ไรด์ล้างมือที่ชุ่มไปด้วยเลือดในอ่างน้ำบนโต๊ะข้างเตียงซึ่งมีร่างของฟอร์เซ็ตตินอนหมดสติอยู่ โซลย์มองใบหน้าขาวซีดของจอมเวทหนุ่มด้วยความเป็นห่วงก่อนเอ่ยถามผู้เฒ่าแห่งนครต้องสาป
เขาเป็นอะไรกันแน่ เพราะข้าเคยเห็นอาการแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งก่อนออกจากมอร์เซล
สีหน้าของไรด์เต็มไปด้วยความหนักใจ เขาเหลียวไปมองดูฟอร์เซ็ตติครั้งหนึ่งก่อนหันมาหาแม่ทัพหนุ่ม
ข้าพบรอยแผลห้ารอยบนทรวงอกด้านซ้ายของท่านฟอร์เซ็ตติ มันคล้ายกับถูกของมีคมขนาดเล็กกรีดลึกลงไปจนถึงกล้ามเนื้อของหัวใจ ที่น่ากลัวที่สุดคือมีพลังบางอย่างแผ่กระจายออกมาจากรอยแผลนั่น
พลังหรือ แม่ทัพแห่งมอร์เซลทวนคำด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจ พลังอะไรกัน
พลังแห่งคำสาป ผู้เฒ่าแห่งนครต้องสาปกล่าวด้วยสีหน้าประหวั่นพรั่นพรึง ซ้ำยังเป็นคำสาปมืดอันแสนน่ากลัว มันเป็นพลังเดียวกันกับอำนาจมืดที่แผ่มาจากแซฟเวจย์
คอร์ฟคาคาร์ส โซลย์ถึงกับครางออกมา เขาหันไปมองร่างของฟอร์เซ็ตติที่ยังคงนอนหลับสนิทด้วยสีหน้ากังวล ทำไมเขาจึงไม่ยอมบอกอะไรให้พวกเรารู้เลยสักคำว่าถูกเจ้าจอมมารนั่นทำร้ายจนสาหัสถึงขนาดนี้
มันเป็นนิสัยของท่านฟอร์เซ็ตติที่ไม่เคยเอ่ยความทุกข์ของตนให้ผู้ใดฟัง ไรด์กล่าว เขามองดูร่างของจอมเวทด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความนับถือก่อนหันกลับมาทางแม่ทัพแห่งมอร์เซล
แต่ท่านไม่ต้องเป็นกังวลไปนักเพราะรอยแผลนั่นเริ่มสมานตัวจนเกือบจะสนิทดีแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงเขาก็คงจะฟื้น ในระหว่างนี้คงต้องขอตัวไปดูแลคนของข้าก่อน หากท่านต้องการสิ่งใดโปรดสั่งคนให้ไปเรียกข้าได้ทุกเวลา ไม่ต้องเกรงใจ
ขอบคุณในความกรุณาของท่านอย่างยิ่ง ท่านไรด์โซลย์กล่าวอย่างสุภาพ ชายชราอมยิ้ม
ไม่เป็นไร ไรด์หันไปทางแนชท์ซึ่งกำลังยืนมองดูจอมเวทอยู่อีกด้านหนึ่งและสั่ง
เจ้าจงคอยเฝ้าดูแลท่านฟอร์เซ็ตติให้ดี หากเขาฟื้นขึ้นก็จงรีบไปรายงานให้ข้ารู้ อย่าได้ก่อเรื่องกวนใจต่อแขกสำคัญของเราเป็นอันขาด
แนชท์ชักสีหน้าไม่พอใจแต่ไม่กล้าที่จะเอ่ยวาจาทักท้วงออกมา นางเพียงพยักหน้ารับคำอย่างสงบตรงกันข้ามกับโมไดที่ลอบอมยิ้ม
นี่ก็เลยยามเที่ยงไปนานพอควร ข้าจะสั่งให้คนจัดมื้อกลางวันมาให้ และโปรดอย่าได้ปฏิเสธเลยท่านแม่ทัพ พวกท่านสมควรได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไกลในวันพรุ่งนี้ ข้าขอตัวก่อน
ไรด์พูดตัดบทและเดินออกไปทันทีโดยไม่รอฟังคำทัดทานใดๆจากแม่ทัพแห่งมอร์เซล โซลย์ขมวดคิ้วและเลื่อนสายตาไปมองดูฟอร์เซ็ตติอีกครั้ง เสียงโมไดพูดขึ้น
