Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กระบี่รันทด ภาค 2.......บทที่ 5 (อวสานเฒ่าซกเล็ก) ติดต่อทีมงาน

==============
ชื่อเรื่อง : กระบี่รันทด
ภาค 2
บทที่ 5...อวสานเฒ่าซกเล็ก
ประเภท :  นิยายเศร้า
==============

ความเดิม
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10469433/W10469433.html

แผนแมงเม่า ล่อคนออกจากโรงเตี๊ยม ของจอมมารคอหอย
จนเหลือเพียง กระบี่รันทด และโฉมสะคราญโรงเตี๊ยม...
สินค้าใดกันแน่ถึงมีผู้คนมากมายคิดแย่งชิง

------------------


ห้องอาหารใหญ่โตไม่กี่อึดใจก็เหลือเพียงหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรี คนอื่นล้วนหายศีรษะไปจนหมดสิ้น

โฉมสะคราญโรงเตี๊ยมหันไปร้องสั่งเด็กดูแลโต๊ะให้มาเก็บเงิน หันมายิ้มหวานกับกระบี่รันทด บุรุษหนุ่มใจหายวาบ เนื่องเพราะมันทราบว่าไม่ทราบทำไมพลังฝีมือของมันฟื้นกลับคืนมาแล้ว

แต่พอพลังฝีมือกลับคืนมา สตรีกลับกลายเป็นจุดอ่อนของมันอีกครั้ง

เสียงเอ่ยปนหัวร่อสดใสดังขึ้นว่า

“พวกมันติดค่ายกลแมงเม่าแล้ว  อย่างไรแมงเม่าก็คงเป็นแมงเม่า”

แมงเม่าชอบบินตามกันเข้ากองไฟนับว่าเป็นเรื่องปกติของแมงเม่า พบพานแสงไฟนิดน้อยก็กางปีกสยายแข้งขากล้าแข็งโบยบินเข้าหา ยามนั้นกระบี่รันทดพลันสั่นศีรษะบอก

“ข้ากลับมองไปว่าพวกมันไม่คล้ายแมงเม่า คล้ายอย่างอื่นมากกว่า”

“คล้ายอะไร”

“คล้ายแมงจินูน”

“แมงจินูน”

โฉมสะคราญทวนคำ สีหน้าปรากฏประกายงุนงงสงสัยเมื่อได้ยินชื่อของสัตว์ร้ายในตำนาน กระบี่รันทดมีประกายตาพิสดารขณะพูดต่อไปอีก

“แต่บางครั้ง พวกมันกลับดูคล้ายแมงกุดจี่”

“พอได้แล้ว...”
เจ้าของโรงเตี๊ยมสาวสวยโบกมือ

“สิ่งมีชีวิตซึ่งท่านกล่าวชื่อมาล้วนเป็นสัตว์พิสดารในตำนาน ยังจะมีผู้ใดรู้จักนอกจากท่าน ท่านไม่ยอมหยุดปาก เราจะหยุดปากท่าน ท่านคงคาดเดาได้ว่าเราจะใช้อะไรหยุดปากท่าน””

ว่าพลางทำท่าทางคล้ายจะยื่นมือยื่นปากออก

โฉมสะคราญโรงเตี๊ยมยังไม่ทันยื่นมือยื่นปากออก หัวใจของกระบี่รันทดก็เหมือนถูกจับจนสั่นไหว นางยังไม่ได้สัมผัสผิวกายแต่กระบี่รันทดพลันรู้สึกราวมีมือนุ่มนิ่มกำลังจับกุมมือของมันจนร้อนวูบวาบ ปากยังไม่โดนปิดแต่ก็คล้ายโดนปิดไร้สภาพไปแล้ว

