12/1
ช่วงเวลาปิดเทอมของรุ่งทิพย์ผ่านไปอย่างเงียบเหงา สิ่งเดียวที่เธอเฝ้าคอยคือเสียงตามสายออดอ้อนอ่อนหวานของนายทหารหนุ่มซึ่งตนผูกจิตปฏิพัทธ์ อันเป็นเครื่องช่วยยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพันตรีพิรุณไม่ใช่เพียงแค่ฝันไป
เออหนอ ไม่ได้พบหน้า ขอแค่ได้ยินเสียงบ้างก็ยังดี ดวงหน้าผุดผ่องแดงซ่านกับความคิดของตัวเอง
วันเวลาแห่งความเงียบเหงาผ่านไปโดยหญิงสาวคอยช่วยงานร้านดอกไม้เป็นส่วนใหญ่ เธอคุ้นเคยกับที่นั่นมากกว่ารีสอร์ตเสริมความงามซึ่งดารินทร์ภูมิใจ บางวันก็ใช้เวลาเกือบทั้งวันขลุกอยู่กับบ้านคุณครูสอนดนตรีไทยท้ายซอย
ร่างบางเดินไปตามบาทวิถี หลังนึกขึ้นได้ว่าตนลืมสมุดจดโน้ตเพลงซึ่งสัญญาว่าจะยกให้รุ่นน้องคนหนึ่ง
ทว่ากลุ่มคนที่ยืนเถียงกับยายเฉลาหน้าบ้านเรียกความสนใจจากเธอให้ก้าวไปหาเร็ว
นัท มาได้ไงจ๊ะ เธอทักหนึ่งในสามคนที่ตนจำได้ดี ก่อนหันไปบอกยายแม่บ้านให้วางใจ นี่นัท เพื่อนทิพย์เองค่ะ ยายเหลาไปทำงานต่อเถอะ
สายตาฝ้าฟางมองค้อนอย่างไม่พอใจ เบะปากหยันกลุ่มนักศึกษาซึ่งแต่งตัวกะโปโล
ดูซิว่านัทพาใครมาด้วย ศรัณย์ยืดอก ผายมือไปยังชายหญิงข้างตน
รุ่งทิพย์นิ่งมองนิดหนึ่ง แล้วจึงเบิกตาโพลงเมื่อใบหน้าคุ้นตาสมัยเด็กของทั้งสองซ้อนทับขึ้นมา
น้อยหน่า... อ้วน...
สองเพื่อนสาวกอดกันกลม อดีตเด็กหญิงน้อยหน่าผู้เข้มแข็งร้องไห้อย่างลืมอาย ดวงตากลมโตคลอด้วยหยาดน้ำตาของรุ่งทิพย์มองสบกับศรัณย์ด้วยความตื้นตันเช่นกัน
หญิงสาวเดินนำเพื่อนๆ เข้าบ้าน น้อยหน่าพร่ำชมความสวยงามน่ารักของบ้านเดี่ยวหลังเล็กนี้ไม่หยุดปาก เจ้าหล่อนไม่รู้ตื้นลึกหนาบางใดๆ ด้วยชายหนุ่มคนเดียวที่ทราบเรื่องไม่เคยแพร่งพรายกับใคร เมื่อได้มาเห็นสภาพความเป็นอยู่ของเพื่อนสาวซึ่งดีขึ้นกว่าเดิมก็พลอยชื่นชมยินดี
รุ่งทิพย์ยกน้ำมาบริการแขกทั้งสามยังโต๊ะเก้าอี้เหล็กดัดบนสนามหญ้าหน้าบ้าน ลับหลังคือสายตาจ้องจับผิดของแม่บ้านสูงวัย
ป้าคนนั้นคือใครเหรอ ทิพย์ แกมองพวกเราแปลกๆ นะ ตอนพวกเราสวัสดีแกก็หน้าเชิด คอแข็งพิกล
