า
มันคงไม่รอดคืนนี้แน่
คนเลี้ยงสองคนถึงกับน้ำตาคลอ ความผูกพันที่เฝ้าเลี้ยงดูเจ้าแมวยักษ์ตัวนี้มาตั้งแต่มันคลอดมาใหม่ๆ จนกระทั่งถึงวันนี้ ทำให้คนเลี้ยงทั้งสองอดเสียใจไม่ได้ เกิด แก่ เจ็บ ตาย นี่เป็นของคู่กันกับทุกสรรพชีวิตจริงๆ สัตวแพทย์เก็บเครื่องมือลงกระเป๋า ทุกคนที่อยู่ในกรงเสือไม่มีใครมองเห็นอาคันตุกะผู้ไม่ได้รับเชิญสองนางที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งของกรง คอยเฝ้ามองดูเหตุการณ์ และได้รับรู้เรื่องราวอย่างชัดเจน กัญชพรมองดูร่างของพ่อเสือที่นอนหายใจรวยรินด้วยความเศร้า รู้สึกสะท้อนใจนัก
น่าสงสารพวกมันจังนะคะ คู่ของมันกำลังจะตาย กัญชพรเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย อัญญานีเอื้อมมือไปจับบ่าของลูกศิษย์น้อย และพูดว่า
แต่เจ้าช่วยเขาได้
จริงเหรอคะ! กัญชพรหันไปถามอย่างตื่นเต้น อัญญานีพยักหน้ารับ และมองไปที่มณีนาคินทร์ที่ยังคงห้อยอยู่ที่หว่างกลางอกของสาวน้อย กัญชพรจึงก้มมองดวงมณีน้อยที่หน้าอกของเธอ และหยิบมันขึ้นมา
กัญจะลองดู กัญชพรตอบอย่างตั้งใจ
ทันทีที่สัตวแพทย์และคนเลี้ยงออกจากกรงใหญ่ไป คนเลี้ยงก็เดินกลับไปดึงเชือกเปิดประตูกรงเล็กออก แม่เสือสาวพอเห็นประตูกรงเปิดมันก็รีับกระโจนออกจากกรงทันที และรีบเดินตรงรี่ไปหาร่างของพ่อเสือที่เป็นคู่ของมันที่นอนเจ็บหายใจรวยรินอยู่ มันเดินเข้าไปเอาหัวดันหัวของตัวผู้ และใช้ลิ้นเลียตามใบหน้า และลำตัวของคู่ของมันอย่างสุดแสนรัก แล้วเสือสาวก็ค่อยๆ ล้มตัวลงนอนชิดร่างของเสือหนุ่ม มันเอาหัวของมันวางเกยบนลำตัวของตัวผู้ ดวงตาเศร้าสร้อย เหมือนรับรู้ว่าคู่ของมันกำลังจะจากไปในไม่ช้า กัญชพรตัดสินใจก้าวเดินออกจากมุมที่ตนยืนอยู่กับอัญญานีไปลำพัง พี่เลี้ยงนาคียังคงยืนมองเฉยอยู่ที่เดิม กัญชพรค่อยๆ ก้าวเท้าเดินเข้าไปใกล้เสือทั้งสอง แล้วปฏิกิริยาที่แม่เสือรับรู้ มันผงกหัวขึ้นและรีบหันมาทิศทางที่กัญชพรเดินเข้ามาหา และลุกขึ้นยืนแยกเขี้ยวใหญ่ใส่กัญชพรทันที กัญชพรจำเป็นต้องหยุดยืนที่เดิม แล้วเธอก็ยกมือทั้งสองขึ้นประนม พร้อมสวดบทแผ่เมตตาจนจบ และพูดว่า
แม่เสือเอย ฉันชื่อกัญชพร ฉันไม่ได้คิดมาทำร้ายแม่เสือและพ่อเสือ ฉันมาเพื่อจะช่วย กรุณาเปิดทางให้ฉันด้วย
