เรื่องเล่าแดนสาบสูญจากปากคำของนักเดินทาง ตอนที่ 2
|
 |
link บทนำ + บทที่ 1 ค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10495688/W10495688.html
ตอบ comment นะคะ ขอบคุณผู้อ่านทุกคนมากๆเลยค่า
คุณ หนมจีน : ขอบคุณที่เข้ามามุงนะคะ ชวนมามุงต่อค่ะ :)
คุณ พุ่มพุทธรักษา: ว่างๆมาตามต่อนะคะ ตอนนี้ไม่สั้นแล้ว
คุณ เซโก้ : ชวนมาอ่านต่อค่า :)
คุณ scottie : ต้องบอกว่าขอบคุณสุดๆเลยค่า ที่เป็นกำลังใจมาโดยตลอด
ตอนที่ 2
เนื่องจากเจ้าหญิงน้อยทรงเป็นพระธิดาคนโปรดขององค์ราชินีทำให้พระองค์ทรงถูกดูแลยิ่งกว่าไข่ในหิน น้อยครั้งนักที่พระองค์จะได้เสด็จออกนอกวังหรืออาณาเขตอาณาจักรมาเร เมื่อได้รับพระราชทานพระราชอนุญาตจากพระบิดาให้ขึ้นไปเยือนพื้นพิภพได้ทำให้ทรงรื่นเริงบันเทิงใจนัก ทรงสวมครีบหางพิเศษที่ถูกทำเป็นสีเดียวกับดวงตาของพระองค์แลกลมกลืนไปกับท้องทะเลลึก ส่วนฉลองพระองค์ด้านบนนั้นเป็นเสื้อที่ถูกทำจากเนื้อผ้าพิเศษที่แนบเนื้อคล้ายเวทสูทสีเนื้อทำให้การเคลื่อนไหวในน้ำเป็นไปได้อย่างสะดวกเสื้อแนบเนื้อนั้นมีลวดลายเปลือกหอยสลับด้วยดอกไม้ทะเลงดงามบริเวณหน้าอกทำให้เมื่อดูผ่านๆแล้วเจ้าหญิงน้อยดูเหมือนนางเงือกน้อยที่แสนจะงดงามไม่มีผิด
เจ้าหญิงน้อยแหวกว่ายอย่างสำราญใจท่ามกลางสายน้ำ ผ่านไปยังดอกไม้ทะเลที่เกาะอยู่ตามโขดหิน ผ่านปลากระเบน และฝูงปลาเล็กปลาน้อยสีสันสดใสอย่างร่าเริงใจ แล้วจึงว่ายเข้าไปในปากปลาฉลามยักษ์ตัวหนึ่งซึ่งอ้าปากรออยู่แล้ว จากนั้นเหล่าผู้ติดตามทั้งหลายต่างก็ว่ายตามเข้าไปเจ้าปลาฉลามยักษ์จึงหุบขากรรไกรกว้างของมัน
“ถวายบังคมพระเจ้าค่ะ เจ้าหญิงเพอร์ลา ยินดีต้อนรับสู่ยานอควอซัสแห่งนี้”
กัปตันเรือรูปงามเอ่ยต้อนรับ เขามีเรือนร่างสูงโปร่งผมสีทอง นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้ม ใช่แล้วเจ้าฉลามยักษ์นี่ก็คือยานที่จะนำขึ้นไปสู่พื้นพิภพนั่นเอง
“พี่อัซซูร์ ดีใจจริงๆ ข้าไม่ได้เจอพี่ตั้งสี่ห้าปีน่าจะได้ พี่สบายดีเหรอ”
