Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
นิทานหลังฉาก หน้ากากตัวตลก(บทเมืองคนใบ้-6) ติดต่อทีมงาน

บทนำ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10381644/W10381644.html

บทเมืองคนใบ้-1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10388061/W10388061.html

บทเมืองคนใบ้-2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10407169/W10407169.html

บทเมืองคนใบ้-3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10425013/W10425013.html

บทเมืองคนใบ้-4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10443019/W10443019.html

บทเมืองคนใบ้-5   http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10456626/W10456626.html

 

6

 

เด็กชายยืนกระพริบตาถี่ ขณะมองตัวตลกที่นั่งยองๆ และหัวเราะร่วน สายตาเหล่ไปทางอมยิ้มสีสวยในมือของตัวตลก ก่อนจะขยับถอยเท้าไปทางด้านหลังดั่งคนกำลังหวาดกลัว งุนงงและสับสน เด็กน้อยตื่นตระหนกเพราะได้พบบุคคลประหลาดที่บิดามารดาไม่เคยเอ่ยเตือน และไม่มีหนังสือเล่มใดบันทึกไว้

“รับไว้เถิด ข้าขอโทษเจ้า”

“หา

ผู้อ่อนวัยเบิกตากว้าง รู้สึกประหลาดตากับรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าของตัวตลก ซึ่งออกจะดูแล้วขัดตาเสียมากกว่า

“งานของตัวตลกคือการทำให้ผู้คนหัวเราะและยิ้ม แต่บางครั้งงานของเราก็คือทำให้ผู้ชมรู้สึกตระหนก เมื่อตระหนกพวกเขาจึงจะรู้สึกตื่นเต้นและประทับใจ”

ชายหนุ่มอธิบายอย่างใจดี แย้มรอยยิ้มกว้างก่อนจะล้วงหน้ากากหินสีขาวขึ้นมา สวมทับหน้ากากหนังเทียม เขาเพิ่งลองทำเช่นนี้เป็นครั้งแรก พบว่ามันร้อนยิ่งนัก

“ละ...แล้วตัวตลกใช่ผู้ร้ายหรือไม่”

ความรู้สึกอิ่มเอมใจฉายวาบเข้ามาในใจของตัวตลกวูบหนึ่ง เป็นเวลาเกือบเดือนแล้วที่เขาไม่ได้เห็นความไร้เดียงสาจากเด็กน้อย ครั้นเมื่อได้หวนกลับมาประสบจึงรู้สึกคิดถึงและยินดีในคราวเดียว รู้สึกผิดเล็กน้อยที่เมื่อครู่ได้กลั่นแกล้งไป แต่นั่นก็เพราะเจ้าเด็กนี่ปามะเขือเทศมาก่อนไม่ใช่หรือไร

แน่นอนว่าคนเช่นเขาไม่ถือสา แต่การจะกลั่นแกล้งเอาคืนก็เป็นวิถีของตัวตลกอย่างหนึ่ง

“ตัวตลกเป็นฝ่ายดี”

“แล้วตัวตลกมาที่นี่ด้วยเหตุใด”

เขาแสร้งทำเป็นครุ่นคิด ก่อนจะเผยยิ้มกว้างออกมา

            “อ้า! ใช่แล้ว ข้ากำลังตามหาคน”

            เด็กชายเอียงคอสงสัย เหตุใดตัวตลกจึงต้องตามหาคน

            กว่าจะรู้สึกตัวอีกที ความรู้สึกแปลกหน้าก็หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เด็กชายเริ่มต้นพูดคุยกับตัวตลกอย่างถูกคอ ไม่มีอาการหวาดกลัวอีกต่อไป และคล้ายว่าตัวตลกจะดูออก จึงขยับดันอมยิ้มในมือเข้าไปใกล้ตัวเด็กชายเป็นเชิงกระตุ้นให้รับไว้ เมื่อเด็กชายรับมาอย่างยินดี มิตรภาพต่างวัยจึงเริ่มต้นขึ้นด้วยอมยิ้ม  

“ให้ข้าช่วยได้นะ ข้ารู้จักทุกคนในหมู่บ้านของข้า”

ตัวตลกมองเด็กน้อยที่ยิ้มจนตาหยี ขณะที่ตนนั้นเผลอแย้มรอยยิ้มตาม นึกถูกชะตาเป็นอย่างยิ่ง คำพูดของเด็กชายนั้นเหมือนเป็นการเปิดทางให้แก่เขาเป็นอย่างดี หากมีคนถิ่นคอยช่วยเหลือย่อมดีกว่างมเข็มในมหาสมุทรเป็นไหนๆ

“เจ้าชื่ออะไร เด็กน้อย”

เด็กชายไม่ชอบถูกเรียกว่าเด็กน้อย ดังนั้นคิ้วจึงขมวดมุ่น แต่ก็รู้สึกพึงพอใจที่ตัวตลกพูดกับตนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเป็นกันเอง ไม่มีความถือตัวหรือถือว่าอายุน้อยกว่า

“คินโร แม่ข้าเป็นคนตั้งให้ แล้วท่านเล่า ผู้ใหญ่มักจะสอนข้าว่าตามมารยาทแล้วควรบอกชื่อของตนเองก่อน จากนั้นจึงถามชื่อผู้อื่นได้”