แม่เสือค่อยๆ หุบปากที่แยกเขี้ยวใหญ่ใส่เมื่อครู่ลง และยังคงยืนจ้องมองมาที่ร่างของแขกผู้ไม่ได้รับเชิญตรงหน้า ใบหน้านวลใสยิ้มอย่างเป็นมิตร และพูดซ้ำอีกครั้งว่า
กรุณาเถอะ เปิดทางให้ฉัน ฉันมาช่วยจริงๆ
ได้ผล ท่าทางแม่เสือสาวเปลี่ยนไป มันหมุนตัวหันกลับหลังและเดินออกห่างร่างของเสือตัวผู้ แล้ัวไปนอนหมอบอยู่ไม่ไกลจากร่างของคู่มันนัก หันหน้ามาจ้องมองว่า แขกผู้หวังดีจะทำอะไรต่อไป
ขอบใจ กัญชพรกล่าวกับแม่เสือ เธอเดินตรงไปที่ร่างของพ่อเสือโคร่งตัวใหญ่ มันนอนหายใจรวยรินเต็มที กัญชพรนั่งคุกเข่าสองข้างลงที่พื้นข้างๆ ร่างของพ่อเสือโคร่ง เอื้อมมือไปลูบที่กระโหลกศีรษะอันใหญ่โตของมัน และพูดกับมันว่า
ทำใจดีๆ ไว้นะพ่อเสือ ฉันมาดี ฉันมาเพื่อช่วย
จบคำของกัญชพร เธอดึงมือตัวเองกลับมาจากกะโหลกของพ่อเสือ และใช้มือทั้งสองถอดสร้อยที่ห้อยมณีนาคินทร์ออกจากคอของตัวเอง หญิงสาวรวบสร้อยพร้อมดวงมณีน้อยไว้ในอุ้งมือ แล้วประนมมือตั้งสมาธิจิตไปที่มณีนาคินทร์ที่อยู่ในอุ้งมือของเธอ และกล่าวอธิษฐานว่า
ด้วยอำนาจแห่งมณีนาคินทร์ ข้าขอพลังแห่งการรักษา เพื่อช่วยให้พ่อเสือหายเป็นปรกติด้วยเถิด เพื่อเป็นกุศลต่อไปในกาลข้างหน้า ขอพลังมณีนาคินทร์จงสัมฤทธิ์ผลด้วยเถิด
จบคำอธิษฐานของกัญชพร มณีนาคินทร์ภายในมือของกัญชพรก็เปล่งแสงสีเงินยวงรอดตามช่องนิ้วมือของหญิงสาวผู้ครอบครองมันออกมา กัญชพรค่อยๆ แบมือสองข้างออก แสงสีเงินยวงสว่างสดใส กัญชพรค่อยๆ เอามณีนาคินทร์ที่กำลังเปล่งแสงวางลงไปบนตัวของพ่อเสือที่กำลังนอนรอความตายอยู่ แล้วค่อยๆ ดึงมือกลับออกมา แสงแห่งมณีนาคินทร์ค่อยๆ แผ่กว้างขึ้น จนกระทั่งครอบร่างของพ่อเสือจนมิด แสงจ้าทำให้แม่เสือเองต้องหลับตาลง แต่เป็นเพียงชั่วเวลาเพียงแวบเดียวเท่านั้น แสงสว่างจ้าเมื่อครู่ก็หดกลับหายเข้าไปในดวงมณีนาคินทร์เหมือนเดิม ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปรกติ กัญชพรเอื้อมมือไปหยิบสร้อยห้อยมณีนาคินทร์ที่วางบนตัวพ่อเสือออกมา และค่อยๆ ลุกเดินถอยหลังไปสามสี่ก้าว และหยุดยืนมองดูผลของการรักษา ร่างของเสือโคร่งตัวผู้ค่อยๆ ขยับ และโงหัวขึ้นมาก่อน จากนั้นมันก็พลิกตัวอันใหญ่โตของมันลุกขึ้นยืน อ้าปากหาวเหมือนเสือเพิ่งตื่นนอน