ทันใดนั้นเอง ประตูโรงเตี๊ยมพลันมีสองเงาร่างหมุนควับคว้างเข้ามา

สองคน สูง ต่ำ ดำขาวเท่ากัน รูปร่างหน้าตาคล้ายกัน ในชุดยาวสีหม่น สวมรองเท้าฟาง ในหน้าราบเรียบเย็นชาเหมือนเพิ่งก้าวขึ้นมาจากหล่มน้ำแข็ง คล้ายพี่น้องคลานตามกันมา สายตาของมันจับจ้องโฉมสะคราญโรงเตี๊ยมไม่กระพริบ ท่วงทีของมันคล้ายมีจังหวะพิเศษพิสดารชนิดหนึ่งอยู่ในสองแขนสองขากระทั่งการเยื้องย่างก้าวเดิน

ย่อมเป็นสองยอดฝีมือซึ่งเคยประทะกับเฒ่าซกมกนั่นเอง มิคาดมันวกกลับมาโรงเตี๊ยมอีกครั้ง

โฉมสะคราญไม่มีทีท่าแปลกใจสักน้อย หันไปเลิกคิ้วถามด้วยสีหน้าท่าทางปกติที่สุดว่า

“พวกท่านคงจัดการกับสองเฒ่าแล้ว”

“หาไม่..”

มันทั้งสองตอบโดยพร้อมเพรียงกัน

“เช่นนั้นเป็นฝีมือของใคร”

“แม่นางฟ้อนซิ่ง”

โฉมสะคราญโรงเตี๊ยมต่อให้มีสีหน้าปรกติ พอฟังฉายาแม่นางรำซิ่งสายตาคล้ายมีประกายผิดปรกติวูบหนึ่ง

แม่นางฟ้อนซิ่ง แม้ว่าไม่มีคำว่าโฉมสะคราญนำหน้า ความจริงกลับโฉมสะคราญอย่างยิ่ง  ถึงไม่สะคราญมากกว่าแต่ประกันว่าไม่น้อยกว่าโฉมสะคราญใดๆ เด็ดขาด ฝีมือของนางก็ไม่มากไม่น้อยกว่าโฉมสะคราญใดๆ เช่นกัน

เจ้าของโรงเตี๊ยมแสนสะครวญพลันหัวร่อกล่าวว่า

“คาดว่าสินค้าเที่ยวนี้ คงมีมูลค่ามหาศาล  ถึงสามารถลากยอดฝีมือมากมายออกมาจากเงามืดบินเข้ากองไฟ”

สองยอดฝีมือแค่นเสียงรับคำ

โฉมสะคราญถามอีกว่า

“พวกท่านคงพบสินค้าแล้ว”

“ไม่พบ”

พวกท่านค้นรถม้าด้านนอกแล้ว”

“ค้นแล้ว ไม่พบ”

“น่าเสียดาย”

โฉมสะคราญโรงเตี๊ยมส่งเสียงทำหน้าตาเปี่ยมแววเห็นใจ  หากสายตากลับมีรอยยิ้ม สินค้าสำคัญไหนเลยวางอยู่ด้านนอกให้ผู้คนค้นพบได้ง่ายดาย

อยู่ไหน..”
สองยอดฝีมือถาม

“พวกท่านไม่ทราบ เราไฉนต้องทราบ”

“เพราะท่านต้องทราบ มิอาจไม่ทราบ นี่เป็นโรงเตี๊ยมของท่าน พวกมันเดินทางมาที่นี่ สินค้าย่อมอยู่ในที่นี่”
วาจาของสองมันผีสางมาก โฉมสะคราญยังมีสีหน้าปรกติ ค้อมศีรษะผายมือเชิญชวนอย่างสุภาพและเป็นกันเอง

“พวกท่านนั่งแล้วสั่งอาหารรับประทาน”

“พวกเราไม่มารับประทาน พวกเรามาหาสิ่งของ”

“ที่นี่ไม่บริการสินค้าของอย่างอื่นนอกจากอาหาร พวกท่านเข้ามาไม่สั่งอาหาร สมควรใสศีรษะมารดาพวกท่านไป”