เหมือนจะเป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาถูกคนเอ่ยเตือนเรื่องมารยาทนับตั้งแต่เข้ามาในเมืองคนบาป

“เจ้ารู้อยู่แล้ว เรียกว่าตัวตลกเช่นนั้นเถอะ”

เด็กชายไม่เซ้าซี้ เพียงแต่พยักหน้าอย่างเข้าใจ นับว่าเป็นเด็กที่หัวอ่อนว่าง่ายยิ่งนัก ผิดไปจากเด็กคนที่ปามะเขือเทศใส่เขาในทีแรก ไม่รู้ว่าเอาเยี่ยงอย่างใครมาใช้

“’งั้นตามข้ามาในหมู่บ้าน มีคนคนหนึ่งสามารถช่วยท่านได้”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะแย้มรอยยิ้มเหมือนดั่งปกติ พยักหน้าตอบรับความช่วยเหลือนั้นอย่างเต็มใจ หารู้ไม่ว่าไม่ควรคบเด็กสร้างบ้าน



 

นอกจากคบเด็กสร้างบ้านแล้วยังคบหัวล้านสร้างเมืองในคราวเดียวอีกด้วย

ไม่ปฏิเสธว่าเป็นความชอบของเด็กชายที่พาเขาเดินผ่านเข้ามายังหมู่บ้านได้อย่างราบรื่น โดยลัดเลาะตามป่าซึ่งมีคนบุกเบิกทางเอาไว้ ส่วนเกวียนรถม้าก็ปล่อยกลับป่าเป็นการคืนส่งเจ้าของไป แต่เรื่องมันชักจะเริ่มทะ:-)เมื่อคินโรพาเขามาปรากฏตัวยังหน้าสถานที่สำหรับเผาศพเก่า

และเมื่อผลักบานประตูที่เพียงแค่แตะก็แทบจะแหลกเป็นเศษผงเข้าไปนั้น...

พลันผลส้มลอยมาทางคินโรที่ดูเหมือนจะรู้งานดีอยู่แล้วจึงหลบทัน แต่ผลกรรมตกเป็นของเขาผู้มาใหม่ที่เดินตามเข้ามาอย่างเซ่อ มันแตกดังโพล๊ะซ้ำตรงใจกลางหน้าผาก! เป็นอันว่านอกจากหน้ากากหนังเทียมซึ่งเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำมะเขือเทศแล้ว หนังกากหินสีขาวที่เพิ่งสวมทับเข้าไปใหม่ยังโดนผลส้มกระแทกเข้าเต็มๆ

ตัวตลกนึกอยากจะหัวเราะออกมาทั้งน้ำตายิ่งนัก รู้บ้างไหมว่าของพวกนี้หาซื้อยากเพียงไร แต่ถึงกระนั้นตัวตลกก็ยังคงเป็นตัวตลกผู้ไม่ควรทุกข์ร้อนกับเรื่องเพียงแค่นี้

“อรุณสวัสดิ์จ้ะ”

เขาจงใจกล่าวอรุณสวัสดิ์ด้วยน้ำเสียงรื่นเริง ทั้งที่ข้างนอกนั้นดวงตะวันกำลังขึ้นสูงอยู่กลางศรีษะ  เลยเวลาที่จะกล่าวคำทักทายรับอรุณแรกเริ่มกันแล้ว

“พาตัวอะไรมา”

ทว่าเจ้าของส้มกลับมองเมินไปทางข้างตัวของเขาแทน นางเป็นเพียงเด็กหญิงมอมแมมตัวน้อยที่มีลักษณะผิดประหลาด กลางศรีษะไม่มีเส้นผมงอกขึ้นเลยแม้แต่เส้นเดียว แต่ไม่มีวี่แววของคนหัวล้านใจน้อยสักนิด ตรงกันข้าม เด็กหญิงกลับดูมั่นใจจนถึงขั้นอวดดี เป็นอันว่าได้รู้กันแล้วว่าคินโรนั้นรับนิสัยไม่ดีมาจากใคร

แม้ภายนอกของนางอาจดูไม่เหมือนคนมีปมด้อย ถึงกระนั้นตัวตลกก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก ทว่าทำได้เพียงแอบซ่อนสายตาที่ฉายแววอาดูรไว้ให้มิด จะยิ่งเป็นการทำร้ายเด็กหญิงหากแสดงออกไปให้นางรู้ตัวว่าเขากำลังสงสาร เหมือนดั่งตอกย้ำว่านางผิดแผกไปจากใครอื่น

“ตัวตลก ข้าชอบเขามากเลย เขาให้ไอ้นี่ข้ามาด้วย”

เด็กชายแย้มยิ้มไร้เดียงสา ขณะที่เด็กหญิงผู้มีอายุมากกว่าและขนาดตัวที่โตกว่าเดินตรงเข้ามาแย่งอมยิ้มไปจากมือของคินโรผู้หยิบมันขึ้นมาอวดอย่างง่ายดาย