และสะบัดหัวไปมา เสือตัวเมียเมื่อเห็นตัวผู้ลุกขึ้นได้ มันก็รีบลุกขึ้นและวิ่งเยาะเข้ามาคลอเคลียทันทีอย่างดีใจ มันสองตัวผลัดกันเลียให้กันไปมาสักครู่ กัญชพรยืนมองภาพตรงหน้าอย่างมีความสุข รู้สึกอิ่มเอมใจอย่างประหลาด อัญญานีเดินเข้ามายืนข้างๆ ร่างของลูกศิษย์น้อย กัญชพรหันไปพูดกับแม่ครูจำเป็นอย่างดีใจว่า
มันหายแล้วค่ะ พี่อัญญานี
เ้จ้าใช้มณีนาคินทร์ได้ดีมาก อัญญานีชม กัญชพรหันกลับไปมองภาพเสือสองตัวที่ผลัดกันเลียกันไปมาอย่างมีความสุข และสำนึกในบุญคุณ มันทั้งสองหันมาทางที่กัญชพรและอัญญานียืนอยู่ และส่งเสียงคำรามขอบคุณพร้อมกัน กัญชพรยิ้มให้มันทั้งสอง
เรากลับกันเถอะ แม่ครูสาวชวน กัญชพรพยักหน้ารับ เธอหลับตาลง และเมื่อลืมตาอีกครั้ง ตัวเธอก็กลับมายืนอยู่ในห้องนอนข้างๆ เตียงตัวเองแล้ว
จำไว้นะกัญชพร ห้ามเจ้าใช้มันพร่ำเพื่อเด็ดขาด ใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
อัญญานีเตือนด้วยความหวังดี
ค่ะ กัญจะจำไว้ค่ะ กัญชพรรับปาก
เอาล่ะ คืนนี้ข้าว่าเจ้าเข้านอนได้แล้ว
ไม่พูดเปล่า อัญญานีใช้มือสองข้างจับแขนสองข้างของกัญชพรให้นั่งลงที่เตียง และเดินไปหยิบผ้าห่มที่ปลายเตียงคลี่ออก เตรียมจะห่มให้กัญชพร หญิงสาวล้มตัวลงนอนอย่างว่าง่าย อัญญานีห่มผ้าให้เธอจนถึงหน้าอก และนั่งลงข้างๆ เตียงนอนของกัญชพร กัญชพรค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง และผล็อยหลับไปอย่างเหน็ดเหนื่อย นาคีสาวนั่งจ้องมองใบหน้านวลนางของหญิงสาวและพูดเบาๆ ว่า
ช่างเหมือนจ้าวแสงมณีไม่มีผิด แล้วรำลึกไปถึงนายเก่าแล้วเศร้าใจ
ตอนที่ 35
ณ แดนฉิมพลี...พระเทวีศรีบงกชทรงกลัดกลุ้มพระทัยในการตัดสินพระทัยของพระสวามียิ่งนัก ทรงยืนทอดพระเนตรออกไปนอกพระบัญชร เห็นเหล่าหมู่ปักษีและปักษาพากันบินไปมาอย่างมีความสุข ทรงทอดถอนพระทัยและรำพันว่า
จ้าวพี่จะทรงทำผิดครั้งใหญ่นะเพคะ
พระเทวีทรงใช้ทิพยญานลงสู่ภพมนุษย์ ภาพที่พระนางต้องการเห็นคือหญิงสาวที่กำลังจะตกเป็นเหยื่อในการล้างแค้นของพระสวามีแห่งนาง...กัญชพรกำลังใส่บาตรพระภิกษุรูปหนึ่งอยู่
นางมนุษย์ผู้นี้เป็นคนดี แต่นางกำลังจะมีเคราะห์เพราะสวามีแห่งเราเป็นต้นเหตุ กัญชพรข้าจะช่วยเจ้าอย่างไรดี?
