Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
รักร้อยใจ บทที่ 2 ติดต่อทีมงาน

ตอนที่ 2 : เริ่มต้น

“พี่ติ...พี่ติคะ...”

เสียงเรียกของหญิงสาวไม่เบานัก จึงทำให้หลายๆ คนที่อยู่บริเวณทางเดินหันมามองร่างบางที่เพิ่งเปิดประตูออกจากห้องใกล่เกลี่ยมา ก่อนที่เรียกได้ว่า ‘พุ่ง’ มาทางชายหนุ่มที่เดินดุ่มๆ ไปไกลลิบอยู่ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

อติชาติได้ยินเสียงเจ้าหล่อน แต่ด้วยความไม่อยากเสวนาด้วยเขาจึงตัดสินใจทำเป็นไม่ได้ยินเสีย ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อหญิงสาวใกล้เข้ามาเรื่อยๆ...

เมื่อก่อนตอนที่เขาเป็นนักศึกษา ชีวิตที่ได้รู้จักอโณชามาเรียกได้ว่าไม่มีความสงบสุขเอาเสียเลย เด็กสาวรุ่นน้องในตอนนั้นกระตือรือร้น...กระตือรือร้นเกินไปที่จะได้เข้ามาอยู่ใกล้ชิดเขา ทั้งๆ ที่เขามีแฟนอยู่แล้วคือกิตติยา...

ความรู้สึกเจ็บแปลบพลุ่งขึ้นมาในอกเมื่อชายหนุ่มหวนคิดถึงคนรักเก่า  แม้เขาต้องไปทำงานที่ปักษ์ใต้  อยู่ห่างจากเธอมากแค่ไหน  แต่อติชาติก็ไม่เคยมีสักวันที่จะไม่คิดถึงแฟนสาว  เขาทำงานหนัก...ไม่มีเวลาที่จะโทรศัพท์หาเธอทุกวัน แต่เขาก็เพียรส่งข้อความ ไม่ลืมวันสำคัญ...ถึงแม้เขาจะไม่ได้อยู่อวยพรเธอด้วยตัวเองเพราะทิ้งงานไม่ได้ แต่เขาก็ไม่เคยเลิกคิดถึงเธอ...

จนกระทั่งวันหนึ่งที่มีโทรศัพท์เข้ามา...เบอร์เพื่อนสนิทของเขาที่ตอนนี้อยู่ในจังหวัดเดียวกับหญิงสาว เพื่อนที่เขาฝากฝังให้ดูแลกิตติยาให้ดีที่สุดแทนเขา...และเพื่อนเขาก็ทำได้ดีกว่าจริงๆ เมื่อเจ้าตัวโทรมาบอกอติชาติด้วยน้ำเสียงแสดงความเสียใจและรู้สึกผิด...ว่าเขา...เพื่อนสนิทของอติชาติเอง...เพื่อนที่อติชาติไว้ใจให้ดูแลคนรัก...ขอดูแลกิตติยาในฐานะคู่หมั้น...

ข่าวนี้ทำให้อติชาติไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่พักหนึ่ง  ชายหนุ่มมาจากครอบครัวฐานะปานกลาง  เมื่อเทียบกับกิตติยาแล้วแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน  เขาจึงเพียรพยายามสอบเข้าเป็นอัยการ...อย่างน้อยเพื่อคนที่เขารักจะได้ไม่ต้องอับอายที่มีแฟนอย่างเขา...แต่ความพยายามตลอดหลายปีที่ผ่านมากลับสูญเปล่า

เมื่อตั้งตัวจากความเสียใจนั้นได้  ขณะที่เขาคิดว่ารอยแผลนั้นไม่ได้แสบร้อนเหมือนเมื่อแรกเริ่ม  อติชาติก็ได้ข่าวร้ายระลอกใหม่  ข่าวที่ว่าแม่ของเขาเป็นมะเร็งสมอง...สำหรับครอบครัวที่เสียพ่อไปตั้งแต่ลูกยังเรียนอยู่แค่ชั้นมัธยม  การที่แม่คนเดียวส่งเสียเลี้ยงดูเขามาทำให้ชายหนุ่มผูกพันกับมารดายิ่งนัก  ดังนั้นเขาจึงขอย้ายกลับขึ้นไปประจำที่บ้านเกิด  แม้การทำเช่นนั้นอาจทำให้เขาเจอกับกิตติยาและอาชวิน ผู้ชายและผู้หญิงที่ทำให้เขาเจ็บช้ำอีกครั้ง...

