Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[ซีรีส์พระจันทร์] ลางรักจันทร์ลิขิต ตอนที่ ๑๐ ติดต่อทีมงาน

“ปัญหามันอยู่ที่ว่า คนร้ายรู้ได้อย่างไรว่ามินนี่จะมาหาผมคืนนั้น ขนาดผมเอง ผมยังไม่รู้เลย”

คีราณให้พาลิศกับจิลลาออกจากห้องไปพักผ่อนที่อื่นก่อน ส่วนตัวเขาเองหันมาปรึกษากับโควินและทนายความต่อ

“คิดได้สองแง่ครับ” โควินลองเสนอคำตอบ “กรณีแรก ผมคิดว่าคนร้ายน่าจะสนิทสนมกับคุณจารุคามินดี พอมันรู้ว่าเธอต้องมาพบเชวาคืนนั้น ก็เลยมาดักรอ... เชวาพอจะนึกออกไหมครับ ว่าคนที่สนิทสนมกับเธอมาก ๆ นอกจากเชวาแล้วยังมีใครอีกบ้าง”

“เยอะแยะ” คีราณตอบโดยไม่ต้องคิด “มินนี่เป็นดารา เรื่องมีผู้ชายมากหน้าหลายตามาติดพันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว”

“แล้วคนที่ดูท่าทางมีความแค้นกับหล่อนล่ะครับ”

“นั่นก็เยอะแยะอีกเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ตบตีกันเรื่องแย่งบท แย่งงาน แต่คงไม่ถึงขั้นคิดฆ่าแกงกันหรอกมั้ง”

ทนายความหัวเราะเบา ๆ มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างผู้มีประสบการณ์

“สรุปแล้วมีทั้งปมชู้สาวและปมผลประโยชน์เลยสินะครับ ดูเผิน ๆ เหมือนเป็นแค่คดีฆาตกรรมธรรมดา แต่พยานและสิ่งแวดล้อมกลับทำให้มันดูซับซ้อนขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ”

โควินเงียบไปครู่หนึ่ง คล้ายกำลังตรึกตรองอะไรบางอย่าง ก่อนพูดออกมาในที่สุด

“ถ้างั้นคนที่น่าจะรู้ทุกอย่างดีที่สุด ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวของหล่อนก็คือ...”

“อัลเล!”

คีราณเพิ่งนึกถึงชื่อนี้ออกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น

“ใช่แล้ว อัลเลเป็นผู้จัดการส่วนตัวของมินนี่ ดังนั้นถ้าเธอมาหาผมที่นี่ เขาก็ต้องรู้สิ”

“แต่ข่าววงในรายงานเข้ามาว่า สารวัตรอนิรูทธเรียกตัวอัลเลไปสอบปากคำตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะครับ” ทนายความบอกเสียงเรียบ “เพียงแต่ไม่ทราบว่าในฐานะคนสนิทของผู้ตาย หรือในฐานะผู้ต้องสงสัยเท่านั้นเอง”

“ทำไมพวกคุณถึงคิดว่าอัลเลเป็นผู้ต้องสงสัยล่ะ” คีราณย้อนถาม “จริงอยู่... อัลเลเป็นคนใกล้ชิดสนิทสนมกับมินนี่มากที่สุด แต่ไม่มีเหตุผลที่เขาจะฆ่าเธอเพื่อให้ตัวเองตกงานนี่ อีกอย่าง ถึงแม้มินนี่จะสร้างเรื่องปวดหัวให้อัลเลต้องตามแก้บ่อย ๆ แต่ถ้าไม่พอใจหรือโกรธเคืองกัน เขาก็น่าจะลาออก ไม่ใช่ฆ่าเธอ”

