ธงสีขาวพลิ้วไสวตามแรงลมยามเย็น ตัวอักษรที่เขียนด้วยปากกาเมจิกสีแดงนั้นซีดจางแล้ว แต่ก็ยังพออ่านได้ว่า Radio-13 ซึ่งที่มาที่ไปของมันก็มาจากวิทยุเครื่องใหญ่ที่ซึ่งผมเจอห้องเก็บของที่บ้าน และคาดว่าเป็นของตาสมัยหนุ่ม ๆ มันทั้งเฉี่ยว เท่ ดูราวกับหุ่นยนต์ในยานอวกาศ แถมเวลาเปิดเสียงก็ดังซะใจผมมาก ๆ
และวิทยุ จึงเป็นคำนำหน้า ซึ่งก็คือ เรดิโอ นั่นเอง ส่วนสิบสามมาจากตัวเลขอาถรรพ์ซึ่งพวกเราโปรดปราณเป็นที่สุด แถมเลขตัวนี้ยังเป็นเลขวันเกิดผมด้วย
แสงของดวงตะวันสาดกระทบต้นไม้ ผมนั่งอยู่ในหลุมดินขนาดใหญ่ สูดกลิ่นดินเย็นชื้นผสมกับเศษซากชิ้นส่วนที่ฝังอยู่ภายในนี้ไปหลายอึก ผมรู้ดีว่าปริศนายังนอนรอคำตอบไม่ต่างจากวันวาร ชิ้นส่วนของเครื่องปั้นดินเผาที่ตาพบในหลุม วางอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ตั้งแต่หลายเดือนที่แล้ว มันกระจัดกระจายบ้างก็หล่นอยู่ตามพื้นดินซึ่งหญ้าเริ่มขึ้นหนาตา
ทุกอย่างต่างจากครั้งที่ตาเคยใช้ชีวิตอยู่ บรรยากาศโดยรอบเงียบเหงาประหนึ่งเป็นชีวิตหลังความตายไร้คนเหลียวแล
ผมไล่นิ้วไปตามหัวตุ๊กตาดินปั้นในมือก่อนจะระบายอารมณ์สับสนที่พุ่งพล่านในอกด้วยการโยนลงไปในหลุมดิน ทีละหัว ๆ เวลานี้ผมได้ก้าวมาถึงทางตันแล้ว มันเป็นทางตันซึ่งมืดมิด และมีความตายเป็นเพื่อน
ขมับสองข้างผมมันบีบรัด เจ็บทุกทีที่คิดถึงเรื่องซึ่งทำให้ใจปวดร้าว ขอบตาผมร้อนผ่าวอยู่ประเดี๋ยวจากนั้นผมก็ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาจนสาแก่ใจ ผมเห็นเงาตาในทุก ๆ ที่ กลิ่นตัวของท่านยังอบอวลในบริเวณหลุมเหล่านี้ แต่พอผมเพ่งมองให้ดีอีกครั้ง ผมกับพบว่าตัวเองอยู่ในหลุมศพขนาดใหญ่ซึ่งกำลังจะกลืนผมให้หายไปจากโลกที่ไร้ความรักต่อผม
ผมทบทวนเรื่องราวเก่า ๆ อยู่พักใหญ่ ก่อนที่หูจะได้ยินเสียงโซ่จักรยานดังสลับการร้องเพลงโหวกเหวกดังมาจากมุมถนน ร่างอ้วนเจ้าเนื้อต้านแรงลมเข้ามาให้ใกล้ผมอย่างเร็ว เขาตะโกนสลับการดีดกริ่งรถทำลายบรรยากาศอึมครึมของสถานที่แห่งนี้
ผมนึกฉุนจึงเขยี้วงหัวตุ๊กตาดินในมือไปตามเสียงที่แผดดัง คนมาเยือนร้องโอดโอยอยู่ประเดี๋ยวก็รีบบึ่งตรงมาหาผม วู้ดดี้เบรกรถด้วยเท้าเข้ามาหยุดปากหลุม เขาคือเพื่อนรุ่นพี่ที่อายุห่างผมเกือบห้าปี แต่เพราะแจ้งเกิดช้าตามที่เขาเล่าให้ผมฟัง เขาจึงต้องเรียนชั้นมัธยมต้นห้องเดียวกันกับผม