กัญชพรประนมมือรับพรจากพระภิกษุที่เพิ่งรับบาตรเสร็จ และจบปลายนิ้วไปที่หน้าผากของเธอเมื่อพระให้พร แม่นิ่มก็รับพรพระเช่นเดียวกัน เมื่อพระให้พรเรียบร้อย ท่านก็ค่อยๆ เดินสำรวมจากไปพร้อมลูกศิษย์วัดวัยไม่เกินสิบปี กัญชพรยืนมองชายผ้าเหลืองที่ปลิวไสวตามแรงลมอย่างอิ่มใจ แม่นิ่มยื่นขวดน้ำให้
นี่ค่ะ คุณกัญกรวดน้ำตรงนี้ก็ได้ค่ะ มีต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงโน้นแน่ะ
แม่นิ่มชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลจากที่ยืนใส่บาตรกัน กัญชพรยิ้มและรับขวดน้ำจากมือแม่นิ่มมาถือไว้ และเดินไปกรวดน้ำที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แม่นิ่มบอก แม่นิ่มยืนคอยนายสาวอยู่ที่เดิม
กัญชพรนั่งลงและเริ่มท่องบทกรวดน้ำและค่อยๆ เทน้ำจากขวดลงบนแม่ธรณีที่โคนต้นไม้ใหญ่ และกล่าวอธิษฐานว่า
ด้วยผลบุญกุศลที่ลูกได้สร้างมา ขอให้ผลบุญเหล่านั้นจงช่วยให้วิญญาณพ่อและแม่ของกัญ พี่แสงขวัญ พี่อัญญานีและสรรพสัตว์ทั้งหลายจงมีความสุข อย่าได้ทุกข์กายทุกข์ใจเลย ขอจงสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากเภทภัยทั้งหลายทั้งปวงเถิด สาธุ
น้ำหยดสุดท้ายไหลรินรดพระธรณี ลมอ่อนๆ ก็โชยพัดผ่านกายของกัญชพรอย่างชุ่มชื่น แล้วลุกขึ้นเดินกลับมาหาแม่นิ่ม
เรากลับกันเถอะค่ะแม่นิ่ม กัญชพรเอ่ยชวนทันทีที่เดินมาถึง
ค่ะ แม่นิ่มตอบ
ระหว่างทางกลับบ้านพัก แม่นิ่มขอกัญชพรแวะซื้อของใช้ที่ร้านค้าเล็กๆ กัญชพรยืนรอแม่นิ่มอยู่หน้าร้าน แล้วเธอก็เหลือบไปเห็นหนังสือพิมพ์รายวันของเช้าวันนี้วางอยู่บนโต๊ะใกล้กับที่เธอยืนคอยแม่นิ่ม กัญชพรจึงเอื้อมมือไปหยิบขึ้นมาดู ข่าวหน้าหนึ่ง พาดหัวข่าวเรื่องเสือโคร่งที่รอดตายอย่างปาฏิหาริย์
นี่พ่อเสือตัวนั้นนี่ มันหายแล้วจริงๆ ด้วย กัญชพรพูดคนเดียว แล้วเธอก็ กางออกอ่านรายละเอียดของข่าวด้านล่าง
สัตวแพทย์และคนเลี้ยงพบความประหลาดใจ หลังจากตอนเช้าพบว่าเสือโคร่งเพศผู้จู่ๆ ก็หายป่วย ลุกขึ้นมาเดินไปมา หลังจากที่สัตวแพทย์ลงความเห็นว่ามันควรตายตั้งแต่เมื่อคืน หลังจากพบความประหลาดใจ สัตวแพทย์เข้าทำการตรวจร่างกายเสือเพศผู้ดังกล่าว ปรากฏว่าร่างกายแข็งแรงเป็นปรกติ ไม่มีอาการเจ็บป่วยแต่ประการใด สร้างความตื่นเต้นและประหลาดใจแ่ก่สัตวแพทย์และเจ้าหน้้าที่ของสวนสัตว์เป็นอย่างยิ่ง...