สองยอดฝีมือสีหน้าบิดเบี้ยวทันที เข้าร้านอาหารกลับไม่สั่งอาหารนับว่าเสื่อมเสียเกียรติภูมิมากมายแล้ว กลับถูกผลักไสไล่ส่งแบบไม่เกรงใจเช่นนี้ ยังมีใครสามารถทนทานได้ พวกมันกระชากกระบี่ออกจากฝักข้างเอวประกาศฉายาตามมารยาทยุทธภพทันที

“กระบี่ล้มหมอน”

“กระบี่นอนเสื่อ”

ในวงการมียอดฝีมือพิสดารมากมาย กระบี่ล้มหมอนกับกระบี่นอนเสื่อก็จัดอยู่ในกลุ่มจอมยุทธพิสดาร ฟังว่าพวกมันเป็นฝาแฝดคิดหลักวิชาของพวกมันได้ในขณะเจ็บป่วยแบบล้มหมอนนอนเสื่อ ฝาแฝดร่างกายจิตใจคล้ายสัมพันธ์ผูกพันกัน พอเคลื่อนไหว เคลื่อนไหวตาม พอหยุดเคลื่อนไหว หยุดเคลื่อนไหวตาม
กระบี่แทงปราดออก อีกกระบี่แทงปราดออกตาม

กระบี่แทงใส่โฉมสะคราญ

คิดเป็นเจ้าของโรงเตี๊ยม มีรูปกายสวยงามย่อมไม่พอเพียง ต้องมีสติปัญญา มีสติปัญญาย่อมไม่อาจพอเพียงสมบูรณ์ ต้องมีฝีมือ นางหมุนร่างคว้างออกมาราวพลิ้วกายร่ายรำ แต่กลับหลบพ้นสองกระบี่

กระบี่รันทดความจริงนั่งสงบนิ่ง ตอนนั้นพลันเตะสองเท้าขึ้น

เท้าเตะใส่ข้อศอกของกระบี่ล้มหมอนกับกระบี่หนอนเสื่อ กระบี่ของพวกมันหลุดมือปลิวกระเด็นไปปักบนเพดาน ด้ามกระบี่สั่นไหวไม่หยุดยั้ง

สองมือกระบี่ไม่ได้ประมาท

แต่มันคาดไม่ถึง

ข่าวกรองรายงานว่ากระบี่รันทดหมดสิ้นพลังฝีมือไปแล้ว ย่อมไม่มีใครเห็นมันอยู่ในสายตา ไหนเลยคาดว่ามันยังมีพลังฝีมือ ทำให้คำว่าประมาทกับคาดไม่ถึง มีความหมายขยับเข้ามาหากันหลายส่วนทันที

มันเสียเวลาคาดไม่ถึงเพียงนิดเดียว พลันกระโดดปราดขึ้น มือเอื้อมไปดึงกระบี่จากเพดาน ดึงออกมาพร้อมกัน ลงมาพร้อมกัน พุ่งมาพร้อมกัน แทงใส่คอหอยของกระบี่รันทดพร้อมกัน

บุรุษหนุ่มยืดตัวตรง มือขวาจับด้ามกระบี่ และพริบตาต่อมาประกายรันทดเจิดจ้าพวยพุ่งออกมาจากฝักกระบี่ทันที


ในที่สุดกระบี่รันทดก็ออกจากฝักได้แล้ว

ประกายกระบี่หม่นหมอง รังสีกระบี่ร้าวลึกราวหัวเจ็บปวดจนแหลกสลาย คมกระบี่เหมือนกรีดฝ่าเข้ากลางใจสะบัดตัดเสียบคว้านหั่นฝานเฉือนแหลกเหลวเลอะเลือน กระบี่แบบนี้มีเพียงหนึ่งเดียว