วู้ดดี้อาศัยอยู่กับน้าชายของเขาซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่ผมรู้สึกแปลก ๆ เพราะมันผิดกับเขาที่เป็นลูกครึ่งฝรั่งผิวขาวจัด และมีผมสีน้ำตาลอ่อน ๆ หยักศก ผมไม่เคยเรียกวู้ดดี้ว่าพี่สักครั้ง คงเพราะท่าทีกวนโอ๊ยบวกกับการเล่นทโมนต่าง ๆ ของเขา
แล้วเมื่อวู้ดดี้ก้าวเข้าใกล้ผม เขาก็ใช้ดวงตาสีเขียวจัดนั่นจ้องผมเขม็ง เป็นไงบ้างวันนี้ มีอะไรตื่นเต้นไหม วู้ดดี้ยิ้มตรงมุมปากนิด ๆ วางมาดข่มผมเหมือนเคย
ก็งั้น ๆ พูดจบผมก็ก้มหน้างุด กลัววู้ดดี้จะจับโกหกได้ เขาอาจจะเห็นดวงตาที่แดงก่ำของผมตอนนี้
ผมผุดลุกขึ้นปัดกางเกง ผิวปากท่วงทำนองแปลกแปร่ง ฝืนทำทีหัวเราะร่าได้อย่างประหลาด จากนั้นก็ จ้ำขึ้นบันไดไม้ไปยืนบนปากหลุมก่อนจะผลักไหล่วู้ดดี้ที่ยืนขวางให้พ้นทาง
ผมกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปดูที่แคร่ไม้ซึ่งวางเครื่องปั้นดินเผาชิ้นเล็กชิ้นน้อยเพราะกลัววู้ดดี้จะแอบขโมยกลับบ้านเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเงาลาง ๆ กระโจนผ่านหน้าผมไป ผมหยุดก้าวแทบจะทันที ตื่นเต้นจัดจนต้องกลืนน้ำลายเหนียวลงคออึกใหญ่ และในที่สุดสายตาก็จับไปที่พุ่มหญ้ารกชัฏ ในจุดที่สิ่งนั้นพุ่งเข้าไปซ่อนตัว
ตัวอะไร น่ะ ผมปิดจมูกตนเองโดยเร็ว เมื่อได้กลิ่นเหม็นเน่าสุดทน
อะไรของแกวะ กลัวจนจะฉี่ราดรึไงทัพพ์ ไหนถอยสิ วู้ดดี้รีบวิ่งไปที่พงหญ้า เขายื่นเท้าไปเขี่ยอยู่ประเดี๋ยวก็ทำหน้าขยะแขยง
แมว...รึเปล่าวะดวงตาของวู้ดดี้จมอยู่ใต้แก้มย้อยจนน่าเกลียด ตอนนั้นมือผมเย็นเฉียบ ร่างแข็งทื่อ รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง แต่ด้วยความอยากรู้ทำให้ผม ค่อย ๆ ก้าวไปยืนข้างหลังวู้ดดี้ ผมชะโงกข้ามไหล่เขาและมองดูร่างน่าสงสารนั่น
ทำไมมันเป็นอย่างงั้นละ สงสัยต้องถูกหมากัดแหง ๆ เป็นโรครึเปล่าก็ไม่รู้ อย่าไม่ยุ่งมันเลย พูดจบผมก็ดึงแขนเสื้อเขาให้ถอยห่างออกมา แต่วู้ดดี้สะบัดหนีอย่างแรง เขาขมวดคิ้วย่น แล้วชี้ให้ผมเพ่งดูก้อนกลมที่อยู่ในพงหญ้า
นะ นั่น มันกระดุกกระดิก ด้วย เห็นไหม
ไม่ ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหน่อย ผมเสียงอ่อย กระโดดตัวลอยไปอีกทาง วู้ดดี้ตวาดใส่ผมเสียงเขียว แล้วย่างสามขุมเข้ามาเขาจับหน้าผมเงยขึ้น ก่อนจะลุนหลังผมให้เข้าไปประจันหน้ากับเจ้าตัวสยองนั่น
คราวนี้ผมกลัวจับใจ กลัวจนฉี่ราดออกมาเสียให้ได้
เมี้ยว! ผมสะดุ้งโหยง ไม่ต่างจากวู้ดดี้ที่ประสาทเสียพอกัน
ไป ไป แกไปเอามันออกมาสิทัพพ์ ไอ้เวร ตกใจหมด แมวบ้า
อยากได้ก็เอาเองสิ จะลากฉันเข้าไปยุ่งทำไม
