หนังสือปัดฝุ่นความคิด จิต อารมณ์ ตอน...ความผิดพลาดและความล้มเหลว
|
 |
ขออนุญาต นำผลงานเขียนที่ตีพิมพ์เป็นหนังสือ และได้จัดจำหน่าย โดยรายได้นั้นมอบให้การกุศลแก่ทางวัดค่ะ (ผ่านมาหลายเดือนแล้วและหนังสือตีพิมพ์ครั้งที่ 1 ได้ขายหมดเกลี้ยงแล้วค่ะ)
จึงขอนำบางตอนมาลงให้ได้อ่านกันค่ะ เป็นหนังสือ แนวสุขภาพใจ ค่ะ และขอขอบคุณอย่างมากมาย ที่มีผู้อ่านบางท่านได้สั่งซื้อจากทางในบล็อคค่ะ และกำลังพิจารณาอาจจะมีการตีพิมพ์ครั้งที่ 2 ในเร็วๆนี้ค่ะ
๓.
“ความผิดพลาดและความล้มเหลว คือแรงผลักดัน ให้ชีวิตรู้จักความเข้มแข็ง”
ความล้มเหลว ไม่ใช่ตัววัดคุณค่าความสามารถของมนุษย์
ความล้มเหลว ไม่ใช่ตัวกำหนดถึง ความสำเร็จหรือการไม่ประสบความสำเร็จ
ความล้มเหลว ไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่มนุษย์จะรับมือได้
ความล้มเหลว ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต เพราะชีวิตยังคงดำเนินต่อไป ตราบที่มี
ลมหายใจ
ความล้มเหลว ไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิต แต่ทุกชีวิตย่อมมีโอกาสพบความล้มเหลว
อย่างน้อยที่สุด หนึ่งครั้ง
“ความผิดพลาด และ ความล้มเหลว”
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคนที่อยู่บนโลกใบนี้ ตราบใดที่บุคคลนั้นได้ลงแรงลงทุนทั้งกายและหัวใจ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตและครอบครัว
ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์เดินเพียงสองเท้า ต้องมีวันที่สะดุดล้มลง อาจด้วยความไม่รอบคอบระมัดระวัง ที่เกิดขึ้นจากความประมาทในการดำเนินชีวิตของตนเอง หรือเกิดขึ้นจากสภาวะแวดล้อมภายนอกที่เกินกว่ากำลังของตนจะสามารถควบคุมได้
แต่เมื่อชีวิตของเราได้รับการมาเยือนของความผิดพลาด ความล้มเหลว มีบางคนที่ยอมสิโรราบ ยอมแพ้ให้กับความล้มเหลวที่เข้ามารุกรานความมั่นคงในชีวิตเรา และก็ยังมีบางคนที่กล้ายืนหยัดต่อสู้และไม่คิดท้อใจ ไม่ใช่เพราะเขาผู้นั้นเป็นคนวิเศษแต่อย่างใด
แค่เพียงเพราะเขาคิดได้ว่า เมื่อมีปัญหาเข้ามาย่อมสามารถแก้ไขได้ ถึงแม้ในบางปัญหาอาจต้องใช้กำลังกายใจอย่างมากและบางครั้งอาจต้องใช้เวลาเนิ่นนาน ที่จะรอคอยให้ปัญหาเหล่านั้นสูญสลายไปเอง
ตัวของฉันเอง ก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเดินดิน จึงมีโอกาสลิ้มรสความผิดพลาดและเคยนึกว่าตนเองเป็นคนที่ล้มเหลว จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันได้พบเจอกับหนังสือเล่มหนึ่งมีชื่อว่า DARE TO FAIL กล้าล้มเหลว ผู้เขียนคือ Billi P.S. Lim
ฉันซื้อหนังสือเล่มนั้นกลับบ้านแล้วเปิดอ่านตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย ทันทีที่อ่านจบ ฉันก็พูดกับตัวเองในใจว่า ฉัน ยังไม่ได้ล้มเหลวสักหน่อย ทำไมมานั่งคร่ำควรญเสียใจอยู่ได้ ลุกขึ้นสิ! ก้าวเดินใหม่ ชีวิตมันสั้นนัก ยังมีอีกตั้งหลายอย่างที่ฉันยังไม่ได้ทำเลยนะ!