“พี่ติคะ...โอ้ย!!!”

โครม!!!

เสียงอุทานด้วยความเจ็บและเสียงข้าวของหล่นลงกระทบพื้นทำให้ชายหนุ่มหันกลับไปมองอย่างลืมตัว  ก่อนจะเห็นภาพที่เขาอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

อโณชาค่อยๆ ยันร่างท่อนบนที่กำลังพังพาบไปกับพื้นให้ลุกขึ้นอย่างช้าๆ เนื่องจากข้อมือหล่อนเจ็บแปลบจากการเอาไปยันพื้นเมื่อตอนล้มลงไปเมื่อครู่  แฟ้มเอกสารข้อมูลคดีกับประมวลกฎหมายกระจัดกระจาย...ที่สำคัญตอนนี้หล่อนรู้สึกปวดที่ข้อเท้า...ดูเหมือนข้อเท้าทรยศจะพลิกเสียแล้ว...

“ไหวมั้ย...”

น้ำเสียงเรียบๆ ของชายหนุ่มทำให้อโณชาเงยหน้าขึ้นมองอย่างดีใจ  ใบหน้าหวานส่ายศีรษะไปมาเหมือนจะบอกว่าไม่เป็นไร... “ไม่ไหวค่ะ...พี่ติช่วยหน่อยได้มั้ยคะ” น้ำเสียงใสพูดอย่างเว้าวอนเมื่อชายหนุ่มยังยืนนิ่ง

อติชาติถอนใจเฮือก...ก่อนก้มลงนั่งยองๆ พลางช่วยหญิงสาวเก็บรวบรวมของ  เมื่อเขารวบรวมเอกสารที่กระจัดกระจายทั้งหมดเรียบร้อย  ชายหนุ่มก็วางของทั้งหมดไว้ตรงหน้าอโณชา

“อะ...เรียบร้อย  ผมไปก่อนนะ”

อโณชาขมวดคิ้ว...ไม่...นี่ไม่ใช่การพบเจอกันที่เธอเฝ้าฝันถึงมาหลายปี  เธอคิดเสมอหลังจากที่ได้ฟังคำบอกเล่าจากมธุการีล่าสุดมานี้ว่าเธอ...อโณชา  หลังจากที่ใช้เวลาหลายปีกับการแอบรักเขา  แอบคิดถึงเขาฝ่ายเดียว แอบรู้สึกผิดเพราะเขาก็มีแฟนอยู่แล้ว  เมื่อกิตติยาทำให้ชายหนุ่มแสนดีตรงหน้าของเธอต้องเสียใจ...เธอนี่แหละที่จะทำให้เขาได้พบกับรักจริงแท้แน่นอนเอง!

“พี่ติคะ...อย่าเพิ่งไปสิคะ”

ทนายความสาวร้องเรียก  อติชาติหันกลับมามองหญิงสาวอีกครั้ง  “มีอะไรเหรอครับ”

“พายเจ็บขามากเลยค่ะ  คิดว่าข้อเท้าคงพลิก  ยังไงพี่ติช่วยพยุงพายไปที่รถหน่อยได้มั้ยคะ”

แววตาซื่อๆ กับสีหน้าวิงวอนที่หญิงสาวส่งมา  ทำให้ชายหนุ่มอึกอัก...อติชาติไม่อยากเอาตัวเข้าไปเกี่ยวพันกับรุ่นน้องคนนี้อีก...คนที่เคยสารภาพรักกับเขาเพียงเพราะเขาทำดีกับเธอ...แต่เขาก็ก้มลงพยุงหญิงสาวขึ้นมาจากพื้นโดยดี  พร้อมกับหอบสัมภาระของเธอไว้ในอ้อมแขน  แล้วก็ค่อยๆ ออกเดินท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้น

สัมผัสแนบชิดกับการที่เขาโอบเอวบางไว้อย่างหลวมๆ ทำให้อโณชาหน้าแดงก่ำ...ผิวเนื้อส่วนที่ถูกสัมผัสร้อนจัด...

