นิทานเลียนแบบ "เจ้าหญิงใจบุญ" กับ "โทรลผู้พิทักษ์คุณธรรม"{แตกประเด็นจาก W10490170}
|
 |
เจ้าหญิงใจบุญกับโทรลผู้พิทักษ์คุณธรรม
หมายเหตุ 1: นี่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับผู้คน องค์กร หรือเหตุการณ์ที่เป็นความจริงใดๆ ทั้งสิ้น หมายเหตุ 2: เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากกระทู้นิทานเรื่อง "เจ้าหญิงปักผ้า" กับ "โทรลอยากเป็นผู้กล้า" ที่โต๊ะห้องสมุด ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องแล้วว่าให้ลอกได้ ไม่ได้ขโมยมาเขียนนะเออ
ตอนที่ 1 เจ้าหญิงใจบุญ
กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานเกินกว่าความจดจำ ในดินแดนที่จะไกลก็ไม่ไกลจะใกล้ก็ไม่ใกล้ ในห้วงเวลาที่ใครอยากจำก็จำ ใครไม่อยากจำก็ช่าง มีเจ้าหญิงใจบุญและบริวารในอาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งหนึ่ง อาณาจักรแห่งนี้อุดมไปด้วยเจ้าหญิงใจบุญอยู่หลายองค์ แต่ละองค์ก็มีโฉมที่สิริบ้างไม่สิริบ้างไปตามแรงบุญที่ได้หนุนนำมา อย่าได้แปลกใจเลย สำหรับอาณาจักรแห่งนี้แล้ว คุณสามารถเป็นเจ้าหญิงได้ไม่ยาก ถ้าเพียงแต่คุณมีจิตใจอันเมตตากรุณาปราณีกับสัตว์ผู้ยากไร้ทั้งหลาย (แต่กับมนุษย์ด้วยกันก็ช่างหัวมันหัวเผือก) และมีแฟนานุแฟนหรือที่เรียกเป็นภาษาต่างด้าวท้าวต่างแดนว่า แฟนคลับ / แฟนขับ นั่นเอง
เจ้าหญิงแต่องค์ก็ได้ประกอบกิจการการกุศลหลายหลาก แต่ที่ยอดฮิตมากมาย ณ อาณาจักรนี้ก็คือ การช่วยเหลือ ทานูกิ ไม่ว่าจะเป็นทานูกิบาดเจ็บหรือทานูกิไร้บ้านอยู่ตามพงหญ้า ริมถนนหวั่นให้รถม้าไม้วิ่งมาเหยียบตายยิ่งนัก
ทำไมทานูกิไร้บ้านจึงมีจำนวนมหาศาลเช่นนี้ ก็เพราะทานูกิเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของอาณาจักร แต่ก็เช่นเดียวกับอาณาจักรอื่น เมื่อมีคนเลี้ยงตามแฟชั่นก็ย่อมตามมาด้วยความเบื่อหน่าย ทำให้ทานูกิหลายตัวถูกทอดทิ้งให้เดียวดายอยู่ข้างถนน บางตัวก็ตายไป บางตัวก็ปรับตัวได้เกิดการผสมพันธุ์กันทำให้ทานูกิน้อย ๆ เกิดขึ้นตามมากอีกมาก และไร้ซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี
เมื่อทานูกิมีจำนวนมาก เศษอาหารไม่พอกิน ทานูกิเหล่านี้หิวโซ ป่วย ไม่แข็งแรงและอาจจะตายได้ในที่สุด ยังให้เกิดความเวทนาแก่ผู้พบเห็น ดังนั้นบรรดาเจ้าหญิงทั้งหลายจึงได้ตระเวณให้ความช่วยเหลือทานูกิเหล่านี้
แต่ อนิจจา.....