รายละเอียดของข่าวยังมีต่ออีกด้านใน แต่กัญชพรก็อ่านเพียงแค่ด้านหน้ารายวันเท่านั้น เธอจ้องภาพเสือโคร่งสองตัวอย่างมีความสุข เธอยิ้มให้กับภาพนั้นคนเดียว แม่นิ่มเดินมาเห็นนายสาวยืนยิ้มมองหน้าหนังสือพิมพ์อยู่ จึงเอ่ยถามว่า
มีอะไรน่าดีใจหรือคะคุณกัญ แม่นิ่มเห็นยืนอ่านหนังสือพิมพ์แล้วก็ยิ้มคนเดียว
อ๋อ อ่านข่าวเสือโคร่งค่ะแม่นิ่ม มันโชคดีนะคะที่มันหายป่วย กัญชพรตอบ แล้วส่งหนังสือพิมพ์รายวันในมือของตัวเองให้แม่นิ่ม แม่นิ่มรับไปอ่านเฉพาะหัวข้อข่าวใต้ภาพเท่านั้น และเงยหน้าพูดว่า
อืม จริงด้วยค่ะ มันโชคดีจริงๆ ที่หายได้อย่างมหัศจรรย์ นี่ล่ะค่ะ เขาว่าถ้าไม่ถึงฆาตก็ไม่ตายง่ายๆ หรอก
แม่นิ่มซื้อของเสร็จหรือยังคะ? กัญชพรเปลี่ยนเรื่องพูดทันที
อ๋อ เสร็จแล้วค่ะ แม่นิ่มตอบ
งั้นเรากลับกันเถอะค่ะ กัญรู้สึกหิวแล้วล่ะ กัญชพรบอก แล้วสองสาวต่างวัยทั้งสองก็พากันออกจากร้านขายของเล็กๆ ไป
หลังอาหารเช้า รัศมีนั่งอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน ตวงสิทธิ์และกัญชพรเดินลงมาจากข้างบนพร้อมกัน รัศมีจึงวางหนังสือพิมพ์รายวันที่กำลังอ่านลง และเอ่ยเรียกอย่างอารมณ์ดีว่า
ตวง หนูกัญ มานั่งตรงนี้ก่อนสิลูก
ตวงสิทธิ์และกัญชพรมองหน้ากัน แล้วพากันเดินตรงไปหารัศมี
มีอะไรหรือครับคุณแม่? ตวงสิทธิ์เอ่ยถามทันทีที่นั่งเก้าอี้ใกล้มารดา กัญชพรหย่อนตัวนั่งเก้าอี้อีกด้านหนึ่งข้างรัศมี
เราก็มาพักผ่อนที่นี่ก็เกือบเดือนแล้ว แม่ว่าเราน่าจะกลับกรุงเทพฯ กันได้แล้วล่ะ เผื่อจะได้กลับไปเตรียมอะไรต่อมิอะไรอีก รัศมีเอ่ยแฝงความในไว้ในคำพูด ทั้งกัญชพรและตวงสิทธิ์รู้ดี กัญชพรมองหน้าพี่ชายและพูดกับเขาว่า
พี่ตวงคะ พี่น่าจะบอกน้ารัศมีได้แล้วนะคะ เรื่องของเรา
มีอะไรกันหรือ? รัศมีรีบถามทันที แต่พยายามซ่อนความตื่นเต้นไว้ ผิดกับตวงสิทธิ์ที่ทำหน้าไม่ถูก อึดอัดใจ ไม่รู้จะขึ้นต้นอย่างไรดี
คือว่า.... ตวงสิทธิ์พยายามจะเอ่ย แต่ยังหนักใจเรื่องที่จะพูดกับมารดา
พี่ตวงคะ ติดอ่างอยู่นั่นแหละ กัญชพรเร่ง ทำให้รัศมีเข้าใจผิดไปกันใหญ่คิดว่าจะได้รับข่าวดีที่หวังไว้มานาน ตวงสิทธิ์ทำหน้าไม่ถูก เขาอึ้งไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอย่างไรต่อดี ทำให้กัญชพรต้องออกหน้า
เอางี้ดีกว่า กัญพูดเองดีกว่า
