ปริศนารักแชงกรีลา บทที่ 10
|
 |
link ค่ะ
บทนำ+บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10441570/W10441570.html
บทที่ 2+3
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10441625/W10441625.html
บทที่ 4
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10443028/W10443028.html
บทที่ 5
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10453158/W10453158.html
บทที่ 6
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10471460/W10471460.html
บทที่ 7
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10482242/W10482242.html
บทที่ 8
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10491341/W10491341.html
บทที่ 9
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10505759/W10505759.html
link ในเด็กดี
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=700238
ขอบคุณ คุณ scottie ที่เข้ามาอ่านโดยตลอดนะคะ ตอนนี้พยายามจะลงให้ทันกับในเด็กดี มีเรื่องบางอย่างจะขอความเห็นค่ะ
บทที่ 10. 1
นักดนตรีเร่ร่อนชาวลามูสองคนแวะพักที่กระโจมที่พักนักเดินทางซึ่งเป็นที่พักครึ่งทางที่นักเดินทางส่วนใหญ่จะแวะพักก่อนจะเดินทางต่อไปยังทะเลทรายอูลาน ในมุมหนึ่งของกระโจมมีบุรุษหนุ่มสี่คนนั่งร่ำสุราอย่างสนุกสนานครื้นเครง หญิงงามชาวลามูซึ่งดูเหมือนจะเป็นเจ้าของกระโจมเดินชม้ายตาอย่างหยาดเยิ้มและเข้ามาเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะ บุรุษผู้หนึ่งในโต๊ะสบตาหวานซึ้งกับนางและกระหยิ้มยิ้มย่องเมื่อนางเดินมาใกล้เขาและกระซิบอะไรบางอย่าง ซักพักหนึ่งนางผู้นั้นก็หายไป ส่วนชายผู้นั้นก็ลุกขึ้นจากโต๊ะคล้อยหลังนางไปมินานนัก บนโต๊ะนั้นขณะนี้จึงเหลือบุรุษเพียงสามคน ผู้หนึ่งเมาสุราและหลับฟุบไป
“เฮ้ย เจ้านี่ไม่ไหว ร่ำสุราเพียงเล็กน้อยก็หลับซะแล้ว ฮ่าฮ่า” บุรุษหนึ่งในสองที่เหลือเอ่ยขึ้น ท่าทางเขาเองก็เมามากไม่แพ้กัน
“เจ้าเองก็อย่ากินให้มันมากนัก เดี๋ยวจะฟุบตามมันไปด้วย” บุรุษผู้ซึ่งยังครองสติได้ดีและไม่มีร่องรอยของการเมาเตือนสหาย
“ ม่ายยย ข้าไม่ได้เมา เอิ๊ก” เจ้าสหายที่กำลังเมาได้ที่เถียง สตรีชาวลามูผู้หนึ่งเดินมาเติมเหล้าที่โต๊ะ พร้อมทั้งหย่อนม้วนหนังให้บุรุษผู้ยังครองสติได้ดีิ
ข้ารอพบอยู่ใกล้กระโจมม้า ลอซาง