โควินส่ายหน้าช้า ๆ บอกว่า

“นั่นเพราะเชวามองโลกในแง่ดีเกินไปน่ะสิครับ คนเราแต่ละคนต่างมีวิธีในการแก้ปัญหาไม่เหมือนกัน ยิ่งถ้ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันด้วยแล้ว การลาออกหรือแยกจาก โดยไม่ได้เคลียร์กันให้รู้เรื่องเสียก่อน มันจะยิ่งทำให้ความรู้สึกไม่ดีต่าง ๆ คั่งค้างอยู่ในจิตใจมากขึ้น”

“ผมเองก็คิดเหมือนคุณโควิน” ทนายความเอ่ยสนับสนุน “เพราะโดยรูปคดี สภาพศพและพฤติกรรมของผู้ตายแล้ว มีสิทธิ์เป็นไปได้มากทีเดียว ที่หล่อนจะถูกฆ่าด้วยน้ำมือของคนสนิทโดยมีแรงจูงใจเป็นเรื่องชู้สาว”

“เดี๋ยวสิ พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว” คีราณสวนขึ้นทันควัน “ระหว่างมินนี่กับอัลเลไม่มีทางเกิดเรื่องชู้สาวขึ้นได้อย่างแน่นอน เพราะมินนี่เคยบอกผมว่า... อัลเลไม่ใช่ผู้ชาย”

“เอ๋... สาวประเภทสองเหรอครับ ?”

“ไม่ใช่” คีราณส่ายหน้า “อัลเลเป็น 'เกย์' ต่างหาก”

คำนั้นทำให้โควินนึกอยากเสมองออกไปยังทิวทัศน์นอกหน้าต่าง แต่กลับพบว่าตนเองเป็นคนรูดม่านปิดเอาไว้ตั้งแต่ตอนเข้ามา เขาจึงได้แต่ระบายลมหายใจยาว ฟังเชวาพูดต่อไปว่า

“เธอถึงได้จ้างเขาเป็นผู้จัดการไงล่ะ เพราะถ้าอัลเลเป็นผู้ชาย ไม่ช้าก็เร็วคงต้องตกเป็นข่าวกันแน่ ...ดาราสาวกับผู้จัดการหนุ่ม นั่นไม่ใช่เรื่องที่บรรดาแฟนคลับจะยอมรับได้”

“นั่นซีนะครับ” ทนายความเห็นด้วย “เดี๋ยวนี้ดาราส่วนใหญ่นิยมมีผู้จัดการส่วนตัวเป็นเกย์ หรือไม่ก็สาวประเภทสองกันทั้งนั้น เพราะคนพวกนี้พูดจาคล่องแคล่ว แก้สถานการณ์ได้ดี ตีสนิทกับนักข่าวได้เร็ว และตัดปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ฉันชู้สาว แต่... ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับว่า สิ่งที่คุณจารุคามินพูดมานั้น มันเป็นความจริงหรือไม่ เพราะเท่าที่ผมตรวจสอบข้อมูลของหล่อนดูคร่าว ๆ พบว่า ดาราสาวคนนี้ไม่เคยให้สัมภาษณ์ถึงสิ่งที่เป็นความจริงเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ลองคิดดูให้ดีนะครับเชวา ถ้าหากผู้จัดการของหล่อนไม่ใช่เกย์ แต่เป็นผู้ชาย หรือพูดตรง ๆ กันไปเลยว่าเป็น 'สามี' ก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะฆ่าหล่อน เพราะทนหึงหวงพฤติกรรมเจ้าชู้คบผู้ชายไม่เลือกหน้าของหล่อนต่อไปไม่ไหว”

คีราณไม่รู้จะตอบอย่างไร เขารู้ว่าจารุคามินชอบพูดโกหก แต่นั่นไม่อาจอนุมานได้ว่า หล่อนกับอัลเลมีความสัมพันธ์กันฉันชู้สาวจริง ในขณะเดียวกันถ้าหากสิ่งที่ทนายความกล่าวมานั้นถูกต้อง ก็เท่ากับว่าตัวเขาเองอยู่ในฐานะเป็น 'ชู้' โดยไม่รู้ตัว และมีส่วนทำให้หล่อนถูกฆ่าตาย