เมื่อลงมาถึงลานจอดรถ  อติชาติก็ถามคนในอ้อมแขนว่า  “รถคุณอยู่ไหนล่ะ”

“แหม...พี่ติคะ” อโณชาเชิดปากแง่งอนเมื่อได้ยินสรรพนามห่างเหินที่ชายหนุ่มใช้เรียกนั้น “พายเป็นน้องพี่ตินะคะ...เราเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน  ทำไมต้องเรียกซะห่างเหินขนาดนั้นด้วย”

“เพราะเป็นเพียงแค่รุ่นพี่รุ่นน้อง ไม่ได้สนิทกับยังไงล่ะ  ถึงไม่จำเป็นต้องเรียกอย่างสนิทสนมก็ได้” ชายหนุ่มว่าเข้าให้  ก่อนถามอีกครั้ง  “ตกลงรถคุณอยู่ตรงไหนล่ะ”

“รถพาย...” หญิงสาวตั้งท่าจะบอก  แต่คิดอะไรดีๆ ออกเสียก่อน  “พี่ติคะ...พายเจ็บข้อเท้า  คงขับรถไม่ไหวแน่ๆ พี่ติช่วยขับรถไปส่งพายหน่อยได้มั้ยคะ...นะคะ...”

ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นเข้าไปอีก  เค้าลางแห่งความยุ่งยากเริ่มแผ่กระจายตัวบางๆ จนเขาสัมผัสได้  เขาพยายามหลีกเลี่ยงโดยการบอกว่า  “ผมมีว่าความอยู่  ไม่ว่างไปส่งคุณหรอก”

“โกหก” อโณชาตวัดสายตามองใบหน้าคมที่ซับสีเลือดจางๆ ที่อยู่ใกล้มากกว่าที่เคย  “พายไม่เห็นพี่ติถือครุยเลย  ถ้าเดี๋ยวพี่ติจะว่าความ  ก็ต้องเอาครุยมาด้วยสิคะ” ความจริงนอกจากเรื่องครุยที่ชายหนุ่มไม่ได้ติดมือมา  อโณชาแอบไปสำรวจใบแจ้งหน้าห้องพิจารณาทุกห้องแล้วว่าวันนี้มีคดีของชายหนุ่มหรือไม่  แต่ก็ไม่พบว่ามี  “หรือว่า...พี่ติรังเกียจพาย  ยังโกรธพายเรื่องเมื่อก่อนอยู่...”

“เปล่า...” พูดออกไปแล้วชายหนุ่มก็แทบกัดปากตัวเอง  แต่เขาทนเห็นสีหน้าสลด...แววตาร้าวรานของหญิงสาวรุ่นน้องตรงหน้าไม่ได้...มันรู้สึกอึดอัดอย่างประหลาด... “แต่...”

“พี่ติจะไปส่งพายใช่มั้ยคะ...พี่ติจะไม่ปล่อยให้พายขับรถทั้งๆ ที่ขาเจ็บ  หรือนั่งรถแท็กซี่ไปใช่มั้ยคะ...” อโณชาเปลี่ยนสีหน้ากลับมาวิงวอนชายหนุ่มอีกครั้ง  ใช้แววตาที่แม้แต่วีรยา...เพื่อนผู้เย็นชาที่สุดยังปฏิเสธไม่ลง

“เอ่อ...ครับ” อติชาติตอบรับอย่างปลงๆ ร่างบางข้างๆ ยิ้มแต้แทบจะไร้แววคนเจ็บ  

“ขอบคุณค่ะ  พี่ติยังเป็นพี่ที่ใจดีที่สุดของพายเสมอ...”

.......................

เวลานี้เขาควรนั่งกินข้าวคนเดียวไม่ใช่เหรอ...

หลังจากที่อติชาติขับรถของเขามาส่งหญิงสาวถึงบ้านพัก  ชายหนุ่มก็กะจะ ‘ชิ่ง’ โดยการบอกสาวรุ่นน้องว่าตนเองมีคดีที่ตนเองต้องกลับไปดูรายละเอียดอยู่  แต่ทนายสาวกลับบอกตัดหน้าการ ‘ชิ่ง’ ของเขาเหมือนคนอ่านเกมไพ่ของอีกฝ่ายอย่างง่ายดายว่า

“นี่มันเที่ยงแล้วนะคะพี่ติ  ยังไงก็อยู่กินข้าวกันก่อนเถอะค่ะ  ถือว่าให้พายเลี้ยงขอบคุณพี่ตินะคะ”

และพอเขาบอกปฏิเสธ  เจ้าหล่อนก็อ้างว่า

“หรือว่าพี่ติรังเกียจพาย  ไม่อยากนั่งกินข้าวกับพายคะ...พายมันน่ารังเกียจมากเลยเหรอ...” พร้อมกับกระพริบตาปริบๆ ทำท่าเหมือนจะไล่น้ำตา (ที่ไม่มีซักกะหยด) หน้าสลดทันควันทำให้เขาต้องรีบบอกว่าไม่ใช่อย่างที่เธอคิด...