บุรุษผู้นั้นขมวดคิ้ว ใยท่านลอซางจึงมาที่นี่ หรือว่ามีการเปลี่ยนแผนเกิดขึ้น เขากวาดสายตามองรอบๆก็ไม่เห็นท่านลอซางอยู่ในกระโจม เขาหันไปกระซิบเพื่อนอีกคนที่กำลังเมาอยู่ เจ้านั่นแทบจะสร่างเมาและเกรงว่าจะโดนท่านเยซานตำหนิ จากนั้นทั้งสองจึงมาพบที่กระโจมม้าตามนัด บุรุษลึกลับผู้ซ่อนใบหน้าภายใต้หมวกฟางเดินมายังพวกเขาในความมืด
“นั่นเพื่อนเจ้าเมารึ” เสียงบุรุษลึกลับเอ่ยขึ้น
“ ขออภัยขอรับ พวกข้าสนุกสนานกันเกินไปหน่อย”
“งั้นก็แปลว่างานที่ข้าให้สำเร็จไปได้ด้วยดี”
“ยังขอรับ ท่านลอซาง องค์นาวังยังมิได้เสด็จมาที่นี่” บุรุษผู้ยังครองสติได้อยู่ตอบ
“อ้อ แต่พวกเจ้ากลับเมาฉลองกันเสียก่อน นี่ล่ะ ทางนู้นถึงต้องให้ข้ามาควบคุมเจ้าอีกทีหนึ่ง”
“พวกข้าผิดไปแล้ว ขอรับ โปรดอภัยด้วย”
“ช่างเถอะ ถ้างั้นเราทิ้งเพื่อนขี้เมาเจ้าไว้ตรงนี้เถอะ ข้ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับเจ้า”
“ขอรับ” บุรุษผู้นั้นเดินตามหลังบุรุษลึกลับผู้สวมหมวกฟางไปแต่โดยดี
“แล้วเจ้าได้ติดต่อทางนู้นบ้างรึไม่” บุรุษลึกลับถาม
“ทางนู้น หมายถึงท่านเซงเจ หรือขอรับ”
“ใช่แล้ว มีแผนใดเปลี่ยนแปลงรึไม่” บุรุษภายใต้หมวกฟางถาม
“เท่าที่รู้ไม่มีขอรับ ท่านเซงเจ แจ้งว่าหากเราสังหารองค์นาวังไม่สำเร็จ ให้ทำอย่างไรก็ได้ให้องค์นาวังข้ามทะเลทรายไม่ได้ก่อนพายุทะเลทรายจะมา”
“นั่นก็แผนเดียวกับที่ข้ารับคำสั่งมา แต่องค์นาวังทรงดื้อดึงนักเจ้าก็รู้ หากเขาเกิดข้ามพรมแดนได้ทัน จะมีแผนขั้นต่อไปรึไม่”
“ หากข้ามพรมแดนได้ ข้าถูกมอบหมายให้ติดต่อมือสังหารชาวเชงลี และให้ท่านทำอย่างไรก็ได้ เพื่อที่จะแยกขบวนทหารม้าออกจากองค์นาวังและนำมาสมทบกับท่านเซงเจแทน”
“ ตกลงท่านเซงเจก็ยังคงแผนเดิมที่คุยไว้กับข้า ขอบใจเจ้ามาก เจ้าไปได้”
“ ขอรับท่านลอซาง” บุรุษผู้นั้นเดินกลับมายังที่ๆทิ้งสหายขี้เมาไว้ แต่ทว่าสหายขี้เมาของเขาได้หายไปเสียแล้ว ปลายกระบี่แหลมคมจ่อที่ปลายคอของเขาจากด้านหลัง
“ท่านลอซาง ท่านจะทำอะไรข้า”
“เจ้ายังมิรู้อีกรึ ว่าข้าไม่ใช่ลอซาง ก่อนตายข้าควรจะให้เจ้ารู้ซักหน่อยว่า ข้าเป็นใคร” กระบี่นั้นลดลงจากคอเขา บุรุษลึกลับเปิดหมวกออกมา ร่างสูงใหญ่งามสง่า ใบหน้าคมสันที่เห็นจางๆในเงามืดจากแสงจันทร์ มิผิดแน่
“องค์นาวัง” ชายผู้นั้นอุทานออกมา
“ ข้าให้โอกาสเจ้าอีกครา หากเจ้าเปลี่ยนใจจะมาเข้ากับข้า ข้าจะละเว้นโทษตายให้” เยซานเอ่ยขึ้น
ชายผู้นั้นชักกระบี่ออกมา หมายจะต่อสู้และหนีไป
“แช้ง” เสียงกระบี่กระทบกัน เยซานเป็นฝ่ายตั้งรับ
“หึ ข้าจะถือโอกาสนี้เป็นโอกาสดีที่จะสังหารท่านแล้วองค์นาวัง” ชายผู้นั้นเอ่ยขึ้น
“ หึ เจ้าแน่ใจรึ จงหันไปมองข้างหลังเจ้าเป็นไร” จินปายืนอยู่ตรงนั้นพร้อมกระบี่