“โควิน คุณคิดว่าอย่างไร”

“ผมคิดเหมือนคุณทนายครับ” โควินหันกลับมาตอบตามตรง กลบเกลื่อนรอยประหลาดในแววตาได้อย่างมิดชิด “แต่ทั้งนี้เราต้องไม่ลืมคิดถึงอีกแง่มุมหนึ่งที่ว่า บางทีคนร้ายอาจจะไม่ได้รู้จักคุณจารุคามินมาก่อนเลยก็ได้”

“หือ? ไม่รู้จักแล้วมาฆ่ากันเนี่ยนะ ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็นพวกฆาตกรโรคจิตน่ะซี”

“ก็อาจเป็นได้ครับ บางทีคนร้ายอาจป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้นเพื่อจุดประสงค์อะไรบางอย่าง แล้วบังเอิญมันเห็นหล่อนเข้า หรือไม่ก็หล่อนเป็นฝ่ายเห็นมันกำลังทำความผิดอะไรสักอย่าง มันก็เลยจำเป็นต้องฆ่าหล่อนปิดปาก”

“แล้วคนร้ายมันจะไปป้วนเปี้ยนทำความผิดอะไรได้ล่ะ ในเมื่อแถวนั้นมีแค่ผมกับ... เฮ้ย! ไม่จริงน่ะ”

เชวาหนุ่มสะดุ้งเฮือกทันทีเมื่อคิดออก

“ครับ” โควินพยักหน้าช้า ๆ “เชวาเข้าใจถูกต้องแล้ว ท่านหญิงวราลีกานดาอาจจะตกเป็นเหยื่อของคนร้ายก็ได้ ถ้าหากมันไม่บังเอิญเจอคุณจารุคามินเข้าซะก่อน”

ได้ฟังแบบนั้นแล้ว คีราณก็ถึงกับหน้าถอดสี

“เป็นไปได้ยังไง หล่อนเป็นถึงท่านหญิงตระกูลไทวาวัต ใครจะกล้าคิดร้ายกับหล่อน”

“แต่เชวาก็ปฏิเสธไม่ได้ไม่ใช่หรือครับว่า รีสอร์ทจันทร์พยับดำเนินกิจการมาหลายสิบปีโดยไม่เคยมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นมาก่อน จนกระทั่งท่านหญิงมาถึง...”

ทนายความลดเสียงลงกล่าว แม้ว่าในที่นั้นจะมีผู้ร่วมสนทนาอยู่เพียงแค่สามคนก็ตาม

“ดังนั้นถ้าหากท่านหญิงไม่ใช่เป้าหมายแรกของคนร้าย ก็อาจตีความได้อีกอย่างหนึ่งว่า... ขออภัยนะครับที่ต้องพูดตรง ๆ แต่... ท่านหญิงอาจจะเป็นคนร้ายซะเองก็ได้”

นี่ก็เป็นอีกสมมุติฐานหนึ่งที่คีราณไม่อาจยอมรับหรือปฏิเสธ เพราะเขารู้จักหล่อนน้อยเหลือเกิน น้อยจนเกือบจะเรียกว่า ‘ไม่รู้จัก’ เลยก็ว่าได้ หัวใจของเชวาหนุ่มยามนี้กำลังสับสนและปั่นป่วนอย่างน่าประหลาด เขารู้สึกทนไม่ได้ ไม่ว่าหล่อนจะตกเป็นเป้าหมายของคนร้าย หรือว่าเป็นคนร้ายเสียเองก็ตาม

“ไม่... ต้องไม่ใช่ทั้งสองอย่าง” คีราณบ่นพึมพำ “หล่อนไม่น่าจะมีความแค้นกับใครถึงขั้นต้องฆ่าแกงกัน พวกคุณอย่ามองหล่อนในแง่ร้ายสิ คิดแบบนี้มันก็เหมือนกับการที่ผมถูกหล่อนกับไอ้สารวัตรนั่นสงสัยว่าเป็นฆาตกรไม่มีผิด”