ยังอีก เข้าไปเดี๋ยวนี้เลยวู้ดดี้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ออกคำสั่งอย่างเจ้ากี้เจ้าการ ผมห่อไหล่ก้มหน้างุด ๆ ต่อต้านเขาอยู่ในใจ แต่ก็รู้ดีว่าถึงอย่างไรก็ต้องยอมทำตามคำสั่งวันยังค่ำ
เอาเลย นั่นแหละ ให้มันได้ยังงี้ เข้าไปอีก เข้าไปอีกเซ่..โธ่ ไอ้ขี้กาง ฮ่า ฮ่าเขาหัวเราะชอบใจ มือเจ้าเนื้อผลักหลังเต็มแรงจนผมเกือบจะล้มคว่ำลงไปจูบพื้นดิน
หง่าว หง่าว ขนสีขาวปลอดชี้ชัน ผมเหลือบมองด้วยความหวั่นหวาด มือที่เอื้อมออกไปหดเข้าหาตัวเองทันควัน ภาพตรงหน้าคือแมวสีขาวผอมแกร็นตัวหนึ่งนอนหายใจรวยรินอยู่
เร็วสิ วุ้ย กลัวอะไรว้า ทัพพ์ ผมหันไปตาขวางใส่เขา ส่วนวู้ดดี้ก็กำหมัดสูงทำปากขมุบขมิบอย่างกับจะเอาเรื่องผมให้ได้
กล้าเหรอ... ลองซี เดี๋ยวปั้ด! เขาตวาดลั่น และมันได้ผลดีเยี่ยม ผมต้องก้มหน้าจำยอมเหมือนเดิม
ผมหันไปคว้ากิ่งไม้แห้ง ๆ ที่อยู่ใกล้มือแล้วยื่นออกไปเขี่ยแมวตัวนั้นที่ครางขู่ตอบโต้ เมี้ยว! ตามันลุกวาว ร่างผอมขยับไหว ผมจ้องมันกลับเหงื่อผุดเต็มหน้าแต่ก็ยื่นไม้เขี่ยมันต่อไป
จับมันออกมา จับเลย เร้ว ชักช้าอยู่นั่นแหละ ผมละล้าละลัง มองวู้ดดี้สลับแมวสีขาวที่ขนส่วนหนึ่งของมันเกรอะกรังด้วยเลือด
งั้นก็ถอยไป เขาผลักไหล่ผมเซไปอีกทาง วู้ดดี้:-)น้ำลายลงพื้นก่อนที่จะครางเสียงรำคาญใจ เขาถลาไปจับแมวตัวนั้นออกมาจากพงหญ้า อุ้มมันชูสูง แล้วแต่จู่ ๆ ก็นิ่งไป เขาตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี เมื่อเห็นบางสิ่งผิดปกติ
วู้ดดี้! ผมแทบจะกรีดร้อง เมื่อเห็นร่างแมวผีถนัดถนี่ ดวงตาของมันเหลือกลานปานจะถลนออกมานอกเบ้า เขี้ยวเล็ก ๆ แสยะขู่ และเสียงคำรามดังรอดออกมาจากร่างที่เกร็งจัด
ผมถอยกรูดห่างเขาเร็วพลัน
ปล่อยมัน! พูดยังไม่จบประโยค วู้ดดี้ก็โยนแมวตัวนั้นใส่ผม ร่างผอมลอยคว้าง มันกางกรงเล็บแหลมพุ่งเข้ามาหาผม ผมเจียนสิ้นสติหัวใจวายลงตรงนั้นด้วยทั้งเกลียดทั้งกลัวแมวอยู่แล้ว วินาทีต่อมามันขยุ้มหน้าอกผมไว้ทันควันแล้วใช้เล็บคมตะกุยตะกายเกาะที่เสื้อผมเพื่อรั้งไม่ให้ตกลงไปที่พื้น
เสียงขู่มันแผดลั่นดังสลับหัวใจผมที่เต้นระส่ำ ผมดิ้นพล่านพยายามสลัดให้แมวผีหลุดพ้นตัว จนในที่สุดมันก็ไถลลงไปอยู่ที่พื้นหญ้า แมวผีดีดตัวลุกขึ้นอย่างเร็ว มันหันมาจ้องผมด้วยดวงตาปูนโปน แล้วก้าวกะเผลก ๆจากผมไปด้วยขาเพียงสามข้าง!
มีต่อด้านล่างครับ
แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 19:41:21
จากคุณ |
:
เขมปัณณ์ (เขมปัณณ์)
|
เขียนเมื่อ |
:
3 พ.ค. 54 18:54:08
|
|
|
|