แล้วกัญชพรก็หันไปทางรัศมี ซึ่งตอนนี้นั่งอมยิ้มรอฟังข่าวดีจากปากของทั้งสองคนอยู่
เรากลับกรุงเทพฯ กันก็ดีค่ะ กัญจะได้กลับไปเตรียมงานแต่งงานให้พี่ตวงด้วย กัญชพรบอก
แต่งงาน แต่งกับหนูกัญใช่มั้ยลูก? รัศมีถามอย่างตื่นเต้น ความฝันอันรอคอยมาเนิ่นนาน กำลังจะเป็นจริงอีกไม่นานนี้แล้ว
เปล่าค่ะ คำตอบของกัญชพรทำเอารัศมีหุบยิ้มแทบไม่ทัน มารดาของตวงสิทธิ์เริ่มไม่เข้าใจ เธอหันไปมองหน้าบุตรชายของตัวเอง ตวงสิทธิ์ทำหน้าปั้นยากทันที
หมายความว่ายังไงตาตวง? รัศมีเอ่ยถามเสียงเครียด ตวงสิทธิ์ยิ้มแหยให้มารดาแทน กัญชพรรีบพูดแทนพี่ชายทันทีว่า
เราจะกลับไปเตรียมงานแต่งงานให้เร็วที่สุดค่ะ และงานนี้เจ้าสาวของพี่ตวงก็คือคุณพินทิพย์ค่ะ
อะไรนะ? รัศมีแหกปากออกดังอย่างไม่ตั้งใจ เท่านั้นรัศมีก็ดีดตัวลุกขึ้นยืนทันทีและประกาศออกมาดังๆ ว่า
ไม่ได้ ฉันไม่ให้แต่งกันเด็ดขาด
น้ารัศมีคะ ฟังกัญก่อน นั่งก่อนค่ะ แล้วเราสามคนค่อยๆ คุยกัน กัญชพรบอก พร้อมลุกขึ้นเอื้อมมือไปดึงมือของน้ารัศมีให้นั่งลงที่เก้าอี้เหมือนเดิม รัศมีทรุดนั่งลงที่เดิมอย่างไม่พอใจ แล้วหันไปทางลูกชายหัวแก้วหัวแหวน มองเขาตาเขียว และกัดฟันโกรธพูดใส่หน้าเขาว่า
เสียแรง
อย่าไปว่าพี่ตวงสิคะ พี่ตวงไม่ได้ผิดอะไร ระหว่างกัญกับพี่ตวง เราสองคนเป็นพี่น้องกัน ไม่มีวันหรอกค่ะ ที่จะเปลี่ยนเป็นฐานะอื่นได้ น้ารัศมีต้องเข้าใจนะคะ เห็นใจพวกเราเถอะค่ะ
กัญชพรอ้อนวอน รัศมีเมินหน้าหนีไปทางอื่นไม่พูดอะไรทั้งสิ้น เธอกลั้นน้ำตาไว้อย่างสุดใจ
อีกอย่าง อีกไม่นานน้ารัศมีก็จะได้อุ้มหลานแล้ว กัญเองก็อยากอุ้มหลานเหมือนกัน เราควรจะดีใจนะคะ บ้านเราไม่มีเด็กเล็กๆ มาวิ่งเล่นเลย กัญเชื่อว่ายังไงเสีย เจ้าตัวเล็กจะทำให้บ้านของพวกเราหายเหงาได้
กัญชพรพยายามพูดโน้มน้าวใจน้ารัศมี แต่ตอนนี้ไม่ว่าใครจะพูดอะไร รัศมีเองไม่ยอมรับใดๆ ทั้งสิ้น ความรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงแล่นเข้ามาในจิตใจของเธอจนท่วมล้น หลังจากนั่งฟังหลานสาวพูดจนเสร็จ รัศมีเชิดหน้าและพูดเสียงแข็งใส่สองพี่น้องที่นั่งอยู่ด้วยกันว่า
พวกเธอจะทำอะไรก็เชิญ ในเมื่อเห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอก็เชิญตามสบาย ถือเสียว่าไม่มีฉันอยู่ในบ้านก็แล้วกัน มีอะไรอีกมั้ย ถ้าไม่มีฉันจะไปเก็บเสื้อผ้า
