ห้วงแห่งนิทรา
ยามดึกคืนหนึ่ง
ผมขับรถอยู่บนถนนลูกรัง เต็มไปด้วยหลุมบ่อ สองข้างทางดูมืดมิด ไม่มีบ้านเรือนผู้คนไม่มีแม้รถสักคันวิ่งสวนทาง มีเพียงแสงไฟจากรถที่ขับอยู่ส่องทางเท่านั้น ถนนเส้นนี้อยู่ส่วนใดของโลกกันแน่ ผมมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกันนะ
ผมจับต้นชนปลายไม่ถูก ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสนมึนงงไปหมดสิ่งเดียวที่นึกออกเวลานี้ คือ พาตัวเองออกจากถนนบ้าๆเส้นนี้ให้เร็วที่สุด
และแล้วความหวังของผมเรืองรองขึ้นมาโดยพลัน เมื่อขับรถฝ่าความมืดมาเรื่อยๆไม่นานนัก ก็ปรากฎ เงาร่าง ของชาย ผู้หนึ่งเดินตะคุ่มๆสวนขึ้นมาตรงฝั่งด้านที่ผมนั่งขับรถ ผมค่อยๆชะลอความเร็ว เปิดกระจกอัตโนมัติ ลง
มองผ่านความมืดชายผู้นี้ แก่ชรา มากแล้ว เมื่อ รถเกือบหยุดนิ่ง ผม ยื่นหน้าออกไปถามชาย ผู้นี้ว่า
คุณลุงครับ นี่ที่ไหนเหรอครับ? ผมจะออกสู่ถนนใหญ่อย่างไงครับ?
ชาย ผู้นี้มองมาทางผมด้วยสายตาไม่กระพริบทำสีหน้าเรียบเฉยเย็นชาไม่มีเสียงตอบรับใดๆ แต่ ชี้มือไปตามเส้นทางที่ผมขับรถอยู่ แล้วชาย ผู้นี้ก็เดินจากไปในความมืดนั้นทันที
ผมนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ เมื่อไร้เสียงตอบเอี้ยวคอไปมองชายผู้นั้นอีกครั้งหนึ่ง
อ่ะ ชาย ผู้นั้นอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้ว
ผมมองแง่ดี ชาย ผู้นั้นอาจเดินเข้าข้างทางเพื่อทำธุระส่วนตัวก็เป็นได้
ทว่า สมอง ของผมคิดกลับไปอีกทาง เป็นไปได้อย่างไร สองข้างที่ขับรถผ่านมาไม่มีแม้บ้านเรือนผู้คน จะมีคนเดินบนถนนได้ยังไง ชายชราผู้นั้นหายไปไหนกันเล่า เป็นดังนั้น
ขนทั่วร่างลุกซู่เลือดในกายเย็นยะเยียบ แข้งขาแข็งทื่อไร้เรี่ยวแรง หัวใจเต้นระรัวจะหลุดทะลุออกจากอกเสียให้ได้
ผมรวบรวมสติขึ้น มาอีกครั้ง ขับรถฝ่าไปในความมืดอย่างรวดเร็ว
ขับรถมาได้อีกซักพักใหญ่ๆ ก็ พบปั๊มน้ำมันทางซ้ายมือ...รอดแล้วๆโว๊ย ผมสะกดกั้นความลิงโลดใจไม่อยู่ หักเลี้ยวพวงมาลัยเข้าไป ภายในอาณาบริเวณ กวาดสายตามองรอบๆ ปั๊มน้ำมันแห่งนี้ใช้แสงไฟจากตะเกียงพายุส่องสว่างเพียงสองจุดเท่านั้น ไม่มีไฟฟ้า บริเวณด้านข้างเป็นลานจอดรถ ถัดไปเป็นห้องน้ำ บริเวณด้านหน้าเป็น ปั๊มแบบหลอดวางอยู่บนถังบรรจุขนาด200 ลิตร มีตะเกียงแขวนอยู่บนขื่อบังฝน บริเวณ
ด้านหลังเป็นสำนักงานขนาดเล็กๆ มีตะเกียงจุดไฟส่องสว่าง พบ สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี คู่หนึ่งอยู่ที่นั่น กำลังสนทนา หรือโต้เถียงกันผมไม่แน่ใจนัก
เมื่อรถเข้ามาจอดเทียบหัวจ่ายเติมน้ำมัน คนทั้งสองหันมามองผมเกือบจะพร้อมๆกัน และสุภาพสตรีที่อยู่ภายในสำนักงานจึงเดินออกมา ผม เอื้อมมือไปปลดตัวล็อคฝาถังน้ำมัน แล้วก้าวลงจากรถ ได้กลิ่นอับบางอย่างยามลมพัดโชยปะทะจมูกกลิ่นมันเหม็นชวนอ้วก อาจจะเป็นซากสัตว์ที่ตายแล้วแถวนี้ก็เป็นได้ ผมคิด เต็มถัง ครับ ผมพูดพร้อมส่งยิ้มให้แก่เธออย่างเป็นมิตร เธอไม่พูดอะไรนอกจากเดินไปเปิดฝาถังน้ำมันรถแล้วเติมน้ำมันลงไป
ผมเหลือบมองไปที่เธอ มีอายุราวกลางคนเห็นจะได้ บนใบหน้าไม่ได้ แสดงอารมณ์ใดๆ เธอทำงานของเธอไปอย่างเงียบเชียบ บรรยากาศโดยรอบมืดสลัวและวังเวงสิ้นดี
พี่สาวครับ นี่ถนนอะไรครับ ผมจะออกไปถนนใหญยังไงครับ ผมถาม
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ เมื่อ จ่ายน้ำมันเสร็จ เธอชูนิ้วมือสี่นิ้ว.....เธอเป็นใบ้หรือนี่ ผมคิดในใจ พร้อมกับควัก ธนบัตร 500 บาทให้.. เธอเดินเข้าสำนักงานไปอย่างรวดเร็ว
สายตาผมมองตามเธอผู้นั้นหายเข้าไปภายในสำนักงาน เห็นคนทั้งสองยืนโต้เถียงกันอีกครั้ง แต่คราวนี้ดูรุนแรง เมื่อฝ่ายชายใช้อะไรบางอย่างแทงไปที่ร่างกายเธอผู้นั้นอย่างแรง..
ผมตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ แล้ววิ่งไปเปิดประตูกระจกนั่น อย่าครับ อย่าทะเลาะกัน ชาย-หญิง ทั้งคู่ เพ่งมองที่ผมด้วยสายตาน่ากลัวยิ่งใบหน้าคนทั้งสองเละเปรอะไปด้วยเลือด มีดปักคาอยู่ที่ท้องเลือดท่วมร่างกายเธอผู้นั้นจากนั้นคนทั้งสองเดินมาที่ผมทันที ผมตกใจสุดขีด หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าซีดเซียว ปากสั่น ผี ผี ผี
หันหลังกลับ วิ่งหนีสุดชีวิต
จากคุณ |
:
atk
|
เขียนเมื่อ |
:
18 เม.ย. 54 11:51:41
|
|
|
|