“เจ้าจะรับของจากคนแปลกหน้าได้อย่างไร” นางกอดอกมองคินโรด้วยสายตาตำหนิ ก่อนจะเบนสายตามาทางเขา “อย่าคิดหลอกเด็ก”

“จำเป็นต้องหลอก แต่หลอกด้วยความหวังดี”

ตัวตลกแย้มรอยยิ้มท้าทาย รู้สึกคล้ายกับว่าตนนั้นถูกแววตาเฉลียวฉลาดของนางดึงดูดไว้  ครั้นลองกวาดตามองรอบบริเวณ สายตาจึงสะดุดกับหนังสือกองเป็นตั้งแอบซ่อนไว้ที่มุมอับ

“หลอกจะเป็นการหวังดีไปได้อย่างไร! ยิ่งสวมใส่หน้ากากเช่นนี้ยิ่งไว้ใจไม่ได้”

“หากเหรียญมีสองด้าน เช่นเดียวกัน มีทั้งดีและร้ายอยู่ในทุกสิ่ง”

เด็กหญิงมองเขาอย่างตกตะลึง แววตาฉายแววครุ่นคิด ตัวตลกจึงฉวยโอกาสนั้นเดินไปย่อตัวถามคินโรผู้ซึ่งถอยหลบฉากออกไปดูสงครามน้ำลายอยู่อีกทาง สีหน้าของเด็กน้อยนั้นเต็มไปด้วยรอยกังวล คล้ายจะคิดมากอยู่ว่าเหตุใดเหตุการณ์จึงเป็นไปอย่างที่ไม่ทันคิด

“คินโร ไหนเล่าคนที่เจ้าบอกว่าสามารถช่วยข้าได้”

ตัวตลกแย้มรอยยิ้มอ่อนโยน เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ไม่ต้องการให้เด็กชายรู้สึกว่าคำถามนี้เป็นการตำหนิ

“นาง…”

เด็กชายเพียงตอบสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา แล้วชี้มือไปทางเด็กหญิงจอมอวดดี เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย รับรู้ถึงสายตาที่มองตรงมาของนางจึงเหลียวหลังกลับไป

“ข้ามาตามหาคน เจ้าจะช่วยข้าได้หรือไม่”

ชายหนุ่มลองถามเป็นการหยั่งเชิง ไม่คิดดูถูกผู้อ่อนวัยกว่า แต่ก็ไม่คิดหวังว่านางจะสามารถช่วยเหลือเขาได้จริง ช่วยได้ก็ดี ช่วยไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือดูเหมือนกับว่านางคงจะไม่ใคร่ชอบพอเขานัก แม้สามารถให้ความช่วยเหลือได้ก็อาจจะไม่ยินยอม

“มันอยู่ที่ว่าเจ้าตามหาใคร ถ้าตามหาคนที่มีอยู่จริงในหมู่บ้านแห่งนี้ เหตุใดจึงจะไม่เจอ”

เด็กหญิงเล่นลิ้น ขยับยิ้มที่มุมปากอย่างอวดดีผิดไปจากวิสัยของเด็กทั่วไปในวัยนี้

“ผู้ที่มีจุดแดงที่ต้นคอด้านซ้าย”

เขาบอกรายละเอียดไปเพียงเท่านี้ ไม่ลงลึกไปว่ายังเป็นเด็กในวัยเดียวกับนางและคินโรอีกด้วย สำหรับคินโร เขาได้สำรวจดูที่ต้นคอของเด็กชายตั้งแต่แรกเริ่มที่พบกันแล้ว อาศัยการเคลื่อนไหวในชั่วพริบตาเข้ามาฉวยโอกาสสังเกตดูในช่วงที่เด็กชายกำลังตื่นตระหนก ส่วนเด็กหญิงนั้นเขาใช้คำถามทดสอบไปในคราวเดียวกัน หากใช่ก็จะมีอาการผิดสังเกตแสดงออกมาเองอยู่ดี จากนั้นค่อยเข้าไปดูที่ต้นคอของนางก็ยังไม่สาย

“จุดแดง...

แววตาสีเทาลุ่มลึกของนางหลุบลงเล็กน้อย ทว่ายังไม่เล็กน้อยเพียงพอที่จะหลุดพ้นจากสายตาของเขาไปได้

“ข้าไม่แน่ใจ แต่จะพยายามช่วยเจ้า”

ชายหนุ่มสบสายตาที่ฉายแววมุ่งมั่นของนาง ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้แล้วย่อตัวลงพอให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับเด็กหญิง มือหนาเอื้อมไปลูบหัวนางอย่างเบามือพร้อมกับรอยยิ้มใจดี  ไม่รังเกียจที่บริเวณนั้นไร้เส้นผมเลยแม้แต่น้อย

เขาสะดุดตากับแววตาอันตื่นตะลึงของนางอีกครั้ง ก่อนที่จะลดระดับสายตาลงมา อันเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริง

“ขอบใจเจ้ามาก”

น่าเสียดาย...ลองมองแล้วไม่เห็นจุดแดงที่ต้นคอด้านซ้ายของเด็กหญิง


จากคุณ : w.ra
เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 22:59:48




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com