ยายเฉลาเป็นแม่บ้านที่นี่น่ะจ้ะ แกไม่ได้เขม่นน้อยหน่าหรอกนะ แต่แกไม่ค่อยชอบทิพย์ต่างหาก เสียงหวานเล่าอย่างเห็นขัน
แล้วกัน รู้อย่างนี้ไม่น่าไหว้ให้เสียมือเลย
ปากเก่ง เมื่อกี้ใครร้องไห้ขี้มูกโป่ง นายเห็นไหม นัท
เดี๋ยวเถอะ ไอ้อ้วน
ภาพสองเพื่อนซี้ต่อล้อต่อเถียงทำให้หวนนึกถึงคืนวันเก่าๆ รุ่งทิพย์กะพริบตาถี่ ขับไล่น้ำตาที่รื้อขึ้นมาอีกครา
สองคนนี้ยังไม่เลิกทะเลาะกันอีกหรือจ๊ะ
เห็นเถียงๆ กันแบบนี้ แต่ทิพย์ยังไม่รู้ล่ะสิว่าพวกเขาเป็นคู่รักกัน ศรัณย์อวดอย่างภูมิใจในเพื่อนตน
จริงเหรอ นัทไม่เคยบอกทิพย์มาก่อนเลย
นัทลืมน่ะ เรื่องไม่สำคัญก็แบบนี้ ว่าพลางหันไปยักคิ้วกับนายอ้วน
ใครจะสำคัญเท่าทิพย์ล่ะ ไอ้เพื่อนเวร เสียงแหบห้าวสวนกลับ รู้ไหม ทิพย์ นายนี่มันพูดถึงทิพย์ไม่หยุดตั้งแต่มันได้มาเจอทิพย์ที่กรุงเทพฯ
ริมฝีปากอิ่มแย้มยิ้มบาง ความรู้สึกของศรัณย์ฉายชัดในแววตาดำขลับของเขา และประจักษ์แจ้งแก่ใจเธอมาพักหนึ่งแล้ว หากรุ่งทิพย์ก็เลือกที่จะมองข้าม หวังให้ความรู้สึกนั้นสร่างซาตามกาลเวลา เหลือเพียงมิตรภาพอันคงทนถาวร
นัทคิดว่าคงอีกนานหรอกกว่าน้าดาวจะอนุญาตให้ทิพย์ไปหาพวกเราได้ นัทถึงได้ชวนเพื่อนๆ ลงมาหาทิพย์แทนอย่างไรล่ะ
ขอบใจจ้ะ ทิพย์ดีใจจริงๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรทิพย์ก็ยังตั้งใจจะขึ้นไปกราบอัฐิคุณยายศรีให้ได้สักวันหนึ่ง
แล้วตอนนี้เพื่อนของแม่ทิพย์ไม่อยู่เหรอ น้อยหน่าถามทะลุกลางปล้อง
สิ้นคำถามนั้น รถญี่ปุ่นคันเล็กก็เบนหัวมายังรั้วหน้าบ้าน รุ่งทิพย์รีบลุกไปเปิดก่อนแนะนำให้น้าสาวรู้จักกับเพื่อนๆ ตน
ดารินทร์ใจหายวาบในทีแรก แล้วจึงโล่งใจขึ้นเมื่อเห็นท่าทีปกติของรุ่งทิพย์และแววตาชื่นชมของเด็กสาวอีกคน เจ้าของบ้านเชื้อเชิญแขกเข้าบ้าน เลี้ยงต้อนรับด้วยมื้อเย็นซึ่งสั่งจากร้านอาหารเพิ่มเติม
น้อยหน่าถูกใจจนลืมความขุ่นเคืองในอดีตว่าผู้หญิงคนนี้เคยพรากเพื่อนรักของตนไป ทั้งยังตอบรับคำเชิญชวนค้างคืนที่นี่หลังราตรีกาลเริ่มมาเยือน ทิ้งให้สองหนุ่มต้องไปค้างคืนยังหอพักของศรัณย์แทน
จากคุณ |
:
ภาพิมล (thezircon)
|
เขียนเมื่อ |
:
30 เม.ย. 54 11:28:22
|
|
|
|