“เราจำเป็นต้องมองให้ครอบคลุมทุกแง่ครับ แล้วค่อย ๆ ตัดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ทิ้งไปทีละข้อ จนกว่าจะเหลือคำตอบสุดท้ายเพียงข้อเดียว” โควินแนะนำ ในขณะที่เชวาหนุ่มเริ่มกุมขมับ ส่วนทนายความเสริมขึ้นว่า

“คุณจารุคามินไปถ่ายแบบที่ต่างประเทศบ่อย ๆ ไม่ใช่เหรอครับ ไม่แน่ เธออาจจะเคยพบท่านหญิง และมีเรื่องมีราวกันมาก่อนหน้านั้นก็ได้”

“ผมไม่ทราบ”

โควินสังเกตเห็นว่าคีราณดูเครียดขึ้นทันควันที่การสันนิษฐานมีชื่อของท่านหญิงวราลีกานดาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และในฐานะผู้มีประสบการณ์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในชีวิตมามากมาย พบเจอความสูญเสียผิดหวังมานับครั้งไม่ถ้วน เขาย่อมมองออกว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นกับเชวาหนุ่มคนนี้

การเสียชีวิตของจารุคามินอาจทำให้เชวารู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่ไม่ได้แสดงอาการโศกเศร้าคร่ำครวญให้ใครเห็น

การถูกตำรวจกล่าวหาว่าเป็นคนร้าย อาจทำให้เชวารู้สึกว่าตัวเองซวย แต่ก็ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจสักเท่าไร เพราะในเมื่อมั่นใจว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ซ้ำยังมีคำว่า 'ธราณินทร์' หนุนหลัง ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าใครหน้าไหนจะสามารถยัดเยียดความผิดให้ได้ทั้งนั้น

สิ่งที่เชวาแคร์ที่สุด ก็คือสายตาของชามี ลี หรือท่านหญิงวราลีกานดา ไทวาวัตต่างหาก!

...และเขาจะไม่มีวันเชื่อเด็ดขาดว่าหล่อนเป็นคนร้าย จนกว่าจะได้พิสูจน์ความจริงทุกอย่างด้วยตนเอง


โควินคิดอย่างนั้น

“ผมว่าเราแยกกันสืบดีไหมครับ เชวา”

คีราณเงยหน้าขึ้นมองคนถาม

“ผมจะไปสืบเรื่องของอัลเล เชวาสืบเรื่องของท่านหญิง ส่วนข้อมูลอื่น ๆ ก็ให้คุณทนายกับลาวิกเก็บรวบรวมต่อไป วิธีนี้น่าจะเร็วที่สุด”

'เร็วที่สุด'... โควินพูดออกไปแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ตนเองกำลัง ‘แข่ง’ กับอะไรอยู่กันแน่

การพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า เชวาธราณินทร์เป็นผู้บริสุทธิ์ และสามารถจับกุมคนร้ายตัวจริงได้ก่อนตำรวจ หมายความว่า เขาเป็นฝ่ายชนะสารวัตรอนิรูทธอย่างนั้นหรือ ?

ระหว่างที่รอฟังคำตอบ มือปืนชุดดำก็เดินไปรูดม่านหน้าต่างให้เปิดออกดังเดิม เพราะเขารู้แล้วว่าสุดท้ายคนเราก็ไม่สามารถหลีกหนีความปรารถนาในใจของตัวเองได้พ้น ไม่ว่าจะพยายามปิดบังซ่อนเร้นเพียงใดก็ตาม

“ตกลง” เสียงตอบของคีราณดังขึ้นขณะที่เขาหันหลังให้ และถึงแม้น้ำเสียงนั้นจะเบา แต่ทว่ามันชัดเจน หนักแน่น จริงจัง ไม่มีเค้ายั่วเย้ายียวนอีกต่อไป...

จากคุณ : Friday Story
เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 54 23:39:17




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com