“...เพียงแต่ผมต้องติดต่อกับตำรวจเจ้าของสำนวนที่ส่งคดีมาให้ผม...”

อโณชาก็ตัดบทด้วยน้ำเสียงหวานใส  พร้อมกับรอยยิ้มบางๆ เจ้าเล่ห์ของเธอ “แต่พี่ติก็คงไม่รบกวนเวลาพักเที่ยงกินข้าวของตำรวจคนนั้นหรอกใช่มั้ยคะ  เพราะตอนพักเที่ยงนี่แหละที่พวกตำรวจต้องรีบๆ กินข้าว  เผื่อมีคนมาแจ้งความมั่ง  ไหนจะตามสืบคดีมั่ง...เยอะแยะสารพัด  ถ้าไม่ได้กินข้าวดีๆ แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปทำงาน...พี่ติว่างั้นมั้ยคะ?”

ก็เพราะอย่างนี้แหละ...ตอนนี้เขาเลยต้องมานั่งจุมปุ๊กอยู่ในห้องครัวขนาดกระทัดรัดของบ้านหลังเล็ก  บ้านที่อโณชาเก็บเงินซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเองหลังจากทำงานมาหลายปี  หลังจากที่พ่อกับแม่ของหญิงสาวเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ 4 ปีก่อน  เธอจึงไม่มีภาระทางการเงินที่ต้องใช้จ่ายอะไรมากมายนัก  จึงมีเงินเหลือเก็บจนตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ไว้เป็นของตัวเอง  และตอนนี้เจ้าของบ้านก็กำลังตั้งท่าจะเดินกระเผลกไปที่ตู้เย็นเพื่อหยิบเอาอาหารออกมาด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้ (ในความไม่เจียมสังขาร) ของตัวเอง  อติชาติจึงร้องเรียกเอาไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะได้ลุกจากเก้าอี้

“นี่...คุณจะทำอะไรบอกผมก็ได้นะ  เดี๋ยวผมทำแทนไปก่อน  เพิ่งพันข้อเท้าเสร็จก็อย่าเพิ่งเดินให้มากเลย  ให้ผมช่วยดีกว่านะ”

อโณชายิ้มหวาน...นี่แหละพี่ติ  ผู้มีน้ำใจกับทุกๆ คนเสมอ...

...ทุกๆ คน...

“คือ...” หญิงสาวหัวเราะแหะๆ “...ถึงจะบอกว่าชวนพี่ติมากินข้าวฝีมือพายเป็นการตอบแทนก็เถอะค่ะ  แต่มันก็เป็นฝีมือกับข้าวมื้อเย็นวานแล้ว  พายเก็บไว้ในตู้เย็นน่ะค่ะ  ว่าจะเอามาอุ่นกับเวฟก่อน”

ชายหนุ่มหรี่ตาลง “นี่อย่าบอกนะว่า...คุณชวนผมมาทานข้าวค้างคืน?”

“เอ่อ...ก็...ค่ะ...” อโณชาพยักหน้าอย่างเกรงๆ ก่อนจะรีบบอก  “จริงๆ พายอยากทำกับข้าวเลี้ยงพี่ติจริงๆ นะคะ  แต่พอดีข้อเท้าพายมาเป็นแบบนี้ซะก่อน...”

เสียงถอนหายใจพรืดอย่างไม่ปิดบังของชายหนุ่มทำให้สีหน้าของทนายสาวสลดลงเล็กน้อย  แต่ก็พลันสดใสขึ้นเมื่อได้ยินเขาบอก

“งั้นเดี๋ยวผมทำเองละกัน  เอาง่ายๆ นะ...ข้าวผัดดีมั้ย”

“ดีค่ะ...ดีที่สุดเลย”

อัยการหนุ่มมองดวงหน้าหวานที่สว่างสดใสของหญิงสาวแล้วต้องถอนหายใจยาวอีกครั้ง...เมื่อตอนที่เป็นนักศึกษาอยู่  อโณชาก็เป็นแบบนี้...หญิงสาวเป็นคนที่แสดงออกด้านอารมณ์ทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด  สุข...เศร้า...เขาสามารถเห็นได้ในพริบตา  และเขาเองก็ชอบเห็นสีหน้ามีความสุขของรุ่นน้องคนนี้  เพราะมันทำให้เขารู้สึกยินดีและมีความสุขไปด้วย...และเพราะความสุขของอโณชาเกิดจากสิ่งง่ายๆ ไม่ซับซ้อน...เขาจึงรู้สึกได้ถึงความโปร่งสบาย...อิ่มเอมไปกับความสุขของหล่อนอย่างง่ายดาย