เพราะหนังสือเล่มนั้นทำให้ฉันได้ตระหนักถึงความจริงเกี่ยวกับ ความล้มเหลวและสิ่งผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับชีวิตของตนเอง เรียนรู้ เข้าใจและยอมรับมัน พร้อมทั้งกล้าที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น
ทุกวันนี้ฉันรู้สึกขอบคุณในหนังสือดีๆ เล่มนั้นที่ทำให้หัวใจเข้มแข็งกล้าแกร่งขึ้น และนั่นทำให้ฉันปรารถนาที่จะเขียนหนังสือดีๆ สักเล่มเพื่อที่อย่างน้อย เพียงประโยคสั้นๆ หรือข้อความเล็กๆ ที่คุณได้อ่าน ได้สัมผัสผ่านสายตา
ซึมซาบเข้าสู่เซลล์สมองและหยั่งลึกลงสู่ก้นบึ้งของหัวใจ ได้ช่วยให้คุณเปลี่ยนแปลงความรู้สึก ความคิดไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีกำลังใจมากขึ้นและบางครั้งความคิดดีๆ ของมนุษย์ก็ยังสามารถเปลี่ยนโลกทั้งใบให้น่าอยู่ขึ้นมาได้
ฉัน..จะไม่บอกให้คุณหยุดร้องไห้ เมื่อคุณรู้สึกท้อแท้และอ่อนแอในวันนั้น เพราะฉันเคยเป็นแบบคุณ
แต่..ฉันจะบอกคุณ ให้ร้องไห้จนกว่าจะพอใจ จนเมื่อไม่มีน้ำตาที่จะไหลได้อีกและดวงตาทั้งสองข้างของคุณทั้งแดงก่ำและบวมช้ำ นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะร้องไห้ให้กับความท้อแท้และอ่อนแอในจิตใจ
เพราะ..วันรุ่งขึ้น คุณจะกลายเป็นคนใหม่ที่สดใส เข้มแข็งและกล้าหาญ
ฉัน..จะไม่บอกให้คุณหยุดพร่ำบ่น เมื่อคุณรู้สึกอยากระบายความอัดอั้นตันใจ ที่มาจากความทุกข์ขมขื่น เพราะฉันเคยเป็นแบบคุณ
แต่..ฉันจะให้คุณระบายความทุกข์ทั้งหมดออกมา จนกว่าคุณจะพอใจและเบื่อพูดในเรื่องเดิมๆ ซ้ำซาก
เพราะ..วันรุ่งขึ้นคุณจะกลายเป็นคนใหม่ที่กระตือรือร้นอยากสัมผัสโลกใบใหม่พูดคุยถึงเรื่องราวใหม่ๆ
ฉัน..จะไม่บอกให้คุณหยุดฟังเพลงเศร้า เมื่อคุณรู้สึกว่าคนรอบข้างไม่มีวันเข้าใจคุณ มีเพียงดนตรีเท่านั้นที่เป็นเพื่อนกับคุณได้ดีที่สุดในเวลาแบบนี้ เพราะฉันเคยเป็นแบบคุณ
แต่..ฉันจะให้คุณฟังทั้ง เพลงเศร้า เพลงสุข เพลงรัก เพลงเพื่อชีวิตและทุกแนวเพลง
เพราะ..ทุกท่วงทำนองของดนตรี ย่อมมีความอ่อนโยน นุ่มละมุนและความฮึกเหิม สลับกันไปมาตามจังหวะของบทเพลงที่บรรเลงขับขานออกมา ดนตรีช่วยบรรเทาจิตใจที่รวดร้าวและหดหู่ของคุณให้แจ่มใสขึ้นได้
ฉัน..จะไม่บอกให้คุณทานอาหารมากๆ เมื่อคุณเริ่มผ่ายผอมลงไป ซึ่งคุณรู้สึกว่าร่างกายไม่ปรารถนาในรสชาดของอาหาร เพราะฉันเคยเป็นแบบคุณ