พวกเราออกไปข้างนอกก่อนดีกว่า เพราะถึงอยู่ที่นี่ก็คงจะทำได้แค่ยืนมองหน้ากัน รอให้เขาฟื้นขึ้นมาค่อยซักถามเรื่องต่างๆที่เจ้าสงสัยก็ได้ แล้วอีกอย่าง..... เด็กหนุ่มปรายตาไปทางแนชท์
ตอนนี้มีคนเฝ้าดูแลเขาอย่างดีแทนเราแล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง
โซลย์มองดูเด็กสาวซึ่งกำลังยกแขนขึ้นกอดอกและเมินหน้าไปทางด้านอื่นด้วยสีหน้าแสดงความขัดใจ
ตกลงตามนั้นก็แล้วกัน แม่ทัพหนุ่มกล่าว เขาเดินไปหาแนชท์และกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ
ข้าขอฝากเจ้าดูแลเขาให้ดีด้วย
ดวงตาสีดำสนิทของเด็กสาวหรี่ลงเล็กน้อยก่อนเสียงใสจะดังตอบกลับมา
ข้ายังไม่ลงมือสังหารเขาแน่ วางใจได้
โซลย์ยิ้มให้กับคำพูดที่ฟังเหมือนหยิ่งยะโสของแนชท์และกล่าวคำพูดขอบคุณกับนางก่อนเดินออกไปโดยมีโมไดเดินตามหลังไปติดๆ เด็กหนุ่มหันมาหลิ่วตาให้กับนางดุจกำลังล้อเลียนก่อนรีบเร่งเดินตามแม่ทัพหนุ่มไปให้ทัน แนชท์ทำท่าแยกเขี้ยวไล่หลังเขาและลดแขนทั้งสองลง จากนั้นจึงจรดฝีเท้าเดินไปหยุดยืนข้างเตียงของฟอร์เซ็ตติ นางไล่สายตามองสำรวจใบหน้าของจอมเวทหนุ่มอย่างพิจารณา
เจ้านี่หน้าตาแปลกดี
แนชท์พูด จากนั้นจึงหย่อนกายนั่งลงที่ริมเตียง มือซีดขาวไล่ไปบนรอยเลือดที่เปรอะเปื้อนเต็มเสื้อของเขา คิ้วเข้มขมวดมุ่นด้วยความรู้สึกสงสัยเมื่อไม่พบรอยแผลสักรอยบนกายของจอมเวทหนุ่ม
แผลของเจ้าหายเร็วจริง นางบ่นพึมพำ พวกเลือดเอลฟ์เป็นแบบนี้ทุกคนเลยหรือยังไงกัน
ดวงตาสีดำจับจ้องมองใบหน้าของฟอร์เซ็ตติอีกครั้ง เด็กสาวยอมรับกับตัวเองว่ารู้สึกทึ่งใจในความงามอย่างประหลาดของจอมเวทหนุ่ม ผมสีเงินสว่างดูแปลกตาในความคิดของนาง แนชท์มองดูใบหูเรียวแหลมของฟอร์เซ็ตติอย่างสนใจ มือขาวเรียวยื่นออกไปปัดไรผมซึ่งปรกใบหน้าของจอมเวทออกและไล้ไปบนใบหูของเขาอย่างแผ่วเบา เสียงกระแอมไอดังขึ้นสองสามครั้งทำให้เด็กสาวสะดุ้งสุดตัว นางดึงมือของตัวเองกลับและหันขวับไปทางประตูห้องทันที ใบหน้าขาว แดงก่ำขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดเยาะ
เพิ่งรู้ว่าพวกนักรบเวทก็ชอบสำรวจร่างกายคนอื่นตอนหมดสติ
ข้าแค่ตรวจดูอาการของเขาเท่านั้น แนชท์พูดเสียงกระด้าง คิ้วเข้มของโมไดเลิกสูง
อ้อ การตรวจร่างกายคนป่วยนี่เขาดูกันแค่ตรงใบหน้ากับใบหูเท่านั้นเองเรอะ ข้าจะได้จำเอาไว้
เด็กสาวลุกพรวดขึ้นทันทีนางเดินตรงไปหาโมไดที่กำลังยืนยิ้มด้วยท่าทางยั่วโทสะอย่างที่สุด ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองใบหน้าของเขาเขม็ง
ถ้าเจ้าคิดว่าสามารถดูแลเขาได้ดีกว่าข้า ก็จงทำหน้าที่นี้ต่อไปเลย ข้าเองก็เบื่อหน่ายกับการเฝ้าดูพวกเจ้าเต็มทน!