กระบี่รันทด

โฉมสะคราญหันมองมองอย่างตื่นตะลึง ประกายตาพลันมีประกายยินดี พลังใจพลังกายของบุรุษหนุ่มกลับคืนมาแล้ว เฉกพยัคฆาคืนถิ่นยังจะมีอะไรน่าปลาบปลื้มมากกว่านี้ คนล้มย่อมล้มลงแต่สำคัญกว่านั้นคือเมื่อล้มลงแล้วจะยินยอมลุกขึ้นมาอีกหรือไม่ ล้มสิบครั้งลุกสิบครั้งจึงควรค่าแก่การยอมรับนับถือ ล้มครั้งเดียวทอดร่างตลอดกาลย่อมไม่ใช่วิสัยของบุรุษหนุ่มผู้นี้



กลิ่นหอมพวยพุ่งเข้ามาก่อน
กลิ่นหอมชวนหลงใหลเคลิบเคลิ้ม

เงาร่างอีกเงาร่างหมุนคว้างเข้ามา เป็นสตรีนางหนึ่งในชุดเสื้อเอวลอยสีขาวราวขนห่าน สวมผ้าซิ่นสวยงามเอวคอดกิ่วอ้อนแอ้นลายเส้นสะบัดตวัดความเร็วคมเฉียบขาดใบหน้ากระจ่างสดใสพร้อมหลอมละลายกายใจบุรุษให้ล้มประดาตาย นิ้วมือเรียวกรีดกรายแหลมคม ท่าร่างปราดเปรียวว่องไวจนน่าตื่นตะลึง

แม่นางฟ้อนซิ่งปรากฏตัวอีกคนแล้ว

ไม่ทราบว่าใช้ท่าร่างแบบใด บิดเอวหมุนตัวไม่กี่ครั้งก็มาอยู่เบื้องหน้าของเจ้าของโรงเตี๊ยมสาว ใบหน้านัยน์ตายังยิ้มแย้ม มือเอื้อมมาแตะบ่าอีกฝ่ายราวกับจะทักทายสนิทสนมคุ้นเคย แต่โฉมสะคราญถอยปราดออกไปสามก้าว

มีเสียงดังโครมใหญ่ พื้นไม้บริเวณซึ่งโฉมสะคราญโรงเตี๊ยมยืนอยู่เมื่อครู่ระเบิดออกกลับกลายเป็นเศษไม้กระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ เสื้อแดงลายดอกเหมยบริเวณไหล่ขาดออกเห็นไหล่ขาวกลมกลึงเนียนนวล
นับว่าหวุดหวิดหวาดเสียวที่สุดครั้งหนึ่ง

“เป็นไร”

นางหัวรอเสียงใสราวกับกำลังพูดจากับมิตรสหาย ดวงตากลมโตราวดาราราย

“เราแค่แตะบ่าทักทาย”

“ไม่เป็นไร”

โฉมสะคราญยิ้มสดใส สีหน้าไม่แปรเปลี่ยนแม้เล็กน้อย ยื่นมือออกไปทำท่าเหมือนแตะแก้มอีกฝ่ายเป็นการหยอกล้อ แม่นางฟ้อนซิ่งเอียงหน้ายื่นแก้มให้เหมือนจะให้จับ แต่แล้วก็หมุนวูบออกไปด้านข้างเหมือนไม่ตั้งใจ ผนังโรงเตี๊ยมด้านหลังแตกเปรี้ยะๆถี่ยิบเหมือนโดนโบยด้วยแส้มหากาฬไร้สภาพจนร่วงพรูลงพื้นเป็นเศษเล็กเศษน้อย

แล้วทั้งสองหัวร่อทักทายให้แก่กันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เกิดเรื่องแตกตื่นสะท้านขวัญในโรงเตี๊ยมแห่งนี้แล้ว

กระบี่รันทดจะรับมือกับสองกระบี่ฝาแฝดเช่นไร
โฉมสะคราญโรงเตี๊ยมจะรับมือแม่นางฟ้อนซิ่งได้อย่างไร
ด้านนอกยังมียอดฝีมือซุ่มซ่อนรอการปรากฏตัวอีกกี่คน

++++

จากคุณ : Psycho man
เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 20:17:51




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com