แต่..ฉันจะบอกคุณว่า คุณโชคดีแค่ไหนแล้ว ที่วันนี้คุณมีอาหารทานตั้งมากมาย
เพราะ...ยังมีเด็กและคนชราอีกหลายแสนหลายล้านคนที่อดอยากและจบชีวิตลงด้วยการขาดอาหาร
ฉัน..จะไม่บังคับให้คุณเงยหน้าและลืมตาขึ้น เมื่อรู้ดีว่าเวลานี้คุณก้มมองแต่ชีวิตของตัวเองอยู่ฝ่ายเดียว เพราะฉันเคยเป็นแบบคุณ
แต่..ฉันจะบอกคุณว่า ถึงเวลาที่คุณต้องเปิดตาให้กว้าง เปิดใจให้ไกลขึ้น
เพราะ..คุณจะได้เห็นสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่ยังดิ้นรน เพียงเพื่อให้ชีวิตและเผ่าพันธุ์ของตนเองอยู่รอดปลอดภัย
ฉัน..จะไม่บังคับให้คุณยืนขึ้นแล้วยิ้มพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง เมื่อรู้ดีว่าขาของคุณอ่อนล้าเกินกว่าจะก้าวและลำคอของคุณตีบตันท่วมท้นไปด้วยน้ำตาแห่งความขมขื่นทุกข์ทรมานใจกับความผิดพลาดและล้มเหลว
แต่..ฉันจะบอกคุณว่า โชคดีแค่ไหนแล้ว ที่วันนี้คุณยังมีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรงทั้งสองข้างอยู่กับร่างกาย และยังมีโอกาสได้เปล่งเสียงหัวเราะดังๆ กับการฉีกยิ้มกว้างๆ ให้กับผู้คนอีกมากมาย ซึ่งโลกกำลังรอการทักทายกับคุณอยู่ตลอดเวลา
เพราะ..รอยยิ้มกับเสียงหัวเราะของคุณ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่ทำให้โลกนี้น่าอยู่มากขึ้น
ฉัน..จะไม่มีวันบอกว่า ตลอดชีวิตของคุณ ไม่สามารถผิดพลาด ล้มเหลวได้
แต่..ฉันจะบอกคุณว่า ตลอดชีวิตของคุณ มีโอกาสที่จะผิดพลาดล้มเหลวได้ในทุกวัน ตราบใดที่คุณยังมีลมหายใจอยู่
เพียงแต่...คุณต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดล้มเหลวนั้น และจงใช้มันเป็นแรงผลักดันให้เกิดความเข้มแข็งขึ้นในจิตใจ และก้าวเดินหน้าต่อไป
เพราะ..คุณยังเป็นคนสำคัญและมีคุณค่าต่อคนอื่นอีกมากมาย
อย่างน้อยที่สุด พรสวรรค์ที่พระเจ้าประทานมาให้มนุษย์ทุกคน
ซึ่งมีอยู่ในตัวคุณด้วยเช่นกัน ย่อมมีประโยชน์ต่อโลกใบนี้เสมอ.
**********
นี่เป็นลิ้งค์เรื่องสั้น 2 ค่ะ...คือ จิตสำนึก และ ห้องเลข 4 ผีอิจฉา ค่ะ...
ขอบคุณที่กรุณาเข้ามาอ่านกันค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10426956/W10426956.html
และ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10489079/W10489079.html
แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 54 10:31:32
จากคุณ |
:
radakorn
|
เขียนเมื่อ |
:
27 เม.ย. 54 10:31:00
|
|
|
|