อติชาติจัดการทำข้าวผัดอย่างง่ายๆ ด้วยวัตถุดิบในตู้เย็นที่มีอยู่  โดยมีเจ้าของบ้านเป็นกองเชียร์อยู่ตรงโต๊ะกินข้าว  และไม่นานนักทั้งคู่ก็ได้มานั่งประจันหน้ากันที่โต๊ะโดยมีข้าวผัดสองจานกั้นกลาง

อโณชายิ้มกว้าง  ก้มลงสูดเอากลิ่นหอมๆ จากอาหารก่อนเงยหน้ามายิ้มให้คนทำ  “พี่ติทำกับข้าวเก่งจัง...พายไม่ยักรู้มาก่อน  ทำเป็นนานแล้วเหรอคะ?”

“ก็ไม่นานมานี่เอง...” ตั้งแต่ที่เขากลับมาประจำอยู่ที่นี่  เพื่อดูแลแม่ที่กำลังป่วยเขาจึงต้องหัดทำอะไรหลายๆ อย่าง หนึ่งในนั้นก็คือการทำอาหาร

“แม่พี่ติคงดีใจนะคะที่ลูกชายคนเดียวกลับมาแล้ว  แล้วตอนนี้ท่านอาการเป็นยังไงบ้างคะ?”  ด้วยความลืมตัว  ทนายสาวจึงเอ่ยปากถามเรื่องอาการป่วยของมารดาของชายหนุ่มไป  

แกร๊ก!

“คุณรู้เรื่องคุณแม่ของผมได้ยังไง” อัยการหนุ่มถามเสียงเข้ม  ดวงตาคมกริบจดจ้องคนตรงหน้าเหมือนกำลังซักถามพยานในคดี

ดวงหน้าเล็กซีดเผือดลงทันควันกับท่าทีเปลี่ยนแปลงของชายหนุ่ม  อโณชาก้มหน้าลงหลบแววตาวาววับ

“เอ่อ...คือ...”

“พูดมา!”

ชายหนุ่มลงเสียงหนัก  ความรู้สึกปั่นป่วนพลุ่งขึ้นในอกจนอัดแน่น...เขาไม่อยากคิด  ว่าเพียงแค่คนตรงหน้าซึ่งไม่ได้เจอเขามาหลายปี  ยังรู้ว่ามารดาเขาป่วยได้...นับประสาอะไรกับเรื่องระหว่างเขากับกิตติยา  หล่อนคงจะรู้เหมือนกัน  และคงไม่ใช่เพียงแค่หล่อน  แต่เรื่องคงแพร่ไปในหมู่คนรู้จักของเขาอย่างรวดเร็ว  แล้วสิ่งที่จะตามมาล่ะ...คืออะไร...

...สายตาสงสาร...สมเพช...กับสิ่งที่เขากำลังเผชิญ...รึเปล่า?

“เอ่อ...คุณหญิงผึ้ง...” แม้หล่อนกับมธุการีจะเป็นเพื่อนสนิทกันจนสามารถเรียกชื่อของอีกฝ่ายได้ตรงๆ แต่เมื่อต้องเอ่ยถึงกับบุคคลอื่น  หญิงสาวก็ให้เกียรติเพื่อนผู้เป็นราชนิกูลเสมอ “...คุณหญิงผึ้งเธอเล่าให้ฟังว่าเห็นพี่ติที่ศาลน่ะค่ะ  เลยไปถามอัยการคนอื่นเขาก็เลยบอกว่าที่พี่ย้ายกลับมาก็เพื่อจะมาดูแลคุณแม่...”

“เท่านั้นเหรอ?” ชายหนุ่มผ่อนคลายลง  แต่ยังไม่วายจับผิด

“ค่ะ...พายขอโทษค่ะที่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของพี่  เพียงแต่พายแค่...เป็นห่วงน่ะค่ะ”

เป็นห่วง?

คนไม่เจอกันมาตั้งหลายปี  จะมาเป็นห่วงอะไรกัน  ก็แค่คนรู้จักเฉยๆ

ไม่สิ...อโณชาไม่ใช่คนรู้จักเฉยๆ ...แต่หล่อนเคย...บอกรักเขามาก่อน

“พี่ติคะ...” น้ำเสียงหวานเอ่ยอีกครั้ง “...อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยค่ะ  ถ้าพี่ติไม่คิดอะไรมาก...เอ่อ...”