รัศมีพยายามควบคุมอารมณ์ให้นิ่งที่สุด เมื่อไม่มีใครพูดอะไรต่อ รัศมีจึงสะบัดกายลุกขึ้น และเดินจ้ำขึ้นห้องไป สองหนุ่มสาวมองตามหลังผู้ใหญ่ไป ตวงสิทธิ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างหนักใจ
ทันทีที่กายพ้นผ่านประตูห้องเข้ามา รัศมีก็ล็อคประตู และน้ำตาที่กลั้นไว้เมื่อครู่ก็หลั่งไหลออกมาจากเบ้าตาอย่างผิดหวัง เธอเดินรี่ไปที่เตียงนอน หยิบหมอนหนุนขึ้นมาฟาดกับที่นอนอย่างบ้าคลั่ง
ทำไม ทำไม ต้ัองเป็นอย่างนี้ ในที่สุดฉันก็ต้องแพ้อีกแล้้วหรือนี่ ทำไมโลกนี้ถึงไม่ยุติธรรมกับฉันเลย ทำไม? ฮือๆๆๆๆ
รัศมีฟาดหมอนบนที่นอนอย่างบ้าคลั่งและเหวี่ยงมันออกไปพ้นตัว และทิ้งตัวนอนร้องไห้เหมือนเด็ก มือทุบที่นอนอย่างขัดใจ
สองพี่น้องยังคงนั่งอยู่ที่เก้าตัวเดิม ตวงสิทธิ์แสนจะกลุ้มใจอย่างหนัก เขาไม่รู้ว่าต่อไปเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร มารดาของเขาจะรับเรื่องนี้ได้หรือไม่ คิดไปสารพัดในหัว กัญชพรจึงเอื้อมมือไปจับแขนพี่ชายและพูดว่า
พี่ตวง ต้องให้เวลาน้ารัศมีหน่อยนะคะ ตอนนี้น้ารัศมีคงยังช็อคเรื่องนี้อยู่ พวกเราต้องให้เวลาเค้านะคะ เชื่อกัญเถอะค่ะ
ตวงสิทธิ์มองหน้าน้องสาวและพยักหน้ารับ และพูดว่า
ขอบคุณนะน้องกัญ พี่บอกตรงๆ พี่รู้สึกว่ากัญเปลี่ยนไปมาก เมื่อก่อนพี่รู้สึกว่ากัญเป็นเด็กผู้หญิงที่อ่อนแอ แต่มาวันนี้ พี่กลับรู้สึกว่า เหมือนไม่ใช่น้องกัญคนเดิมที่พี่ตวงรู้จัก พี่รู้สึกแปลกๆ เมื่ออยู่ใกล้น้องกัญ เหมือนว่ามีสายตาอีกคู่คอยจับตาดูตลอดเวลา พี่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นะ
งั้นหรือคะ พี่ตวงคงคิดมากไปเองหรือเปล่า ไม่มีอะไรหรอกค่ะ กัญคงโตขึ้น ไม่ใช่เด็กขี้แยหรือเด็กอ่อนแอคนเดิมอีกแล้วก็ได้
กัญชพรตอบและยิ้มให้พี่ชายที่ยังคงมองหน้าเธออยู่ แล้วตวงสิทธิ์ก็นึกขึ้นมาไ้ด้ว่า
จริงด้วย นี่ก็ใกล้ต้องไปหาหมอแล้วไม่ใช่หรือ พี่ว่าเรารีบกลับกรุงเทพฯ ก็ดีนะ งั้นวันนี้พี่คงต้องออกไปหาพินก่อน แล้วบ่ายๆ พี่ค่อยกลับมาเก็บของ พี่ฝากดูคุณแม่ด้วยนะ
ได้ค่ะ ไปเถอะค่ะ บอกด้วยนะคะว่ากัญคิดถึงพี่พิน กัญชพรยิ้ม
โอเค จะบอกให้นะ ตวงสิทธิ์ยิ้ม และลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งเมื่อครู่ และเดินออกจากบ้านพักไปขึ้นรถสตาร์ทออกไป รัศมีมองจากด้านบนระเบียงห้องของตัวเองลงมา เห็นรถยนต์ที่ลูกชายเช่ามาไว้ใช้แล่นออกไป เธอมองตามด้วยสายตาที่ผิดหวัง