ร่างเล็กก้าวพรวดออกไปจากห้องทันทีที่พูดจบทิ้งให้โมไดยืนส่งเสียงหัวเราะดังไล่หลังนางไปจนเมื่อเด็กสาวพ้นจากสายตา เขาจึงหยุดส่งเสียงและหันหน้าไปมองฟอร์เซ็ตติที่ยังคงนอนหลับสนิทด้วยความเป็นห่วง เด็กหนุ่มเดินอย่างระมัดระวังเข้าไปจนใกล้และจัดแจงคลี่ผ้าห่มคลุมร่างของเขาอย่างเบามือที่สุด
เจ้าเป็นอะไร ทำไมถึงไม่ยอมบอกกันตรงๆ ปิดบังกันแบบนี้จะเรียกว่าเป็นเพื่อนกันได้อย่างไร เจ้าจอมเวท
โมไดบ่นก่อนจะเดินออกจากห้องไป
*-*-*-*-*
สวัสดีปีใหม่ไทยย้อนหลังนะคะ หลายท่านคงงานยุ่งหลังจากหยุดไปหลายวัน หวังว่านิยายของมูนนี่จะช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการงานได้บ้างนะคะ
ช่วงนี้มูนนี่ขอระงับนิยายเรื่องอื่นเอาไว้ก่อน เพราะลงซ้ำซ้อนเกินไปผู้อ่านอาจสับสนได้ อีกอย่างหนึ่งจะได้มีเวลาปรับปรุงแก้ไขงานให้ดีขึ้นด้วยค่ะ
มาคุยกันนะคะ
โอ วาดฟอร์เซ็ตติซะเป็นปู่เลยอะค่ะ ไม่ย้อม จากคุณ : scottie - ฟอร์เซ็ตติคือคนที่ถูกเจ้าโมไดมัดจุกเล่นนี่คะ มูนนี่วาดหน้าแก่ไปเหรอ แย่แล้ว = ="
มีตัวละครที่น่าสนใจโผล่มาอีกคนแล้ว แนชท์ ท่าทางเอาเรื่องน่าดู ตัวแค่นี้ ^^.... หวังว่าคงไม่หายไปกลางทางนะ:) เอาไว้ข่มโมได ฟอร์เซ็ตติกลับยังรับบทเด่นที่มาถึงตอนนี้ยังไม่มีใครมาทาบรัสมีได้ จากคุณ : Psycho man - เรื่องราวของฟอร์เซ็ตติยังไม่หมดค่ะ อายุมากเลยมีอะไรให้เล่าแยะกว่าคนอื่น ฮี่ ถึงจะอายุเยอะ แต่เขาก็หล่อนะคะ อุ อุ
การเมืองมีอยู่ทุกที่จริงๆ แม้แต่ในหมู่จอมเวท ดูแนวแล้วคาร์คเอลฟ์มีโอกาสกลับตัวกลับใจแฮะ ต้องคอยลุ้นกันต่อไป จากคุณ : zoi - ใช่เลยค่ะ ความหลงตัวเองและการบ้าอำนาจทำให้เกิดความขัดแย้งจนเกิดสงครามได้ ชาวมาร์วัลลัสเองถือว่ามีพลังเวท เลยชอบยกตนเหนือคนอื่น เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฟอร์เซ็ตติไม่ค่อยชอบอยู่ในเมือง
ระยะนี้อากาศร้อนมาก ระวังเรื่องอาหารกับน้ำดื่มด้วยนะคะ เพราะร้อนชื้นคือสวรรค์ของเชื้อโรคเลย
ภาพสวยๆวันนี้เป็นฟอร์เซ็ตติเช่นเดิมค่ะ แต่จากฝีมือของน้องมารินะคะ ^^
จากคุณ |
:
moony (Moony_Lupin)
|
เขียนเมื่อ |
:
20 เม.ย. 54 09:48:39
|
|
|
|