“ทำไม  มีอะไรเหรอ”

“คือ...พาย...” หญิงสาวลอบสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามส่งความมุ่งมั่นและความปรารถนาดีทั้งหมดทางแววตา  ก่อนเอ่ยออกมาอย่างแน่วแน่...

โอกาสของเธอ...โอกาสที่จะทำให้เขามองมาที่เธออยู่ตรงนี้แล้ว!

“ถ้าพี่ติไม่ว่าอะไร  พายอยากเสนอตัวช่วยค่ะ  พายช่วยพี่ติดูแลคุณแม่ดีมั้ยคะ...พี่ติฟังพายก่อนนะคะ  พ่อแม่พายเสียไปแล้ว...พายไม่มีโอกาสดูแลท่านเลยซักครั้ง  พี่ติก็ทำงาน  พายแค่อยากช่วยพี่ติ  ไปดูแลท่านแทนพี่ติเวลาพี่ยุ่งกับงาน  คอยดูเรื่องกับข้าวกับปลา...”

“ผมว่าคงไม่...”

“ฟังพายให้จบก่อนนะคะพี่ติ...” เธอต้องทำให้ได้  โอกาสดีๆ อย่างนี้ไม่ได้มีบ่อย  และเธออาจจะไม่ได้อยู่คว้ามันในรอบต่อไป  ถ้าเธออยากเริ่มทำให้เขาเปิดใจรับเธออีกครั้ง  จะมีทางไหนดีไปกว่าการที่พาตัวเองเข้าไปใกล้ชิดเขาในทุกๆ ด้านให้มากที่สุดล่ะ “...พายเป็นผู้หญิงนะคะ  เรื่องการดูแลอะไรนี่ก็ต้องละเอียดกว่าผู้ชายอยู่แล้ว  นี่ไม่ได้ว่าพี่ติดูแลคุณแม่ไม่ดีนะคะ  แต่พูดถึงว่าการดูแลบางอย่าง...ผู้ชายก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่  อีกอย่างพี่ติก็จะได้ทำงานอย่างไม่ต้องกังวลอะไร  ส่วนงานพายก็ไม่ได้ทำประจำอยู่แล้ว  ดังนั้นไม่ได้รบกวนเวลาของพายแม้แต่นิดเดียวเลย...”

อโณชามองชายหนุ่มที่กำลังทำหน้าปั้นยากแล้วยิ้มหวาน “พายแค่อยากสัมผัสความรู้สึกของการได้ดูแลใครซักคน  แล้วอีกอย่าง...พายอยากขอบคุณทุกๆ อย่างที่พี่เคยทำให้พายมาตลอด...แค่นั้นแหละค่ะ...”

อัยการหนุ่มหลุบตาลงต่ำ  จริงอยู่...ถึงแม้เขาจะทำงานหาเงินมาให้มารดาได้  แต่เขาก็ไม่ค่อยมีเวลาดูแลท่านมากเท่าไหร่  อย่างมากก็ทำกับข้าวให้ท่านทาน  พูดคุยกับท่าน...

...บางทีแม่ของเขาอาจต้องการอะไรมากกว่านั้น...และผู้หญิงด้วยกัน อาจจะพูดกันง่ายกว่า...

“ขอผม...”

“พี่ติคะ...นะคะ...”

หญิงสาวงัดไม้เด็ดเก่าเก็บมาใช้...เธอจำได้เสมอว่าเมื่อตอนที่เขาและเธอสามารถหัวเราะด้วยกันได้อย่างมีความสุขเต็มที่...เขามักจะแพ้คำรบเร้า ‘นะคะ...นะคะ...’ ของเธอทุกครั้ง

อติชาติมองดวงหน้าที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นนั้นก่อนเบือนหน้าหนี  ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างไม่ปิดบัง  ก่อนเอ่ยปากอย่างเสียไม่ได้

“ก็ได้”

ทนายสาวแทบกระโดด  ใบหน้าหวานยิ้มกว้างออกมาทันที  ดวงตาเจิดจรัสเป็นประกายอย่างมาดหมาย


สำเร็จอย่างงดงามไปหนึ่งขั้น!!!

จากคุณ : ส้มเช้งเองจ้า
เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 14:15:18




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com