การทำบุญนั้น บางครั้งก็ทำให้เจ้าหญิงหลายองค์ไม่สามารถร่วมทางกันได้.....ไม่สามารถทับที่กันได้ เกิดการกระทบกระทั่งจิกตีกันอยู่เนือง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนเล่านิทานก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า....พวกเจ้า ๆ เขาเป็นไรกัน ทำไมร่วมด้วยช่วยกันไม่เป็น สงสัยคนเล่าจะเป็นสามัญชนเลยไม่เข้าใจความคิดของเจ้า แต่ก็ยืนยันฮ่ะว่าสามัญชนคนนี้ชอบดู "เจ้าฮะ"นะเออ เอ่อ....ก่อนที่จะเป๋ไปอาณาจักรอื่น กลับเข้าเรื่องดีกว่าเนอะ
เจ้าหญิงใจบุญองค์นี้ก็นับเนื่องว่าเป็นเจ้าหญิงที่งด(ความ)งามของเหล่าทานูกิผู้ยากไร้อดโซทั้งหลาย เจ้าหญิงและบริวารนัมเบอร์วันได้ออกตระเวณแจกจ่ายอาหารให้การรักษาโรค ทำหมันแก่เหล่าทานูกิข้างถนนในละแวกใกล้เคียงปราสาทราชวังของเจ้าหญิง บางครั้งเจ้าหญิงก็นำทานูกิบางตัวมาติดป้ายประกาศแก่ชาวเมืองให้มารับไปเลี้ยงดู
เป็นที่ชื่นชมโสมนัสแก่เหล่าแฟนานุแฟนของเจ้าหญิงยิ่งนัก อาจจะมีคนสงสัยว่าทำไม ในเมื่อรักและสงสารทานูกิเหล่านั้น ทำไมเจ้าหญิงไม่เลี้ยงไว้ซะเองละ เหตุผลก็คือ เจ้าหญิงได้ทรงรับเลี้ยงทานูกิไว้แล้วถึง 1800 ตัว แต่จำนวนทานูกิข้างถนนช่างมากมายมหาศาลเป็นหมื่นเป็นแสน ซึ่งไม่สามารถรับเข้าไปอยู่ในวังของเจ้าหญิงได้ทั้งหมด และเจ้าหญิงก็กลัวว่าคนอื่นจะไม่ได้รับผลบุญเป็นเจ้าหญิงเหมือนกับเจ้าหญิงใจบุญ จึงต้องประกาศให้คนมารับไปเลี้ยง เผื่อผลบุญจะนำเนื่องให้ผู้รับเลี้ยงได้กลายเป็นเจ้าหญิงตาม ๆ กันไป
ในวันหนึ่ง ก็มีป้ายปิดประกาศติดบอกแก่ชาวเมืองว่าได้มีทานูกิ เพศเมีย 1 ตัวต้องการหาบ้านด่วนเพื่อหลบหนีจากการถูกทารุณกรรมทางเพศจากคนเฝ้าประตูหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งเมื่อเห็นป้ายประกาศนี้ ยังความตกอกตกใจแก่บรรดาแฟนานุแฟนของเจ้าหญิงเป็นอย่างยิ่ง และยิ่งมีบริวารนัมเบอร์วันของเจ้าหญิงเข้ามายืนยันในสิ่งที่ป้ายประกาศบอกไว้ และบริภาษคนเฝ้าประตูอย่างสาดเสียเทเสีย เหล่าผู้คนก็ยิ่งให้ความเชื่อถือในข้อมูลที่ได้เอ่ยอ้างมา และช่วยรุมประนามคนเฝ้าประตู
ทั้งสาปแช่ง ด่าทอ ถามหา บางคนต้องการส่งเรื่องร้องเรียนเพื่อนำตัวคนเฝ้าประตูคนนี้มาลงโทษตามกบิลเมือง บางคนก็ต้องการรุมประชาทัณฑ์คนเฝ้าประตูคนนี้ให้สาสม
ระหว่างที่ผู้คนกำลังรุมด่าหน้าป้ายประกาศอันนั้น ยังมีอัศวินขับซาเล้งผ่านมาเห็นป้าย เห็นผู้คนมากมาย เลยแวะดูรูป และจำได้ว่า ทานูกิตัวเมียตัวนี้เป็นตัวที่วิ่งเล่นแถว ๆ หมู่บ้านที่เขาอยู่นี่นา ไม่ได้การแล้วต้องไปสืบดูหน่อยว่าเรื่องจริงมันเป็นเช่นไร
และแล้วในวันต่อมา ก็ได้มีป้ายประกาศอันใหม่มาแปะแทนที่อันเดิมที่อันตรธานหายไป มีเนื้อหาใจความกินใจยิ่งนัก จากฝั่งอัศวินขับซาเล้ง ที่ได้เล่าความผูกพันระหว่างทานูกิกับคนเฝ้าประตู ตั้งแต่ตัวน้อยจนเติบใหญ่ จนกระทั่งทานูกิน้อย ๆ นั่นโตเป็นสาวไปผูกสมัครรักใคร่กับทานูกิตัวผู้แถวนั้น แต่ภัยร้ายก็ได้กรายมาถึง.... มีคนมาจับตัวทานูกิทั้งสองตัวไป ทานูกิของคนเฝ้าประตูถูกส่งไปโรงรักษาเพื่อทำหมัน...แต่หารู้ไม่ว่าได้ทำลายทานูกิน้อย ๆ ในท้องของแม่ทานูกิไปด้วย
อนิจจา....ลูกน้อยต้องมาถูกทำแท้งจนตาย แม่ทานูกิร่ำไห้ คนเฝ้าประตูร่ำร้อง