“หึ องค์นาวัง ท่านนึกรึว่าท่านฉลาดแล้วรึ พวกเจ้าจงออกมา” สิ้นเสียงนั้นชายสี่คนพร้อมกระบี่ในมือที่ซ่อนอยู่ในมุมมืดจึงปรากฎกายขึ้น
“ดีนะที่ท่านเซงเจรอบคอบ รู้ว่าท่านพิษสงร้ายกาจนัก ทั้งเอะใจว่าท่านลอซางจะเป็นนกสองหัว จึงส่งคนมาสมทบอีกสี่คน” จากนั้นการต่อสู้จึงกลายเป็นห้าต่อสอง โดยเยซานและจินปาตกอยู่ในวงล้อมของคนห้าคนที่ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือ เยซานและจินปาใช้กระบี่ปัดป้องและพยายามหาช่องโหว่เพื่อจะทำลายวงล้อมและฝ่าออกไป
“อ๊ากกก”
กระบี่ของเยซานแทงไปโดนชายคนหนึ่งที่ท้องอย่างจัง ในจังหวะนั้นเอง คนหนึ่งในกลุ่มนั้นก็พุ่งมาแทงเยซานจากข้างหลัง เขาเบี่ยงตัวหลบแต่ก็ยังเจ็บแปลบบริเวณสีข้างจากคมกระบี่ ชายอีกคนพุ่งกระบี่มาหาเขาที่บริเวณหน้าอก เยซานยกกระบี่ต้านทานไว้ทำให้เขาเปิดช่องว่างที่บริเวณท้องและชายอีกคนก็แทงกระบี่เข้ามา เยซานเบี่ยงตัวหลบ คมกระบี่แฉลบโดนบริเวณสีข้าง
“ฉึก”
โดนมิทันรู้ตัว กระบี่ก็ถูกปักมาจากอีกด้านแฉลบผ่านหน้าท้องด้านขวาของเขาจากชายที่เขาเพิ่งฟันล้มลงไปนั่นเอง
“อ๊ากกก” เยซานล้มลง เอามือกุมท้องไว้
“ฝ่าบาท” จินปาเสียสมาธิจากการต่อสู้ เขาหันมาเพื่อจะปกป้องท่านเยซาน
“จะไปไหน คู่ต่อสู้เจ้าอยู่นี่” ชายสองคนพุ่งกระบี่เข้ามาหาเขาพร้อมกัน จังหวะละล้าละลังหันไปดูเยซาน ทำให้จินปาโดนคมกระบี่เข้าอย่างจังที่บริเวณไหล่ขวาเลือดไหลออกมา เยซานลุกขึ้นยืนอีกครั้งอย่างไม่มั่นคงนัก เลือดไหลออกจากบริเวณท้องของเขา ปลายกระบี่พุ่งมาที่เยซานหมายจะซ้ำ
“ เช้ง” เสียงกระบี่ปะทะกัน
ชายชุดดำผู้หนึ่งกระโดดมารับกระบี่แทนเยซาน และอีกคนหนึ่งเข้าไปช่วยจินปา เยซานกัดฟันยกกระบี่ขึ้นสู้ต่อ ความเจ็บปวดและเลือดที่ไหลรินทำให้เขาทรงกายแทบไม่อยู่แต่เลือดนักสู้ทั้งหมดของเขาก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วย เขาหันไปจัดการเจ้าคนที่ลอบแทงเขาที่ท้องให้สิ้นชีวิตไปจากนั้นจึงหันมารับมือกับชายอีกคนหนึ่ง ตอนนี้การต่อสู้เปลี่ยนเป็นสี่ต่อสี่ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น สุดท้ายกลุ่มมือสังหารก็ล้มลงจนหมดสิ้น เยซานยามนี้แทบสิ้นเรี่ยวแรง ใบหน้าซีดขาวเนื่องจากเสียเลือดไปมากเช่นเดียวกับจินปา ชายชุดดำทั้งสองพาเขาขึ้นม้าไปยังกระโจมหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป
จากคุณ |
:
moonlightsonata
|
เขียนเมื่อ |
:
2 พ.ค. 54 23:20:55
A:94.36.94.156 X: TicketID:313202
|
|
|
|