เจ้าหญิงกล่าวอย่างตื่นเต้นดีใจทักทายชายหนุ่มซึ่งเป็นมีศักดิ์เป็นหลานองค์ราชินีและเป็นลูกพี่ลูกน้องห่างๆของเจ้าหญิง เนื่องจากอัซซูร์กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เล็ก เมื่อยังเยาว์องค์ราชินีจึงทรงพามาเลี้ยงดูไว้ในวัง จนเมื่อเขาโตขึ้นเข้าโรงเรียนนาวิกโยธินจึงได้ห่างออกไป
“หม่อมฉันสบายดีพะยะค่ะ ขอบพระทัยที่ทรงเป็นห่วง”
“อะไรกัน พี่อัซซูร์ เรียกข้าว่า เพอร์ลา เหมือนเมื่อเด็กเถอะ แล้วเลิกใช้ราชาศัพท์ซะที” เจ้าหญิงน้อยเอ่ยขึ้น
ชายหนุ่มมิได้ตอบเพียงแต่มีสีหน้าเงียบขรึม เขาปล่อยให้เหล่่าราชองครักษ์และนางกำนัลพาเจ้าหญิงสู่ที่ประทับ แล้วจึงหันมามีสมาธิกับการขับเคลื่อนยานแทน
ระหว่างการเดินทางขึ้นสู่พื้นพิภพตลอดเจ็ดวัน กัปตันหนุ่มอัซซูร์ก็ถูกเจ้าหญิงน้อยทำลายพื้นที่ส่วนตัวของเขาไปเสียสิ้น เกราะแห่งความเงียบขรึมเย็นชาของเขาดูจะไม่สามารถจะต้านทานได้ เจ้าหญิงวนเวียนหาเรื่องมาพูดคุยกับเขา บางครั้งก็ซักถามเรื่องกลไกการทำงานของยานนี้ ถามถึงแผนที่ทางทะเล เขาจึงแกล้งส่งหนังสือและแผนที่ให้นางไปศึกษาเอง แต่ดูจะไม่เป็นผล เจ้าหญิงดูจะยิ่งมีคำถามมากมายกว่าเดิม พอหมดจากเรื่องเหล่านี้เจ้าหญิงก็ซักไซ้เขาถึงเมืองบนพื้นพิภพ และ ชาวพื้นพิภพว่าหน้าตาเป็นอย่างไร
“เมื่อไหร่เจ้าหญิงจะทรงหมดคำถามกันพะยะค่ะ” กัปตันอัซซูร์ถามขึ้นในที่สุด เจ้าหญิงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วตอบว่า
“ง่ายนิดเดียวก็เมื่อพี่อัซซูร์เลิกใช้ราชาศัพท์กับข้าน่ะซิ” อัซซูร์ส่ายหน้า
“เห็นจะเป็นไปไม่ได้พะยะค่ะ” อัซซูร์ตอบ
เจ้าหญิงยิ้มหวาน นัยน์ตาสีน้ำทะเลลึกนั้นส่งประกายซุกซน
“งั้นข้าก็ไม่มีวันหมดคำถามเหมือนกัน” เจ้าหญิงตอบ
“ถ้าอย่างงั้นก็ตามแต่พระทัยเถอะพะยะค่ะ เดี๋ยวเราก็ต้องแยกกันเข้าห้องควบคุมความดันแล้ว เจ้าหญิงคงไม่มีเวลาซักหม่อมฉันมากนัก” กัปตันหนุ่มตอบสีหน้าเหมือนกับไม่ได้ทุกข์ร้อนใดๆ
“อ้อ จริงด้วยซิ ข้าเกือบลืมไปเลย นี่อีกแค่สามวันเราก็จะถึงพื้นพิภพแล้วใช่มั้ย ข้าจะได้เห็นซักทีว่าดินแดนเบื้องบนนั้นเป็นอย่างไร ผู้คนที่นั่นหน้าตาเป็นเช่นไร” เจ้าหญิงน้อยพูดพร้อมทำหน้าฝันหวาน
จากคุณ |
:
moonlightsonata
|
เขียนเมื่อ |
:
3 พ.ค. 54 02:29:47
A:94.36.94.156 X: TicketID:313202
|
|
|
|