ทำไมกระผมต้องกลายเป็นจำเลยสังคม ถูกดูหมิ่นเยียดหยาม เพราะกระผมต้อยต่ำเป็นเพียงคนเฝ้าประตูหมู่บ้านใช่ไหม
สำนวนภาษาของป้ายประกาศอันนี้ช่างซาบซึ้งกินใจยิ่งนัก เป็นที่เวทนาแก่ผู้คนที่ผ่านมาเห็นป้ายอันใหม่อันนี้ ต่างก็ออกความเห็นว่า สิ่งที่เจ้าหญิงทำลงไปนั้นได้ไร้ซึ่งหลักฐาน ในขณะที่อีกฝั่งมีพยานแน่นหนากว่า เจ้าหญิงทำแบบนี้ทำไม ต้องการเอาหน้า? หรือว่าแค่หูเบาเชื่อคำของบริวาร มีผู้คนมากมายทั้งที่อยู่ถิ่นนั้น และจากละแวกใกล้เคียงที่ได้ยินการป่าวประกาศเกี่ยวกับเรื่องนี้ เดินทางแห่แหนกันเข้ามาดูและวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย
บ้างก็ด่าทอเจ้าหญิงว่า ชอบกินสตอเบอรี่ บ้างก็ต้องการให้เจ้าหญิงออกมาขอขมาคนเฝ้าประตู บ้างก็ไปไล่ดูว่า มีใครร่วมด่าทอคนเฝ้าประตูต้องมาขอโทษ บ้างก็ต้องการให้คนเฝ้าประตูนำเรื่องนี้เข้าสู่กบิลเมือง โดยจะให้การสนับสนุนทุนการเดินทางทั้งหมด และบ้างก็ไปขุดคุ้ยเรื่องเก่าเรื่องอื่นที่ทำนองเดียวกัน แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้มาเม้าท์
เจ้าหญิงทนความกดดันของผู้คนไม่ไหวเลยมาติดป้ายประกาศขอโทษ แต่ คนเข้ามาอ่านแล้วก็อึ้งว่าทำไมคำขอโทษมันดูทะ:-) ๆ ที่สำคัญไม่ได้ขอโทษคนเฝ้าประตู แต่เพียงเป็นการขอโทษแฟนานุแฟนของเจ้าหญิงเท่านั้น แถมยังมีคำพูดที่ว่า
"เสียใจที่ไม่สามารถส่งทานูกิไปได้ดีกว่านี้ ได้อยู่บ้านดี ๆ วังสวย ๆ ของอนาคตเจ้าหญิงที่จะมารับเลี้ยง"
ยังความงุนงง และความโกรธเคืองจากผู้คนที่เข้ามาอ่านอย่างยิ่ง เกิดการด่าทออย่างหนักข้อขึ้นไปอีก อะไรฟร่ะ! ทานูกิมันอยู่ดี ๆ กับเจ้าของมัน ทำไมต้องไปพรากมันด้วย คนเลี้ยงทานูกิต้องเป็นเจ้าหญิงเท่านั้นใช่ไหม คนธรรมดาหาเลี้ยงได้ไม่
ในขณะที่แฟนานุแฟนที่มีรายชื่อว่าร่วมด้วยช่วยด่าคนเฝ้าประตูก็เริ่มทยอยออกตัวมาขอโทษในเรื่องที่เกิดขึ้นกันเป็นแถว แต่เจ้าหญิงและบริวารนัมเบอร์วันยังคงเก็บตัวเงียบ หรืออาจจะเป็นเพราะช่วงนั้นเป็นเทศกาลใหญ่ประจำเมือง ทำให้ผู้ที่มีฐานันดรศักดิ์อย่างเจ้าหญิงต้องเข้าร่วมพระราชพิธีเทศกาลอันศักดิ์สิทธิ์นี้เลยมิได้นำพาต่อป้ายประกาศและผู้คนตรงนี้อีกเลย
ในที่สุด เมื่อถึงช่วงวันท้าย ๆ ของเทศกาลอันยิ่งใหญ่ อัศวินขับซาเล้งมีป้ายประกาศอันใหม่ใสกิ๊ง มาแปะบอกว่า เจ้าหญิงได้สละทรัพย์ส่วนพระองค์ให้แก่คนเฝ้าประตูเพื่อเป็นการปลอบขวัญแล้ว คนเฝ้าประตูก็ไม่ได้ติดใจแต่ประการ ทั้งสองได้จับมือเซ็นสัญญายุติเรื่องราวทั้งหมด โดยมีอัศวินขับซาเล้งกับชาวบ้านอีก 2 คนเป็นพยาน ในขณะที่ฝั่งของเจ้าหญิงก็มีบุคคลลึกลับคนหนึ่งมาช่วยเป็นพยานเช่นกัน โดยบุคคลลึกลับคนนี้ไม่ยอมบอกว่าตัวเองเป็นใครเมื่อถูกถาม บอกเพียงว่าเป็นสาวฉันทนาแถวนั้นนั่นแหละ
ผู้คนที่มาอ่านป้ายประกาศอันใหม่นี้ต่างโห่ร้องด้วยความยินดี จะได้แยกย้ายไปทำงานทำการสักทีด้วย ใกล้หมดวันหยุดเทศกาลประจำปีแล้วนี่ มัวแต่มุงเรื่อง "ทานูกิ" ไม่เป็นอันทำอะไร ถ้าหมดวันหยุดต้องอู้งานมามุงอีก เดี๋ยวได้มีใครโดนไล่ออกเพราะทานูกิเป็นแน่ 55555555
เรื่องเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่.......
โปรดติดตามตอนต่อไป โทรลผู้พิทักษ์คุณธรรม
จากคุณ |
:
ผู้สาวเมืองยศ
|
เขียนเมื่อ |
:
27 เม.ย. 54 14:53:00
|
|
|
|