นี่ฉันเสียเวลาไปเปล่าๆ ตั้งสิบแปดปีเชียวหรือ ทำไมนะ ทำไม คุณพ่อ คุณแม่ลำเอียง รักแต่พี่ลักขณากับพี่ราตรี ไม่มีใครรักฉันสักคนเลย แล้วรัศมีก็ทรุดตัวลงนั่งกอดเข่าร้องไห้คนเดียวที่ระเบียง
กัญชพรเดินขึ้นห้องนอนของตัวเอง อัญญานีนั่งคอยอยู่ที่เตียงนอนอยู่ก่อนแล้ว
กัญจะกลับกรุงเทพฯ แล้วค่ะพี่อัญญานี กัญชพรบอกล่าวพี่เลี้ยงจำเป็น
ข้ารู้แล้ว อัญญานีตอบหน้าตาเฉย กัญชพรเดินเข้าไปนั่งบนเตียงข้างๆ พี่เลี้ยงจำเป็น และเอ่ยชวนเธอว่า
พี่อัญญานีไปอยู่กับกัญที่กรุงเทพฯ นะคะ
ให้ข้าไปอยู่ที่ใดเล่า? อัญญานีแกล้งถาม
ก็ห้องกัญไง กัญชพรตอบ อัญญานีหัวเราะเสียงใส กัญชพรสงสัยว่าเธอพูดเรื่องอะไรน่าขำหรือ?
พี่อัญญานีหัวเราะอะไรหรือคะ?
ห้องเจ้าเล็กนิดเดียว เกิดข้าไปนอนแล้วเผลอดิ้นก็ทับเจ้าแบนน่ะสิ อัญญานีแกล้งพูดตลก กัญชพรยิ้มและตอบว่า
โธ่ นึกว่าเรื่องอะไร พูดเล่นไปได้
พูดจบก็หันออกไปมองนอกหน้าต่าง จิตใจของสาวน้อยเริ่มล่องลอยอีกครั้ง อัญญานีเห็นอาการของนางมนุษย์น้อยแล้วก็ต้องถอนใจ
พี่แสงขวัญไม่เห็นมาหากัญเลย พี่เขายุ่งมากหรือคะ? กัญชพรเอ่ยถาม
พระองค์ทรงกำลังจัดการเรื่องทางบาดาลนครอยู่ อัญญานีตอบและหลบสายตาของกัญชพร กัญชพรสังเกตเห็นสีหน้าและอาการของอัญญานีเปลี่ยนไป ดูเหมือนมีรอยกังวล
พี่อัญญานีกำลังปิดบังอะไรกัญอยู่ใช่มั้ยคะ? กัญชพรเอ่ยถาม อัญญานีนิ่งเงียบไป สาวน้อยจึงเริ่มคาดคั้นความจริง
เกิดอะไรขึ้นกับพี่แสงขวัญหรือคะ? บอกกัญมาตรงๆ ดีกว่า
อัญญานียังคงเงียบ ไม่ตอบ กัญชพรดีดตัวลุกขึ้นยืนทันทีั และถามซ้ำว่า
เกิดอะไรขึ้นกับพี่แสงขวัญ?
อัญญานีตกใจ เพราะเพียงแค่แวบเดียวที่กัญชพรเปล่งวาจา เหมือนร่างของกัญชพรเปลี่ยนไปเป็นจ้าวแสงมณี
จ้าวแสงมณีั เสียงนาคีสาวสั่นเครือ แล้วเพียงเสี้ยวเดียวร่างนั้นก็กลับเป็นร่างกัญชพรเหมือนเดิม
กัญถามว่าเกิดอะไรขึ้น? กัญชพรยังคงยิงคำถามเดิมซ้ำอีก อัญญานีได้สติ นางค่อยๆ ลำดับเหตุการณ์เล่าให้กัญชพรฟัง
แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 54 20:52:03
แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 54 20:42:42
จากคุณ |
:
ศรนรินทร์
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเถลิงศก 54 19:11:46
|
|
|
|